อิสลามยังกำหนดและให้ความสำคัญกับควา

อิสลามยังกำหนดและให้ความสำคัญกับความสะอาดของเสื้อผ้าอาภรณ์และที่อยู่อาศัย ตลอดจนสภาพสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วนไว้ด้วย ดังที่อัลลอฮฺ ตรัสไว้ ความว่า เสื้อผ้าของเจ้า จงทำให้สะอาด และท่านบีมุฮัมหมัด ได้กล่าวไว้ว่า แท้จริง อัลลอฮฺนั้นดี ทรงชอบความดี ทรงสะอาด และชอบความสะอาด ทรงมีเกียรติ และทรงชอบการมีเกียรติ ทรงโอบอ้อม และทรงชอบการโอบอ้อมอารี ดังนั้น พวกท่านจงทำความสะอาดบริเวณบ้านและสนามของพวกท่าน พวกท่านจงอย่าทำเหมือนชาวยะฮูดี ซึ่งพวกเขาจะเก็บขยะไว้ในบ้านของพวกเขา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ย่อมบ่งชี้ถึงมุมมองของอิสลามต่อความสำคัญของความสะอาดในฐานะที่เป็นรากฐานขั้นต้นของสุขภาพมนุษย์ ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้ตำหนิอย่างรุนแรงต่อพฤติกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่ทำลายสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น ความมักง่าย การถ่ายทุกข์หรือทิ้งของเสียต่างๆ ลงในแหล่งน้ำ บนทางสัญจร เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพตามมา เช่น เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคและแพร่กระจายเชื้อโรค ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวถึงพฤติกรรมเหล่านี้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ถูกสาปแช่ง ท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ รายงานว่า ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวว่า พวกท่านพึงระวัง 2 สาเหตุที่ทำให้ถูกสาปแช่งเถิด บรรดาซอฮาบะฮฺ พากันถามว่า โอ้ ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ 2 สาเหตุนั้นมีอะไรบ้างครับ ท่านนบีมุฮัมหมัด ตอบว่า คือ การถ่ายทุกข์ตามเส้นทาง ทางสัญจรของผู้คน และตามบริเวณที่ผู้คนใช้อาศัยร่มเงา คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่าน จงอย่าปัสสาวะลงในแอ่งน้ำนิ่ง (ไม่ไหลเวียน) ภายหลังเขาต้องใช้น้ำนั้นอาบน้ำ
ท่านนบีมุฮัมหมัด ยังได้ตำหนิความเกียจคร้าน ความเฉื่อยชา และความอ่อนแอ ท่านถือว่าลักษณะของมุสลิมที่เคร่งครัด ต้องมีความสดชื่นแจ่มใส มีความกระตือรือร้น ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวไว้ว่า ผู้ศรัทธาที่มีความแข็งแรง ย่อมประเสริฐและเป็นที่รักของอัลลอฮฺ มากกว่าผู้ศรัทธาที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ท่านนบีมุฮัมหมัด ยังสนับสนุนและส่งเสริมการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย เพราะการมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพที่ดีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ และการปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา หลายอย่าง ก็ต้องอาศัยร่างกายที่มีความแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี ท่านนบีมุฮัมหมัด เคยวิ่งแข่งกับท่านหญิงอาอิซะฮฺภรรยาของท่าน นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นศิลปะสำคัญในการครองเรือนของท่านอีกด้วย เล่าจากท่านหญิงอาอีชะฮ์ ความว่า ฉันได้วิ่งแข่งกับท่านนบีมุฮัมหมัด และเราชนะท่านในการแข่งขันครั้งนั้น ต่อมาเมื่อฉันมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เราได้แข่งกันอีก และท่านเป็นผู้ชนะ ท่านก็ได้กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการลบล้างครั้งนั้น และท่านอุมัร บิน คอฏฏอบ (คอลีฟะฮฺคนที่ 2) กล่าวว่า จงสอนลูกหลานของท่านให้ว่ายน้ำ ยิงธนู และขี่ม้า
การทรมานร่างกายโดยการให้ร่างกายทำงานหนักเกินไป การงดอาหาร และการอดนอน เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม แม้การกระทำเช่นนั้นจะกระทำในรูปของการปฏิบัติศาสนกิจก็ตาม ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด เคยตำหนิสาวกของท่านกลุ่มหนึ่งที่หารือกันว่าจะปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดที่สุด บางคนตั้งปณิธานว่า ยามค่ำคืนจะละหมาดตลอดคืนโดยไม่หลับนอน บางคนก็ว่ากลางวันจะถือศีลอดตลอดไป ส่วนบางคนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาอีกต่อไป เมื่อท่านนบีมุฮัมหมัด ได้ทราบเรื่อง ท่านก็ได้กล่าวตำหนิว่า ฉันรอบรู้เกี่ยวกับ อัลลอฮฺ และฉันกลัวเกรงพระองค์มากกว่าพวกท่านมากนัก แต่ฉันยืนละหมาดและฉันนอนเมื่อควรจะนอน ฉันถือศีลอดและฉันก็ละศีลอด (ไม่ได้ถือตลอด) ฉันร่วมชีวิตกับภรรยาของฉัน ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธแนวทางของฉัน เขาก็ไม่ใช่พวกฉัน สำหรับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์นั้น อิสลามมองเรื่องเพศสัมพันธ์ว่าเป็นธรรมชาติที่พระเจ้าทรงกำหนดเหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เพื่อคงและดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์ แต่การมีเพศสัมพันธ์สำส่อน ปราศจากขอบเขตและกฎกติกาใดๆ นั้น เป็นเรื่องของสัตว์เดรัจฉานที่ขาดสติสัมปชัญญะ มนุษย์ผู้มีสติปัญญามิควรประพฤติเยี่ยงนั้น
อิสลามห้ามการละเมิดทางเพศ และมองว่าการละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ทำลายรากฐานแห่งคุณธรรม จริยธรรม เป็นตัวบ่อนทำลายและกัดเซาะความมั่นคงของสถาบันครอบครัว และสร้างความสับสนแก่สายพันธุ์ของมนุษย์ แต่ในปัจจุบัน มนุษย์นิยมเรื่องเสรีทางเพศ มีเพศสัมพันธ์อย่างสำส่อนไร้กติกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศสัมพันธ์แบบเบี่ยงเบนที่สังคมยอมรับกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ผลกระทบที่ตามมาคือ เกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ฯ ออกมาท้าทายวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ อิสลามห้าม สามี ภรรยามีเพศสัมพันธ์อย่างเด็ดขาดในช่วงที่ภรรยามีประจำเดือน ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ ความว่า “พวกเขาจะถามเจ้า โอ้มุฮัมหมัด เกี่ยวกับประจำเดือน เจ้าจงตอบเถิดว่า มันเป็นความเดือดร้อนอย่างหนึ่ง ดังนั้น พวกเจ้าจงห่างไกลจากบรรดาภรรยาในช่วงที่นางมีประจำเดือน และจงอย่าเข้าใกล้พวกนาง จนกว่าพวกนางจะสะอาด และเป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีในวงการแพทย์ปัจจุบันว่า การมีเพศสัมพันธ์กับสตรีที่มีประจำเดือนจะทำให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อสุขภาพตามมามากมายแก่ทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นคำว่าสุขภาพที่ดีในศาสนาอิสลามนั้นไม่ได้หมายถึงแต่สุขภาพทางกายหรือจิตใจเพียงอย่างเดียวแต่ยังหมายถึงการที่จะต้องดูแลสุขภาพจิตวิญญาณให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งวิธีการจะดูแลสุขภาพจิตวิญญาณและร่างกายจิตใจนั้นจะต้องกระทำตามคำสอนหรือแบบอย่างการปฏิบัติตนตามท่านศาสดานบีมุฮัมหมัด ซึ่งได้ถ่ายทอดวิถีการปฏิบัติตนทั้งหลายไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งได้กล่าวถึงทุกด้านของสุขภาพอย่างครอบคลุม ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับพระผู้เป็นเจ้าหรืออัลลอฮฺนั้นท่านจะเป็นผู้ตัดสินความเป็นอยู่ของเราในวันอะคีเราะฮฺซึงตัดสินผ่านการบฏิบัติตนของเราว่ากระทำตนถูกต้องดีหรือไม่ ได้ปฏิบัติตนให้เป็นที่โปรดปรานของอัลลอฮฺหรือไม่ ซึ่งการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตวิญญาณของตนให้ดีไม่ทำร้ายร่างกายของนั้นเองคือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าโปรดปราน เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพให้ดีนั้นเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่พึงจะกร

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Islam also define and prioritize the clean clothes, garments, and housing, as well as the environment fully intended by Allah, since, has said that the clothing of the Lord. Do, and b Mohammed Mujahid has said that the real. Allah is good shape like the good shape, clean and quiet with honor, and he likes to have shape like shape and ornamentation, indirect gifts, so. Let the cleaning area and their homes. They don't do like Yahoo which nationals, they will be garbage in the House of them. These things surely indicates Islam's view of the importance of cleanliness as the initial foundation of human health. Muhammad the Prophet Mohammed had severely reprimanded the human habits that destroy the health and the environment, such as the ... Dump or dispose of waste into water sources on these behaviors because they cause health effects, as well as the sources of the germs and spreading germs. Muhammad the Prophet Mohammed discussed these behaviors are behaviors that are cursed. Boutique huroi ro had reported that prophet Muhammad Mohammed said they watch out for 2 reasons, cursed plainly. Buzzwords software information in the Bible. "Oh, you asked whether the Messenger of Allah 2 cause it has nothing? Muhammad the Prophet Mohammed said, is to take the suffering along the path pedestrian traffic of people and as an area where people lived in the shade. Any man among you. Don't piss into a still pond (no longer in circulation). Later, he must use a water bath. ท่านนบีมุฮัมหมัด ยังได้ตำหนิความเกียจคร้าน ความเฉื่อยชา และความอ่อนแอ ท่านถือว่าลักษณะของมุสลิมที่เคร่งครัด ต้องมีความสดชื่นแจ่มใส มีความกระตือรือร้น ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวไว้ว่า ผู้ศรัทธาที่มีความแข็งแรง ย่อมประเสริฐและเป็นที่รักของอัลลอฮฺ มากกว่าผู้ศรัทธาที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ท่านนบีมุฮัมหมัด ยังสนับสนุนและส่งเสริมการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย เพราะการมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพที่ดีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ และการปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา หลายอย่าง ก็ต้องอาศัยร่างกายที่มีความแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี ท่านนบีมุฮัมหมัด เคยวิ่งแข่งกับท่านหญิงอาอิซะฮฺภรรยาของท่าน นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นศิลปะสำคัญในการครองเรือนของท่านอีกด้วย เล่าจากท่านหญิงอาอีชะฮ์ ความว่า ฉันได้วิ่งแข่งกับท่านนบีมุฮัมหมัด และเราชนะท่านในการแข่งขันครั้งนั้น ต่อมาเมื่อฉันมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เราได้แข่งกันอีก และท่านเป็นผู้ชนะ ท่านก็ได้กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการลบล้างครั้งนั้น และท่านอุมัร บิน คอฏฏอบ (คอลีฟะฮฺคนที่ 2) กล่าวว่า จงสอนลูกหลานของท่านให้ว่ายน้ำ ยิงธนู และขี่ม้า การทรมานร่างกายโดยการให้ร่างกายทำงานหนักเกินไป การงดอาหาร และการอดนอน เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม แม้การกระทำเช่นนั้นจะกระทำในรูปของการปฏิบัติศาสนกิจก็ตาม ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด เคยตำหนิสาวกของท่านกลุ่มหนึ่งที่หารือกันว่าจะปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดที่สุด บางคนตั้งปณิธานว่า ยามค่ำคืนจะละหมาดตลอดคืนโดยไม่หลับนอน บางคนก็ว่ากลางวันจะถือศีลอดตลอดไป ส่วนบางคนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาอีกต่อไป เมื่อท่านนบีมุฮัมหมัด ได้ทราบเรื่อง ท่านก็ได้กล่าวตำหนิว่า ฉันรอบรู้เกี่ยวกับ อัลลอฮฺ และฉันกลัวเกรงพระองค์มากกว่าพวกท่านมากนัก แต่ฉันยืนละหมาดและฉันนอนเมื่อควรจะนอน ฉันถือศีลอดและฉันก็ละศีลอด (ไม่ได้ถือตลอด) ฉันร่วมชีวิตกับภรรยาของฉัน ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธแนวทางของฉัน เขาก็ไม่ใช่พวกฉัน สำหรับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์นั้น อิสลามมองเรื่องเพศสัมพันธ์ว่าเป็นธรรมชาติที่พระเจ้าทรงกำหนดเหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เพื่อคงและดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์ แต่การมีเพศสัมพันธ์สำส่อน ปราศจากขอบเขตและกฎกติกาใดๆ นั้น เป็นเรื่องของสัตว์เดรัจฉานที่ขาดสติสัมปชัญญะ มนุษย์ผู้มีสติปัญญามิควรประพฤติเยี่ยงนั้น อิสลามห้ามการละเมิดทางเพศ และมองว่าการละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ทำลายรากฐานแห่งคุณธรรม จริยธรรม เป็นตัวบ่อนทำลายและกัดเซาะความมั่นคงของสถาบันครอบครัว และสร้างความสับสนแก่สายพันธุ์ของมนุษย์ แต่ในปัจจุบัน มนุษย์นิยมเรื่องเสรีทางเพศ มีเพศสัมพันธ์อย่างสำส่อนไร้กติกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศสัมพันธ์แบบเบี่ยงเบนที่สังคมยอมรับกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ผลกระทบที่ตามมาคือ เกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ฯ ออกมาท้าทายวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ อิสลามห้าม สามี ภรรยามีเพศสัมพันธ์อย่างเด็ดขาดในช่วงที่ภรรยามีประจำเดือน ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ ความว่า “พวกเขาจะถามเจ้า โอ้มุฮัมหมัด เกี่ยวกับประจำเดือน เจ้าจงตอบเถิดว่า มันเป็นความเดือดร้อนอย่างหนึ่ง ดังนั้น พวกเจ้าจงห่างไกลจากบรรดาภรรยาในช่วงที่นางมีประจำเดือน และจงอย่าเข้าใกล้พวกนาง จนกว่าพวกนางจะสะอาด และเป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีในวงการแพทย์ปัจจุบันว่า การมีเพศสัมพันธ์กับสตรีที่มีประจำเดือนจะทำให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อสุขภาพตามมามากมายแก่ทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นคำว่าสุขภาพที่ดีในศาสนาอิสลามนั้นไม่ได้หมายถึงแต่สุขภาพทางกายหรือจิตใจเพียงอย่างเดียวแต่ยังหมายถึงการที่จะต้องดูแลสุขภาพจิตวิญญาณให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งวิธีการจะดูแลสุขภาพจิตวิญญาณและร่างกายจิตใจนั้นจะต้องกระทำตามคำสอนหรือแบบอย่างการปฏิบัติตนตามท่านศาสดานบีมุฮัมหมัด ซึ่งได้ถ่ายทอดวิถีการปฏิบัติตนทั้งหลายไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งได้กล่าวถึงทุกด้านของสุขภาพอย่างครอบคลุม ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับพระผู้เป็นเจ้าหรืออัลลอฮฺนั้นท่านจะเป็นผู้ตัดสินความเป็นอยู่ของเราในวันอะคีเราะฮฺซึงตัดสินผ่านการบฏิบัติตนของเราว่ากระทำตนถูกต้องดีหรือไม่ ได้ปฏิบัติตนให้เป็นที่โปรดปรานของอัลลอฮฺหรือไม่ ซึ่งการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตวิญญาณของตนให้ดีไม่ทำร้ายร่างกายของนั้นเองคือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าโปรดปราน เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพให้ดีนั้นเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่พึงจะกร