3. ภาวะเศรษฐกิจทั่วไป3.1 อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประ การแปล - 3. ภาวะเศรษฐกิจทั่วไป3.1 อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประ อังกฤษ วิธีการพูด

3. ภาวะเศรษฐกิจทั่วไป3.1 อัตราการเจ

3. ภาวะเศรษฐกิจทั่วไป

3.1 อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ (GDP Growth) ในปี 2553 อยู่ที่ 7.3 % สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2519 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2552 และการใช้จ่ายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อมิถุนายน การเพิ่มขึ้นของเงินโอนจากแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศ (OFWs) การขยายตัวของภาคการส่งออก การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ (5.3%) การเพิ่มขึ้นของปริมาณการลงทุน (25.6%) และเศรษฐกิจมหภาคที่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น

อนึ่ง คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ ในปี 2554 จะชะลอตัวลงอยู่ที่ 5.4% เนื่องจากการยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ซึ่งส่งผลให้การลงทุนและภาคการส่งออกของฟิลิปปินส์หดตัวลง ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ฟป. ประกาศว่า จะพยายามรักษา GDP Growth ของฟิลิปปินส์ให้อยู่ในระดับ 7 -8 % ในช่วงระยะกลาง (medium term) ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งจะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้

3.2 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศและรายได้ประชาชาติต่อหัว

ปี 2553 GDP ของฟิลิปปินส์มีมูลค่า 199.9 พันล้าน USD (ไทย 316.7 พันล้าน USD) และรายได้ประชาชาติต่อหัวต่อปี (GDP per head) 3,489 USD (ไทย 4,705 USD) ทั้งนี้ คาดว่าในปี 54 GDP ของฟิลิปปินส์จะเพิ่มขึ้นเป็น 225.7 พันล้าน USD และ GDP per head จะเพิ่มเป็น 3,660 USD ต่อปี

3.3 สภาวะการณ์การจ้างงานในฟิลิปปินส์

ในปี 2553 การว่างงานของฟิลิปปินส์ อยู่ในอัตราร้อยละ 7.1 (ประมาณ 2.8 ล้านตำแหน่ง) น้อยลงจากปี 2552 โดยเขตเมืองหลวง (National Capital Region: NCR) มีอัตราการว่างงานสูงสุดที่สุดในประเทศ ร้อยละ 10.9 สาเหตุสำคัญ ได้แก่ การปิดกิจการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการ จากผลกระทบของวิกฤตการเงินเมื่อปี 2552

นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังประสบปัญหาการทำงานต่ำกว่าระดับความสามารถ (underemployment rate) ในอัตราสูงที่ร้อยละ 19.6 (ประมาณ 6.7 ล้านตำแหน่ง) สูงขึ้นกว่าปี 2552

4. โครงสร้างทางเศรษฐกิจ

ภาคบริการ มีสัดส่วนต่อ GDP ใหญ่ที่สุด 54.8 % รองลงมา ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม 31.4 % และภาคเกษตรกรรม (รวมประมงและป่าไม้) 13.7 %

ธุรกิจบริการที่สำคัญ ได้แก่ กิจการค้าปลีกและค้าส่ง บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การท่องเที่ยวและโรงแรม อนึ่ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจบริการได้ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจการธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ (Business Process Outsourcing: BPO) อาทิ การให้บริการ Call Centre และ Digital Content
ภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า อาหารแปรรูป
ภาคเกษตรกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การประมง การเพาะปลูกมะพร้าว ข้าว ข้าวโพด กล้วยหอม สับปะรด และมะม่วง
5. นโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ

5.1 แก้ไขภาวะขาดดุลงบประมาณ

ซึ่งเป็นปัญหาสืบเนื่องมาจากรัฐบาลชุดก่อน โดยเน้นการสร้าง วินัยทางการคลังโดยใช้วิธีการบริหารงบประมาณแบบสมดุล (Zero – Budgeting Policy) ในการนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ประกาศในระหว่างการแถลงนโยบายในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง (State of the Nation Union) เมื่อ กรกฎาคม 2553 ว่าจะเสนอร่างกฎหมายความรับผิดชอบทางการคลัง (Fiscal Responsibility Bill) เพื่อใช้เป็นกลไกในการควบคุมการพิจารณาอนุมัติ เฉพาะโครงการที่สามารถระบุแหล่งที่มาของงบประมาณได้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา

อนึ่ง รัฐบาลตั้งเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณไว้ 2% ใน 2556

5.2 ฟื้นฟูสถานะทางคลัง

โดยการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีและรายได้เข้ารัฐ การแก้ไขปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง/ การลักลอบนำเข้าสินค้าอย่างผิดกฎหมาย (กระทรวงการคลังฟิลิปปินส์ประเมินว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์สูญเสียรายได้จากการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีประมาณ 250 พันล้านเปโซ ต่อปี) การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และการออกพันธบัตรสกุลเงินเปโซ

5.3 สนับสนุนการมีส่วนร่วมการเป็นหุ้นส่วนของภาคเอกชน ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public – Private Partnership: PPP)

เพื่อระดมทุนในการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน โดยประธานาธิบดี Aquino III ได้ประกาศจะดำเนินโครงการ PPP ให้ได้ 70-100 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 740 พันล้าน เปโซ (16.8 พันล้าน USD) ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งใน 2559

อนึ่ง รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้จัดตั้ง PPP Center ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ ภายใต้องค์การเศรษฐกิจ และการพัฒนาแห่งฟิลิปปินส์ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานนโยบาย ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน

อนึ่ง เมื่อ พฤศจิกายน 2552 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศแผนจะเปิดประมูลโครงการ PPP ในปี 2554 จำนวน 10 โครงการ ได้แก่ โครงการเกี่ยวกับการก่อสร้างถนน/ทางพิเศษ 2 โครงการ โครงการเกี่ยวกับการสร้าง/ปรับปรุง/บริหาร ท่าอากาศยาน 4 โครงการ และโครงการเกี่ยวกับการก่อสร้างส่วนขยายของรถไฟฟ้า 2 โครงการ

ในส่วนของการระดมเงินทุน นอกจากแผนการออกพันธบัตร เพื่อใช้ในโครงการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานระยะเวลา 20 และ 25 ปี และการร่วมมือกับธนาคารในกำกับของรัฐ ในการสนับสนุนค่าชดเชยในการเวนคืน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังแสวงโอกาสในการหาเงินทุนจากต่างประเทศจาก World Bank และ ADB (ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนศึกษารูปแบบการดำเนินโครงการร่วมกัน) และได้ประชาสัมพันธ์โครงการ PPP ให้นักลงทุนต่างประเทศในระหว่างการเยือนต่างประเทศ อาทิ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ได้หยิบยกเรื่อง PPP ขึ้นหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในระหว่างการเยือนเกาหลีใต้เมื่อมกราคม 2554

5.4 สร้างเสริมบรรยากาศในการลงทุนในฟิลิปปินส์

โดยการอำนวยความสะดวก และลดขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ให้มีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น ทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น โดยเมื่อกันยายน 2553 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ริเริ่มใช้ระบบ Electronic Business Name Registration System (eBNRS) ในการขออนุญาตประกอบธุรกิจ/จัดตั้งบริษัทโดยตั้งเป้าหมายจะลดระยะเวลาในการขออนุญาตลงจาก 45 – 60 วัน เหลือ 1 สัปดาห์ โดยระบบดังกล่าวเป็นการปูทางไปสู่การใช้ National Business Registry Database ซึ่งเป็นฐานข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทร่วมระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของฟิลิปปินส์ อาทิ กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม คณะกรรมการหลักทรัพย์ และหน่วยงานท้องถิ่น

นอกจากนี้ รัฐบาลชุดปัจจุบันยังเน้นการสร
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
3. General economic conditions3.1 rate of growth of gross domestic productThe economic growth rate of the Philippines (GDP Growth) in the year 2553 (2010) at 7.3%, the highest since the year 2519 (1976) important factor: the global economic recovery from the economic crisis last year 2552 (2009) and spend on presidential election. When the June rise of remittances from overseas Filipino workers (OFWs) in the expansion of the export sector. The expansion of domestic consumption (5.3%) and the increase of the quantity of investment (25.6%) and stable macroeconomic areas.Several expected economic growth rate of the Philippines. In the year 2554 (2011) to slow down are at 5.4%, due to suspended use of the nation's stimulus measures, which resulted in investment and export sectors of the Philippines, shrinking in both economic and Social Development Office of fop. The GDP Growth announced that efforts of the Philippines to 7-8% in the medium-term period (medium term) of national economic and social development plan, the new edition, which will be enacted soon.3.2 gross domestic product and income Nations per head.The Philippines ' year-on-year GDP 2553 (2010) worth 199.9 billion. USD (Thai 316.7 billion USD), and an annual income of Nations per head (GDP per head) 3489 USD (Thai 4705 USD) for both. Expected in the year 54 Philippine GDP will increase as 225.7 billion USD and GDP per head will be added as 3660 USD per year.3.3 employment in the Philippines illustrateIn the year 2553 (2010) Philippine unemployment is 7.1 percent (approx. 2.8 million positions) less from the year 2552 (2009) by County capital (National Capital Region: NCR) has the highest unemployment rate in the country. 10.9 per cent cause are closed, especially in service sectors from the impact of the financial crisis last year 2552 (2009)In addition, the Philippines is still experiencing a lower level of work ability (underemployment rate) in the highest rate of 19.6 per cent (approximately 6.7 million positions) increased over the year 2552 (2009)4. the economic structure.The sectors with the largest proportion of GDP: 54.8% secondary industry: 31.4% and the agricultural sector (including forestry and fishing) 13.7%Business services, namely business and retailers and wholesalers Real estate services, transport, tourism and hotels, several in the past several years, mathun has provided an expansion, Business Affairs, particularly business process (Business Process Outsourcing: BPO) such as Call Centre services and Digital Content.Major industry sectors such as manufacturing of electronic parts, garment, shoes, food processing.The agricultural sector, including fisheries and coconut planting. Rice, corn, bananas Pineapple and mango.5. the major economic policies.5.1 State budget deficit fixWhich is a problem because the Government sets first by focusing on creating fiscal discipline by means of balanced budget management (Zero – Budgeting Policy) on this. The Philippine President announced during a press conference on the occasion of taking policy (State of the Nation Union) when the draft law will be presented July 2553 (2010) responsible fiscal (Fiscal Responsibility Bill) to be used as a mechanism to control approval. Only projects that can identify the source of the budget has only now. Draft law it is still in the process of consideration of the Parliament.The Government wishes to set a budget deficit target by 2% in 2556 (2013)5.2 refresh status.By reforming the tax system and revenues into the State. Troubleshoot embezzle/ To smuggle illegal goods (Ministry of Finance of the Philippines Philippine Government estimates that lost revenue from the tax to avoid approximately 250 billion Peso per year). Borrowing from international financial institutions and issuance of bonds, currency, Peso.5.3 supports the participation of the private sector partnership through cooperation between the public and private sectors (Public-Private Partnership: PPP)To fundraising in order to improve and develop the economic infrastructure, especially in the agricultural sector, industry, tourism, and infrastructure by President Aquino III has announced 70 PPP projects will continue to be-100 projects are worth 740 billion. Peso (16.8 billion USD) before ending at 2559 (2016)Note that the Philippine Government has established a new Center, the PPP Unit. Under the Philippine national economic and development agency to act as the Centre for policy coordination between the relevant authorities and operators invested.Again, when the Philippine Government announced plans in November 2552 (2009) will open the bidding PPP projects in the year 2554 (2011) project project number: 10 on road construction/special project 2 way about the creation/update/manage 4 airport construction projects and about the extension of the Skytrain project 2.In a portion of the funds In addition to the planned issuance of bonds for public projects, 20, and 25-year periods, and to cooperate with the Bank in supervision of the State. In support of compensation in return, including The Philippine President will also seek the opportunity to seek funding from abroad from World Bank and ADB (currently in the process of studying a joint project implementation) and PPP projects, publicity, foreign investors during a visit abroad, including the United States and Japan. In addition Minister of Foreign Affairs of the Philippines, was story picks up more South Korea to discuss PPP presidential visit to South Korea during the January 2554 (2011)5.4 strengthening the atmosphere in investing in the Philippines.By facilitating and reducing the flow of business, and is faster in both the global and the local Government of the Philippines is 2553 (2010) on September initiatives Electronic Business systems Name Registration System (eBNRS) to obtain permission of business/company by setting a goal to reduce the duration of permits from 45 – 60 days 1 week left by such systems as a way to use National Business Registry Database, which is a database of registered joint between the various agencies involved, such as the Philippine Department of trade and industry. Securities and Exchange Commission and the local authorities.In addition The current Government is also focusing on creating power.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
3. ภาวะเศรษฐกิจทั่วไป

3.1 อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ (GDP Growth) ในปี 2553 อยู่ที่ 7.3 % สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2519 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2552 และการใช้จ่ายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อมิถุนายน การเพิ่มขึ้นของเงินโอนจากแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศ (OFWs) การขยายตัวของภาคการส่งออก การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ (5.3%) การเพิ่มขึ้นของปริมาณการลงทุน (25.6%) และเศรษฐกิจมหภาคที่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น

อนึ่ง คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ ในปี 2554 จะชะลอตัวลงอยู่ที่ 5.4% เนื่องจากการยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ซึ่งส่งผลให้การลงทุนและภาคการส่งออกของฟิลิปปินส์หดตัวลง ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ฟป. ประกาศว่า จะพยายามรักษา GDP Growth ของฟิลิปปินส์ให้อยู่ในระดับ 7 -8 % ในช่วงระยะกลาง (medium term) ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งจะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้

3.2 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศและรายได้ประชาชาติต่อหัว

ปี 2553 GDP ของฟิลิปปินส์มีมูลค่า 199.9 พันล้าน USD (ไทย 316.7 พันล้าน USD) และรายได้ประชาชาติต่อหัวต่อปี (GDP per head) 3,489 USD (ไทย 4,705 USD) ทั้งนี้ คาดว่าในปี 54 GDP ของฟิลิปปินส์จะเพิ่มขึ้นเป็น 225.7 พันล้าน USD และ GDP per head จะเพิ่มเป็น 3,660 USD ต่อปี

3.3 สภาวะการณ์การจ้างงานในฟิลิปปินส์

ในปี 2553 การว่างงานของฟิลิปปินส์ อยู่ในอัตราร้อยละ 7.1 (ประมาณ 2.8 ล้านตำแหน่ง) น้อยลงจากปี 2552 โดยเขตเมืองหลวง (National Capital Region: NCR) มีอัตราการว่างงานสูงสุดที่สุดในประเทศ ร้อยละ 10.9 สาเหตุสำคัญ ได้แก่ การปิดกิจการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการ จากผลกระทบของวิกฤตการเงินเมื่อปี 2552

นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังประสบปัญหาการทำงานต่ำกว่าระดับความสามารถ (underemployment rate) ในอัตราสูงที่ร้อยละ 19.6 (ประมาณ 6.7 ล้านตำแหน่ง) สูงขึ้นกว่าปี 2552

4. โครงสร้างทางเศรษฐกิจ

ภาคบริการ มีสัดส่วนต่อ GDP ใหญ่ที่สุด 54.8 % รองลงมา ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม 31.4 % และภาคเกษตรกรรม (รวมประมงและป่าไม้) 13.7 %

ธุรกิจบริการที่สำคัญ ได้แก่ กิจการค้าปลีกและค้าส่ง บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การท่องเที่ยวและโรงแรม อนึ่ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจบริการได้ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจการธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ (Business Process Outsourcing: BPO) อาทิ การให้บริการ Call Centre และ Digital Content
ภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า อาหารแปรรูป
ภาคเกษตรกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การประมง การเพาะปลูกมะพร้าว ข้าว ข้าวโพด กล้วยหอม สับปะรด และมะม่วง
5. นโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ

5.1 แก้ไขภาวะขาดดุลงบประมาณ

ซึ่งเป็นปัญหาสืบเนื่องมาจากรัฐบาลชุดก่อน โดยเน้นการสร้าง วินัยทางการคลังโดยใช้วิธีการบริหารงบประมาณแบบสมดุล (Zero – Budgeting Policy) ในการนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ประกาศในระหว่างการแถลงนโยบายในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง (State of the Nation Union) เมื่อ กรกฎาคม 2553 ว่าจะเสนอร่างกฎหมายความรับผิดชอบทางการคลัง (Fiscal Responsibility Bill) เพื่อใช้เป็นกลไกในการควบคุมการพิจารณาอนุมัติ เฉพาะโครงการที่สามารถระบุแหล่งที่มาของงบประมาณได้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา

อนึ่ง รัฐบาลตั้งเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณไว้ 2% ใน 2556

5.2 ฟื้นฟูสถานะทางคลัง

โดยการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีและรายได้เข้ารัฐ การแก้ไขปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง/ การลักลอบนำเข้าสินค้าอย่างผิดกฎหมาย (กระทรวงการคลังฟิลิปปินส์ประเมินว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์สูญเสียรายได้จากการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีประมาณ 250 พันล้านเปโซ ต่อปี) การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และการออกพันธบัตรสกุลเงินเปโซ

5.3 สนับสนุนการมีส่วนร่วมการเป็นหุ้นส่วนของภาคเอกชน ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public – Private Partnership: PPP)

เพื่อระดมทุนในการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน โดยประธานาธิบดี Aquino III ได้ประกาศจะดำเนินโครงการ PPP ให้ได้ 70-100 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 740 พันล้าน เปโซ (16.8 พันล้าน USD) ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งใน 2559

อนึ่ง รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้จัดตั้ง PPP Center ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ ภายใต้องค์การเศรษฐกิจ และการพัฒนาแห่งฟิลิปปินส์ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานนโยบาย ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน

อนึ่ง เมื่อ พฤศจิกายน 2552 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศแผนจะเปิดประมูลโครงการ PPP ในปี 2554 จำนวน 10 โครงการ ได้แก่ โครงการเกี่ยวกับการก่อสร้างถนน/ทางพิเศษ 2 โครงการ โครงการเกี่ยวกับการสร้าง/ปรับปรุง/บริหาร ท่าอากาศยาน 4 โครงการ และโครงการเกี่ยวกับการก่อสร้างส่วนขยายของรถไฟฟ้า 2 โครงการ

ในส่วนของการระดมเงินทุน นอกจากแผนการออกพันธบัตร เพื่อใช้ในโครงการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานระยะเวลา 20 และ 25 ปี และการร่วมมือกับธนาคารในกำกับของรัฐ ในการสนับสนุนค่าชดเชยในการเวนคืน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังแสวงโอกาสในการหาเงินทุนจากต่างประเทศจาก World Bank และ ADB (ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนศึกษารูปแบบการดำเนินโครงการร่วมกัน) และได้ประชาสัมพันธ์โครงการ PPP ให้นักลงทุนต่างประเทศในระหว่างการเยือนต่างประเทศ อาทิ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ได้หยิบยกเรื่อง PPP ขึ้นหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในระหว่างการเยือนเกาหลีใต้เมื่อมกราคม 2554

5.4 สร้างเสริมบรรยากาศในการลงทุนในฟิลิปปินส์

โดยการอำนวยความสะดวก และลดขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ให้มีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น ทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น โดยเมื่อกันยายน 2553 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ริเริ่มใช้ระบบ Electronic Business Name Registration System (eBNRS) ในการขออนุญาตประกอบธุรกิจ/จัดตั้งบริษัทโดยตั้งเป้าหมายจะลดระยะเวลาในการขออนุญาตลงจาก 45 – 60 วัน เหลือ 1 สัปดาห์ โดยระบบดังกล่าวเป็นการปูทางไปสู่การใช้ National Business Registry Database ซึ่งเป็นฐานข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทร่วมระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของฟิลิปปินส์ อาทิ กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม คณะกรรมการหลักทรัพย์ และหน่วยงานท้องถิ่น

นอกจากนี้ รัฐบาลชุดปัจจุบันยังเน้นการสร
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
3. General economic

3.1. The growth rate of gross domestic product

the economic growth rate of the Philippines (GDP Growth) in 2553 in 7.3% the highest since the year 2519 factors include the recovery of the global economy from crisis เศรษฐกิจเมื่อ years 2552 and spending in the election campaign for president. When June.(OFWs) expansion of the export sector. The expansion of domestic demand (5.3%) an increase in the amount of investment (25.6%) and macro economy more stable

1. Expected economic growth rate of the Philippines in 2554 will slow down in 5.4% due to termination of the stimulus measures of other countries. This is expected to invest and export sectors of Philippine shrink, the office of economic development and Social Council of judgement.Announced that try to preserve the GDP Philippine Growth level to 7 - 8% in the medium term (medium term) of แผนพัฒ Na economy. National and social new edition, which will be adopted soon

3.2 gross domestic product and the gross national income per capita

years 2553 Philippine GDP is worth 199.9 billion USD (Thai 316.7 billion. USD) and gross national income per capita per year (GDP per head) 3 489 USD (Thai 4,,705 USD) expected in 54 GDP of the Philippines will increase and 225.7 billion USD GDP per head will increase, 3 660 USD. Per year

3.3 circumstance of employment in the Philippines

in 2553 unemployment of Philippine in the rate per cent 7.1 (about 2.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: