History of asanhabucha days. Asanhabucha is an important day, a day of Buddhism, the full moon 15 lunar months there in the era of 8 key events occur in the following four. 1. is he shows the Buddha preaching in the city for the first time all five images is sufficiently panchawakkhi isi Forest City Varanasi paton Buddha first preached. 2. the date the Grand Buddha he was a devotee of God first is konthan Jameel have achieved enlightenment is sodaban the first element. Asanhabucha day is a day when the priest arise first images. 7 days asanhabuchaGod she is konthan Jameel, such priests first Buddhist images. 3. as with the priest arise as she is the first GIA konthan Jameel. After the fair's appeal asked the upasampada sodaban Therefore give the upasampada lifted as monks in Buddhist images. 4. date of the Triple Gem is full of Buddhist monks for the first time, especially when the subject happens to be a witness to the Enlightenment, enlightenment. As the Lord Buddha's realization of it completely is not just only a single example of his enlightenment teachings pratyekabuddha. 7 days asanhabucha Asanhabucha on the same day Lord Buddha attained enlightenment was 7 weeks. History of asanhabucha days. History of asanhabucha days. Starting from the era of the time. After Lord Buddha enlightenment day in full and he is happy to meet with wimutti happy from pursuit for a period of 7 weeks after that of his Dharma priwitok this very profound enlightenment. In a nutshell, there are also animal lust thick hard to an accomplice, according to. Stylish prom hairstyles sahambadi know your priwitok your aratna, and therefore he came preaching because the animals are still there in the eye are thuli. 7 days asanhabuchaThao sahambadi prom aratna, Lord Buddha came and said, was provides fair please animal village. When the Lord God Lord living sector of animal users to merge, please die in a recurrence in third time. Therefore check the animal with a good eye, a Buddhist village, among the animals that have very little there is lust, lust, it is an organic, an organic light unto dare, there is also the simple tutorial has taught it is difficult as the Lotus born and grown up in the water, some of them are in deep water, some of them, it is always water. Some of them were out of water and is considered by some to be a certain pane, such as are ready to bloom, as well as among the animals, there are enough to teach. Therefore, he received aratna of sahambadi classic prom When Thao sahambadi phonmoklap to the prom world. God is the Lord, the owner was to think that the sector ", we will show the wrong one before anyone will know this to justice quickly," he continued to think that "lan dabot and time-honored uthok dabot is clever with Giles long light. If you listen to the Dharma, they will know the Dharma. We should be fair for both before the "/history day asanhabucha. History of asanhabucha days. Lord Buddha was considered someone who will support fair.Is the lan and dabot uthok dabot, adidas, but both had death dabot. เทวดาตนหนึ่งทราบพระดำริของพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงอันตรธานจากวิมานมากราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ดาบสทั้งสองนั้นได้สิ้นชีวิตแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูก็ทรงทราบว่า ดาบสทั้งสองนั้นสิ้นชีพแล้ว จึงทรงดำริว่า “พระดาบสทั้งสองเป็นผู้ประสบความเสื่อมอย่างใหญ่แล้ว เพราะถ้าเขาได้ฟังธรรมก็จะพึงรู้ได้ตลอดทั้งหมดโดยฉับพลัน” ครั้นแล้ว จึงทรงดำริถึงปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ผู้มีอุปการะแก่พระองค์มาก ได้ตามมาอุปัฏฐากเมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ก่อนตรัสรู้ จึงเสด็จไปโปรด ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ประวัติวันอาสาฬหบูชา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำริถึงปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ผู้มีอุปการะแก่พระองค์มาก ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาแต่ไกล จึงได้นัดหมายกันและกันว่า “ท่านทั้งหลาย พระสมณโคดมนี้เป็นผู้มักมาก คลายความเพียร เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก กำลังเสด็จมา พวกเราไม่พึงอภิวาท ไม่พึงลุกขึ้นต้อนรับพระองค์ ไม่พึงรับบาตร จีวร ของพระองค์ เพียงแต่วางอาสนะไว้ก็พอ ถ้าพระองค์ปรารถนาก็จะประทับนั่ง” ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปถึง ด้วยพุทธานุภาพจึงทำให้เหล่าปัญจวัคคีย์นั้นไม่ตั้งอยู่ในกติกาของตน ต่างลุกขึ้นต้อนรับพระผู้มีพระภาคเจ้า รูปหนึ่งรับบาตร จีวร ของพระผู้มีพระภาคเจ้า รูปหนึ่งปูอาสนะ รูปหนึ่งจัดหาน้ำล้างพระบาท รูปหนึ่งวางตั่งรองพระบาท รูปหนึ่งนำกระเบื้องเช็ดพระบาทเข้าไปถวาย พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนอาสนะที่ปัญจวัคคีย์จัดถวาย แล้วทรงล้างพระบาท หลังจากดูแลต้อนรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พวกปัญจวัคคีย์ได้เรียกพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยระบุพระนาม และใช้คำว่า “อาวุโส” เมื่อพวกปัญจวัคคีย์กล่าวอย่างนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสห้ามเหล่าปัญจวัคคีย์ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าเรียกตถาคตโดยระบุชื่อ และอย่าใช้คำว่า อาวุโส ดูก่อนท่านทั้งหลาย ตถาคตเป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว พวกท่านจงเงี่ยโสตสดับ เราได้บรรลุอมตธรรมแล้ว เราจะสั่งสอน จะแสดงธรรม พวกท่านปฏิบัติตามที่เราสั่งสอนแล้ว ไม่ช้าก็จะทำให้แจ้งซึ่งคุณอันยอดเยี่ยม อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์” เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว เหล่าปัญจวัคคีย์ได้ทูลค้านพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า “อาวุโสโคดม ที่ผ่านมานั้นท่านได้บำเพ็ญทุกรกิริยาอย่างยิ่งยวด แต่ก็ยังไม่อาจบรรลุธรรมอันประเสริฐ ก็บัดนี้ท่านเป็นผู้มักมาก คลายความเพียร เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก ไฉนจะบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เล่า” เมื่อพวกปัญจวัคคีย์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตไม่ใช่เป็นคนมักมาก ไม่ได้เป็นคนคลายความเพียร ไม่ได้เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก ดูก่อนท่านทั้งหลาย ตถาคตเป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พวกท่านจงเงี่ยโสตสดับ เราได้บรรลุอมตธรรมแล้ว เราจะสั่งสอน จะแสดงธรรม พวกท่านปฏิบัติตามที่เราสั่งสอนแล้ว ไม่ช้าก็จะทำให้แจ้งซึ่งคุณอันยอดเยี่ยม อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์” พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเช่นนี้ถึง 3 ครั้ง แล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสต่อไปอีกว่า “ดูก่อนท่านทั้งหลาย ถ้อยคำเช่นนี้เราไม่เคยพูดที่ไหน
การแปล กรุณารอสักครู่..