ยุคคลาสสิก นักดนตรีและคีตกวีที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงหลายท่านได้หลั่งไ การแปล - ยุคคลาสสิก นักดนตรีและคีตกวีที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงหลายท่านได้หลั่งไ อังกฤษ วิธีการพูด

ยุคคลาสสิก นักดนตรีและคีตกวีที่ยิ่ง

ยุคคลาสสิก นักดนตรีและคีตกวีที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงหลายท่านได้หลั่งไหลเข้ามาตั้งถิ่นฐานในกรุงเวียนนา อาทิเช่น กลุ๊ค (Gluck) ไฮเดิ้น (Haydn) โมสาร์ท (Mozart) บีโธเฟ่น (Beethoven) ชูเบิร์ท (Schubert) บราหมส์ (Brahms) สเตราส์ (Struass) บรู๊คเนอร์ ( Bruckner) วูล์ฟ (Wolf ) มาห์เลอร์ (Mahler) เชินเบอร์ก(Shoenberg) เวเบิร์น (Webern) เป็นต้น ศิลปินเหล่านี้เป็นผู้มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์การดนตรีในยุคคลาสสิกเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วกรุงเวียนนายังเป็นศูนย์รวมของศิลปินท่านอื่นๆ อีกมากมายจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีนครใดในโลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอัจฉริยะทางดนตรีเช่นนครแห่งนี้อีกแล้ว ในยุคนี้การดนตรีได้กลายเป็นชีวิตจิตใจของชาวยุโรป นักดนตรีและคีตกวีได้รับการสนับสนุนและชุบเลี้ยงจากราชสำนัก ศิลปะการดนตรีมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงส่ง และมรดกที่ที่ได้รับสืบทอดมาจากยุคนี้คือ ซิมโฟนี (Symphony) ซึ่งเป็นดนตรีที่คีตกวีประพันธ์ขึ้นมาอย่างมีกฎเกณฑ์และแบบแผนเช่นเดียวกับดนตรีอุปรากร (Opera)และโซนาต้า (Sonata) โซนาต้าและซิมโฟนี่แห่งยุคคลาสสิก

โซนาต้าในยุคนี้ได้ถูกนำมาดัดแปลงให้มีความหมายแตกต่างออกไปจากศตวรรษที่แล้ว โดยหมายถึงการบรรเลงเดี่ยวด้วยเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวหรือสองชิ้น เช่น Sonata for Violin หมายถึงการบรรเลงเดี่ยวไวโอลิน Piano Sonata หมายถึงการบรรเลงเดี่ยวเปียโน หรือ Sonata for String Quartet หมายถึง การบรรเลงด้วยเครื่องสาย 4 ชิ้น เป็นต้น แต่โครงสร้างของบทเพลงโซนาต้าหรือ นั้นเป็นแบบอย่างเดียวกับบทเพลงซิมโฟนี่ดังนี้คือ บทเพลงซิมโฟนี่ประกอบด้วย 4 ท่อนหรือ Movement แต่บางครั้งอาจมีความยาวกว่า 4 ท่อนก็ได้

โดยทั่วไปนั้น ท่อนที่ 1(First Movement) เป็นบทนำของเพลงมักมีความยาวมากที่สุด อาจมีลีลาที่ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์ ท่อนที่ 2 (Second Movement) โดยทั่วไปจะเป็นท่วงทำนองที่ช้าเป็นการพัฒนา ธีม (Theme) หรือเนื้อหาหลักของเพลงจากท่อนแรก ท่อนที่ 3 (Third Movement) เป็นลีลาที่ไพเราะผ่อนคลายหรรษาไปตามบทเพลงที่เรียกว่า มินูเอ็ท (Minuet) ท่อนที่ 4 (Fourth Movement) มักจะมีท่วงทำนองที่เร็วและมีสาระของเพลงน้อยกว่าท่อนอื่น บางครั้งก็จะเป็นลีลาที่ผันแปรมาจากท่วงทำนองหลักหรือ ธีม ของเพลงเป็นต้น ซิมโฟนีเป็นบทประพันธ์ดนตรีที่มีความไพเราะและยิ่งใหญ่ สามารถใช้ทดสอบความสามารถและความคิดริเริ่มของคีตกวีแต่ละท่านได้เป็นอย่างดี ดนตรีแห่งยุคคลาสสิกมีความรุ่งเรืองสูงส่ง ซึ่งเราจะสังเกตได้จากวงดนตรีออร์เคสตร้าที่มีขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วยเครื่องดนตรีกว่า 100 ชิ้นและวาทยกร (Conductor) 1 คน การจัดจำแหน่งของเครื่องดนตรีต่าง ๆ และนักดนตรีขึ้นอยู่กับวาทยากรแต่ละท่าน วงซิมโฟนีได้ถือกำเนิดครั้งแรกในยุคคลาสสิกนี้เอง และได้รับการพัฒนาต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้

ด้วยความรุ่งเรืองทางดนตรีแห่งยุคนี้ จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่า เหตุใดดนตรีคลาสสิกจึงยังคงเป็นที่นิยมอยู่จนทุกวันนี้ จนเรียกได้ว่าเป็นดนตรีอมตะ หาดแต่วิวัฒนาการศิลปะการดนตรีมิได้หยุดอยู่เพียงนี้ ศิลปินได้พยายามแสวงหาแนวทางของศิลปะใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ดนตรีก็เช่นกัน จากยุค คลาสสิก ต่อมาจนถึง โรแมนติก (Romantic) ซึ่งการดนตรียังไม่มีแนวทางต่างกันมากนัก นักดนตรีในยุคโรแมนติกที่มีชื่อเสียง 4 ท่านได้แก่ เมนเดลโซน (Felix Mendelsohn) โชแปง (Federic Chopin) ชูมานน์ (Robert Schumann) ลิซท์ ( Franz Liszt)

ยุคโรแมนติก ได้เริ่มขึ้นเมื่อแนวทางดนตรีเริ่มละทิ้งแบบแผนของคลาสสิก นับจากบทประพันธ์อันยิ่งใหญ่ เช่น “Spring Sonata “ ของโมสาร์ท ดนตรีแห่งยุคโรแมนติกได้หันเหแนวของดนตรีมาสู่แนวทางแห่ง ดนตรีชาตินิยม (Nationalism) โดยใช้เสียงดนตรีแบบพื้นเมือง นอกจากนี้แล้วอิทธิพลทางการเมืองมีส่วนทำให้การดนตรีหันเหไป นับแต่การปฏิวัติในฝรั่งเศส การปฏิวัติในอเมริกา สงครามนโปเลียน เป็นต้น บทเพลง “ The Polonaise “ ของโชแปงก็เป็นตัวอย่างอันหนึ่งในแบบอย่างของดนตรีแนว Nationalism นอกจากนี้แล้วในยุคโรแมนติกก็ยังเป็นช่วงเวลาก่อกำเนิดคีตกวีและนักดนตรีอีกหลายท่าน อาทิเช่น ปากานินี่ (Nicolo Paganini) ว้ากเนอร์
(Richard Wagner) แวร์ดี้ (Giusseppe Verdi) นอกจากนี้ประเทศรัสเซียก็ยังมีคีตกวีเอกอีกหลายท่านเช่น ไชคอฟสกี้ (Tchaikovsky) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งบัลเลต์ รวมถึงผลงานอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ อุปรากร 10 เรื่อง ซิมโฟนี่ 6 บท บัลเลต์ 3 เรื่อง ที่รู้จักกันดี ได้แก่ Nutcracker, Swan Lake, Sleeping Beauty และบทเพลงที่มีชื่อเสียงมากอีกบทคือ 1812 Overture ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ก็มีอัจฉริยะทางดนตรีอีก 3 ท่านคือ บราหมส์ มาห์เลอร์ และบรู๊คเนอร์ ซึ่งล้วนอยู่ในแนวทางแห่ง Nationalism ทั้งสิ้น
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ยุคคลาสสิก นักดนตรีและคีตกวีที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงหลายท่านได้หลั่งไหลเข้ามาตั้งถิ่นฐานในกรุงเวียนนา อาทิเช่น กลุ๊ค (Gluck) ไฮเดิ้น (Haydn) โมสาร์ท (Mozart) บีโธเฟ่น (Beethoven) ชูเบิร์ท (Schubert) บราหมส์ (Brahms) สเตราส์ (Struass) บรู๊คเนอร์ ( Bruckner) วูล์ฟ (Wolf ) มาห์เลอร์ (Mahler) เชินเบอร์ก(Shoenberg) เวเบิร์น (Webern) เป็นต้น ศิลปินเหล่านี้เป็นผู้มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์การดนตรีในยุคคลาสสิกเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วกรุงเวียนนายังเป็นศูนย์รวมของศิลปินท่านอื่นๆ อีกมากมายจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีนครใดในโลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอัจฉริยะทางดนตรีเช่นนครแห่งนี้อีกแล้ว ในยุคนี้การดนตรีได้กลายเป็นชีวิตจิตใจของชาวยุโรป นักดนตรีและคีตกวีได้รับการสนับสนุนและชุบเลี้ยงจากราชสำนัก ศิลปะการดนตรีมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงส่ง และมรดกที่ที่ได้รับสืบทอดมาจากยุคนี้คือ ซิมโฟนี (Symphony) ซึ่งเป็นดนตรีที่คีตกวีประพันธ์ขึ้นมาอย่างมีกฎเกณฑ์และแบบแผนเช่นเดียวกับดนตรีอุปรากร (Opera)และโซนาต้า (Sonata) โซนาต้าและซิมโฟนี่แห่งยุคคลาสสิกโซนาต้าในยุคนี้ได้ถูกนำมาดัดแปลงให้มีความหมายแตกต่างออกไปจากศตวรรษที่แล้ว โดยหมายถึงการบรรเลงเดี่ยวด้วยเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวหรือสองชิ้น เช่น Sonata for Violin หมายถึงการบรรเลงเดี่ยวไวโอลิน Piano Sonata หมายถึงการบรรเลงเดี่ยวเปียโน หรือ Sonata for String Quartet หมายถึง การบรรเลงด้วยเครื่องสาย 4 ชิ้น เป็นต้น แต่โครงสร้างของบทเพลงโซนาต้าหรือ นั้นเป็นแบบอย่างเดียวกับบทเพลงซิมโฟนี่ดังนี้คือ บทเพลงซิมโฟนี่ประกอบด้วย 4 ท่อนหรือ Movement แต่บางครั้งอาจมีความยาวกว่า 4 ท่อนก็ได้โดยทั่วไปนั้น ท่อนที่ 1(First Movement) เป็นบทนำของเพลงมักมีความยาวมากที่สุด อาจมีลีลาที่ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์ ท่อนที่ 2 (Second Movement) โดยทั่วไปจะเป็นท่วงทำนองที่ช้าเป็นการพัฒนา ธีม (Theme) หรือเนื้อหาหลักของเพลงจากท่อนแรก ท่อนที่ 3 (Third Movement) เป็นลีลาที่ไพเราะผ่อนคลายหรรษาไปตามบทเพลงที่เรียกว่า มินูเอ็ท (Minuet) ท่อนที่ 4 (Fourth Movement) มักจะมีท่วงทำนองที่เร็วและมีสาระของเพลงน้อยกว่าท่อนอื่น บางครั้งก็จะเป็นลีลาที่ผันแปรมาจากท่วงทำนองหลักหรือ ธีม ของเพลงเป็นต้น ซิมโฟนีเป็นบทประพันธ์ดนตรีที่มีความไพเราะและยิ่งใหญ่ สามารถใช้ทดสอบความสามารถและความคิดริเริ่มของคีตกวีแต่ละท่านได้เป็นอย่างดี ดนตรีแห่งยุคคลาสสิกมีความรุ่งเรืองสูงส่ง ซึ่งเราจะสังเกตได้จากวงดนตรีออร์เคสตร้าที่มีขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วยเครื่องดนตรีกว่า 100 ชิ้นและวาทยกร (Conductor) 1 คน การจัดจำแหน่งของเครื่องดนตรีต่าง ๆ และนักดนตรีขึ้นอยู่กับวาทยากรแต่ละท่าน วงซิมโฟนีได้ถือกำเนิดครั้งแรกในยุคคลาสสิกนี้เอง และได้รับการพัฒนาต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้
ด้วยความรุ่งเรืองทางดนตรีแห่งยุคนี้ จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่า เหตุใดดนตรีคลาสสิกจึงยังคงเป็นที่นิยมอยู่จนทุกวันนี้ จนเรียกได้ว่าเป็นดนตรีอมตะ หาดแต่วิวัฒนาการศิลปะการดนตรีมิได้หยุดอยู่เพียงนี้ ศิลปินได้พยายามแสวงหาแนวทางของศิลปะใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ดนตรีก็เช่นกัน จากยุค คลาสสิก ต่อมาจนถึง โรแมนติก (Romantic) ซึ่งการดนตรียังไม่มีแนวทางต่างกันมากนัก นักดนตรีในยุคโรแมนติกที่มีชื่อเสียง 4 ท่านได้แก่ เมนเดลโซน (Felix Mendelsohn) โชแปง (Federic Chopin) ชูมานน์ (Robert Schumann) ลิซท์ ( Franz Liszt)

ยุคโรแมนติก ได้เริ่มขึ้นเมื่อแนวทางดนตรีเริ่มละทิ้งแบบแผนของคลาสสิก นับจากบทประพันธ์อันยิ่งใหญ่ เช่น “Spring Sonata “ ของโมสาร์ท ดนตรีแห่งยุคโรแมนติกได้หันเหแนวของดนตรีมาสู่แนวทางแห่ง ดนตรีชาตินิยม (Nationalism) โดยใช้เสียงดนตรีแบบพื้นเมือง นอกจากนี้แล้วอิทธิพลทางการเมืองมีส่วนทำให้การดนตรีหันเหไป นับแต่การปฏิวัติในฝรั่งเศส การปฏิวัติในอเมริกา สงครามนโปเลียน เป็นต้น บทเพลง “ The Polonaise “ ของโชแปงก็เป็นตัวอย่างอันหนึ่งในแบบอย่างของดนตรีแนว Nationalism นอกจากนี้แล้วในยุคโรแมนติกก็ยังเป็นช่วงเวลาก่อกำเนิดคีตกวีและนักดนตรีอีกหลายท่าน อาทิเช่น ปากานินี่ (Nicolo Paganini) ว้ากเนอร์
(Richard Wagner) แวร์ดี้ (Giusseppe Verdi) นอกจากนี้ประเทศรัสเซียก็ยังมีคีตกวีเอกอีกหลายท่านเช่น ไชคอฟสกี้ (Tchaikovsky) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งบัลเลต์ รวมถึงผลงานอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ อุปรากร 10 เรื่อง ซิมโฟนี่ 6 บท บัลเลต์ 3 เรื่อง ที่รู้จักกันดี ได้แก่ Nutcracker, Swan Lake, Sleeping Beauty และบทเพลงที่มีชื่อเสียงมากอีกบทคือ 1812 Overture ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ก็มีอัจฉริยะทางดนตรีอีก 3 ท่านคือ บราหมส์ มาห์เลอร์ และบรู๊คเนอร์ ซึ่งล้วนอยู่ในแนวทางแห่ง Nationalism ทั้งสิ้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Classical musicians and composers of the great and famous, many of you have poured into settlements in Vienna, such as Gluck (Gluck) High wrenchingly (Haydn), Mozart (Mozart), Beethoven (Beethoven. ) Schubert (Schubert) Brother of memes (Brahms), Strauss (Struass) Brooke Partners (Bruckner) Wolf (Wolf), Mahler (Mahler) Shen Hindenburg (Shoenberg) Web. Byrne (Webern), etc. These artists who are important to the history of music in the classical period as well. Additionally, Vienna is also the embodiment of other artists. Many hard to believe there is any city in the world, filled with musical genius, like the city, and more. In this age of music has become the heart and soul of the Europeans. Musicians and composers are supported and sustained by the court. Art of music has flourished loftily. And the legacy that has been inherited from the era was the Symphony (Symphony), which is the musical composer, poet, as by the rules and conventions as well as operatic music. (Opera) and Sonata (Sonata) Sonata and Symphony of the classical sonata in this era has been adapted to significantly different from a century ago. By means of solo instruments only one or two pieces, such as Sonata for Violin means Soloist Violin Piano Sonata represents a solo piano or Sonata for String Quartet means playing with other instruments or 4 pieces, but its structure. Sonata or song Symphony music is exemplary as follows. 4 pieces or songs composed symphonies Movement, but sometimes may be longer than 4 logs was typical verse 1 (First Movement) was the intro of the music often has the longest. May dramatically slow or fast depending on the author verse 2 (Second Movement) are generally melodies slow to develop theme (Theme) or subject matter of the songs from the first verse verse 3 (Third Movement) is a style that. Fun to relax melodic song called MINUT Duet (Minuet) verse 4 (Fourth Movement) tend to have a faster rhythm of the music and a material other than wood. Sometimes it is a style that varies from the main melody or theme of music and so on. Music is like a symphony and symphonic grandeur. Can be used to test the ability and originality of each composer as well. Music of the Classical era of prosperity exaltation. We will notice from the band Orleans Orchestra at large. Instrument contains over 100 pieces and conductors (Conductor) 1 person to remember the position of the various instruments and musicians depend on each conductor. Symphony was born first in the classical period itself. And has been further developed to this day with the glorious music of this era. It is no wonder. Why classical music is still popular to this day. It is known that music is timeless. Beach art of music, but evolution does not stop with this. The artist has sought the guidance of new art music all the time, too, from the classical period to the later Romantic (Romantic), whose music has not much different approach. Musicians of the Romantic era, namely the famous 4 Mendel zone (Felix Mendelsohn), Chopin (Federic Chopin) holds Herrmann (Robert Schumann) Liszt (Franz Liszt) Romantic era. It began when the music started to abandon the classic pattern. From great literature, such as "Spring Sonata" Mozart's music of the Romantic era are gone along the path of music. Music Nationalism (Nationalism) using traditional music. In addition, the political influence contributed to the decline of music. Since the Revolution in France Revolution in America Napoleonic wars, etc. The song "The Polonaise" Chopin is one of the example in the example of the musical Nationalism In addition, in the Romantic era was also a time origination composers and musicians, many of you like. Paganini (Nicolo Paganini) Wagner (Richard Wagner), Verdi (Giusseppe Verdi) In addition, Russia is also the composers many others, such as Tchaikovsky, Kowalski (Tchaikovsky), which has been hailed. King of Ballet As well as other works, including the famous Opera 10's Symphony 6 Chapter Ballet 3 of the best known include Nutcracker, Swan Lake, Sleeping Beauty and song more famous chapter's 1812 Overture, later in the century. 19. It is a musical genius, namely Brahma for another 3 Bedrooms with Mahler and Brooke Partners. These are all ways of Nationalism.








การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Classical period, musicians and composers great and many famous you are flooding into settlements in Vienna, such as กลุ๊ค (Gluck). Heiden (Haydn) Mozart (Mozart) Beethoven (Beethoven) Schubert (Schubert) Morgan (Brahms) Strouse (Struass).(Bruckner), wolf (Wolf) Mahler (Mahler) Shoenberg (Shoenberg) Webern (Webern) etc. these artists who have importance in the history of music in the classical period.Many more until almost unbelievable to have any one in the world that is full of musical genius, such as city of this again. In this era of music has become the soul of Europeans.Music art flourished highly, Legacy and has been inherited from this era is Symphony (Symphony), which is the musical composers writing up with rules and pattern as well as the music opera. (Opera) and Sonata (Sonata).
.Sonata in this era have been adapted to mean differently from a century ago. By means of a single instrument playing with only one or two pieces, such as Sonata for Violin หมายถึงการบรรเลง violin solo. Piano Sonata.Or Sonata for String Quartet means playing with stringed instruments 4 pieces, etc., but the structure of the sonata. There are the same song symphony as follows. The symphony contains 4 pieces or Movement.4 gun
.
.In general, the 1 (First Movement) is the introduction of music is usually the length as much as possible. Maybe Ma -- sooner or later, depending on the author, the 2 (Second Movement) is generally a ท่วงทำนองที่ ช้าเป็นการ development theme. (Theme).The 3 (Third Movement) is a style of melodic relax area along the song called มินู details (Minuet) the 4 (Fourth Movement). Often the fastest and has the essence of music than the other.The theme of the music. The symphony is a musical composition with the sweetness and greatest. Can be used to test the ability and originality of the composers, each of you as well. The music of the classical period of glory noble.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: