โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมต

โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมตาล)


บทคัดย่อ

ขนมตาล เป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิม และเริ่มหาซื้อรับประทานยากขึ้น ตามจำนวนของต้นตาลที่นับวันจะลดน้อยลงไป ความเด่นของขนมตาล อยู่ที่ความหอมหวลของน้ำคั้นจากผลตาลสุกงอม ความหวานมันที่ได้จาก มะพร้าวขูดเป็นเส้นโรยอยู่หน้าขนม ว่ากันว่าที่ใดมีต้นตาลที่นั่นต้องมี ขนมตาล เพราะต้นตาลเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ประโยชน์กับคนไทยมากมาย นับแต่ลูกตาลเนื้อนิ่มใสหวานชื่นใจ ที่จะรับประทานสด ๆ หรือนำไปเชื่อม รับประทานกับน้ำแข็งก็อร่อยไม่แพ้กัน จาวตาล หรือส่วนที่อยู่ด้านใน ของเมล็ดตาลที่แก่จัด เฉาะเอามาเชื่อมกับน้ำตาลก็รับประทานได้ แถมน้ำ หวานที่ได้จากงวงตาลก็นำมาทำน้ำตาลโตนด ที่มีความหอมและหวาน แหลมอย่างที่น้ำตาลทรายก็สู้ไม่ได้ คนไทยนิยมเอามาปรุงอาหารไทย

การทำขนมหวานไทยให้ดี ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง คือ ต้องมีใจรัก ชอบทำมีความอดทนตั้งใจมีความพิถีพิถันในการประดิษฐ์ให้ขนมมีรูปร่างที่น่ารับประทาน ขนมหวานไทยบางชนิดต้องฝึกทำหลายๆ ครั้งจึงจะได้ลักษณะที่ดี ประสบการณ์ และความชำนาญในการทำบ่อย ๆ ผู้ประกอบขนมหวานไทย จะประสบความสำเร็จในการทำ


กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเล่มนี้จะสำเร็จไปมิได้หากไม่ได้รับความสนับสนุน และคำปรึกษาจาก อาจารย์พรทิพย์ มหันตมรรค และขอขอบพระคุณ คุณปราณี พรหมทอง และผู้ปกครองที่คอยเป็นกำลังใจ จนโครงงานเล่มนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หากเนื้อหาในโครงงานเล่มนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
บทที่ 1
บทนำ
แนวคิดที่มาและความสำคัญ
สืบเนื่องมาจากมีความชื่นชอบในขนมตาล ซึ่งในปัจจุบันขนมตาลเป็นขนมที่หากินได้ยากและกระบวนการทำส่วนผสมมีความยุ่งยาก ส่วนต้นทุนในการลงทุนสูงแต่ได้กำไรน้อย เพราะส่วนมากในกลุ่มลูกค้าโดยทั่วไปจะเป็นผู้สูงอายุ แต่เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภคขนมตาลเพราะไม่ทราบว่ามันคือขนมอะไร รสชาติเป็นยังไง และรูปลักษณ์การบรรจุภัณฑ์ไม่น่าดึงดูดใจเหมือนขนมขบเคี้ยวทั่วไป จึงทำให้ดิฉันมีความสนใจในการทำโครงงานเรื่องการทำขนมตาลเพื่ออนุรักษ์การทำขนมไทยและเพื่อเป็นประโยชน์ในการประการอาชีพ

วัตถุประสงค์
1.จัดทำขึ้นเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดการทำขนมตาล
2.จัดทำขึ้นเพื่อได้รู้วิธีการทำขนมตาล
3.สามารถนำไปเผื่อแพร่ให้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวิธีการทำ
หลักการและทฤษฎี
เนื่องจากเด็กไทยสมัยนี้มีความนิยมจากชาติตะวันตกมากจนเกินไป จนลืมไปความเป็นไทยว่าไทยเราก็มีของดีเยอะมากมาย เช่น เสื้อผ้าการแต่งกาย สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารไทย (ขนมตาล) ข้าพเจ้าได้มองเห็นความสำคัญของอาหารไทย(ขนมตาล) จึงได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อที่จะสืบทอดของไทย
ขอบเขตของโครงงาน
1.ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต
2.ศึกษาค้นคว้าจาก คุณปราณี พรหมทอง

สถานที่
ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น
2.ได้มีประสบการณ์ในการลงพื้นที่ได้มากขึ้นกว่าเดิม
3.ได้รักษาอรุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ไว้เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลัง
4.ได้ใช้เวลาว่างให้เกินประโยชน์
5.เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจ
6.เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
จากบทสัมภาษณ์
คุณปราณี พรหมทอง
ขนมตาลเป็นขนมที่มีรสชาติหวาน มัน ขั้นตอนในการทำนั้นมีความยากพอสมควร ปัจจุบันขนมตาลจะหานำมารับประทานนั้นก็ยากขึ้น เพราะวัตถุดิบในการทำเริ่มมีปริมาณลดลง และคนที่ทำขายส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ เด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ก็ไม่ค่อยนิยมซื้อไปบริโภค อาจเพราะเหตุว่า เป็นขนมที่ไม่ทันสมัย จึงไม่นิยมบริโภค
วัตถุดิบในการทำ
1. ลูกตาลสุก 2. ข้าวสารเก่า 3. แป้ง 4. น้ำตาลทราย

5. หัวกะทิ 6. มะพร้าวทึกขูดฝอย 7. เกลือป่น
บทที่ 3
วิธีการดำเนินงาน
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้
1. ขั้นศึกษาข้อมูล
1.1 ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยการสำรวจและศึกษาเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล
1.2 ศึกษาวัตถุดิบและส่วนประกอบการทำขนมตาล
2. ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
2.1 ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล
2.2 ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้สังเกต และสัมภาษณ์
3. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษา และวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต

1. ลูกตาลสุก
2. ข้าวสารเก่า
3. แป้ง
4. น้ำตาลทราย
5. หัวกะทิ
6. มะพร้าวทึกขูดฝอย
7. เกลือป่น

บทที่ 4
ผลการศึกษา
ขั้นตอนการผลิต
1. อันดับแรกต้องลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด แล้วขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง

ลูกตาลสุก ล้าง ปอก ขูดเนื้อตาลออก



เนื้อตาลที่ได้ ส่วนเมล็ดตาลนำไปขยำกับน้ำให้เนื้อออกให้



กรองด้วยกระชอน แล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนา แขวนไว้ให้น้ำตกจนหมด ทำก่อนใช้ 1 คืน

2. โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง
3. จากนั้นผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ(ประมาณ 30-60 นาที)ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง



นำเนื้อตาลที่ได้มานวดกับแป้งแล้วเติมกะทิ(ผสมกับน้ำตาลทรายตั้งไฟให้เดือดพักให้เย็น)



นวดเนื้อลูกตาลกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน แล้วค่อยๆเติมกะทิที่เคี่ยวไว้จนหมด


เมื่อเติมกะทิจนหมดได้ลักษณะดังภาพ ปิดฝาพักไว้ 4-5 ชั่วโมงจนขึ้นฟู (เป็นฟองปุดๆๆ)
4. ขั้นตอนรองสุดท้ายให้ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล โรยมะพร้าว แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ



บทที่ 5
สรุปผลการศึกษา
การวิจัยเรื่องการทำขนมตาล ทำให้ได้รู้ถึงรู้หลักวิธีการทำ และวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริม และอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่า ขนมตาล เป็นขนมไทยที่นิยมก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Local wisdom project (making candy sugar) Abstractขนมตาล เป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิม และเริ่มหาซื้อรับประทานยากขึ้น ตามจำนวนของต้นตาลที่นับวันจะลดน้อยลงไป ความเด่นของขนมตาล อยู่ที่ความหอมหวลของน้ำคั้นจากผลตาลสุกงอม ความหวานมันที่ได้จาก มะพร้าวขูดเป็นเส้นโรยอยู่หน้าขนม ว่ากันว่าที่ใดมีต้นตาลที่นั่นต้องมี ขนมตาล เพราะต้นตาลเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ประโยชน์กับคนไทยมากมาย นับแต่ลูกตาลเนื้อนิ่มใสหวานชื่นใจ ที่จะรับประทานสด ๆ หรือนำไปเชื่อม รับประทานกับน้ำแข็งก็อร่อยไม่แพ้กัน จาวตาล หรือส่วนที่อยู่ด้านใน ของเมล็ดตาลที่แก่จัด เฉาะเอามาเชื่อมกับน้ำตาลก็รับประทานได้ แถมน้ำ หวานที่ได้จากงวงตาลก็นำมาทำน้ำตาลโตนด ที่มีความหอมและหวาน แหลมอย่างที่น้ำตาลทรายก็สู้ไม่ได้ คนไทยนิยมเอามาปรุงอาหารไทยการทำขนมหวานไทยให้ดี ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง คือ ต้องมีใจรัก ชอบทำมีความอดทนตั้งใจมีความพิถีพิถันในการประดิษฐ์ให้ขนมมีรูปร่างที่น่ารับประทาน ขนมหวานไทยบางชนิดต้องฝึกทำหลายๆ ครั้งจึงจะได้ลักษณะที่ดี ประสบการณ์ และความชำนาญในการทำบ่อย ๆ ผู้ประกอบขนมหวานไทย จะประสบความสำเร็จในการทำ กิตติกรรมประกาศ โครงงานเล่มนี้จะสำเร็จไปมิได้หากไม่ได้รับความสนับสนุน และคำปรึกษาจาก อาจารย์พรทิพย์ มหันตมรรค และขอขอบพระคุณ คุณปราณี พรหมทอง และผู้ปกครองที่คอยเป็นกำลังใจ จนโครงงานเล่มนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หากเนื้อหาในโครงงานเล่มนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยบทที่ 1บทนำแนวคิดที่มาและความสำคัญสืบเนื่องมาจากมีความชื่นชอบในขนมตาล ซึ่งในปัจจุบันขนมตาลเป็นขนมที่หากินได้ยากและกระบวนการทำส่วนผสมมีความยุ่งยาก ส่วนต้นทุนในการลงทุนสูงแต่ได้กำไรน้อย เพราะส่วนมากในกลุ่มลูกค้าโดยทั่วไปจะเป็นผู้สูงอายุ แต่เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภคขนมตาลเพราะไม่ทราบว่ามันคือขนมอะไร รสชาติเป็นยังไง และรูปลักษณ์การบรรจุภัณฑ์ไม่น่าดึงดูดใจเหมือนขนมขบเคี้ยวทั่วไป จึงทำให้ดิฉันมีความสนใจในการทำโครงงานเรื่องการทำขนมตาลเพื่ออนุรักษ์การทำขนมไทยและเพื่อเป็นประโยชน์ในการประการอาชีพ วัตถุประสงค์1.จัดทำขึ้นเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดการทำขนมตาล2.จัดทำขึ้นเพื่อได้รู้วิธีการทำขนมตาล3.สามารถนำไปเผื่อแพร่ให้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวิธีการทำหลักการและทฤษฎี เนื่องจากเด็กไทยสมัยนี้มีความนิยมจากชาติตะวันตกมากจนเกินไป จนลืมไปความเป็นไทยว่าไทยเราก็มีของดีเยอะมากมาย เช่น เสื้อผ้าการแต่งกาย สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารไทย (ขนมตาล) ข้าพเจ้าได้มองเห็นความสำคัญของอาหารไทย(ขนมตาล) จึงได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อที่จะสืบทอดของไทยขอบเขตของโครงงาน 1.ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต 2.ศึกษาค้นคว้าจาก คุณปราณี พรหมทอง
สถานที่
ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น
2.ได้มีประสบการณ์ในการลงพื้นที่ได้มากขึ้นกว่าเดิม
3.ได้รักษาอรุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ไว้เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลัง
4.ได้ใช้เวลาว่างให้เกินประโยชน์
5.เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจ
6.เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
จากบทสัมภาษณ์
คุณปราณี พรหมทอง
ขนมตาลเป็นขนมที่มีรสชาติหวาน มัน ขั้นตอนในการทำนั้นมีความยากพอสมควร ปัจจุบันขนมตาลจะหานำมารับประทานนั้นก็ยากขึ้น เพราะวัตถุดิบในการทำเริ่มมีปริมาณลดลง และคนที่ทำขายส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ เด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ก็ไม่ค่อยนิยมซื้อไปบริโภค อาจเพราะเหตุว่า เป็นขนมที่ไม่ทันสมัย จึงไม่นิยมบริโภค
วัตถุดิบในการทำ
1. ลูกตาลสุก 2. ข้าวสารเก่า 3. แป้ง 4. น้ำตาลทราย

5. หัวกะทิ 6. มะพร้าวทึกขูดฝอย 7. เกลือป่น
บทที่ 3
วิธีการดำเนินงาน
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้
1. ขั้นศึกษาข้อมูล
1.1 ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยการสำรวจและศึกษาเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล
1.2 ศึกษาวัตถุดิบและส่วนประกอบการทำขนมตาล
2. ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
2.1 ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล
2.2 ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้สังเกต และสัมภาษณ์
3. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษา และวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต

1. ลูกตาลสุก
2. ข้าวสารเก่า
3. แป้ง
4. น้ำตาลทราย
5. หัวกะทิ
6. มะพร้าวทึกขูดฝอย
7. เกลือป่น

บทที่ 4
ผลการศึกษา
ขั้นตอนการผลิต
1. อันดับแรกต้องลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด แล้วขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง

ลูกตาลสุก ล้าง ปอก ขูดเนื้อตาลออก



เนื้อตาลที่ได้ ส่วนเมล็ดตาลนำไปขยำกับน้ำให้เนื้อออกให้



กรองด้วยกระชอน แล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนา แขวนไว้ให้น้ำตกจนหมด ทำก่อนใช้ 1 คืน

2. โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง
3. จากนั้นผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ(ประมาณ 30-60 นาที)ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง



นำเนื้อตาลที่ได้มานวดกับแป้งแล้วเติมกะทิ(ผสมกับน้ำตาลทรายตั้งไฟให้เดือดพักให้เย็น)



นวดเนื้อลูกตาลกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน แล้วค่อยๆเติมกะทิที่เคี่ยวไว้จนหมด


เมื่อเติมกะทิจนหมดได้ลักษณะดังภาพ ปิดฝาพักไว้ 4-5 ชั่วโมงจนขึ้นฟู (เป็นฟองปุดๆๆ)
4. ขั้นตอนรองสุดท้ายให้ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล โรยมะพร้าว แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ



บทที่ 5
สรุปผลการศึกษา
การวิจัยเรื่องการทำขนมตาล ทำให้ได้รู้ถึงรู้หลักวิธีการทำ และวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริม และอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่า ขนมตาล เป็นขนมไทยที่นิยมก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

project (do local sugar confectionery)




. AbstractsSugar confectionery is a dessert, authentic and start to buy eat more difficult. According to the number of days sugar decreased over the dominance of sugar confectionery. In the sweet temptations of the juice from the sugar is ripe sweetness it from.They say where there is sugar sugar confectionery. Because there are palm trees are to benefit the people. Since the toddy soft transparent sweet to eat raw or be connected with fresh water ice is good as well.Or the inside of the seeds at the brown sugar drink it connected to eat, and water from the งวงตาล sweet water of Palmyra. A fragrant and sweet as sugar is keen to fight.
.The Thai desserts. Must consist of many factors, is to be love, like a ความอดทนตั้งใจ has elegance in the invention to candy shape that appetizing. Thai dessert some kind to do many.Experience and skill to do frequently. The Thai dessert will succeed in doing
.


. AcknowledgementsThis project will be done not without support and advice from Professor prabhas CDC stream and thank you mercy. Prom gold, and parents who encouraged me. Until this project accomplished smoothly.Unfortunately, herein with
.Chapter 1

introduction concept origin and significance
.The sequel to have a passion for sugar confectionery. The current sugar confectionery candy is tricky and difficult process, the mixture is very complicated. The cost of the investment is high but gained less. Because most customers generally is older.The taste is. And image packaging not attractive as snacks in general. Therefore, I was interested in the project work to do for the conservation and sugar confectionery making sweets to be helpful in the career
.

1 purposes. For conservation and inherited the sugar confectionery
2. Established to know how to make. Can be used for sugar confectionery
3 spread to those who care about how to make the principles and theory

.Since Thai children nowadays are popular with western too much. And forget that we have good Thai Thai much like dress, sights and food (sugar confectionery).The study data to derive from
.The scope of the project 1
. Study from Internet
2. Study from you mercy Brahma gold

place
T. inlet, Mueang Krabi
the benefits expected to be
1. Acting career to earn income increase
2.Be experienced in the area has more than the original
3. Keep this benefit of wisdom to the youth generation
4. Time to exceed the benefit
5. To bring knowledge to publish to those interested 6
.To train teamwork
chapter 2

from related documents interview you mercy Brahma gold

.Sugar confectionery as a dessert with sweet taste. It steps to do is hard enough. At present, the sugar confectionery to find taken orally is more difficult. Because the raw materials to start was reduced. And the people who do sell are mostly the elderly.Because why a candy that is modern is not commonly consumed
.Raw material in making
1 toddy cooked rice. 2. Old 3. Flour sugar 4.

5. 6 shredded coconut cream. Save 7. Salt
chapter The 3


. Methodology researchThis study conducted a study respectively following
1. Advanced study
1.1 survey and study of related documents. The survey and Study on the documents to your knowledge about the sugar confectionery
1.2 study of raw materials and components of sugar confectionery
2. Collection of data
2.1. Has been collecting data from the survey and study of the documents to your knowledge about the ำขนมตาล
2.2 collected data from the observation and interview, 3
. Step data
data collection was studied. And analyzed according to the objectives and compilation presented in prose
equipment used in the production of palm 1.


2 cooked.Rice flour 3 old
.
.
4 sugar 5. Selectivity
6 shredded coconut records.
.

Chapter 7 salt 4
the production steps 1

.First you need to peel palm out. Then scrape off the yellow flesh. The seed soaking in water until the meat toddy melt out wrap meat toddy. Water soluble and total bound mouth tightly hang or upon them to dry

.Toddy is clear stripping scraping meat walleye off



the sugar that meat. The seeds of sugar and tossed with water to the meat off



filter sieve filter with thick white cloth bag hanging water fall out. Do before use 1 night

2.Milled rice in water for fine and then on to dry
3.Then mix the rice mill and crushes until dry, combined with แป้งท้าวยายม่อม. Palm which overlays to dry and massage all the ingredients. Mix the flour together until smooth and soft hands (about 30-60 minutes) sugar, alternating with the elite.Dissolve hold about 5-10 hours
.


the meat to massage with flour and sugar, add coconut milk (mixed with sugar and bring to the boil a cold room)

.

massage meat and rice flour, palm together. Add coconut milk to simmer until all


.When add coconut milk until the characteristics as shown in the picture, close the lid and set aside 4-5 hours until fluffy (bubble ปุดๆ)
4.The final step to scoop flour mixture, then put the basket or small porcelain cups. Sprinkle coconut, then steamed to สุกยกลง if you put a small porcelain cups and wait for it to cool first, then take out the cup container

.



. Chapter 5 ConclusionThe research on making sugar confectionery. To know the main knows how to do. The preservation of the local community and culture the unique Southern should receive to promote and preserve forever!The study found that the sugar confectionery is a popular dessert.