สูตินรีแพทย์1. สภาพแวดล้อมในการทำงา

สูตินรีแพทย์

1. สภาพแวดล้อมในการทำงาน
สถานที่ทำงาน
เราก็ทำงานที่โรงพยาบาล ที่แรกก็ห้องคลอดที่เขาคลอดลูก อีกห้องนึงก็ห้องผ่าตัดเพราะว่าหมอสูติก็ต้องผ่าตัดเหมือนกัน ทั้งผ่าคลอดและผ่าคนไข้นรีเวชที่เป็นโรคต่างๆ เช่น Chocolate Seeds หรือมดลูกโต ที่ๆสามที่ต้องไปคือตึกนอนของคนไข้ ต้องไปราวด์หวอด ที่ๆ สี่คือแผนกผู้ป่วยนอก คือ ที่ๆเราตรวจคนไข้ และในบางครั้งเราก็ต้องออกไปข้างนอกด้วย ทั้งออกไปให้ความรู้ และออกไปเยี่ยมบ้าน ในแต่ละวันเราทำงานทั้งวัน จะมีการแบ่งเช่น วันนี้เป็นวันผ่าตัดของเรา เราก็จะเข้าห้องผ่าตัด วันนี้ออกตรวจโอพีดีนอก / ผู้ป่วยนอก เราก็ออกไปตรวจผู้ป่วยนอก ยกเว้นจะมีเคสฉุกเฉินเราก็จะมาผ่าตัด เพราะฉนั้นเราก็จะไม่ได้ออกผู้ป่วยนอกทุกวัน จะเป็นคิว เช่น ออกวันจันทร์ ก็วันเดียวต่อสัปดาห์ วันอื่นก็จะไปอยู่ตรงอื่น

สภาพการทำงาน

เลอะมากครับ ตามตำราแล้วสูตินรีเวชเป็นธุรกิจเลือด เขาใช้คำว่า Bloody Business เรื่องเยอะครับ ยกตัวอย่างเช่น คนคลอด เวลาเรายังไม่ท้อง มดลูกเราขนาดจะเท่ากำปั้น พอเราท้องมดลูกจะเท่าลูกแตงโมผลใหญ่ๆ เพราะฉะนั้นเลือดก็จะมาเลี้ยงเยอะ เวลาเลือดออกมันก็จะเยอะมากเลยครับ เขาก็เลยเรียกกันว่าธุรกิจเลือด หมอสูก็จะต้องเปื้อนเลือด เปิ้อนน้ำคร่ำ บางคนเวลาคลอด ช่องที่เด็กจะคลอดออกมา กับทวารจะใกล้กัน บางทีก็จะมีอุจจาระออกมาก่อนเด็กออก เราก็เห็นจนเป็นเรื่องปกติเรื่องธรรมชาติ ตอนเด็กๆ บางคนเป็นลูกคนหนู บ้านไม่เคยถู แต่ต้องมานั่งดูอุจจาระคนอื่นต่อหน้าต่อตา เช็ดทำความสะอาดให้เขา แต่เราก็ไม่ต้องไปลุยโคลน ลุยเลือดแทน

ประเภทของลูกค้า

ส่วนใหญ่ก็มาเป็นรายบุคคล อาจพาสามีมาด้วย มาคุยกันเพราะเรื่องแบบนี้ต้องทำความเข้าใจกับทั้งสามีและภรรยา ว่าเราจะวางแผนดูแลอย่างไร จะทำคลอดอย่างไร ฝ่ายชายก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย โดยทั่วไปเขาก็จะมีโรงเรียนพ่อแม่ไว้ให้เตรียมตัว ก่อนคลอดพ่อต้องมาด้วยจะได้รู้ว่าวันนั้นจะเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง ลูกออกมาต้องทำอะไรบ้าง ต้องช่วยแม่ได้

อาชีพนี้ต้องทำงานร่วมกับอาชีพ/ตำแหน่งงานใดบ้าง

งานของเราจะเป็น Multidisciplinary เราจะเจอกับพยาบาล คุณหมอแผนกอื่นเช่น คุณหมอเด็ก อายุรกรรม ศัลยกรรม ต้องประสานงานกับคนหลายคนมาก ทำงานเป็นทีม ใหญ่หรือไม่จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าคลอดลูกปกติก็จะมีเรากับพยาบาล ถ้าผ่าคลอด ไปห้องผ่าตัดก็จะมีเรา พยาบาลผู้ช่วย คุณหมอดมยา อย่างนี้เป็นต้น ถ้าสมมติผ่าตัดแล้วมีภาวะแทรกซ้อน ก็จะมีคุณหมอศัลยกรรมมาช่วยดูแลด้วย เพราะว่าบางทีอาจไปโดนลำไส้ซึ่งเราไม่เชี่ยวชาญ คุณหมอเขาก็จะมาช่วย หรือบางทีเราทำคลอดเด็กที่มีปัญหา คุณหมอเด็กก็จะมาStand by รอ พอเด็กคลอด คุณหมอเด็กก็ดูต่อเลย

2. คุณลักษณะของงาน
เป้าหมายของงาน/โจทย์ใหญ่ของงาน/ความท้าทายของงาน

เป้าหมายของงานก็ตรงไปตรงมา หน้าที่ของเราคือการรักษาคน หมอสูตินรีแพทย์ก็ไม่ได้ทำคลอดอย่างเดียว เราก็จะดูเรื่องของผู้หญิงด้วย ตั้งแต่ก่อนเป็นสาว ช่วยเข้าวัยสาวมีปัญหาไหม เป็นเมนส์ ปวดท้องเมนส์ หงุดหงิดตอนเมนส์ไม่มา เป็นปีศาจตอนจะเป็นเมนส์ เรื่องมีบุตรยาก โอกาสการมีลูก วัยทอง ช่วยหมดประจำเดือนไปซัก 10 ปีมีปัญหาเรื่องมดลูกหย่อนเราก็เป็นคนดูแล เป็นเรื่องทุกอย่างของผู้หญิงตั้งแต่เกิดจนแก่ เพราะฉะนั้นเราก็เหมือนดูแลเขาตั้งแต่ต้นจนจบ อันนี้ก็เป็นอีกอันนึงของหมอสูตินรีแพทย์ที่ทำให้เหมือนกับแผนกอื่นคือดูตั้งแต่เด็กจนแก่เลยครับ

Work process

สูตินรีแพทย์เวลาออกตรวจผู้ป่วยนอก คนไข้ก็จะมาหาที่ห้องทำบัตร เมื่อบอกอาการตรงนั้นเขาก็จะส่งมาตรวจ ประเมิน ว่าคนไข้เป็นอะไร สูตินรีเวชจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ฝากครรภ์ อีกส่วนหนึ่งคือดูโรคของผู้หญิง ฝากครรภ์ก็ตรงไปตรงมาคือบอกว่าตัวเองท้อง ขั้นตอนก็จะฝากครรภ์ แล้วก็ทำคลอด อันนี้ก็เป็นหนึ่งเส้นทางของหมอสูติ ส่วนนรีเวชก็จะดูว่าเป็นโรคอะไร จากนั้นก็ซักประวัติ ตรวจร่างกาย แล้วก็ส่งใช้ Lab บางอย่างตรวจเพิ่ม ถ้ารู้ว่าเป็นอะไรก็ทำการรักษา แต่การรักษาก็มีหลายอย่างเช่น ใช้ยา ผ่าตัด อันนี้ก็จบขั้นตอนในการที่เรารักษารายบุคคล แต่อาจจะมีงานที่เราให้ความรู้ เช่นออกไปโรงเรียนต่างๆ หรือที่ทำงานเพื่อให้ความรู้คุมว่ากำเนิดทำอย่างไร การป้องกันทำอย่างไร จะจัดเป็นงานๆไป ช่วงนี้มีโครงการนี้เราก็จะออกไปที่ต่างๆ

Career path/ความก้าวหน้าของสายอาชีพ

Career Path ของหมอก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่างนะ อย่างแรกคือการเป็น Technician เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค คือตรวจจนเกษีนณ ก็ถือว่าสุดแล้ว อันที่สองเป็นเรื่องของงานวิจัย หา Innovation ใหม่ๆ หรือหาคำตอบกับบางอย่างที่ยังไม่มีคำตอบในปัจจุบัน อันที่สามคือเรื่องของการบริหาร เช่น ถ้าหากรักษาคนไข้แบบตัวต่อตัวแล้วเริ่มรู้สึกว่ามันไม่พอแล้ว เราอยากช่วยทีนึงหลายๆคน ก็จะไปดูในส่วนของการบริหาร อันที่สี่ก็อาจไปเป็นคุณครูแพทย์ ไปสอนนักศึกษาในโรงเรียนแพทย์

บุคลิก นิสัยของคนที่เหมาะจะทำอาชีพนี้

ต้องทนผู้หญิงได้ อันนี้สำคัญอย่างแรก เพราะว่าเราต้องรู้ว่าบางทีที่เขาหงุดหงิดมันไม่ได้มาจากนิสัย แต่เป็นเพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับร่างกาย เราจะได้คอนเซ็ปต์ว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นอย่างนี้ อันที่สองคือต้องเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงหน่อย เพราะถ้าตอนกลางคืนคนไข้ต้องทำคลอด เราก็ต้องไปทำให้ ตี 3 เราก็ต้องไปทำ กินข้างอยู่ก็ต้องไปทำ เพราะฉนั้นต้องเป็นคนที่อดทน และต้องคิดแล้วว่าเราจะเป็นสูตินรีแพทย์ เขาใช้หมอสูว่าเป็น True Emergency หมอบางอย่าง เช่นคนไข้ขาหักมา อาจจะรอผ่าตัดได้วันพรุ่งนี้ หักเที่ยงคืน รอห้องผ่าตัด รอนู้นรอนี่ ผ่าอีกทีก็ตอนเช้า แต่คนจะคลอดเขารอไม่ได้ จะเป็นแบบ อกหลับอดนอน กินข้าวเร็ว ทำอะไรเร็วๆ มนุษยสัมพันธ์ดีต้องเป็นกับทุกอาชีพอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องคุยเก่งแต่ต้องเข้าใจเขา ถ้าเราเข้าใจ คุยเก่งหรือคุยไม่เก่งก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา

3. คุณค่าและผลตอบแทน
ผลตอบแทน

พูดถึงผลตอบแทน คนจะพูดว่าหมอเป็นอาชีพที่มั่นคง รายได้ดี ก็ต้องตอบว่าเป็นอาชีพที่อยู่ได้ ใช้ชีวิตทั่วไปได้ แต่ถ้าจะหวังร่ำรวยเป็นร้อยล้าน อันนี้ ไม่มีทางเป็นไป

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Obstetrics and Gynecology doctors1. working environmentPlace of work เราก็ทำงานที่โรงพยาบาล ที่แรกก็ห้องคลอดที่เขาคลอดลูก อีกห้องนึงก็ห้องผ่าตัดเพราะว่าหมอสูติก็ต้องผ่าตัดเหมือนกัน ทั้งผ่าคลอดและผ่าคนไข้นรีเวชที่เป็นโรคต่างๆ เช่น Chocolate Seeds หรือมดลูกโต ที่ๆสามที่ต้องไปคือตึกนอนของคนไข้ ต้องไปราวด์หวอด ที่ๆ สี่คือแผนกผู้ป่วยนอก คือ ที่ๆเราตรวจคนไข้ และในบางครั้งเราก็ต้องออกไปข้างนอกด้วย ทั้งออกไปให้ความรู้ และออกไปเยี่ยมบ้าน ในแต่ละวันเราทำงานทั้งวัน จะมีการแบ่งเช่น วันนี้เป็นวันผ่าตัดของเรา เราก็จะเข้าห้องผ่าตัด วันนี้ออกตรวจโอพีดีนอก / ผู้ป่วยนอก เราก็ออกไปตรวจผู้ป่วยนอก ยกเว้นจะมีเคสฉุกเฉินเราก็จะมาผ่าตัด เพราะฉนั้นเราก็จะไม่ได้ออกผู้ป่วยนอกทุกวัน จะเป็นคิว เช่น ออกวันจันทร์ ก็วันเดียวต่อสัปดาห์ วันอื่นก็จะไปอยู่ตรงอื่นสภาพการทำงาน เลอะมากครับ ตามตำราแล้วสูตินรีเวชเป็นธุรกิจเลือด เขาใช้คำว่า Bloody Business เรื่องเยอะครับ ยกตัวอย่างเช่น คนคลอด เวลาเรายังไม่ท้อง มดลูกเราขนาดจะเท่ากำปั้น พอเราท้องมดลูกจะเท่าลูกแตงโมผลใหญ่ๆ เพราะฉะนั้นเลือดก็จะมาเลี้ยงเยอะ เวลาเลือดออกมันก็จะเยอะมากเลยครับ เขาก็เลยเรียกกันว่าธุรกิจเลือด หมอสูก็จะต้องเปื้อนเลือด เปิ้อนน้ำคร่ำ บางคนเวลาคลอด ช่องที่เด็กจะคลอดออกมา กับทวารจะใกล้กัน บางทีก็จะมีอุจจาระออกมาก่อนเด็กออก เราก็เห็นจนเป็นเรื่องปกติเรื่องธรรมชาติ ตอนเด็กๆ บางคนเป็นลูกคนหนู บ้านไม่เคยถู แต่ต้องมานั่งดูอุจจาระคนอื่นต่อหน้าต่อตา เช็ดทำความสะอาดให้เขา แต่เราก็ไม่ต้องไปลุยโคลน ลุยเลือดแทนประเภทของลูกค้าส่วนใหญ่ก็มาเป็นรายบุคคล อาจพาสามีมาด้วย มาคุยกันเพราะเรื่องแบบนี้ต้องทำความเข้าใจกับทั้งสามีและภรรยา ว่าเราจะวางแผนดูแลอย่างไร จะทำคลอดอย่างไร ฝ่ายชายก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย โดยทั่วไปเขาก็จะมีโรงเรียนพ่อแม่ไว้ให้เตรียมตัว ก่อนคลอดพ่อต้องมาด้วยจะได้รู้ว่าวันนั้นจะเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง ลูกออกมาต้องทำอะไรบ้าง ต้องช่วยแม่ได้อาชีพนี้ต้องทำงานร่วมกับอาชีพ/ตำแหน่งงานใดบ้างงานของเราจะเป็น Multidisciplinary เราจะเจอกับพยาบาล คุณหมอแผนกอื่นเช่น คุณหมอเด็ก อายุรกรรม ศัลยกรรม ต้องประสานงานกับคนหลายคนมาก ทำงานเป็นทีม ใหญ่หรือไม่จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าคลอดลูกปกติก็จะมีเรากับพยาบาล ถ้าผ่าคลอด ไปห้องผ่าตัดก็จะมีเรา พยาบาลผู้ช่วย คุณหมอดมยา อย่างนี้เป็นต้น ถ้าสมมติผ่าตัดแล้วมีภาวะแทรกซ้อน ก็จะมีคุณหมอศัลยกรรมมาช่วยดูแลด้วย เพราะว่าบางทีอาจไปโดนลำไส้ซึ่งเราไม่เชี่ยวชาญ คุณหมอเขาก็จะมาช่วย หรือบางทีเราทำคลอดเด็กที่มีปัญหา คุณหมอเด็กก็จะมาStand by รอ พอเด็กคลอด คุณหมอเด็กก็ดูต่อเลย
2. คุณลักษณะของงาน
เป้าหมายของงาน/โจทย์ใหญ่ของงาน/ความท้าทายของงาน

เป้าหมายของงานก็ตรงไปตรงมา หน้าที่ของเราคือการรักษาคน หมอสูตินรีแพทย์ก็ไม่ได้ทำคลอดอย่างเดียว เราก็จะดูเรื่องของผู้หญิงด้วย ตั้งแต่ก่อนเป็นสาว ช่วยเข้าวัยสาวมีปัญหาไหม เป็นเมนส์ ปวดท้องเมนส์ หงุดหงิดตอนเมนส์ไม่มา เป็นปีศาจตอนจะเป็นเมนส์ เรื่องมีบุตรยาก โอกาสการมีลูก วัยทอง ช่วยหมดประจำเดือนไปซัก 10 ปีมีปัญหาเรื่องมดลูกหย่อนเราก็เป็นคนดูแล เป็นเรื่องทุกอย่างของผู้หญิงตั้งแต่เกิดจนแก่ เพราะฉะนั้นเราก็เหมือนดูแลเขาตั้งแต่ต้นจนจบ อันนี้ก็เป็นอีกอันนึงของหมอสูตินรีแพทย์ที่ทำให้เหมือนกับแผนกอื่นคือดูตั้งแต่เด็กจนแก่เลยครับ

Work process

สูตินรีแพทย์เวลาออกตรวจผู้ป่วยนอก คนไข้ก็จะมาหาที่ห้องทำบัตร เมื่อบอกอาการตรงนั้นเขาก็จะส่งมาตรวจ ประเมิน ว่าคนไข้เป็นอะไร สูตินรีเวชจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ฝากครรภ์ อีกส่วนหนึ่งคือดูโรคของผู้หญิง ฝากครรภ์ก็ตรงไปตรงมาคือบอกว่าตัวเองท้อง ขั้นตอนก็จะฝากครรภ์ แล้วก็ทำคลอด อันนี้ก็เป็นหนึ่งเส้นทางของหมอสูติ ส่วนนรีเวชก็จะดูว่าเป็นโรคอะไร จากนั้นก็ซักประวัติ ตรวจร่างกาย แล้วก็ส่งใช้ Lab บางอย่างตรวจเพิ่ม ถ้ารู้ว่าเป็นอะไรก็ทำการรักษา แต่การรักษาก็มีหลายอย่างเช่น ใช้ยา ผ่าตัด อันนี้ก็จบขั้นตอนในการที่เรารักษารายบุคคล แต่อาจจะมีงานที่เราให้ความรู้ เช่นออกไปโรงเรียนต่างๆ หรือที่ทำงานเพื่อให้ความรู้คุมว่ากำเนิดทำอย่างไร การป้องกันทำอย่างไร จะจัดเป็นงานๆไป ช่วงนี้มีโครงการนี้เราก็จะออกไปที่ต่างๆ

Career path/ความก้าวหน้าของสายอาชีพ

Career Path ของหมอก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่างนะ อย่างแรกคือการเป็น Technician เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค คือตรวจจนเกษีนณ ก็ถือว่าสุดแล้ว อันที่สองเป็นเรื่องของงานวิจัย หา Innovation ใหม่ๆ หรือหาคำตอบกับบางอย่างที่ยังไม่มีคำตอบในปัจจุบัน อันที่สามคือเรื่องของการบริหาร เช่น ถ้าหากรักษาคนไข้แบบตัวต่อตัวแล้วเริ่มรู้สึกว่ามันไม่พอแล้ว เราอยากช่วยทีนึงหลายๆคน ก็จะไปดูในส่วนของการบริหาร อันที่สี่ก็อาจไปเป็นคุณครูแพทย์ ไปสอนนักศึกษาในโรงเรียนแพทย์

บุคลิก นิสัยของคนที่เหมาะจะทำอาชีพนี้

ต้องทนผู้หญิงได้ อันนี้สำคัญอย่างแรก เพราะว่าเราต้องรู้ว่าบางทีที่เขาหงุดหงิดมันไม่ได้มาจากนิสัย แต่เป็นเพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับร่างกาย เราจะได้คอนเซ็ปต์ว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นอย่างนี้ อันที่สองคือต้องเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงหน่อย เพราะถ้าตอนกลางคืนคนไข้ต้องทำคลอด เราก็ต้องไปทำให้ ตี 3 เราก็ต้องไปทำ กินข้างอยู่ก็ต้องไปทำ เพราะฉนั้นต้องเป็นคนที่อดทน และต้องคิดแล้วว่าเราจะเป็นสูตินรีแพทย์ เขาใช้หมอสูว่าเป็น True Emergency หมอบางอย่าง เช่นคนไข้ขาหักมา อาจจะรอผ่าตัดได้วันพรุ่งนี้ หักเที่ยงคืน รอห้องผ่าตัด รอนู้นรอนี่ ผ่าอีกทีก็ตอนเช้า แต่คนจะคลอดเขารอไม่ได้ จะเป็นแบบ อกหลับอดนอน กินข้าวเร็ว ทำอะไรเร็วๆ มนุษยสัมพันธ์ดีต้องเป็นกับทุกอาชีพอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องคุยเก่งแต่ต้องเข้าใจเขา ถ้าเราเข้าใจ คุยเก่งหรือคุยไม่เก่งก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา

3. คุณค่าและผลตอบแทน
ผลตอบแทน

พูดถึงผลตอบแทน คนจะพูดว่าหมอเป็นอาชีพที่มั่นคง รายได้ดี ก็ต้องตอบว่าเป็นอาชีพที่อยู่ได้ ใช้ชีวิตทั่วไปได้ แต่ถ้าจะหวังร่ำรวยเป็นร้อยล้าน อันนี้ ไม่มีทางเป็นไป

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Obstetrician.1. Working environment.Workplace.We are working in a hospital at the first delivery room he gave birth. Another room is the operating room because the doctor's surgery, too. Both surgery and gynecology surgery time patient that diseases such as Chocolate Seeds or uterus, where three to ไปคือต deep sleep of the patient to surround fish spawn Where four out-patient department (OPD) is where we examine a patient, and sometimes we just have to go out with, both out of knowledge, and went to visit the house. Each day we worked all day are divided as today is the day our surgery, we will ห้องผ่าตัด today rounds OP Dean out / outpatient clinic. We went out to check out patient Except emergency we can operate. Therefore, we won't be out patient daily is the cue, such as on Monday, one day a week, another day goes on.The work condition.Mess up very much, the traditional business of obstetrics is blood, he used the word Bloody Business about a lot, for example, people all the time, we also can't get pregnant. Uterine size will we fist. When we pregnant uterus as watermelon big results. Therefore, the blood will raise a lot. Time to bleed it so much. So he called the blood, the doctor the business will be a bloody stain on amniotic fluid. Some time birth dates. The child will be born with the doors will close. Sometimes a feces out before the baby out. We can see that a normal childhood nature. Some people I home you never be but to watch other stool before your eyes. Wipe clean for him, but we don't have to move blood scratched around instead.The type of customers.Most came to individual may bring my husband, too. Let's talk because this must understand both the husband and wife. We plan to take care of how to deliver what the male's participation. Basically, he is a school of their parents to get ready. Prenatal paternity must come to know the day to see what the event, you come out to do something to help you.This job will be working with the job / position?.Our work is Multidisciplinary.