ทะเลหมอก ผาชะนะได ยามเช้าห้วงวันเวล

ทะเลหมอก ผาชะนะได ยามเช้า

ห้วงวันเวลาของฤดูกาลที่เลยผ่านจากฤดูฝนสู่ฤดูหนาว ลมเย็นพัดเบาๆ หอบเอาความหนาวมาปกคลุมสู่ผืนป่าดงนาทาม ฤดูกาลแห่งการเที่ยวภู นอนดอยรับลมหนาวของใครหลายคนที่รอคอยมาถึงแล้ว เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสกับอากาศหนาว นอนนับดาว สูดกลิ่นหอมของดอกไม้ป่า ชมทะเลหมอกยามเช้าที่ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี

“พรุ่งนี้พระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี” เสียงจากการรายงานพยากรณ์อากาศหลังข่าวภาคค่ำที่หลายคนเคยได้ฟังจนชินหู ทำไมพระอาทิตย์ต้องขึ้นที่ผาชะนะได ผาชะนะไดอยู่ที่ไหน สวยงามเพียงใด คงเป็นคำถามที่ค้างคาใจของใครหลายคนกันมานาน



ผาชะนะได เป็นภูเขาที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 450 เมตร ส่วนของหน้าผาตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของประเทศไทย เป็นจุดเริ่มต้นคำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ตั้งอยู่ในป่าดงนาทาม ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศไทย ทิวทัศน์เบื้องล่างจะเป็นแม่น้ำโขงกั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยและลาว เบื้องหน้าเป็นภูเขาแดนลาวที่วางเรียงรายสลับซับซ้อนมองดูสวยงาม ฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสวยงามของทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขง

จุดชมวิว ผาชะนะได

ป่าดงนาทามเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งสัตว์ป่าและเหล่าพันธุ์พืชของต้นไม้ ดอกไม้ป่าต่างๆ ที่หาดูได้ยาก ความหลากหลายทางธรรมชาติ เช่น น้ำตก ทุ่งดอกไม้ป่า กลุ่มหินรูปร่างแปลกตา เหมาะสำหรับการเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติและพักผ่อนวันหยุดที่แสนเงียบสงบในผืนป่าใหญ่ เสน่ห์ของผาชะนะไดมีมากมาย โดยเฉพาะถนนที่ขึ้นสู่ยอดผาเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตรสุดท้าย ถือได้ว่าท้าทายความสามารถของคนขับรถ เพราะลักษณะถนนเป็นเส้นทางกึ่งออฟโรดขึ้นเนินและลานหินที่ขรุขระ กระเด้งกระดอน โยกเยกไปมา ตลอดระยะทางถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมและสัมผัสตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก กลุ่มหินรูปร่างแปลกตา ลานดอกไม้ป่า และพะลานหิน ล้วนดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวได้จอดรถแวะถ่ายรูปกัน หรือจะลงเล่นน้ำตกก่อนเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ผาชะนะไดก็ได้ นอกจากน้ำตกที่สวยงามแล้ว ยังมีประติมากรรมหินรูปร่างแปลกตาที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมาจากการกัดกร่อนของสายลมและแสงแดดที่ล้วนแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะจินตนาการรูปร่างของหินที่พบแตกต่างกันออกไป

พระอาทิตยืขึ้นที่ ยามเช้า

การเดินทางในช่วงระยะ 15 กิโลเมตรสุดท้ายควรใช้รถกระบะที่มีความสูงปกติหรือรถกระบะยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อจะสะดวกในการเดินทางกว่า เพราะบางจุดต้องข้ามลำธารและสลับกับขึ้นเนินหินที่มีความชัน หากเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ถนนจะมีน้ำขังทำให้บางจุดรถอาจติดหล่มได้ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเตรียมอุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน เช่น จอบ เสียม ไปด้วย เพื่อการเดินทางที่ราบรื่น นอกจากนี้ตลอดระยะทางที่เป็นช่วงกึ่งออฟโรดจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้ไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ การเดินทางในช่วงนี้อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้พร้อม เพราะที่หน่วยบริการนักท่องเที่ยวผาชะนะไดข้างบนไม่มีจำหน่าย แต่จะมีเต็นท์และถุงนอนเท่านั้นไว้คอยบริการ

เมื่อเดินทางถึงหน่วยบริการนักท่องเที่ยวผาชะนะไดแล้ว จะมีลานกางเต็นท์ 3 จุดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายร้อยคน มีห้องน้ำที่สะอาด มีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ส่องสว่างจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน จากนั้นไฟก็จะดับและมืดสนิท นักท่องเที่ยวควรเตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างมาให้พร้อม

ในระหว่างทางก่อนถึงผาชะนะไดเพียง 1 กิโลเมตร มีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม นั่นคือ เสาเฉลียงคู่ ซึ่งแยกเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ที่นี่ถือได้ว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในจังหวัดอุบลราชธานีเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถมองเห็นภูเขาที่วางเรียงรายสลับซับซ้อนของผืนป่าดงนาทามอันกว้างใหญ่และเงียบสงบ มีสายลมหนาวพัดมากระทบเป็นระยะๆ ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกควบคู่ไปกับการนั่งชมแสงตะวันสุดท้ายของวัน หากนักท่องเที่ยวนั่งต่ออีกสักครู่หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว จะมองเห็นหมู่ดาวที่ส่องแสงทอประกายหนึ่งในนั้นที่ชวนให้หลงใหลคือ กลุ่มดาวกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนมากเนื่องจากบริเวณเสาเฉลียงคู่มืดสนิทไร้แสงไฟรบกวน จึงเหมาะแก่การนอนนับดาวก่อนจะกลับไปยังลานกางเต็นท์

พระอาทิตยืขึ้นที่ ผาชะนะได

บรรยากาศยามค่ำคืนบนผาชะนะได บางครั้งมีกระแสลมค่อนข้างแรงประกอบกับอากาศที่หนาวเย็นหากคืนไหนฟ้าโปร่ง อากาศดี ยังสามารถนอนดูดาวที่ลานกางเต็นท์ได้อีกด้วย ตอนเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 05.00 นาฬิกา นักท่องเที่ยวควรตื่นก่อนประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อทำกิจวัตรส่วนตัวและเดินทางต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตรไปยังหน้าผาเพื่อเฝ้ารอชมพระอาทิตย์แรกของวัน หากวันไหนอากาศมีความชื้นสูง เช่น ปลายฝนต้นหนาว (ตุลาคม-ธันวาคม) จะมีทะเลหมอกให้ชมสลับกับเทือกเขาที่สลับซับซ้อนทางฝั่งประเทศลาว ท่ามกลางดงดอกไม้ป่านานาชนิดที่ผลิดอกบานสะพรั่งทั่วทั้งผืนป่าดงนาทาม ใกล้กันกับผาชะนะไดยังมีผากำปั่นซึ่งเป็นผาที่มีชะง่อนหินยื่นออกไปทางแม่น้ำโขง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายให้ออกไปยืนถ่ายรูปและชมวิวของฝั่งประเทศลาว ผากำปั่นยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก เช่น ลานหินแตก น้ำตกกวางโตน ถ้ำฝ่ามือแดง เพื่อรอให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยกัน การเดินทางไปยังผากำปั่นควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางในการเดินเท้าเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ผาชะนะได

เส้นทางสู่ผาชะนะไดเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างขรุขระ นักท่องเที่ยวควรมาถึงบ้านซะซอมหรือบริเวณวัดถ้ำปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของถนนลาดยางก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทางกึ่งออฟโรดก่อนเวลาบ่ายสามโมง เพราะตลอดระยะทาง 15 กิโลเมตรสุดท้ายต่อจากนี้จะใช้เวลาในการเดินทางต่ออีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงไปตามทางที่ขรุขระจนถึงปลายทางที่หน่วยบริการนักท่องเที่ยว ที่สุดของความสวยงามในการเดินทางท่องเที่ยวผาชะนะไดคือ อากาศที่หนาวเย็น ทะเลหมอกที่

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Foggy PHA Dai chana The morning.No matter the time of day, the season, the rainy season, from the past to the winter. Cold wind blows gently, remove the papers from the cold forest covered later on to Dong na Tham. Season tip of Phu DOI lying colder, many people who awaited has arrived. We will take all of you to experience the cold beauty, located the fragrance of wild flowers. Watch the sunrise at PHA Dai chana Ubon Ratchathani province“พรุ่งนี้พระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี” เสียงจากการรายงานพยากรณ์อากาศหลังข่าวภาคค่ำที่หลายคนเคยได้ฟังจนชินหู ทำไมพระอาทิตย์ต้องขึ้นที่ผาชะนะได ผาชะนะไดอยู่ที่ไหน สวยงามเพียงใด คงเป็นคำถามที่ค้างคาใจของใครหลายคนกันมานาน PHA chana as the mountain with height above sea level of approx. 450 m cliff, part of the medium, is located on the eastern side of the country's most Thailand. As a starting point to calculate the time Sunrise Dong na Tham forest located in the PHA taem National Park in the County is seen as the first point of Sunrise country Thailand. Landscape beneath the river blocking will be split between Thailand and Laos country territory. The foreground is the Plexiglas placed Laos border mountain complex and beautiful view. Winter tourists to experience the beauty of the mist above the Mekong River.PHA Dai chana viewpointป่าดงนาทามเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งสัตว์ป่าและเหล่าพันธุ์พืชของต้นไม้ ดอกไม้ป่าต่างๆ ที่หาดูได้ยาก ความหลากหลายทางธรรมชาติ เช่น น้ำตก ทุ่งดอกไม้ป่า กลุ่มหินรูปร่างแปลกตา เหมาะสำหรับการเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติและพักผ่อนวันหยุดที่แสนเงียบสงบในผืนป่าใหญ่ เสน่ห์ของผาชะนะไดมีมากมาย โดยเฉพาะถนนที่ขึ้นสู่ยอดผาเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตรสุดท้าย ถือได้ว่าท้าทายความสามารถของคนขับรถ เพราะลักษณะถนนเป็นเส้นทางกึ่งออฟโรดขึ้นเนินและลานหินที่ขรุขระ กระเด้งกระดอน โยกเยกไปมา ตลอดระยะทางถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมและสัมผัสตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก กลุ่มหินรูปร่างแปลกตา ลานดอกไม้ป่า และพะลานหิน ล้วนดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวได้จอดรถแวะถ่ายรูปกัน หรือจะลงเล่นน้ำตกก่อนเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ผาชะนะไดก็ได้ นอกจากน้ำตกที่สวยงามแล้ว ยังมีประติมากรรมหินรูปร่างแปลกตาที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมาจากการกัดกร่อนของสายลมและแสงแดดที่ล้วนแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะจินตนาการรูปร่างของหินที่พบแตกต่างกันออกไปพระอาทิตยืขึ้นที่ ยามเช้าการเดินทางในช่วงระยะ 15 กิโลเมตรสุดท้ายควรใช้รถกระบะที่มีความสูงปกติหรือรถกระบะยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อจะสะดวกในการเดินทางกว่า เพราะบางจุดต้องข้ามลำธารและสลับกับขึ้นเนินหินที่มีความชัน หากเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ถนนจะมีน้ำขังทำให้บางจุดรถอาจติดหล่มได้ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเตรียมอุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน เช่น จอบ เสียม ไปด้วย เพื่อการเดินทางที่ราบรื่น นอกจากนี้ตลอดระยะทางที่เป็นช่วงกึ่งออฟโรดจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้ไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ การเดินทางในช่วงนี้อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้พร้อม เพราะที่หน่วยบริการนักท่องเที่ยวผาชะนะไดข้างบนไม่มีจำหน่าย แต่จะมีเต็นท์และถุงนอนเท่านั้นไว้คอยบริการเมื่อเดินทางถึงหน่วยบริการนักท่องเที่ยวผาชะนะไดแล้ว จะมีลานกางเต็นท์ 3 จุดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายร้อยคน มีห้องน้ำที่สะอาด มีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ส่องสว่างจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน จากนั้นไฟก็จะดับและมืดสนิท นักท่องเที่ยวควรเตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างมาให้พร้อมในระหว่างทางก่อนถึงผาชะนะไดเพียง 1 กิโลเมตร มีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม นั่นคือ เสาเฉลียงคู่ ซึ่งแยกเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ที่นี่ถือได้ว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในจังหวัดอุบลราชธานีเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถมองเห็นภูเขาที่วางเรียงรายสลับซับซ้อนของผืนป่าดงนาทามอันกว้างใหญ่และเงียบสงบ มีสายลมหนาวพัดมากระทบเป็นระยะๆ ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกควบคู่ไปกับการนั่งชมแสงตะวันสุดท้ายของวัน หากนักท่องเที่ยวนั่งต่ออีกสักครู่หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว จะมองเห็นหมู่ดาวที่ส่องแสงทอประกายหนึ่งในนั้นที่ชวนให้หลงใหลคือ กลุ่มดาวกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนมากเนื่องจากบริเวณเสาเฉลียงคู่มืดสนิทไร้แสงไฟรบกวน จึงเหมาะแก่การนอนนับดาวก่อนจะกลับไปยังลานกางเต็นท์พระอาทิตยืขึ้นที่ ผาชะนะไดบรรยากาศยามค่ำคืนบนผาชะนะได บางครั้งมีกระแสลมค่อนข้างแรงประกอบกับอากาศที่หนาวเย็นหากคืนไหนฟ้าโปร่ง อากาศดี ยังสามารถนอนดูดาวที่ลานกางเต็นท์ได้อีกด้วย ตอนเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 05.00 นาฬิกา นักท่องเที่ยวควรตื่นก่อนประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อทำกิจวัตรส่วนตัวและเดินทางต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตรไปยังหน้าผาเพื่อเฝ้ารอชมพระอาทิตย์แรกของวัน หากวันไหนอากาศมีความชื้นสูง เช่น ปลายฝนต้นหนาว (ตุลาคม-ธันวาคม) จะมีทะเลหมอกให้ชมสลับกับเทือกเขาที่สลับซับซ้อนทางฝั่งประเทศลาว ท่ามกลางดงดอกไม้ป่านานาชนิดที่ผลิดอกบานสะพรั่งทั่วทั้งผืนป่าดงนาทาม ใกล้กันกับผาชะนะไดยังมีผากำปั่นซึ่งเป็นผาที่มีชะง่อนหินยื่นออกไปทางแม่น้ำโขง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายให้ออกไปยืนถ่ายรูปและชมวิวของฝั่งประเทศลาว ผากำปั่นยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก เช่น ลานหินแตก น้ำตกกวางโตน ถ้ำฝ่ามือแดง เพื่อรอให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยกัน การเดินทางไปยังผากำปั่นควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางในการเดินเท้าเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ผาชะนะได

เส้นทางสู่ผาชะนะไดเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างขรุขระ นักท่องเที่ยวควรมาถึงบ้านซะซอมหรือบริเวณวัดถ้ำปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของถนนลาดยางก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทางกึ่งออฟโรดก่อนเวลาบ่ายสามโมง เพราะตลอดระยะทาง 15 กิโลเมตรสุดท้ายต่อจากนี้จะใช้เวลาในการเดินทางต่ออีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงไปตามทางที่ขรุขระจนถึงปลายทางที่หน่วยบริการนักท่องเที่ยว ที่สุดของความสวยงามในการเดินทางท่องเที่ยวผาชะนะไดคือ อากาศที่หนาวเย็น ทะเลหมอกที่

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The morning mist that cliff erosion expanse of time that has passed from rainy season to winter. Cool breeze blowing gently Huff took the winter to cover the property's wetlands. Season of the Phu Deutsche winter sleep of many people waiting for has arrived. We'll take you to experience the cold of night stars scent of the wild flowers. Mist dawn on the cliffs eroded it. Hte "Tomorrow's sunrise at the cliff erosion. Khong Chiam Hte "The weather reports from the Evening News that many people have listened to the familiar. Why do the sun to rise on the cliff erosion. Where's the cliff erosion Just beautiful As the unresolved question of many people for a long time but the cliff erosion. A mountain with a height above sea level of approximately 450 meters of the cliff is located on the east side of Thailand. As a starting point to calculate sunrise. Located in Dong Na Tham The Pha points The sunrise is seen as the first point of the country. Below is a view of the river delineated the border between Thailand and Laos. Before the mountainous regions of Laos lined intricate look beautiful. Winter visitors can experience the beauty of the mist over the Mekong River Scenic. Cliff erosion, but the Dong Na Tham's forests are abundant. Both these species of wildlife and plants. Wildflowers in The rare The diversity of nature such as waterfalls, wildflowers. The unusual rock Perfect for trips to nature and quiet vacation in a forest. I've got plenty of charm cliff erosion. The road to the top of the cliff, a distance of 15 kilometers last. Considered challenging the driver. Because the road is uphill, off-road route semi-rugged and rocky. Wobble bounced back and forth through the side streets filled with nature for visitors to see and experience along the way. Whether waterfall The unusual rock patio Pa wildflowers and rock are inviting tourists to visit the park each photograph. Or to play down the waterfall before heading to destinations that are not cliff erosion. The waterfall is beautiful There are also sculptures and unusual rock that nature has created by erosion of wind and sunshine are all visitors to imagine the shape of the stones vary to meet the victim at the sun. Morning trips during the last 15 kilometers to the pickup with normal height or four-wheel drive pickup truck is easy to trip over. Because at some point have to cross streams and switch to a rock uphill slope. If a late winter rain. Some roads are flooded, making the car may have been stuck in the mud. Therefore, travelers should be prepared for emergency equipment such as spades for a smooth trip. In addition, throughout the duration of a semi off-road, no phone signal. It is impossible to contact for help. During this trip, it takes about 1-2 hours. Visitors should be prepared with food and drinks. Because the unit Tour cliff erosion, but the above is not available. But there will be tents and sleeping bags are provided only on arrival of tourists have already cliff erosion. Campsite are three points to accommodate hundreds of people. The bathroom is clean Electricity from solar light until about midnight. Then the fire is extinguished and darkness. Travelers should prepare for the lighting comes on the way before reaching the cliff erosion, but only one kilometer watch stunning sunsets that post balcony couple, who split into approximately 1.5 kilometers is regarded as a sunset. the most beautiful in the provinces that has it all. You can see mountains that lined the property complex of Na Tham vast and quiet. A cold wind blowing in the intermittently. What a romantic atmosphere, coupled with watching the last light of the day. If a traveler sitting next to a few minutes after sunset. See the stars shining spark one of them is mesmerizing. Milky Way Galaxy Which is clearly visible because of the darkness without a light pole balconies interference. It is best to sleep counting the stars before returning to the camping ground , including the victim's place. Cliff erosion, but the atmosphere on the night but the cliff erosion. Sometimes the wind is quite strong, with the cold weather the night sky is clear weather to see the stars at night Campsite, too. In the morning, before sunrise, at about 05:00 clock should wake up before tourists about one hour to do private practice and travel approximately 1 km to the cliff to watch the sun waiting for the first day. If the air is humid, as the winter rain. (October-December) will have to watch the mist mountains interspersed with intricate side Laos. Dong amid wildflowers that blossom bloom throughout the property's wetlands. Close to cliff erosion, but also a sailing ship, a rock cliff with craggy rocks jutting out into the river. For those who like a challenge to stand out and take in views of the country. Conventional ship also places of interest like the rocky caves, waterfalls, palm Red Deer Stones to wait for tourists to adventure together. The ship should reach the cliff ranger on foot to the safety of tourists cliff erosion but the path to cliff erosion, but the path is quite rough. Visitors should come to my house or repair the Temple of Miracles, which is the end of the road before entering the semi-off-road time before three o'clock. Because throughout the last 15 kilometers of this will take time to travel for about 1-2 hours along the rugged luxury tourist destination units. The beauty of it is traveling a cliff erosion. Cold mist.