7. เครื่องวัดการดูดกลืนแสง (UV-VIS

7. เครื่องวัดการดูดกลืนแสง (UV-VIS Spectrophotometer)


รูปที่ 7 เครื่องวัดการดูดกลืนแสง
UV-VIS Spectrophotometer เป็นเครื่องมือที่วัดการดูดกลืนแสงของแสงช่วงความยาวคลื่น 190-800 nm UV-VIS Spectrophotometer ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในห้องปฏิบัติการเพื่อหาปริมาณสารอนินทรีย์ในตัวอย่างเช่น ไนไตรท์,แอมโมเนีย ฯลฯ โดยวัดการดูดกลืนแสงของสารประกอบที่มีสีเทียบกับสารละลายมาตรฐาน
5.1ธรรมชาติของแสง
แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic wave) แสงมีความเร็วในสุญญากาศเท่ากับผลคูณของความยาวคลื่น (nm) และความถี่ (frequency) แต่ความเร็วในการเดินทางจะเปลี่ยนไปเมื่อเดินทางผ่านตัวกลางอื่นๆโดยมีความเร็วในการเดินทางเท่ากับ 2.9979 x 10-16ซม./วินาที/n (n = ดรรชนีหักเหของตัวกลาง, refractive index) แสงต่างชนิดกันจะมีความยาวคลื่นต่างกันและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแตกต่างกัน
ความเข้มของแสงนิยมวัดในหน่วยกำลังเทียน (candle power) หรือลูเมน (lumen)
ปริมาณแสงแปรผันโดยตรงกับความเข้ม (intensity) ของแสงดังนั้นการวัดความเข้มของแสงจึงเป็นการวัดปริมาณแสงทางอ้อม
ความยาวคลื่นแสงนิยมแทนด้วยอักษรกรีกคือ λ (แลมบ์ดา, lambda) แสงแต่ละช่วงความยาวคลื่นถูกกำหนดให้มีชื่อเรียกต่างกันตามข้อกำหนดของ the Joint Committee on Nomenclature in Applied Spectroscopy ดังนี้ (ชูชาติ และเปรมใจ, ๒๕๒๕)
แสงที่มองเห็น (visible light) เป็นแสงสีขาวที่เกิดจากการรวมกันของแสงสีต่างๆ มีสีหลักอยู่ ๗ สี คือสีม่วง สีคราม สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง สีแสด และสีแดงมีความยาวคลื่นตั้งแต่
400-700 nm เมื่อแสงสีขาวตกกระทบวัตถุแล้วทำให้มองเห็นวัตถุเป็นสีใดแสดงว่าวัตถุดูดกลืนแสงสีอื่นหมดแต่สะท้อนแสงสีที่ตามองเห็นออกมา แต่ถ้าวัตถุนั้นๆดูดกลืนแสงทุกสีไว้ได้หมดจะมองเห็นวัตถุเป็นสีดำแสงอุลตราไวโอเลต (ultraviolet light) มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 210-380 nm เป็นแสงที่มีคุณสมบัติในการทำให้อิเล็กตรอนของอะตอมเกิดการส่งผ่าน (electronic transmission) เมื่อร่างกายถูกแสงนี้เป็นเวลานานอาจเกิดอันตรายตัวอย่างเช่น ผิวหนังไหม้เกรียม เยื่อบุลูกตาถูกทำลายและอาจทำให้เกิดเป็นมะเร็งของผิวหนังได้เนื่องจากแสงอุลตราไวโอเลตทำให้ไธมินเบส (thymine base) ในนิวเคลียสของเซลล์รวมตัวกัน
แสงอินฟราเรด (infrared light) เป็นแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถทำให้โมเลกุลของวัตถุต่างๆเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนเกิดความร้อนขึ้นมากเนื่องจากวัตถุส่วนใหญ่ดูดกลืนแสงในช่วงความยาวคลื่นในช่วง 3000-100000 nm ได้ดี ดังนั้นจึงนิยมใช้รังสีอินฟราเรดในการทำให้วัตถุต่างๆ แห้งเพราะมีประสิทธิภาพในการทำให้แห้งสูงกว่าการใช้ความร้อนแบบธรรมดา

รูปที่ 8 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
5.2 กฎแห่งการดูดกลืนแสง
5.2.1 กฎของแลมเบิร์ต (ค.ศ.1760) กล่าวว่า แสงที่ถูกดูดกลืนเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความหนาของตัวกลางที่แสงผ่าน
It = I0 x 10-kt -----------------------(1)

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

7. measuring instruments to absorb light (UV-VIS Spectrophotometer) Figure 7 meter to absorb light.UV-VIS Spectrophotometer measuring tool to suck the light of light wavelength range 190-800 nm UV-VIS Spectrophotometer was used extensively in the laboratory to determine the quantity of inorganic compounds in the samples, such as nitrite, ammonia, etc. by measuring light suck of colored compounds against a standard solution.5.1 nature of light.แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic wave) แสงมีความเร็วในสุญญากาศเท่ากับผลคูณของความยาวคลื่น (nm) และความถี่ (frequency) แต่ความเร็วในการเดินทางจะเปลี่ยนไปเมื่อเดินทางผ่านตัวกลางอื่นๆโดยมีความเร็วในการเดินทางเท่ากับ 2.9979 x 10-16ซม./วินาที/n (n = ดรรชนีหักเหของตัวกลาง, refractive index) แสงต่างชนิดกันจะมีความยาวคลื่นต่างกันและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแตกต่างกันความเข้มของแสงนิยมวัดในหน่วยกำลังเทียน (candle power) หรือลูเมน (lumen) ปริมาณแสงแปรผันโดยตรงกับความเข้ม (intensity) ของแสงดังนั้นการวัดความเข้มของแสงจึงเป็นการวัดปริมาณแสงทางอ้อม Wavelength is reflected light rather than with a green font kakhue λ (lambda, lambda) Light each range of wavelength is named differently according to the requirements of the Joint Committee on Nomenclature in Applied Spectroscopy as follows (Shu and Prem's, 2525 (1982))Visible light (visible light) as the white light that is caused by a combination of the primary colors and light are 7 blue color is purple, blue, green, yellow, Orange and red colors with wavelength ranging from. 400-700 nm เมื่อแสงสีขาวตกกระทบวัตถุแล้วทำให้มองเห็นวัตถุเป็นสีใดแสดงว่าวัตถุดูดกลืนแสงสีอื่นหมดแต่สะท้อนแสงสีที่ตามองเห็นออกมา แต่ถ้าวัตถุนั้นๆดูดกลืนแสงทุกสีไว้ได้หมดจะมองเห็นวัตถุเป็นสีดำแสงอุลตราไวโอเลต (ultraviolet light) มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 210-380 nm เป็นแสงที่มีคุณสมบัติในการทำให้อิเล็กตรอนของอะตอมเกิดการส่งผ่าน (electronic transmission) เมื่อร่างกายถูกแสงนี้เป็นเวลานานอาจเกิดอันตรายตัวอย่างเช่น ผิวหนังไหม้เกรียม เยื่อบุลูกตาถูกทำลายและอาจทำให้เกิดเป็นมะเร็งของผิวหนังได้เนื่องจากแสงอุลตราไวโอเลตทำให้ไธมินเบส (thymine base) ในนิวเคลียสของเซลล์รวมตัวกันแสงอินฟราเรด (infrared light) เป็นแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถทำให้โมเลกุลของวัตถุต่างๆเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนเกิดความร้อนขึ้นมากเนื่องจากวัตถุส่วนใหญ่ดูดกลืนแสงในช่วงความยาวคลื่นในช่วง 3000-100000 nm ได้ดี ดังนั้นจึงนิยมใช้รังสีอินฟราเรดในการทำให้วัตถุต่างๆ แห้งเพราะมีประสิทธิภาพในการทำให้แห้งสูงกว่าการใช้ความร้อนแบบธรรมดา รูปที่ 8 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า5.2 กฎแห่งการดูดกลืนแสง5.2.1 กฎของแลมเบิร์ต (ค.ศ.1760) กล่าวว่า แสงที่ถูกดูดกลืนเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความหนาของตัวกลางที่แสงผ่านIt = I0 x 10-kt -----------------------(1)

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

7 meter light absorption (UV-VIS Spectrophotometer)


Figure 7 measuring absorbance
.UV-VIS Spectrophotometer. Is an instrument that measures light absorption of light wavelength 190-800 nm UV-VIS Spectrophotometer. Is used extensively in the laboratory for the determination of inorganic nitrogen in the example, ไตรท์Ammonia, etc., by measuring the absorbance of the colored compounds compared with standard solution 5.1 nature of light

.The light is electromagnetic radiation (electromagnetic wave) light speed is equal the product of the vacuum wavelength (nm) and frequency (frequency).2.9979 x 10-16 cm / sec / N (n = index of refraction, the light refractive index) different types have different wavelength and different mobile speed
light intensity is measured in units of Watt, popular (candle power) or lumen (lumen)
.