การทำผ้าหมักโคลนถือเป็นภูมิปัญญาจาก

การทำผ้าหมักโคลนถือเป็นภูมิปัญญาจากท้องถิ่นดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์และสืบสานมาแต่โบราณของไทย โดยเฉพาะที่อำเภอศรีสัชนาลัยนั้นนับว่าเป็นแหล่งผลิตผ้าหมักโคลนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง การค้นพบความพิเศษของการทำผ้าหมักโคลนนั้น เกิดจากสมัยก่อนชาวบ้านใส่เสื้อผ้าฝ้ายออกไปทำไร่ ทำนา ซึ่งทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่เปรอะเปื้อนโคลนเต็มตัว ครั้นกลับมาบ้านชาวบ้านนำเสื้อผ้ามาซักเพื่อทำความสะอาด ได้พบว่าน้ำโคลนกลับมีผลดีทำให้เนื้อผ้ามีคุณสมบัติแตกต่างไปจากเดิม เช่น ผ้าฝ้ายทอมือที่เคยแข็งกระด้าง เมื่อถูกนำมาหมักน้ำโคลนแล้วนำกลับมาซัก จะทำให้เนื้อผ้ามีความนิ่ม พลิ้ว ทิ้งตัวสวยงาม ชาวบ้านสมัยก่อนจึงหาหนทางพัฒนาสานต่อเกิดเป็นภูมิปัญญาผลิตผ้าฝ้ายหมักโคลนที่ใส่สบาย ผสมผสานกับฝีมือการทอผ้าลาย ผ้ายกดอกที่ทออย่างประณีต ทำให้ผ้าหมักโคลนที่นี่กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อประจำอำเภอศรีสัชนาลัยที่ใครเห็นต่างก็ต้องหาซื้อไปเป็นของฝากติดมือ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเป็นจำนวนมาก



สูตรเฉพาะและส่วนผสมของโคลนที่ใช้ทำผ้าหมักโคลนของชาวศรีสัชนาลัย ประกอบด้วย
· คลั่ง + มะเกลือ ตำทีละ ๕ กิโลกรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
· ไม้ฝางแช่ทีละ ๕ กิโลกรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
· โคลน ๑๕ กิโลกรัม ต่อน้ำ ๓๐ ลิตร
· น้ำ ๓๐ ลิตร (ต่อ ๑ กระทะ)
· เกลือ ๗ ช้อนโต๊ะ
· ผงซักฟอก ๓ ช้อนโต๊ะ
· ฟืน ๑๒.๐๑ กิโลกรัม ต่อ ๑ กระทะ
วิธีการทำผ้าหมักโคลน
๑. นำดินจอมปลวก ๑๕ กิโลกรัม ผสมกับน้ำ ๓๐ ลิตร เพื่อทำเป็นน้ำโคลนหมักผ้า
๒. กรองน้ำโคลนด้วยผ้าขาวบางเพื่อแยกเศษไม้หรือดินโคลนออกไป
๓. น้ำผ้าผืนที่ทอไว้แล้วมาแช่น้ำโคลนทิ้งไว้ ๑ คืน
๔. น้ำผ้าที่แช่โคลนแล้วตาม ข้อ ๓. ไปซักให้สะอาด แล้วน้ำไปต้มย้อมสีธรรมชาติตามต้องการ
วิธีการย้อมสีผ้าหมักโคลน
๑. จุดไฟตั้งกระทะ โดยใช้น้ำ ๓๐ ลิตร ต่อหนึ่งกระทะ
๒. ใส่สีธรรมชาติที่เตรียมไว้ (๒ กิโลกรัม ต่อกระทะ)
๓. ใส่เกลือ ๗ ช้อนโต๊ะ ผงซักฟอก ๓ ช้อนโต๊ะ
๔. ใช้ไม้คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วรอจนกว่าน้ำจะร้อน
๕. ใส่ผ้าที่ซักโคลนออกแล้วลงกระทะ และใช้ไม้คนผ้าตลอดเวลา ๑ ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้สีเข้ากันดี
๖. นำผ้าออกไปซักแล้วตากให้แห้ง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The fermentation of the mud is considered wisdom from the local, traditional, unique and traditional inheritance of Thailand. Especially at the SI satchanalai district is considered fermented mud cloth. The discovery of the garment, then mud fermentation. Caused by villagers wearing cotton clothes off to do farming, which makes clothes smeared with mud. Khranklap comes home, the villagers came to wash clothes, cleaning water found khlonklap effect making fabrics with features different from the original, such as hand-woven cotton ever stiff. When they are brought to the muddy water, fermented, washed to make fabric provides a soft flutter away beautiful. Locals initially find the wherewithal to develop the continued production of fermented cotton wisdom born of mud that comfort. Blend with hand-woven fabric intricately woven chest presses phai making fermented mud, here becomes a product name SI satchanalai district who see are purchased as a souvenir stick hand. Generate as many communities.สูตรเฉพาะและส่วนผสมของโคลนที่ใช้ทำผ้าหมักโคลนของชาวศรีสัชนาลัย ประกอบด้วย · คลั่ง + มะเกลือ ตำทีละ ๕ กิโลกรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร · ไม้ฝางแช่ทีละ ๕ กิโลกรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร · โคลน ๑๕ กิโลกรัม ต่อน้ำ ๓๐ ลิตร · น้ำ ๓๐ ลิตร (ต่อ ๑ กระทะ) · เกลือ ๗ ช้อนโต๊ะ · ผงซักฟอก ๓ ช้อนโต๊ะ · ฟืน ๑๒.๐๑ กิโลกรัม ต่อ ๑ กระทะ วิธีการทำผ้าหมักโคลน ๑. นำดินจอมปลวก ๑๕ กิโลกรัม ผสมกับน้ำ ๓๐ ลิตร เพื่อทำเป็นน้ำโคลนหมักผ้า ๒. กรองน้ำโคลนด้วยผ้าขาวบางเพื่อแยกเศษไม้หรือดินโคลนออกไป ๓. น้ำผ้าผืนที่ทอไว้แล้วมาแช่น้ำโคลนทิ้งไว้ ๑ คืน ๔. น้ำผ้าที่แช่โคลนแล้วตาม ข้อ ๓. ไปซักให้สะอาด แล้วน้ำไปต้มย้อมสีธรรมชาติตามต้องการวิธีการย้อมสีผ้าหมักโคลน ๑. จุดไฟตั้งกระทะ โดยใช้น้ำ ๓๐ ลิตร ต่อหนึ่งกระทะ ๒. ใส่สีธรรมชาติที่เตรียมไว้ (๒ กิโลกรัม ต่อกระทะ) ๓. ใส่เกลือ ๗ ช้อนโต๊ะ ผงซักฟอก ๓ ช้อนโต๊ะ ๔. ใช้ไม้คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วรอจนกว่าน้ำจะร้อน ๕. ใส่ผ้าที่ซักโคลนออกแล้วลงกระทะ และใช้ไม้คนผ้าตลอดเวลา ๑ ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้สีเข้ากันดี ๖. นำผ้าออกไปซักแล้วตากให้แห้ง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The fabric is made from fermented mud is traditional wisdom that the ancient and unique heritage of Thailand. Especially at the district, Sukhothai is considered a source of fermented mud cloth famous one. The discovery of the special fabric made of fermented mud. The former residents wear cotton clothing to farmers, which makes clothing contaminated mud infrastructures. But back home, people used to wash clothes to the cleaners. I have found that the mud is good for making fabrics are different from the original, such as cotton, which had hardened. Once the fermentation has been muddy water and recycled wash. The fabric is made with a soft flutter leave the area. Villagers had initially sought to continue the development of a knowledge producing cotton fermented mud comfortable. Combining the craft woven fabric Mantles woven neatly. Fermented mud cloth makes this a product of the famous district of Sukhothai, which was seen as a gift to find a hand. Generate income for the community is very



specific formula and mix of mud used to make a fermented mud of Sukhothai consisting
· Rave: Ebony lower than 5 kg per 20 liters of water
· wood Fang soaked by 5 kg per 20 liters of water.
15 kg per 30 liters of water, mud ·
· 30 liters of water (one per pan)
· 7 tablespoons salt
3 tablespoons of detergent ·
· firewood 12.01 kg per one pan
to make a fermented mud
first. Anthill soil mixed with 15 kg of water, 30 liters of water to make mud cloth
2. Muddy water with a white cloth to separate debris or mud off the
third. A woven cloth soaked in muddy water, then leave one night
a cloth soaked in mud and 4. According to Article 3 wash. Bring to a boil, natural dyes needed
to dye fabrics fermented mud
first. Set the pan on fire, using 30 liters of water per pan
2. Natural colors prepared (2 kg per pan)
3. Add 7 tablespoons salt 3 tablespoons of detergent
4. Use wood ingredients together. Wait until the water is hot
five. Put the laundry out of the mud into the pan. The wooden boards were always one and a half hours to paint well into
six. Remove the laundry to wash and dry.