ความนำสิทธิเรียกร้องประเภทต่างๆ ตามกฎหมายจะกำหนดอายุความไว้ไม่เท่ากัน  การแปล - ความนำสิทธิเรียกร้องประเภทต่างๆ ตามกฎหมายจะกำหนดอายุความไว้ไม่เท่ากัน  อังกฤษ วิธีการพูด

ความนำสิทธิเรียกร้องประเภทต่างๆ ตาม

ความนำ

สิทธิเรียกร้องประเภทต่างๆ ตามกฎหมายจะกำหนดอายุความไว้ไม่เท่ากัน เหตุที่แตกต่างกันนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความสำคัญของสิทธิ เรียกร้องและโอกาสในการพิสูจน์สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นประการสำคัญ แต่กฎหมายก็ไม่อาจกำหนดอายุความให้ครอบคลุมสิทธิเรียกร้องได้ทุกประเภท จึงกำหนดอายุความทั่วไปเพื่อรองรับกรณีอื่นๆ อีกส่วนหนึ่ง โดยความหมายของ อายุความ1 คือการที่กฎหมายกำหนดไว้เพื่อให้ คู่กรณีดำเนินการเรียกร้องสิทธิต่อกันภายในกำหนดระยะเวลาตามกำหนดนั้น หากคู่กรณี ไม่ใช้สิทธิเรียกร้องภายในระยะเวลาอันกฎหมายกำหนดไว้ ย่อมเป็นผลให้คู่กรณีสูญสิ้นเรียกร้องต่อกันหรือที่เรียกว่าคดีขาดอายุความ บทความเรื่องนี้ เป็นการอธิบายความเกี่ยวกับการกำหนดอายุความค่าภาษีอากรของรัฐตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/31 กล่าวคือการที่รัฐจะเรียกเอาค่าภาษีอากรได้นั้น กฎหมายได้กำหนดให้มีอายุความถึง 10 ปี เพราะภาษีอากรมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ ประกอบกับประชาชนที่ต้องเสียภาษีอากรมีเป็นจำนวนมาก หากกำหนดอายุความ ไว้สั้น รัฐก็จะเสียประโยชน์ได้ จึงมีความจำเป็น ที่จะต้องให้หลักประกันต่อความแน่นอนของสิทธิเรียกร้องในแต่ละกรณี โดยกรอบการนำเสนอ ขออธิบายในสาระสำคัญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเรียกร้องค่าภาษีอากร พร้อมประเด็นปัญหาและแนววินิจฉัยที่น่าสนใจซึ่งมีความ เกี่ยวพันกับหลักเกณฑ์ทางแพ่งและภาษีอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ภาษีศุลกากร ภาษีสรรพสามิต และภาษีโรงเรือน เป็นต้น

1.สาระสำคัญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีอากรแล้ว บุคคลนั้นไม่ชำระค่าภาษีอากรตามระยะเวลาที่เจ้าพนักงานกำหนดให้ชำระหรือภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ และไม่มีการอุทธรณ์การประเมิน (ถ้ามี) ถือว่าบุคคลนั้นเป็นหนี้ค่าภาษีอากรรัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรุงเทพมหานคร เทศบาล ฯลฯ ย่อมมีอำนาจยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้บังคับ บุคคลนั้นให้ชำระค่าภาษีอากรได้ จึงเป็นเรื่องที่รัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีอากรเป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้เสียภาษีซึ่งอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเป็นจำเลยให้ชำระค่าภาษีอากรที่ค้างชำระพร้อมทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ในส่วนของกรมสรรพากรซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ให้อำนาจอธิบดีกรมสรรพากร สรรพากรภาค สั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีได้ทันที โดยไม่ต้องขอให้ศาลออกหมายยึดหรือสั่งอายัด และให้มีอำนาจขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวได้ เป็นการใช้อำนาจทางบริหารบังคับคดีภาษีอากรโดยตรง แม้ผู้เสียภาษีอากรจะอุทธรณ์การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินก็ตาม เพราะประมวลรัษฎากรมาตรา 31 บัญญัติว่า การอุทธรณ์ไม่เป็นการทุเลาการเสียภาษี เว้นแต่จะรับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร ให้รอคำวินิจฉัยอุทธรณ์หรือคำพิพากษา

สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีอากรอื่นๆ ถ้ามีบทบัญญัติให้อำนาจหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการยึดหรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ ค้างชำระได้ หน่วยงานนั้นๆ ก็ดำเนินการบังคับคดีเพื่อการชำระค่าภาษีอากรได้เองโดยไม่ต้องบังคับสิทธิเรียกร้องทางศาล

แต่ถ้ามิได้มีบทบัญญัติเช่นว่านี้ ก็จำเป็นต้องบังคับสิทธิเรียกร้องค่าภาษีอากรทางศาล จะดำเนินการบังคับคดีเองโดยที่กฎหมายมิได้ ให้อำนาจไว้มิได้2

ในเรื่องสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่า ภาษีอากร มีกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/31 ซึ่งบัญญัติว่า "สิทธิเรียกร้องของรัฐที่จะเรียกเอาค่าภาษีอากรให้มีกำหนดอายุความสิบปี ส่วนสิทธิเรียกร้องของรัฐที่จะเรียกเอาหนี้อย่างอื่นให้บังคับตามบทบัญญัติในลักษณะนี้"

(ติดตามเนื้อหาเต็มได้ในวารสารสรรพากรสาส์นประจำเดือนกรกฎาคม 2557)
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Introductionสิทธิเรียกร้องประเภทต่างๆ ตามกฎหมายจะกำหนดอายุความไว้ไม่เท่ากัน เหตุที่แตกต่างกันนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความสำคัญของสิทธิ เรียกร้องและโอกาสในการพิสูจน์สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นประการสำคัญ แต่กฎหมายก็ไม่อาจกำหนดอายุความให้ครอบคลุมสิทธิเรียกร้องได้ทุกประเภท จึงกำหนดอายุความทั่วไปเพื่อรองรับกรณีอื่นๆ อีกส่วนหนึ่ง โดยความหมายของ อายุความ1 คือการที่กฎหมายกำหนดไว้เพื่อให้ คู่กรณีดำเนินการเรียกร้องสิทธิต่อกันภายในกำหนดระยะเวลาตามกำหนดนั้น หากคู่กรณี ไม่ใช้สิทธิเรียกร้องภายในระยะเวลาอันกฎหมายกำหนดไว้ ย่อมเป็นผลให้คู่กรณีสูญสิ้นเรียกร้องต่อกันหรือที่เรียกว่าคดีขาดอายุความ บทความเรื่องนี้ เป็นการอธิบายความเกี่ยวกับการกำหนดอายุความค่าภาษีอากรของรัฐตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/31 กล่าวคือการที่รัฐจะเรียกเอาค่าภาษีอากรได้นั้น กฎหมายได้กำหนดให้มีอายุความถึง 10 ปี เพราะภาษีอากรมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ ประกอบกับประชาชนที่ต้องเสียภาษีอากรมีเป็นจำนวนมาก หากกำหนดอายุความ ไว้สั้น รัฐก็จะเสียประโยชน์ได้ จึงมีความจำเป็น ที่จะต้องให้หลักประกันต่อความแน่นอนของสิทธิเรียกร้องในแต่ละกรณี โดยกรอบการนำเสนอ ขออธิบายในสาระสำคัญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเรียกร้องค่าภาษีอากร พร้อมประเด็นปัญหาและแนววินิจฉัยที่น่าสนใจซึ่งมีความ เกี่ยวพันกับหลักเกณฑ์ทางแพ่งและภาษีอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ภาษีศุลกากร ภาษีสรรพสามิต และภาษีโรงเรือน เป็นต้น1. the essence and the relevant laws.เมื่อเจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีอากรแล้ว บุคคลนั้นไม่ชำระค่าภาษีอากรตามระยะเวลาที่เจ้าพนักงานกำหนดให้ชำระหรือภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ และไม่มีการอุทธรณ์การประเมิน (ถ้ามี) ถือว่าบุคคลนั้นเป็นหนี้ค่าภาษีอากรรัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรุงเทพมหานคร เทศบาล ฯลฯ ย่อมมีอำนาจยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้บังคับ บุคคลนั้นให้ชำระค่าภาษีอากรได้ จึงเป็นเรื่องที่รัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีอากรเป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้เสียภาษีซึ่งอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเป็นจำเลยให้ชำระค่าภาษีอากรที่ค้างชำระพร้อมทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ในส่วนของกรมสรรพากรซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ให้อำนาจอธิบดีกรมสรรพากร สรรพากรภาค สั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีได้ทันที โดยไม่ต้องขอให้ศาลออกหมายยึดหรือสั่งอายัด และให้มีอำนาจขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวได้ เป็นการใช้อำนาจทางบริหารบังคับคดีภาษีอากรโดยตรง แม้ผู้เสียภาษีอากรจะอุทธรณ์การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินก็ตาม เพราะประมวลรัษฎากรมาตรา 31 บัญญัติว่า การอุทธรณ์ไม่เป็นการทุเลาการเสียภาษี เว้นแต่จะรับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร ให้รอคำวินิจฉัยอุทธรณ์หรือคำพิพากษาFor the law about storing other tax provisions, the relevant authorities the power to take action or stop sale and auction of property of persons who have outstanding tax. That agency is forced to pay the tax law itself without the need for enforcement of claims through the courts.But if it does not have such provisions, it is necessary to enforce tax claims up through the courts will continue to enforce criminal law does not provide that the 2.The State's claims in the taxation value of debt is defined in the civil and commercial code section 193/31 which says "claims of the State to claim tax value, with a ten-year. Best claims of States to claim otherwise, debts, according to the provisions in force in this manner. "(Full-body tracking in an impressive Palace organization magazine message 2557 (2014) nopracham July)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Introduction to

.Claims of various types. The law defined the prescription for unequal. The reason may be different depending on the importance of rights. Claim and an opportunity to prove claim that is notable.The statute of limitations common to accommodate other cases, another part by means of a statute of limitations. 1 is legal to make. The parties perform each other within the time limit according to claim that if either party.Surely as a result the party lost claim against each other or called cases more. This article To explain about the setting of state tax statute under the civil and commercial 193 / 31.The law provided with the 10 years. Because taxation is very important in the development of the country. Along with people to lose taxation is a lot if the statute of limitations for short. รัฐก็ will lose interest. Therefore, it is necessary.By frame presentation. Explain in the essence and laws related to tax claims. With the issues and the diagnostic interest which is. Associated with the rules of civil and other taxes, for example.Excise tax and property tax, etc.!
1. The essence and laws

.When an evaluation evaluate the taxpayers taxation systems. The person that do not pay taxes according to the amount of time given to pay officer or within the time law. And no appeal assessment (if any).Relevant departments such as finance, finance, customs, Bangkok municipal, etc. has the power filed with the court to request the force. That person to pay taxes.In the part of the Revenue Department, which is responsible for the tax, VAT, business tax and stamp duty revenue code section 12 authorizes the Department of revenue. Finance sector.Without asking the court to issue a warrant to seize or ordered frozen. And to have power to sell such property. As the use of power by the executive force of Taxation case directly. Even if the taxpayer will appeal the appropriate.31 prescribe that an appeal not abate taxes. Unless it is approved by the Department of revenue. To wait for the ruling or judgment appeal
.
.For the law of tax collection and other If the authorized agencies. Operations involving seized or frozen. Property tax and property of ER. We have such agencies.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: