Story of Venice is his thesis sawa nit that translate the story and came from merchant of venice William Shakespeare's famous of England in 1595-1597 dressed up that King remained head of the 1911 Crown-shaped Theatre, is based on the interaction of proteins. Shakespeare and bind the words Thailand, similar to the original poem, most.A brief story of Venice sawa rich อันโตนิโยพ่อค้าแห่งเมืองเวนิสกำลังกลุ้มใจเรื่อที่เรือสินค้าเดินทางมาถึงช้ากว่าปกติ เกรงว่าเรือสินค้าจะอัปาง ขณะนั้นเองบัสสานิโยเพื่อนสนิทที่เดินทางมาของยืมเงินไปเมืองเบลมอนต์เพื่อพบนางเปอร์เชียคนรัก ผู้มั่งคั่งจากการรับมรดกมากมายเนื่องจากบิดาเธอเสียชีวิตซึ่งก่อนตายบิดาเธอได้มีเงื่อนไขว่า "นางเปอร์เชียต้องทำพิธีเสี่ยงทายด้วยหีบ3ใบเพื่อเลือกคู่ ชายใดเลือกหีบที่มีรูปนางเปอร์เชียก็จะได้แต่งงานกับนาง แต่ถ้าเลือกผิดชายคนนั้นก็ต้องห้ามแต่งงานลอดชีวิต" บัสสานิโยซึ่งชอบอยู่กับนางเปอร์เชียจึงคิดจะไปร่วมงานครั้งนี้ด้วย อันโตนิโยซึ่งมีเงินไม่มาก จึงไปขอยืมเงินไชล็อก พ่อค้าเงินกู้หน้าเลือดชาวยิว ผู้เป็นศัตรูของอันโตนิโย จำนวน3,000เหรียญ แต่มีเงื่อนไขว่า "หากอันโตนิโยหาเงินมาคืนภายใน3เดือนไม่ได้ ข้าก็จะขอเนื้อ1ปอนด์จากร่่างกายอันโตนิโย" ลอเร็นโซเพื่อนบัสสานิโยชอบพออยู่กับเจ็สสิก้าลูกสาวของไชล็อกและได้พากันหนีไป สร้างความโกรธแค้นแก่ไชล็อกอย่างมาก ต่อมาเมื่องบัสสานิโยเดินทางไปถึงเมืองเบลมอนต์ก็ได้เข้าทำพิธีเลือกคู่ เจ้าชายมอร็อคโคเลือกหีบทองภายในมีกะโหลกผี เจ้าอาร์ระคอนเลือกหีบทองภายในมีตัวจำอวดอยู่(ตัวตลก) บัสสานิโยเลือกหีบตะกั่วซึ่งภายในมีรูปนางเปอร์เชียอยู่ นางเปอร์เชียจึงดีใจมากและมอบแหวนให้แก่บัสสานิโย ต่อมาลอเร็นโซและสะเลริโยถือจดหมายมาจากเมืองเวนิสว่าเรือสินค้าของอันโตนิโยอับปาง บัสสานิโยจึงนำเรื่องไปบอกแก่นางเปอร์เชีย นางจึงมอบเงินแก่บัสสานิโย20เท่าเพื่อนำไปใช้หนี้ไชล็อก แต่ไชล็อกไม่ต้องการ เพราะในในคิดว่านี้เป็นโอกาสดีที่จะได้แก้แค้นอันโตนิโยที่เคยด่าว่าและทำร้ายตน พ่อเมืองเวนิสช่วยเกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผล นางเปอร์เชียจึงให้ลอเร็นโซถือจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์เบ็ลลานิโยญาติขอนางซึ่งเป็นทนายความมาช่วยอันโตนิโย แต่อาจารย์ไม่อยู่ นางเปอร์เชียจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นบัลถะสาร์ททนายความมาช่วยว่าความให้ นางกล่าวว่าา"ไชล็อกสามารถตัดเนื้อไปจากร่างกายอันโตนิโยได้ แต่ห้ามนำเลือดจากตัวอันโตนิโยไปแม้แต่หยดเดียว เพราะนั่นไม่มีในสัญญา และถ้าทำเช่นนั้นจะถูกริบทรัพย์ และถ้าตัดเนื้อน้อยหรือมากว่า1ปอนด์ที่ตกลงไว้ ก็จะถูกประหารชีวิตและถูกริบทรัพย์" ในที่สุดไชล็อกก็ถูกริบทรัพย์ไปกึ่งหนึ่ง และให้ไชล็อกทำพินัยกรรมว่าเมื่อถึงแก่กรรมแล้วต้องยกสมบัติทั้งหมดให้แก่ลอเร็นโซผู้เป็นลูกเขย พร้อมทั้งให้ไชล็อกเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ด้วย ไชล็อกจึงยอมทำตามและขอลากลับบ้าน เพราะรู้ว่าอย่างไรตนก็ต้องแพ้ความ ในภายหลังเรือสินค้าของอันโตนิโยก็กลับมา และมีอับปางบ้าง ก่อนบัลถะสาร์(นางเปอร์เชีย)จะกลับก็ได้ลองใจลอเร็นโซ โดยการของแหวน บัสานิโยก็ทำท่าจะไม่ให้ แต่ในที่สุดก็ยอมถอดแหวนให้ เมื่อถึงเมืองเบลมอนต์ นางเปอร์ชียก็ได้ถามถึงแหวน บัสสานิโยก็เล่าความจริงให้ฟังว่าบัลถะสาร์ซึ่งมีบุญคุณต่อเขา เพราะบัลถะสาร์ช่วยเพื่อนรักของเขาไว้ และบัลถะสาร์ก็ได้ของแหวนเป็นการตอบแทนเขาจึงต้องยอมมอบแหวนให้ ดังนั้นนางเปอร์เชียจึงไม่โกรธบัสสานิโย
การแปล กรุณารอสักครู่..