พิธีการ
ขั้นตอน พิธีแต่งงานแบบคริสต์ ประเพณีงานแต่งงานแบบคริสต์ มีขั้นตอนดังนี้
สำหรับพิธีแต่งงานของชาวคริสต์หรือท่านที่มีคู่ชีวิต ที่จะจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ ในโบสถ์ ตามประเพณีของศาสนาคริสต์ มีขั้นตอนการแต่งงานแบบศาสนาคริสต์มาฝาก ดังนี้
ขั้นตอนที่สำคัญสำหรับพิธีแต่งงานแบบคริสต์เริ่มต้นด้วย การเลือกสถานที่ในการจัดงาน ซึ่งก็คือ “โบสถ์”
การประกอบพิธีกรรม และที่สำคัญรองลงมาคือ “ผู้ประกอบพิธี” ซึ่งจะเชิญบาทหลวงสำหรับผู้นับถือคาทอลิก แต่ถ้านับถือแบบคริสเตียนให้เชิญ ศิษยาภิบาลแทน นอกจากนี้อาจจะมีการทาบทามญาติพี่น้องหรือคนรู้จักที่เป็นเด็กมาช่วยในงานพิธีด้วย โดยเด็กน่ารักเหล่านี้เองที่รับหน้าที่เป็นผู้โปรยดอกไม้ และเป็นผู้ถือแหวนเพื่อนำขบวนเจ้าสาวเข้าสู่โบสถ์
พิธีจุดเทียน
ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ที่ถือปฏิบัติต่อ ๆ กันมานั้นนิยมให้เป็นเด็กผู้หญิง 1 คน และเด็กผู้ชาย 1 คน หรืออาจจะเป็นเด็กผู้หญิงทั้งคู่ โดยบริเวณด้านหน้าของโบสถ์ที่จะใช้ในการประกอบพิธีจะมี
เชิงเทียน 2 แท่น ตั้งอยู่ทางซ้ายและขวา เมื่อเริ่มเข้าสู่พิธีคนจุดเทียนที่ได้รับเลือกจะเดินถือเทียนเปล่าไปต่อไฟ จากแท่นเทียนที่ อยู่ด้านหน้าโบสถ์ หลังจากนั้นก็จะนำเทียนที่อยู่ในมือไปจุดต่อยังเชิงเทียนด้านซ้ายและขวานั้น ครั้นพอจุดเทียน เรียบร้อยแล้ว เด็กทั้งสองจะเดินออกมา
พิธีบรรเลงเพลง
เมื่อเด็กน้อยทั้งสองเดินออกมาหลังจากจุดเทียนเสร็จเรียบร้อย วงดนตรีที่อยู่ในโบสถ์ก็จะบรรเลงเพลงต้อนรับ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนักเปียโนที่ถูกจ้างเพื่อให้มาเล่นเล่นสำหรับพิธีนี้โดยเฉพาะ
พิธีแต่งงาน (พาเจ้าสาวเข้าสู่โบสถ์ )
ขบวนเจ้าสาวประกอบไปด้วย เด็กน้อยผู้ถือแหวนหมั้นเด็กโปรยดอกไม้ เพื่อนเจ้าสาว รวมทั้งบิดาผู้เป็นคนพาเจ้าสาวเดินคล้องแขนเข้ามาภายในโบสถ์ การที่เจ้าสาวเดินควงแขนมาพร้อมกับคุณพ่อของเธอไปตามทางเดิน สู่พิธีนั้นถือเป็นการมอบกรรมสิทธิ์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นผู้รับหน้าที่แทนในการปกป้องทะนุถนอมดูแลต่อเจ้าสาว รวมทั้งตัวเจ้าสาวเองก็มีหน้าที่ปรนนิบัติและให้ความเคารพนับถือสามีด้วยเช่นกัน จังหวะนี้เองแขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีภายในงานต้องลุกขึ้นยืนเพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าสาว
พิธีอ่านคัมภีร์คู่ชีวิต
เมื่อบิดาของเจ้าสาวพาเจ้าสาวมาถึงบริเวณที่ประกอบพิธี บาทหลวงหรือศิษยาภิบาลผู้ประกอบพิธีนั้นจะอ่านข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ เพื่อให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวรับทราบถึง ภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันเมื่อก้าวเท้าสู่การใช้ชีวิตคู่ต่อไป
พิธีกล่าวคำปฏิญาณ
ขั้นตอนนี้ถือได้ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด ในสมัยก่อนนั้นผู้เป็นบ่าวสาวจะกล่าว คำปฏิญาณตามบาทหลวงหรือผู้ประกอบพิธีกรรม แต่ในสมัยนี้คู่บ่าวสาวมักจะมีคำปฏิญาณเป็นของตนเอง ส่วนจะร่างมาก่อน หรือจะมาพูดกันสด ๆ ในพิธีก็ตามแต่จะสะดวก บ่าวสาวบางคู่ก็แอบจดใส่กระดาษโน้ตเล็ก ๆ มาอ่านกันในงานด้วย
เพราะกลัวว่าอาการตื่นเต้นจะทำให้หลงลืมได้ ทั้งนี้ผู้ประกอบพิธีเพียงแต่กล่าวนำให้เท่านั้น
พิธีแลกแหวนแต่งงานและลงนาม
หลังจากที่ให้คำมั่นสัญญากันแล้วก็มาถึงพิธีแลกแหวนแต่งงาน ทั้งคู่จะสวมแหวนแต่งงานให้แก่กันและเป็นที่รู้กันดีว่าแหวนของชาวคริสต์นั้นต้องเป็นแหวนที่กลมเกลี้ยงปราศจากรอยต่อใด ๆ เพื่อสื่อถึงความรักไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งในสมัยก่อนนั้นนิยมใช้แหวนทองด้วยเพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด แต่สำหรับในยุคนี้ จะนิยมแหวนที่ทำขึ้นด้วยทองคำขาวหรือเงินแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล จากนั้นจึงลงนามในหนังสือสำคัญ ที่โบสถ์จะเป็นผู้ออกให้ แต่เป็นคนละใบกับทะเบียนสมรส
พิธีจุดเทียนครอบครัว
เริ่มจากเจ้าสาวจุดเทียนซ้ายและเจ้าบ่าวจุดเทียนขวา ทั้งคู่ต้องมาจุดเทียนตรงกลางพร้อมกัน
เพื่อแสดงถึงการรวมเป็นครอบครัวเดียวกัน หลังจากนั้นบาทหลวงหรือผู้ประกอบพิธีกรรม จะอธิษฐานขอพร สำหรับครอบครัวใหม่ และประกาศการแต่งงานระหว่างคู่บ่าวสาวอย่างเป็นทางการ