ในประวัติศาสตร์ดนตรีแล้ว ผลงานของบี

ในประวัติศาสตร์ดนตรีแล้ว ผลงานของบีโธเฟนแสดงถึงช่วงรอยต่อระหว่างยุคคลาสสิก (ค.ศ. 1750 - ค.ศ. 1810) กับยุคโรแมนติก (ค.ศ. 1810 - ค.ศ. 1900) ในซิมโฟนีหมายเลข 5 ของเขา บีโธเฟนได้นำเสนอทำนองหลักที่เน้นอารมณ์รุนแรงในท่อนท่อน เช่นเดียวกับในอีกสามท่อนที่เหลือ (เป็นรูปแบบที่พบเห็นได้บ่อยในผลงานประพันธ์ช่วงวัยเยาว์ของเขา) ช่วงต่อระหว่างท่อนที่สามกับท่อนสุดท้าย เป็นทำนองหลักของอัตทากาโดยไม่มีการหยุดพัก และท้ายสุด ซิมโฟนีหมายเลข 9 ได้มีการนำการขับร้องประสานเสียงมาใช้ในบทเพลงซิมโฟนีเป็นครั้งแรก (ในท่อนที่สี่) ผลงานทั้งหลายเหล่านี้นับเป็นนวัตกรรมทางดนตรีอย่างแท้จริง
ผลงานเพลงยุคแรกของบีโธเฟน จะมีรูปแบบคล้ายคลึงกับดนตรีของไฮเดน และโมสาร์ท แต่ก็ยังแฝงความเป็นบีโธเฟนอยู่ด้วย และได้รับการยอมรับจากสาธารณชนอย่างรวดเร็วผลงานช่วงนี้ของบีโธเฟนที่น่าสนใจ ได้แก่ เปียโนทรีโอ 1 เปียโนโซนาตา 2 เปียโนโซนาตา 7 เปียโนโซนาตา 13 (Pathetique) เป็นต้น เขามีแนวความคิดเป็นนักปฏิวัติทั้งในด้านดนตรีและความคิดทางสังคม โดยมีความใฝ่ฝันจะสร้างผลงานดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์พึงสร้างได้ สิ่งที่บีโธเฟนกำลังทำอยู่คือการสอดแทรก ความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ของตนลงในดนตรี ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดวิสัยในยุคนั้น (ที่เรียกว่า Classical period) ดนตรีขั้นสูงคือรูปแบบทางศิลปที่สมบูรณ์ สูงส่ง และอยู่เหนือความเป็นมนุษย์ แต่สิ่งที่บีโธเฟนกำลังทำอยู่นั้นกลับเป็นการพลิกโฉมหน้าของโลกศิลปการดนตรี และทำให้นักวิชาการด้านดนตรี ต้องตั้งชื่อยุคของดนตรีขึ้นใหม่ ที่เรียกว่า ยุคโรแมนติก (Romantic Period)

ผลลัพธ์ (ฝรั่งเศส) 1:

Dans l'histoire de la musique. Œuvres de Beethoven représentent la jonction de gamme de l'ère classique (r. 1750-1810) et romantique (r. 1810-1900) et sa Symphonie no 5 en un. Beethoven mélodie primaire exposé a porté sur la violence émotionnelle en morceaux ainsi que des pièces sur les trois pièces restantes (un format que l'on voit souvent dans les œuvres de jeunes compositeurs, sa gamme). L'intervalle entre la troisième strophe avec le dernier verset. C'est le principal moyen de localiser le Ka Tana, sans interruption, et enfin, la Symphonie no 9 a été porté à chanter en chant choral Symphony, pour la première fois (dans le quatrième verset) Beaucoup de ces œuvres comme l'innovation véritable musicale. ผลงานเพลงยุคแรกของบีโธเฟน จะมีรูปแบบคล้ายคลึงกับดนตรีของไฮเดน และโมสาร์ท แต่ก็ยังแฝงความเป็นบีโธเฟนอยู่ด้วย และได้รับการยอมรับจากสาธารณชนอย่างรวดเร็วผลงานช่วงนี้ของบีโธเฟนที่น่าสนใจ ได้แก่ เปียโนทรีโอ 1 เปียโนโซนาตา 2 เปียโนโซนาตา 7 เปียโนโซนาตา 13 (Pathetique) เป็นต้น เขามีแนวความคิดเป็นนักปฏิวัติทั้งในด้านดนตรีและความคิดทางสังคม โดยมีความใฝ่ฝันจะสร้างผลงานดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์พึงสร้างได้ สิ่งที่บีโธเฟนกำลังทำอยู่คือการสอดแทรก ความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ของตนลงในดนตรี ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดวิสัยในยุคนั้น (ที่เรียกว่า Classical period) ดนตรีขั้นสูงคือรูปแบบทางศิลปที่สมบูรณ์ สูงส่ง และอยู่เหนือความเป็นมนุษย์ แต่สิ่งที่บีโธเฟนกำลังทำอยู่นั้นกลับเป็นการพลิกโฉมหน้าของโลกศิลปการดนตรี และทำให้นักวิชาการด้านดนตรี ต้องตั้งชื่อยุคของดนตรีขึ้นใหม่ ที่เรียกว่า ยุคโรแมนติก (Romantic Period)

ผลลัพธ์ (ฝรั่งเศส) 2:

Ensuite, dans l'histoire de la musique Les œuvres de Beethoven représente la frontière entre la période classique (1750 - 1810) avec l'époque romantique (1810 - 1900) dans la symphonie. n ° 5 de la présentation de Beethoven porté sur la mélodie principale dans le verset forêt frénétique. Comme dans les trois autres pièces sont laissés. (Un thème commun dans la littérature pendant sa jeunesse) sur le troisième verset de la dernière strophe. La mélodie principale de l'auto Ithaca sans interruption et enfin Symphonie n ° 9 a conduit la symphonie chorale a été d'abord utilisé dans les chansons. (Dans la quatrième partie) de ces œuvres d'art est musicales réellement innovantes
œuvres de la musique de Beethoven. Il y aura un format similaire à la musique de Mozart, Epping et porte aussi un Beethoven avec. Et a été reconnu par le public, des performances rapides, cette gamme de Beethoven régional Piano Trio première sonate pour piano, deux sonates pour piano septième sonate pour piano 13 (Pathétique) de sorte qu'ils sont verticaux. L'idée est révolutionnaire dans les deux pensées musicales et sociales. L'ambition de créer de la bonne musique, comme les humains, devrait être créé. Qu'est-ce que Beethoven faisait a été envoyée. Wills et les émotions en musique. Ceci est inhabituel à cette époque (connue comme la période classique) musique de niveau avancé est une forme d'art qui transcendent l'humain et le divin. Mais ce que Beethoven faisait à l'époque a été remodelé le monde des arts musicaux. Et érudits de musique Doit nommer une nouvelle ère de la musique appelée l'ère romantique (période romantique).

ผลลัพธ์ (ฝรั่งเศส) 3:

Dans l'histoire de la musique et de la performance de l'บ jusqu'à la couture entre l'ère classique. 1750 - dans l'1810) Romantique (1810 -.