คำพูดแค่นี้แสดงถึงเอกลักษณ์ภาษาชาววังได้โดยไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาวกว่านี้ นอกจากนี้ ยังเป็นสำนวนเฉพาะตัวของคนไทยจริงๆ จะแปลเป็นภาษาอื่นก็แปลไม่ได้กระชับรัดกุมและได้รสเท่านี้ เพราะจะต้องพ่วงด้วยคำอธิบายตามมาอีกยืดยาว
ความเป็นนายของภาษาเห็นได้อีกหลายอย่าง เช่น คารมในการเขียน พลตรีม.ร.ว.คึกฤทธิ์เป็นผู้มีอารมณ์ขันอันคมคาย ไม่ว่าเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก เรื่องตึงเครียดทางการเมืองอย่างใดก็ตาม ท่านสื่อออกมาด้วยอารมณ์ขัน ด้วยโวหารหยิกแกมหยอก ทีเล่นทีจริง ยั่วเย้าอย่างสุภาพโดยไม่หยาบคายหรือล่วงละเมิดในเชิงดูถูกดูแคลนผู้ที่ท่านเอ่ยถึง บทความของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ที่ลงในหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อคอลัมน์เป็นอะไรก็ตาม จึงมีผู้ติดตามอ่านทุกมุมเมือง ยิ่งถ้าสถานการณ์ทางการเมืองเข้มข้น หรือเกิดปัญหายุ่งยากอย่างใดก็ตาม คนอ่านก็จะติดตามอ่านด้วยใจระทึกว่า เรื่องนี้ ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์มีความเห็นอย่างไร ในทำนองไหน มีนับครั้งไม่ถ้วนที่ท่านเป็นผู้ชี้ขาดปัญหาความขัดแย้งในสังคมที่กำลังร้อนระอุคุกรุ่นอยู่ในช่วงนั้น ผลก็คือ ความร้อนที่ทำท่าว่าจะลุกเป็นไฟขึ้นมา ก็สงบลงเหลือเพียงควันกรุ่นๆ ก่อนจะดับหายไปในเวลาไม่นานนัก