การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้เรื่ององค์ประกอบศิลป์ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบเบรนเบสต์ ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์งานศิลปะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อเปรียบเทียบผลต่างของคะแนนความคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียน และหลังเรียนของกลุ่มควบคุมที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบปกติกับกลุ่มทดลอง 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน และหลังเรียนของกลุ่มทดลองที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้เรื่ององค์ประกอบศิลป์ตามรูปแบบการเรียนรู้เบรนเบสต์ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์งานศิลปะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนาคประสิทธิ์ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 60 คน โดยใช้วิธีสัมภาษณ์ครูผู้สอน นักเรียนมีทั้งหมด 8 ห้อง เพื่อให้ได้ห้องที่มีระดับความคิดสร้างสรรค์เท่ากัน 2 ห้อง แล้วใช้วิธีสุ่มอย่างง่ายเพื่อเลือกห้องหนึ่งเป็น กลุ่มควบคุม และอีกห้องหนึ่งเป็นกลุ่มทดลอง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนการสอนเรื่ององค์ประกอบศิลป์ตามรูปแบบการเรียนรู้เบรนเบสต์ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ 2) เครื่องมือประเมินคะแนนความคิดสร้างสรรค์ ประกอบด้วย แบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้รูปภาพเป็นสื่อแบบ ก ของ Torrance และแบบประเมินความคิดสร้างสรรค์จากชิ้นงานที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน และหลังเรียนของกลุ่มทดลองเรื่ององค์ประกอบศิลป์ 4) แบบสัมภาษณ์ผู้สอนเพื่อประเมินความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนก่อนเรียน
สถิติที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test independent)
ผลการวิจัยพบว่า
1) การจัดการเรียนการสอนเรื่ององค์ประกอบศิลป์ ตามรูปแบบการเรียนรู้เบรนเบสต์ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ ผ่านการประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ 6 ท่าน ค่าเฉลี่ยของค่าดัชนีความสอดคล้องด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและด้านการวัดและประเมินผลรวมมีค่า = 0.92 และการหาประสิทธิภาพ
E1/ E2 =78.87/ 96.03
2) ผลการเปรียบเทียบผลต่างของคะแนนความคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียน และหลังเรียนของกลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลอง ตามการประเมินด้วยแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ของ Torrance และการประเมินด้วยแบบประเมินความคิดสร้างสรรค์จากชิ้นงานสอดคล้องกัน พบว่า กลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลองมีผลต่างของคะแนนความคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียน และหลังเรียนต่างกันอย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ .05
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน และหลังเรียนด้วยเรื่ององค์ประกอบศิลป์ การจัดการเรียนรู้เรื่ององค์ประกอบศิลป์ ตามรูปแบบการเรียนรู้เบรนเบสต์ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ พบว่ามีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

This research aims to 1) to develop students artistic elements, according to the story to learn the best techniques SI nanektik Brenham to promote creativity in the art of creative students in grade 3 2) to compare the differences of the creative class group, before and after the classes with regular students to the experimental group. 3) to compare the achievement of students before and after the experimental group students with learning management matters as artistic elements to learn best by nanektik Zi Brenham. To promote creativity in the art of creative students in grade 3. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนาคประสิทธิ์ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 60 คน โดยใช้วิธีสัมภาษณ์ครูผู้สอน นักเรียนมีทั้งหมด 8 ห้อง เพื่อให้ได้ห้องที่มีระดับความคิดสร้างสรรค์เท่ากัน 2 ห้อง แล้วใช้วิธีสุ่มอย่างง่ายเพื่อเลือกห้องหนึ่งเป็น กลุ่มควบคุม และอีกห้องหนึ่งเป็นกลุ่มทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนการสอนเรื่ององค์ประกอบศิลป์ตามรูปแบบการเรียนรู้เบรนเบสต์ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ 2) เครื่องมือประเมินคะแนนความคิดสร้างสรรค์ ประกอบด้วย แบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้รูปภาพเป็นสื่อแบบ ก ของ Torrance และแบบประเมินความคิดสร้างสรรค์จากชิ้นงานที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน และหลังเรียนของกลุ่มทดลองเรื่ององค์ประกอบศิลป์ 4) แบบสัมภาษณ์ผู้สอนเพื่อประเมินความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนก่อนเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test independent)
ผลการวิจัยพบว่า
1) การจัดการเรียนการสอนเรื่ององค์ประกอบศิลป์ ตามรูปแบบการเรียนรู้เบรนเบสต์ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ ผ่านการประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ 6 ท่าน ค่าเฉลี่ยของค่าดัชนีความสอดคล้องด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและด้านการวัดและประเมินผลรวมมีค่า = 0.92 และการหาประสิทธิภาพ
E1/ E2 =78.87/ 96.03
2) ผลการเปรียบเทียบผลต่างของคะแนนความคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียน และหลังเรียนของกลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลอง ตามการประเมินด้วยแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ของ Torrance และการประเมินด้วยแบบประเมินความคิดสร้างสรรค์จากชิ้นงานสอดคล้องกัน พบว่า กลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลองมีผลต่างของคะแนนความคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียน และหลังเรียนต่างกันอย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ .05
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน และหลังเรียนด้วยเรื่ององค์ประกอบศิลป์ การจัดการเรียนรู้เรื่ององค์ประกอบศิลป์ ตามรูปแบบการเรียนรู้เบรนเบสต์ด้วยเทคนิคซินเนคติกส์ พบว่ามีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The research aims to 1) to improve knowledge about the art form of learning Brent Best. Xin technique Kennecott Optics. To encourage creativity in the art of students at three grade 2) to compare the results of the first study creativity. And after learning of the control group learning with traditional learning with group 3) to compare student achievement before. And after learning of the subjects were taught by learning about the art form of learning techniques Brent Best Xin Kennecott Optics. To encourage creativity in the art of students at grade. Three
samples used in the research. Grade 3 students at school Naga performance. In the first semester of the academic year 2558 consisted of 60 interviews with teachers. Students have all eight rooms to a room with a creative level equal two rooms and then using simple random sampling to select one room as a control group and one experimental group
were used in this study were 1) management plan. teaching about the art form of learning Brent Best Technique Xin Kennecott Aromatics 2) Measurement points creativity: a test of creativity, using images as a group of Torrance and evaluation. Creative work of the researchers created three) achievement before. And after learning about the art of group 4) interviewing teachers to assess the creativity of the students before class
statistics used in this study were percentage, average, standard deviation. T test (t-test independent)
research found that
1) the teaching of the art. According to the model learning techniques with Brent Best Xin Kennecott Optics. Through the evaluation of expert 6 average of index values ​​correspond to the activities of teaching and of evaluation include the value = 0.92 and efficiency
E1 / E2 = 78.87 / 96.03
2) results. Comparison of the creative class before. And after learning of the control group And the experimental group According to the assessment by the Torrance Test of Creativity and evaluated by an evaluation of creative work from the corresponding control group and the experimental group had creative differences on the pretest. After studying different level of statistical significance. 05
3) the achievement of students. And after learning about the art. Learning about the art. According to the model learning techniques with Brent Best Xin Kennecott Optics. The study found that the achievement higher than the previous level of statistical significance. 05.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

.The purpose of this research is to 1) to develop knowledge management about composition based learning model Brent best Technique of Xin เนคติ.3 2) to compare the difference of creativity scores before class. And after learning of the control group students with learning the normal group and the experimental 3) to compare the achievement.In order to encourage creativity in the creative art of grade 3
.The sample used in this research. Students 3 nakprasithi school in semester academic year 2558 1 were 60 people. Using the method of interview with teachers and students are all 8 room.