เลี้ยงสัตว์เร่ร่อน หลังจากนั้นก็ได้ สร้างและเชื่อมกำแพงเมืองจีนอย่างต่อเนื่องมายาวนานหลายชั่วคน รวมถึงดำเนินการก่อสร้างขยายต่อเติมออกไปอีก ทั้งในสมัยของราชวงศ์ฮั่น เรื่อยไปจนถึงราชวงศ์หมิง ในระหว่างปี ค.ศ.1368 -ค.ศ.1644 เมื่อกำแพงเมืองจีนสร้างแล้วเสร็จมีระยะทาง ที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดมากกว่า 12,000 ลี้หรือราว 6,000 กิโลเมตร
เริ่มตั้งแต่เทือกเขาในมณฑลเหลียวหนิง 辽宁省ทางภาคเหนือไปจนถึงเขตทะเลทรายโกบีในมณฑลกันซู่ 甘肃省ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน กำแพงเมืองจีนทอดตัวยาวเหยียดตามเทือกเขาต่าง ๆ โดยผ่าน 9 มณฑลของจีน มีทั้งที่เป็นกำแพงหิน ดิน ทราย และอื่นๆ ตามแต่ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างในเวลานั้นและได้สร้างขึ้นตามสภาพ ภูมิประเทศที่มีลักษณะสลับซับซ้อน เช่น ทะเลทราย ทุ่งหญ้า ห้วย หนอง คลอง บึงโดยกำแพงมีความสูง ประมาณ 10 เมตรและ กว้างประมาณ 4-5 เมตร มีความสะดวกในการลำเลียงขนส่ง เสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์
ส่วนด้านในของกำแพงมีประตูและบันไดต่าง ๆ ที่สามารถขึ้นลงได้ นอกจากนั้นบนกำแพงยังได้สร้างหอคอยต่างๆไว้หลายแห่ง โดย "หอคอย" เหล่านี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นบนใช้สำหรับคอยสอดส่องและ ยิงธนูต่อสู้ข้าศึกศัตรู ส่วนชั้นล่างแบ่งซอยออกเป็นห้องเล็ก ๆ ซึ่งใช้สำหรับ เก็บอาวุธ รวมถึงเป็นที่พักและห้องนอนของเหล่า ทหารหาญ ส่วนที่ 3 คือ "ป้อมปราการ" ซึ่งมักสร้างไว้ตามจุดสำคัญ ทางยุทธศาสตร์ต่างๆ และ "หอส่งสัญญาณ" ซึ่งเป็นส่วนที่ตั้งอยู่ นอกเขตกำแพงตามบริเวณยอดเขา หรือที่ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกลๆ
ในยามกลางคืน จะใช้วิธีจุดไฟเพื่อเป็น สัญลักษณ์ในการแจ้งเหตุฉุกเฉิน ส่วนกลางวันก็จะใช้ควันไฟ เป็นสัญญาณแทน อิฐและหินที่ใช้ก่อสร้างขนมาจากภูเขาต่าง ๆ ถือว่าเป็นงานที่ต้องใช้แรงงานคนจำนวนนับล้านคน