5)อัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในด

5)อัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดิน
อัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C:N ratio) เป็นค่าที่ใช้บ่งบอกความยากหรือง่ายต่อการย่อยสลายของอินทรียวัตถุในดิน (คาร์บอนต่อไนโตรเจน 1 ส่วน) ซึ่งมีผลต่อการกักเก็บคาร์บอนในดิน โดยเมื่อมีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินมาก อัตราการย่อยสลายของอินทรียวัตถุในดินจะเกิดช้าเนื่องจากการที่มีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนมาก แสดงว่าในดินมีปริมาณไนโตรเจนน้อยซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของจุลินทรีย์ดินในการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548) จึงทำให้มีการกักเก็บคาร์บอนในดินมากจากการศึกษาของ Hoorman and Islam (2010)พบว่า พืชตระกูลถั่ว(Alfalfa)ที่มีอายุน้อยจะมีโปรตีน กรดอะมิโน และน้ำตาลสะสมอยู่ในลำต้นมาก จึงทำให้ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ดินได้ง่าย ดังนั้นดินในพื้นที่ดังกล่าวจึงมีปริมาณไนโตรเจนสูง ทำให้มีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินน้อย และมีอัตราการย่อยสลายสูง ทำให้มีการกักเก็บคาร์บอนในดินน้อย แต่ในพืชสกุลโอ๊ค(oat)หรือฟางข้าวสาลี (wheat straw)ที่มีอายุมาก จะมีโปรตีน และน้ำตาลสะสมอยู่ในลำต้นน้อย แต่มีลิกนินสะสมอยู่มาก ซึ่งจะทนทานต่อการย่อยสลายของจุลินทรีย์ดิน จึงทำให้มีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินสูง จุลินทรีย์ดินจึงทำการย่อยสลายได้ยากทำให้มีการกักเก็บคาร์บอนในดินมาก โดยอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินส่วนใหญ่มีค่าประมาณ 10:1 และ Jagadammaet al. (2007) พบว่า พื้นที่ที่มีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (280 kg N ha-1) จะมีปริมาณคาร์บอนในดิน (75.8 Mg ha-1) มากกว่าพื้นที่ที่ไม่มีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (68.4 Mg ha-1) โดยปริมาณไนโตรเจนที่เพิ่มขึ้น จะทำให้อัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินลดลง (ที่ระดับความลึก 0-10 เซนติเมตร) และมีผลทำให้มีปริมาณคาร์บอนอินทรีย์ในดินมากขึ้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

5) ratio of nitrogen in soil carbon perอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C:N ratio) เป็นค่าที่ใช้บ่งบอกความยากหรือง่ายต่อการย่อยสลายของอินทรียวัตถุในดิน (คาร์บอนต่อไนโตรเจน 1 ส่วน) ซึ่งมีผลต่อการกักเก็บคาร์บอนในดิน โดยเมื่อมีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินมาก อัตราการย่อยสลายของอินทรียวัตถุในดินจะเกิดช้าเนื่องจากการที่มีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนมาก แสดงว่าในดินมีปริมาณไนโตรเจนน้อยซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของจุลินทรีย์ดินในการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548) จึงทำให้มีการกักเก็บคาร์บอนในดินมากจากการศึกษาของ Hoorman and Islam (2010)พบว่า พืชตระกูลถั่ว(Alfalfa)ที่มีอายุน้อยจะมีโปรตีน กรดอะมิโน และน้ำตาลสะสมอยู่ในลำต้นมาก จึงทำให้ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ดินได้ง่าย ดังนั้นดินในพื้นที่ดังกล่าวจึงมีปริมาณไนโตรเจนสูง ทำให้มีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินน้อย และมีอัตราการย่อยสลายสูง ทำให้มีการกักเก็บคาร์บอนในดินน้อย แต่ในพืชสกุลโอ๊ค(oat)หรือฟางข้าวสาลี (wheat straw)ที่มีอายุมาก จะมีโปรตีน และน้ำตาลสะสมอยู่ในลำต้นน้อย แต่มีลิกนินสะสมอยู่มาก ซึ่งจะทนทานต่อการย่อยสลายของจุลินทรีย์ดิน จึงทำให้มีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินสูง จุลินทรีย์ดินจึงทำการย่อยสลายได้ยากทำให้มีการกักเก็บคาร์บอนในดินมาก โดยอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินส่วนใหญ่มีค่าประมาณ 10:1 และ Jagadammaet al. (2007) พบว่า พื้นที่ที่มีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (280 kg N ha-1) จะมีปริมาณคาร์บอนในดิน (75.8 Mg ha-1) มากกว่าพื้นที่ที่ไม่มีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (68.4 Mg ha-1) โดยปริมาณไนโตรเจนที่เพิ่มขึ้น จะทำให้อัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนในดินลดลง (ที่ระดับความลึก 0-10 เซนติเมตร) และมีผลทำให้มีปริมาณคาร์บอนอินทรีย์ในดินมากขึ้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

5) The ratio of carbon to nitrogen in the soil,
the ratio of carbon to nitrogen (C: N ratio) is used to indicate the difficulty or ease of decomposition of organic matter in the soil. (Part 1 of carbon to nitrogen), which have the effect of carbon storage in the soil. When the ratio of carbon to nitrogen in the soil. The rate of decomposition of organic matter in the soil is slow due to the ratio of carbon to nitrogen lot. Show that the amount of nitrogen in the soil, not the least of which meet the needs of the soil microorganisms to decompose organic matter in the soil. (Faculty of the Department of Soil Science, 2548) As a result, carbon sequestration in soils from the study of Hoorman and Islam (2010) found that legumes (Alfalfa) younger are protein, amino acids and sugar remain. in the trunk It is easily digested by soil microorganisms. The soil in the area has high nitrogen content. The ratio of carbon to nitrogen in the soil less. And a high rate of degradation. The carbon sequestration in the soil less. But the oak genus (oat), or wheat straw (wheat straw) will have a lot of protein and sugar in a small trunk. But there is much lignin deposition. Which is resistant to degradation of soil microorganisms. As a result, the ratio of carbon to nitrogen in the soil. Microbial degradation, thus making it difficult to make carbon sequestration in soil. The ratio of carbon to nitrogen in the soil of approximately 10: 1 and Jagadammaet al. (2007) found that areas with nitrogen fertilizer (280 kg N ha-1) is the amount of carbon in the soil (75.8 Mg ha. -1) than areas without fertilizer nitrogen (68.4 Mg ha-1) by increasing the amount of nitrogen. The ratio of carbon to nitrogen in the soil decrease. (At a depth of 0-10 cm) and has resulted in more soil organic carbon.