อาข่า เป็นแขนงหนึ่งของชนเผ่าธิเบต-พ

อาข่า เป็นแขนงหนึ่งของชนเผ่าธิเบต-พม่า รูปร่างเล็กแต่ล่ำสันแข็งแรง ผิวสีน้ำตาลอ่อนและกร้าน ผู้หญิงมีศีรษะกลม ลำตัวยาวกว่าน่อง และขา แขน และขาสั้นผิดกับผู้ชาย มีภาษาพูดมาจากแขนงชาวโล-โล คล้ายกับภู ภาษาลาหู่ (มูเซอ) และลีซู (ลีซอ) ไม่มีตัวอักษรใช้ วัฒนธรรมของคนอาข่าทำให้พวกเขามองชีวิตของคนในเผ่าเป็นการต่อเนื่องกัน เด็กเกิดมาเป็นประกันว่าเผ่าจะไม่สูญพันธุ์ พอโตขึ้นกลายเป็นผู้สร้างเผ่า และเป็นผู้รักษา “วีถีชีวิตอาข่า” ในที่สุดก็ตาย และกลายเป็นวิญญาณบรรพบุรุษคอยปกป้องลูกหลานต่อไป กฎต่าง ๆ เหล่านี้ครอบคลุมทุกคนในเผ่า ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน ตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นแนวทางสอน และแนะนำทุกคนในเรื่องของกฎหมายของเผ่า ประเพณี ศาสนา ยา และการรักษาโรค กสิกรรม สถาปัตยกรรม การตีเหล็ก และการทำของเครื่องใช้เครื่องนุ่งห่ม เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำเพาะ พวกเขาไม่มีตัวหนังสือใช้แม้จะไม่ได้มีการบันทึกประวัติศาสตร์เป็นลาย ลักษณ์อักษร อาข่าก็มีตำนาน สุภาษิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี พิธีการมากมาย ที่ทำให้หมายรู้ในเผ่าพันธุ์ และซาบซึ้งในความเป็นอาข่าของตน เขาสามารถสืบสาวรายงานบรรพบุรุษฝ่ายบิดาขึ้นไปได้ถึงตัว “ต้นตระกูล” และรู้สึกว่าท่านเหล่านั้น ก่อกำเนิดชีวิตเขามา และประทานวิชาความร้ ในการเลี้ยงชีวิตมาโดยตลอด เพราะเหตุที่มองตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของโซ่สร้อยซึ่งร้อยมายาวนักหนา
อาข่า จะอดทนผจญความยากเข็ญทั้งหลาย ดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไป เพื่อว่าลูกหลานจะได้รำลึกบูชาเขา เช่น บรรพชนคนหนึ่งในวันข้างหน้า ตามตำนานของอาข่า ธรณี (อึ่มมา) และท้องฟ้า (อึ่มก๊ะ) นั้นเสกสรรค์ขึ้นมา โดยมหาอำนาจ อะโพว่หมิแย้ (บางครั้งแปลออกมาว่า “พระผู้เป็นเจ้า”) จากอึ่มก๊ะ สืบทอดเผ่าพันธุ์กันลงมา อีก 9 ชั่วเทพ คือกาเน เนซ้อ ซ้อสือ สือโถ โถม่า ม่ายอ ยอเน้ เน้เบ่ และเบ่ซุง พยางค์หลังชื่อบิดาจะกลายเป็นพยางค์หน้าของชื่อบุตร ดังนี้เรื่อยลงมาตามแบบแผนการตั้งชื่อของอาข่า ซึ่งยังทำกันอยู่จนทุกวันนี้ ตำนานนี้ ระบุว่า มนุษย์คนแรกเป็นบุตรของเบ่ซุง ชื่อ ซุ้มมิโอ ซึ่งเป็นบิดาของมนุษยชาติ สืบสายกันลงมาอีก 13 ชั่วโคตร จึงถึงโซตาป่า ซึ่งเป็นมหาบิดรของอาข่าทั้งปวง เวลาที่คนอาข่าล่ารายชื่อการสืบสายของตน จะมีชื่อต้นตระกูลของเขารวมอยู่ด้วยเสมอ การร่ายรายชื่อบรรพบุรุษจนครบองค์ ซึ่งมีอยู่กว่า 60 ชื่อนี้ มิได้ทำการพร่ำเพรื่อ จะทำก็ในพิธีใหญ่ เช่น งานศพ หรือในยามเกิดกลียุค ถึงต้องภาวนาขอความช่วยเหลือจากบรรพบุรุษเท่านั้น ตามธรรมดาอาข่าจะไม่ร่ายครบองค์ จะไล่ชั้นไปเท่าที่จำเป็น เช่น เมื่ออาข่าแซ่เดียวกันสององค์ อยากจะรู้ว่า เป็นญาติใกล้ชิดหรือห่างแค่ไหน และที่สำคัญเมื่อหนุ่มสาวจะแต่งงานหรืออยู่กินกันนั้น พ่อแม่ทั้งสองฝ่าย จะต้องไล่ชื่อบรรพบุรุษขึ้นไปให้แน่ใจว่า มิได้ร่วมบรรพบุรุษอย่างน้อย 7 ชั่วโคตรนอกจากจะทราบชัดเรื่องการสืบสายโลหิตของตน อาข่ายังทราบชัดว่าบรรพบุรุษ อพยพสืบทอดกันมา ตามเส้นทางจีน พม่า และไทย แม้ว่าภาพจะยิ่ง ลางเลือน ไร้รายละเอียด เมื่อไล่ขึ้นไป ไกลขึ้นๆ เราก็ได้คำให้การที่ตรงกันจากอาข่าที่พบในพม่า ไทย และลาว ซึ่งนับว่าเป็น ชนชาติที่มีประวัติศาสตร์ แจ่มชัดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทั้งๆ ที่ไร้อักขระวิธี และกระจัดกระจาย ผลัดพรากกันไปไกลแสนไกล
การโยกย้ายและตั้งถิ่นฐาน
อาข่า เป็นสำเนียงเสียงพูดที่เรียกตนเองที่ถูกที่สุด โดยใช้สำเนียงเสียงนี้จากเขต 12 ปันนาในมณฑลยูนานของประเทศจีน ลงมาในประเทศพม่า ลาว และประเทศไทย แต่มีคำนิยมเรียกชื่ออาข่า เป็น “อาข่า” ในประเทศไทย ซึ่งก็ไม่ผิดจากการศึกษาพบว่าชนเผ่าอาข่าเป็นกลุ่มชน ที่อาศัยอยู่ในเขตทวีปเอเชีย โดยอาศัยอยู่ใกล้เขตธิเบต และเขตตอนใต้ของประเทศจีน อาข่าส่วนหนึ่งต้องอพยพเข้าเข้าสู่ประเทศพม่า เพื่อแสวงหาที่ทำกิน และเมื่อประเทศจีนได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะการปฏิวัติวัฒนธรรม ทำให้อาข่าส่วนใหญ่ได้อพยพออกจากประเทศจีนเข้าสู่ ประเทศพม่าทางแคว้นเชียงตุง ประเทศลาว แขวงหลวงน้ำทา และทิศเหนือของประเทศเวียดนามเพิ่มมากขึ้น เพื่อหนีภัยจากปัญหาต่างๆ อาทิเช่น ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ปัญหาการขาดแคลนที่ทำกิน และปัญหาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เพื่อแสวงหาความสงบ
การอพยพโยกย้ายของชาวอาข่าเข้าสู่ประเทศไทย
การอพยพของชาวอาข่าเข้าสู่ประเทศไทย อาข่าที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยซึ่งมีบรรพบุรุษพื้นเพเดิม อาศัยอยู่ ทางตอนใต้ของประเทศจีน และเมื่อประมาณ 110 กว่าปี อาข่าได้อพยพโยกย้ายเข้าสู่ประเทศไทย โดยมี เส้นทาง 2 เส้นทางคือ เส้นทางแรก อพยพจากประเทศพม่าแคว้นเชียงตุง เข้าสู่ประเทศไทยเนื่องจากเกิดปัญหาทางการเมือง ด้านฝั่งเขตอำเภอแม่จัน ทางหมู่บ้านพญาไพร (ปัจจุบันเป็นอำเภอแม่ฟ้าหลวง) โดยการนำของแสนอุ่นเรือน ชื่อภาษาอ่าข่าว่า "หู่ลอง จูเปาะ"และ เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตบนดอยตุงจนกระทั่ง เสียชีวิต ส่วนแสนพรหม ชื่อภาษาอ่าข่าว่า "หู่ปอ เจ่วปอ" ซึ่งเป็นน้องของแสนอุ่นเรือน ได้อพยพมาตั้งหมู่บ้าน อาข่าทางฝั่งอำเภอแม่สาย เขตบริเวณบ้านผาหม ีและหมู่บ้านอาข่าเขตอำเภอเชียงแสน หรือบ้านดอยสะโง้ ส่วนแสนใจ มีภาษาอาข่าเรียกว่า "ถู่แช เจ่วปอ" เป็นหลานของแสนอุ่นเรือน อีกคนหนึ่งได้มาตั้งหมู่บ้านแสนใจ ในเขตอำเภอแแม่จัน (ปัจจุบันเป็นอำเภอแม่ฟ้าหลวง)เส้นทางที่สอง อาข่า ได้อพยพโดยตรงจากประเทศจีนโดยเดินทางผ่านบริเวณตะเข็บชายแดนพม่า และแม่น้ำโขงประเทศลาว และเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงที่อำเภอแม่สาย ปัจจุบันชุมชนอาข่าได้กระจัดกระจาย ตั้งชุมชนอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย คือ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ตาก น่าน และ เพชรบูรณ์ สายตระกูลอาข่าที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย (ตามที่กล่าวมา) มีทั้งหมด 5 พี่น้อง
หมายเหตุ
คนที่ 1 ชื่อว่า "หู่ลอง” ชื่อภาษาไทยว่า "แสนอุ่นเรือน" มีบุตรชาย 3 คน ชื่อ ลองก่า / ลองเท / ลองโจ๊ะ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอำเภอแม่สรวย
คนที่ 2 ชื่อว่า "หู้ซ้อง" ชื่อภาษาไทยว่า "แสนพหรมม" มีบุตรชาย 3 คน ชื่อ ซ้องโซ๊ะ / ซ้องยอ / ซ้องก๊ะ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอำเภอแม่สรวย
คนที่ 3 ชื่อว่า "หู

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Akha tribe's a Tibetan-Burmese Small but strong lamsan shape skin soft, soft and Brown. Women with round head, torso, legs, arms, and legs and calf longer than short men wrong. There is a spoken language derived from the beginning of the off-Islanders Lo are similar to Phu la hu language (many) and lisu (LISU), there are no letters. The culture of the Akha people, making them look as a tribe of people in life. Children born to a tribe that is not extinct. Grow up enough to become the creators of the tribe and is the keeper of "Viva life Akha thi" finally dies and becomes a spirit ancestors continue to protect children. These rules cover everyone in the tribe since bedtime until wake up from birth to death, is teaching guidelines and suggest everyone on the subject of the laws of the tribe. The tradition, religion, drugs and treatment of agricultural and steel architectural interpretation of apparel for easy specification, they do not have the books used are not even saved as history. Akha reserves it has the legendary tradition of proverbs. Many heraldic traditions make the knowledge in religion and appreciation in their offerings. His paternal ancestry can be traced the girl reported the parties up to the "progenitor" and feel that those people come and eat him alive birth Supercomputing capabilities in life before you. Because that view themselves as part of a long chain necklace which hundred pasties.Akha people had to endure misery all to uphold the clan to worship that he will heed the descendants ancestors such as the one in the days ahead, according to the legend of the Akha (uem) Earth and sky (uemka) it will up many creative power, amino ว่ห tryptophan, Michail Yae (sometimes translated as "God") from the uemka clan inherited the evil deity is substituting. 9 Ka nay nay isn't usually Shih. Shih reaffirmed jar jar Madam ne yo-15E Samsung account and account syllable ne after the name of his father to become the first syllable of the name of the son. Stretching down as follows the naming convention of the Akha, which still exist today. This legend. Specifies that the first man was the son of the Samsung account name, which is the father of the Mio booth humanity. 13. evil substituting cable tracing descent through the forest, which is the eye, thus SEO of all Maha bidon Akha. Akha people last time tracing their line list will be the name of his ancestor always includes. The cast list of ancestor elements, which exist until more than 60 this name did not make it to mention in such a big ceremony or funeral caused havoc. Need prayer for assistance only to ancestors. Akha is not simple elements to pursue anniversary cast as necessary, such as when the same two Akha clan would like to know is how much distance or close relatives, and when young to get married, or are eaten. Parents in both parties. Will have to chase up the ancestors to the name to make sure that did not join the ancestors at least 7 evil apart from the descent will know obviously the story traces their descent? Also note that immigrant ancestors, Akha heritage. Thailand, Myanmar and China along the path, even if the image will fade in the middle of the chase up to the wireless details when. Far more, we have the matching from Thailand and Myanmar offerings found in Laos, which is a nation that has a history. Amazingly clear In spite of how character and turns taken wireless scattered far.The migration and resettlementอาข่า เป็นสำเนียงเสียงพูดที่เรียกตนเองที่ถูกที่สุด โดยใช้สำเนียงเสียงนี้จากเขต 12 ปันนาในมณฑลยูนานของประเทศจีน ลงมาในประเทศพม่า ลาว และประเทศไทย แต่มีคำนิยมเรียกชื่ออาข่า เป็น “อาข่า” ในประเทศไทย ซึ่งก็ไม่ผิดจากการศึกษาพบว่าชนเผ่าอาข่าเป็นกลุ่มชน ที่อาศัยอยู่ในเขตทวีปเอเชีย โดยอาศัยอยู่ใกล้เขตธิเบต และเขตตอนใต้ของประเทศจีน อาข่าส่วนหนึ่งต้องอพยพเข้าเข้าสู่ประเทศพม่า เพื่อแสวงหาที่ทำกิน และเมื่อประเทศจีนได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะการปฏิวัติวัฒนธรรม ทำให้อาข่าส่วนใหญ่ได้อพยพออกจากประเทศจีนเข้าสู่ ประเทศพม่าทางแคว้นเชียงตุง ประเทศลาว แขวงหลวงน้ำทา และทิศเหนือของประเทศเวียดนามเพิ่มมากขึ้น เพื่อหนีภัยจากปัญหาต่างๆ อาทิเช่น ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ปัญหาการขาดแคลนที่ทำกิน และปัญหาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เพื่อแสวงหาความสงบThe migration of immigrants entering the country from Thailand Akha.การอพยพของชาวอาข่าเข้าสู่ประเทศไทย อาข่าที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยซึ่งมีบรรพบุรุษพื้นเพเดิม อาศัยอยู่ ทางตอนใต้ของประเทศจีน และเมื่อประมาณ 110 กว่าปี อาข่าได้อพยพโยกย้ายเข้าสู่ประเทศไทย โดยมี เส้นทาง 2 เส้นทางคือ เส้นทางแรก อพยพจากประเทศพม่าแคว้นเชียงตุง เข้าสู่ประเทศไทยเนื่องจากเกิดปัญหาทางการเมือง ด้านฝั่งเขตอำเภอแม่จัน ทางหมู่บ้านพญาไพร (ปัจจุบันเป็นอำเภอแม่ฟ้าหลวง) โดยการนำของแสนอุ่นเรือน ชื่อภาษาอ่าข่าว่า "หู่ลอง จูเปาะ"และ เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตบนดอยตุงจนกระทั่ง เสียชีวิต ส่วนแสนพรหม ชื่อภาษาอ่าข่าว่า "หู่ปอ เจ่วปอ" ซึ่งเป็นน้องของแสนอุ่นเรือน ได้อพยพมาตั้งหมู่บ้าน อาข่าทางฝั่งอำเภอแม่สาย เขตบริเวณบ้านผาหม ีและหมู่บ้านอาข่าเขตอำเภอเชียงแสน หรือบ้านดอยสะโง้ ส่วนแสนใจ มีภาษาอาข่าเรียกว่า "ถู่แช เจ่วปอ" เป็นหลานของแสนอุ่นเรือน อีกคนหนึ่งได้มาตั้งหมู่บ้านแสนใจ ในเขตอำเภอแแม่จัน (ปัจจุบันเป็นอำเภอแม่ฟ้าหลวง)เส้นทางที่สอง อาข่า ได้อพยพโดยตรงจากประเทศจีนโดยเดินทางผ่านบริเวณตะเข็บชายแดนพม่า และแม่น้ำโขงประเทศลาว และเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงที่อำเภอแม่สาย ปัจจุบันชุมชนอาข่าได้กระจัดกระจาย ตั้งชุมชนอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย คือ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ตาก น่าน และ เพชรบูรณ์ สายตระกูลอาข่าที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย (ตามที่กล่าวมา) มีทั้งหมด 5 พี่น้องหมายเหตุคนที่ 1 ชื่อว่า "หู่ลอง” ชื่อภาษาไทยว่า "แสนอุ่นเรือน" มีบุตรชาย 3 คน ชื่อ ลองก่า / ลองเท / ลองโจ๊ะ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอำเภอแม่สรวยคนที่ 2 ชื่อว่า "หู้ซ้อง" ชื่อภาษาไทยว่า "แสนพหรมม" มีบุตรชาย 3 คน ชื่อ ซ้องโซ๊ะ / ซ้องยอ / ซ้องก๊ะ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอำเภอแม่สรวยคนที่ 3 ชื่อว่า "หู

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Akha tribe, a sect of Tibetan - Myanmar. Petite but muscular strength Light brown skin and dry. Women with round head Over the calves and legs, long torso, arms and legs against the men. A language spoken by the Slovak branch - Slovak language is similar to mountain Lahu (Muser) and Sue Lee (Lee) does not use letters. Akha culture of giving them a life of tribal people in the contiguous. Children born to insure that the tribe is not extinct. I grew up in a creator tribe. And a keeper "Akha royalty Life" was finally dead. And became the ancestor spirits to protect children, these rules cover everyone in the tribe. Since wake up until bedtime From birth to death Teaching guide And encourage everyone in the law of tribal traditions, religion, medicine and the treatment of agriculture, architecture, blacksmith and making use of the garment. To make it easier to remember the nursery. They do not even have to use a literal historical record is written Akha has many ceremonial traditions, legends, proverbs. The perception of the species And their appreciation of the Akha. His paternal ancestors can be traced to a report on the possibility of a "family tree" and felt them. He originated life And the grant of heat Living in the past. Because of that see themselves as part of a long chain necklace, which was trashed
Akha. Fighting misery endure. Held next races So that posterity will remember him as ancestor worship in the days ahead. According to legend, the Akha Earth (VCRs) and sky (yeah i) the invention by a superpower than Ming's bad (sometimes translated out. "Hallelujah") from Umm I inherited races down the other nine evil deity is to Nene Zaw Zaw communication medium bowl, jar Mama widow of John ne Nebraska and Bae Sung syllable after the father becomes a syllable of. Children's Name Follows down to the naming of the Akha. Which still do to this day this myth states that the first man was the son of Bae Sung named Mio Booth, the father of mankind. Another 13 generations descended down the descent, so the Minnesota Wild. This was the great pantheon of Akha people. The Akha people descended on their hunt list. His ancestor's name is always included. The cast list until his ancestors. Which are more than 60 names are not made ​​again and again. To do it in a big ceremony such as funerals or in times of upheaval. The need to pray for help from fathers only. Normally, I will not cast his plenipotentiary. Class is dismissed to the extent necessary, such as when the two Akha clan who wanted to know how far or close relatives. And that when young to be married or living together then. Both parents Will be pursued to ensure that fathers name. Nor shared ancestry least seven generations descent will clear the inheritor of her. Akha yet clear whether fathers. Exodus inherited According to the China, Burma and Thailand, although the picture is even glimmers without details. When we were chased up far more words to match the Akha are found in Myanmar, Thailand and Laos, which is. People with a history Astonishingly clear mind devoid of character in spite of the way. And disrupted Alternatively, divide as far
as migration and settlement
Akha. Is accented voice calling themselves the cheapest. By using this accented voice from inside the 12 Panna in Yunnan province of China. Down in Myanmar, Laos and Thailand, but a testimonial called Akha as "Akha" in which it did not, the study found that the Akha ethnic group. Residents in Asia. By living near the Tibetan region And the southern region of China. Akha part to immigrants entering the country. To seek to make a living And when China has the political transition. The Cultural Revolution It Akha mostly immigrants from China into. The region Kengtung, Myanmar, Laos, Luang Namtha. And north of the country is increasing. To escape from problems such as political unrest. Culture change Shortage of arable And various ailments. Seeking to calm
the migration of the Akha to Thailand
to evacuate the Akha into Thailand. Akha living in Thailand whose ancestors originally lived in the south of China. And about 110 more than last year's when I emigrate to Thailand by the second path is the first immigrants from Myanmar Kengtung region. To Thailand due to political problems. Side district of Mae Chan The village of Paya Price (Now a district of Mae Fah Luang) by the warm house. Akha language that "cystic sounding tune" and came to live in the Doi Tung until her death at the prom Akha language that "ear Paul J Class," which was the younger of the warm house. The village has migrated Akha way the Mae Sai District Cliff House area Notes Transmission and Akha villages in Chiang Saen district. Or kickbacks of a hill that has Akha language called "scrub ° J Class" is a nephew of the warm house. Another was the village's heart. In the district currently no CHAN (Now a district of Mae Fah Luang) The second Akha migrated from China by traveling through Burma border area. And the Mekong River in Laos And directly into Thailand at Mae Sai. Current Akha community has disrupted The community is located in the northern province of Chiang Rai, Lampang, Thailand's Nan, Phrae, Tak and Phetchabun line Akha tribe who migrated into Thailand. (As mentioned earlier) with all five siblings
notes
that one called "sounding" names that Thailand. "Warm house" with his son three people named Blanca / Long / Long Joh, who lives in the district of Suai
to two called "ear ghetto" names Thailand as "a point the minister's" son three people. Song name Miso / Sungyeol / bag which I lived in Suai district,
three people called "ear.