ประวัติของ Albert Einsteinชื่อจริง

ประวัติของ Albert Einstein
ชื่อจริง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (อังกฤษ)
อัลแบร์ต ไอน์ชไตน์ (เยอรมัน)
เกิด 14 มีนาคม พ.ศ. 2422
อำเภออูล์ม จังหวัดวืร์ตแตมแบร์ก ประเทศเยอรมนี
เสียชีวิต 18 เมษายน พ.ศ. 2498
เมืองพรินสตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
งาน-อาชีพ นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์
สัญชาติ ชาวเยอรมัน (พ.ศ. 2422 - 2439 และ 2457 - 2476)
ชาวสวิส (พ.ศ. 2444 - 2498)
ชาวอเมริกัน (พ.ศ. 2483 - 2498)
เชื้อชาติ ยิว ชาวเยอรมัน
วุฒิสูงสุด ปริญญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยซูริก
เกียรติประวัติ รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ประจำปี พ.ศ. 2464

ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1879 ที่เมืองอูล์ม ประเทศเยอรมนี ไอน์สไตน์เป็นชาวเยอรมันแต่ก็มีเชื้อสายยิวด้วย บิดาของไอน์สไตน์เป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องยนต์และสารเคมี ชื่อว่า เฮอร์แมน ไอน์สไตน์ (Herman Einstein) ต่อมาเมื่อ ไอน์สไตน์อายุได้ 1 ขวบ บิดาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองมิวนิค ซึ่งคนส่วนใหญ่ในเมืองเป็นชาวยิวเช่นเดียวกับเขา ทำให้เขาไม่มีปัญหากับ เพื่อนบ้าน ไอน์สไตน์เป็นเด็กที่เงียบขรึม และมักไม่ค่อยชอบออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน จนบิดาเข้าใจว่าเขาเป็นคนโง่ จึงได้จ้างครูมาสอนพิเศษให้กับไอน์สไตน์ที่บ้าน โดยเฉพาะเรื่องการพูด ถึงแม้ว่าการพูดของเขาจะดีขึ้น แต่เขาก็ยังเงียบขรึม และ ไม่ออกไปเล่นกับเพื่อนเหมือนเช่นเคย เมื่อไอน์สไตน์อายุได้ 5 ขวบ บิดาได้ส่งเข้าโรงเรียนที่ยิมเนเซียม (Gymnasium) นักเรียน ในโรงเรียนแห่งนี้ทั้งหมดเป็นชาวเยอรมัน และนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ถึงอย่างนั้นไอน์สไตน์ก็เข้ากับเพื่อนได้ดี แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบมากที่สุดในโรงเรียนก็คือการสอนที่น่าเบื่อหน่าย ที่ใช้วิธีการท่องจำเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นวิธีการที่เขาเกลียดที่สุด ทำให้ไอน์สไตน์ไม่อยากไปโรงเรียน มารดาจึงหาวิธีแก้ปัญหาให้ไอน์สไตน์ โดยการให้เขาเรียนไวโอลินและเปียโนแทน แต่วิชาที่ ไอน์สไตน์ให้ความสนใจมากที่สุดคือ คณิตศาสตร์ โดยเฉพาะวิชาเรขาคณิตเป็นวิชาที่เขาชอบมากที่สุด ทำให้เขาละทิ้งวิชาอื่น ยกเว้นวิชาดนตรี และเรียนวิชาอื่นได้แย่มาก แม้ว่าจะทำคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดีมาก เขาก็มักจะถูกครูตำหนิอยู่เสมอ

ต่อมาไอน์สไตน์อายุ 15 ปี กิจการโรงงานของพ่อเขาแย่ลง เนื่องจากการรวมตัวของบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและเคมีหลายแห่ง ทำให้โรงงานของพ่อเขาไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ ครอบครัวของเขาต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองมิลาน (Milan) ประเทศอิตาลี (Italy) แต่ไอน์สไตน์ไม่ได้ย้ายตามไปด้วย เพราะยังติดเรียนอยู่ แต่ด้วยความที่เขาคิดถึงครอบครัวมาก หลังจากนั้นอีก 6 เดือน เขาได้วางแผน ให้แพทย์ออกใบรับรองว่าเขาป่วยเป็นโรคประสาท เพื่อให้เขาได้เดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่อิตาลี เมื่อเป็นเช่นนั้นไอน์สไตน์จึงเดินทาง ไปหาครอบครัวที่มิลาน แต่ก่อนที่เขาจะออกเดินทางเขาได้ขอใบรับรองทางการศึกษา เพื่อสะดวกในการเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนอื่น
ต่อมาไอน์สไตน์ได้สอบเข้าเรียนต่อวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ที่วิทยาลัยโปลีเทคนิค เมืองซูริค (Federal Poleytechnic of Zurich) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไอน์สไตน์สอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนดีมาก ส่วนวิชาชีววิทยาและภาษา ได้แย่มาก ทำให้ เขาไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนในวิทยาลัยแห่งนี้ ต่อมาอีก 1 สัปดาห์ เขาได้รับจดหมายจากครูใหญ่วิทยาลัยโปลีเทคนิค ได้เชิญเขา ไปพบและแนะนำให้เขาไปเรียนต่อ เพื่อให้ได้ประการศนียบัตร ซึ่งสามารถเข้าเรียนต่อวิทยาลัยโปลีเทคนิคได้โดยไม่ต้องสอบ หลัง จากนั้นเขาจึงเข้าเรียนที่วิทยาลัยของสวิตเซอร์แลนด์ ตามหลักสูตร 1 ปี ระหว่างนี้เขาได้พักอาศัยอยู่กับครูผู้หนึ่งที่สอนอยู่ในโรงเรียน แห่งนี้ ไอน์สโตน์รู้สึกชอบวิทยาลัยแห่งนี้มาก เพราะการเรียนการสอนเป็นอิสระไม่บังคับ และไม่จำกัดมากจนเกินไป แนวการสอน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน นอกจากนี้สภาพแวดล้อมในการเรียนยังดีมากดีด้วย เพราะได้มีการจัด ห้องเรียนเฉพาะสำหรับแต่ละวิชา เช่น ห้องเรียนภูมิศาสตร์ก็มีภาพแผนที่ สถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แขวนไว้ โดยรอบห้อง ส่วนห้องเคมีก็มีอุปกรณ์ในการทดลองวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย นอกจากนี้โรงเรียนแห่งนี้ยังมีนักเรียนจำนวนมาก ทำให้ ไอน์สไตน์ไม่รู้สึกว่ามีปมด้อยที่เป็นชาวยิวอีกต่อไป หลังจากที่เขาจบหลักสูตรที่โรงเรียนมัธยม 1 ปี ไอน์สไตน์ได้เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัย เทคนิคในสาขาวิชาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ตามที่ได้ตั้งใจไว้

หลังจากจบการศึกษาแล้ว ไอน์สไตน์ได้สมัครเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งเมืองซูริค แต่ได้รับ การปฏิเสธโดยไม่มีเหตุอันเหมาะสม และด้วยความเห็นใจจากศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยซูริคได้ออกใบรับรองผลการศึกษาให้เข้า จากนั้นไอน์สไตน์ได้เริ่มออกหางานทำจากประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งมีประกาศรับอาจารย์หลายแห่ง ไอน์สไตน์ได้เข้ารับการ สัมภาษณ์ แต่ปรากฏว่าไม่มีสถาบันแห่งใดรับเขาเข้าทำงานเลยแม้แต่สักที่เดียว ไอน์สไตน์เข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นชาวยิว ดังนั้นในปี ค.ศ.1901 ไอน์สไตน์ได้โอนสัญชาติเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำให้เขาหางานทำได้อยู่ดี ในที่สุดไอน์สไตน์ก็ได้งานทำเป็นครูในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แต่ทำอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนก็ถูกไล่ออก จากนั้นไอน์สไตน์จึงรับจ้างเป็น ครูสอนพิเศษตามบ้าน แต่ก็ทำได้ไม่นานก็ถูกพ่อแม่ของเด็กเลิกจ้าง เนื่องจากไอน์สไตน์ได้แสดงความผิดเห็นว่าไม่ควรให้เด็กไปเรียน ที่โรงเรียนอีก เนื่องจากครูที่โรงเรียนสอนคณิตศาสตร์ในแบบผิด ๆ ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่ไอน์สไตน์สอน แม้ว่าเด็ก ๆ จะรักและชอบ วิธีการสอนของเขาก็ตาม ไอน์สไตน์ก็ยังถุดไล่ออกอยู่ดี
ต่อมาในปี ค.ศ.1902 ไอน์สไตน์ได้เจอกับเพื่อนเก่าคนหนึ่งได้ฝากงานที่สำนักงานจดทะเบียนสิทธิบัตรที่กรุงเบิร์น ถึงแม้ว่า ไอน์สไตน์จะไม่ชอบงานที่นี่มากนัก แต่รายได้ปีละ 250 ปอนด์ ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาดีขึ้น และมีโอกาสได้พบกับสิ่ง ประดิษฐ์ที่แปลกใหม่อีกด้วย ในระหว่างที่ไอน์สไตน์ทำงานอยู่ที่นี่ เขาได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการประดิษฐ์สิ่งของเช่นกัน สิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกของไอน์สไตน์คือ เครื่องมือบันทึกการวัดกระแสไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

ประวัติของอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ชื่อจริงอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ (อังกฤษ)อัลแบร์ตไอน์ชไตน์ (เยอรมัน) เกิด 14 มีนาคมพ.ศ. 2422อำเภออูล์มจังหวัดวืร์ตแตมแบร์กประเทศเยอรมนี เสียชีวิต 18 เมษายนพ.ศ. 2498เมืองพรินสตันรัฐนิวเจอร์ซีย์ประเทศสหรัฐอเมริกา งานอาชีพนักฟิสิกส์นักคณิตศาสตร์ สัญชาติชาวเยอรมัน (พ.ศ. 2422-2439 และ 2457-2476)ชาวสวิส (พ.ศ. 2444-2498)ชาวอเมริกัน (พ.ศ. 2483-2498) เชื้อชาติยิวชาวเยอรมัน วุฒิสูงสุดปริญญาดุษฎีบัณฑิตมหาวิทยาลัยซูริก เกียรติประวัติรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปีพ.ศ. 2464 ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1879 ที่เมืองอูล์ม ประเทศเยอรมนี ไอน์สไตน์เป็นชาวเยอรมันแต่ก็มีเชื้อสายยิวด้วย บิดาของไอน์สไตน์เป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องยนต์และสารเคมี ชื่อว่า เฮอร์แมน ไอน์สไตน์ (Herman Einstein) ต่อมาเมื่อ ไอน์สไตน์อายุได้ 1 ขวบ บิดาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองมิวนิค ซึ่งคนส่วนใหญ่ในเมืองเป็นชาวยิวเช่นเดียวกับเขา ทำให้เขาไม่มีปัญหากับ เพื่อนบ้าน ไอน์สไตน์เป็นเด็กที่เงียบขรึม และมักไม่ค่อยชอบออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน จนบิดาเข้าใจว่าเขาเป็นคนโง่ จึงได้จ้างครูมาสอนพิเศษให้กับไอน์สไตน์ที่บ้าน โดยเฉพาะเรื่องการพูด ถึงแม้ว่าการพูดของเขาจะดีขึ้น แต่เขาก็ยังเงียบขรึม และ ไม่ออกไปเล่นกับเพื่อนเหมือนเช่นเคย เมื่อไอน์สไตน์อายุได้ 5 ขวบ บิดาได้ส่งเข้าโรงเรียนที่ยิมเนเซียม (Gymnasium) นักเรียน ในโรงเรียนแห่งนี้ทั้งหมดเป็นชาวเยอรมัน และนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ถึงอย่างนั้นไอน์สไตน์ก็เข้ากับเพื่อนได้ดี แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบมากที่สุดในโรงเรียนก็คือการสอนที่น่าเบื่อหน่าย ที่ใช้วิธีการท่องจำเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นวิธีการที่เขาเกลียดที่สุด ทำให้ไอน์สไตน์ไม่อยากไปโรงเรียน มารดาจึงหาวิธีแก้ปัญหาให้ไอน์สไตน์ โดยการให้เขาเรียนไวโอลินและเปียโนแทน แต่วิชาที่ ไอน์สไตน์ให้ความสนใจมากที่สุดคือ คณิตศาสตร์ โดยเฉพาะวิชาเรขาคณิตเป็นวิชาที่เขาชอบมากที่สุด ทำให้เขาละทิ้งวิชาอื่น ยกเว้นวิชาดนตรี และเรียนวิชาอื่นได้แย่มาก แม้ว่าจะทำคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดีมาก เขาก็มักจะถูกครูตำหนิอยู่เสมอ ต่อมาไอน์สไตน์อายุ 15 ปี กิจการโรงงานของพ่อเขาแย่ลง เนื่องจากการรวมตัวของบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและเคมีหลายแห่ง ทำให้โรงงานของพ่อเขาไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ ครอบครัวของเขาต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองมิลาน (Milan) ประเทศอิตาลี (Italy) แต่ไอน์สไตน์ไม่ได้ย้ายตามไปด้วย เพราะยังติดเรียนอยู่ แต่ด้วยความที่เขาคิดถึงครอบครัวมาก หลังจากนั้นอีก 6 เดือน เขาได้วางแผน ให้แพทย์ออกใบรับรองว่าเขาป่วยเป็นโรคประสาท เพื่อให้เขาได้เดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่อิตาลี เมื่อเป็นเช่นนั้นไอน์สไตน์จึงเดินทาง ไปหาครอบครัวที่มิลาน แต่ก่อนที่เขาจะออกเดินทางเขาได้ขอใบรับรองทางการศึกษา เพื่อสะดวกในการเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนอื่น ต่อมาไอน์สไตน์ได้สอบเข้าเรียนต่อวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ที่วิทยาลัยโปลีเทคนิค เมืองซูริค (Federal Poleytechnic of Zurich) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไอน์สไตน์สอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนดีมาก ส่วนวิชาชีววิทยาและภาษา ได้แย่มาก ทำให้ เขาไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนในวิทยาลัยแห่งนี้ ต่อมาอีก 1 สัปดาห์ เขาได้รับจดหมายจากครูใหญ่วิทยาลัยโปลีเทคนิค ได้เชิญเขา ไปพบและแนะนำให้เขาไปเรียนต่อ เพื่อให้ได้ประการศนียบัตร ซึ่งสามารถเข้าเรียนต่อวิทยาลัยโปลีเทคนิคได้โดยไม่ต้องสอบ หลัง จากนั้นเขาจึงเข้าเรียนที่วิทยาลัยของสวิตเซอร์แลนด์ ตามหลักสูตร 1 ปี ระหว่างนี้เขาได้พักอาศัยอยู่กับครูผู้หนึ่งที่สอนอยู่ในโรงเรียน แห่งนี้ ไอน์สโตน์รู้สึกชอบวิทยาลัยแห่งนี้มาก เพราะการเรียนการสอนเป็นอิสระไม่บังคับ และไม่จำกัดมากจนเกินไป แนวการสอน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน นอกจากนี้สภาพแวดล้อมในการเรียนยังดีมากดีด้วย เพราะได้มีการจัด ห้องเรียนเฉพาะสำหรับแต่ละวิชา เช่น ห้องเรียนภูมิศาสตร์ก็มีภาพแผนที่ สถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แขวนไว้ โดยรอบห้อง ส่วนห้องเคมีก็มีอุปกรณ์ในการทดลองวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย นอกจากนี้โรงเรียนแห่งนี้ยังมีนักเรียนจำนวนมาก ทำให้ ไอน์สไตน์ไม่รู้สึกว่ามีปมด้อยที่เป็นชาวยิวอีกต่อไป หลังจากที่เขาจบหลักสูตรที่โรงเรียนมัธยม 1 ปี ไอน์สไตน์ได้เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัย เทคนิคในสาขาวิชาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ตามที่ได้ตั้งใจไว้ หลังจากจบการศึกษาแล้ว ไอน์สไตน์ได้สมัครเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งเมืองซูริค แต่ได้รับ การปฏิเสธโดยไม่มีเหตุอันเหมาะสม และด้วยความเห็นใจจากศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยซูริคได้ออกใบรับรองผลการศึกษาให้เข้า จากนั้นไอน์สไตน์ได้เริ่มออกหางานทำจากประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งมีประกาศรับอาจารย์หลายแห่ง ไอน์สไตน์ได้เข้ารับการ สัมภาษณ์ แต่ปรากฏว่าไม่มีสถาบันแห่งใดรับเขาเข้าทำงานเลยแม้แต่สักที่เดียว ไอน์สไตน์เข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นชาวยิว ดังนั้นในปี ค.ศ.1901 ไอน์สไตน์ได้โอนสัญชาติเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำให้เขาหางานทำได้อยู่ดี ในที่สุดไอน์สไตน์ก็ได้งานทำเป็นครูในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แต่ทำอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนก็ถูกไล่ออก จากนั้นไอน์สไตน์จึงรับจ้างเป็น ครูสอนพิเศษตามบ้าน แต่ก็ทำได้ไม่นานก็ถูกพ่อแม่ของเด็กเลิกจ้าง เนื่องจากไอน์สไตน์ได้แสดงความผิดเห็นว่าไม่ควรให้เด็กไปเรียน ที่โรงเรียนอีก เนื่องจากครูที่โรงเรียนสอนคณิตศาสตร์ในแบบผิด ๆ ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่ไอน์สไตน์สอน แม้ว่าเด็ก ๆ จะรักและชอบ วิธีการสอนของเขาก็ตาม ไอน์สไตน์ก็ยังถุดไล่ออกอยู่ดี ต่อมาในปี ค.ศ.1902 ไอน์สไตน์ได้เจอกับเพื่อนเก่าคนหนึ่งได้ฝากงานที่สำนักงานจดทะเบียนสิทธิบัตรที่กรุงเบิร์น ถึงแม้ว่า ไอน์สไตน์จะไม่ชอบงานที่นี่มากนัก แต่รายได้ปีละ 250 ปอนด์ ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาดีขึ้น และมีโอกาสได้พบกับสิ่ง ประดิษฐ์ที่แปลกใหม่อีกด้วย ในระหว่างที่ไอน์สไตน์ทำงานอยู่ที่นี่ เขาได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการประดิษฐ์สิ่งของเช่นกัน สิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกของไอน์สไตน์คือ เครื่องมือบันทึกการวัดกระแสไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

ประวัติของ Albert Einstein
ชื่อจริงอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ (อังกฤษ)
อัลแบร์ตไอน์ชไตน์ (เยอรมัน)
เกิด 14 มีนาคม พ.ศ. 2422
อำเภออูล์มจังหวัดวืร์ตแตมแบร์กประเทศเยอรมนี
เสียชีวิต 18 เมษายน พ.ศ. 2498
เมืองพรินสตันรัฐนิวเจอร์ซีย์ประเทศสหรัฐอเมริกา
งาน - อาชีพนักฟิสิกส์นักคณิตศาสตร์
ชาวเยอรมันสัญชาติ (พ.ศ. 2422-2439 และ 2457-2476)
ชาวสวิส (พ.ศ. 2444-2498)
ชาวอเมริกัน (พ ศ. 2483 -. 2498)
เชื้อชาติยิวชาวเยอรมัน
วุฒิปริญญาดุษฎีบัณฑิตสูงสุดมหาวิทยาลัยซูริก
เกียรติประวัติรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี พ.ศ. 2464 ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1879 ที่เมืองอูล์มประเทศเยอรมนี ชื่อว่าเฮอร์แมนไอน์สไตน์ (Herman Einstein) ต่อมาเมื่อไอน์สไตน์อายุได้ 1 ขวบบิดาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองมิวนิค ทำให้เขาไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้านไอน์สไตน์เป็นเด็กที่เงียบขรึม ๆ ในวัยเดียวกันจนบิดาเข้าใจว่าเขาเป็นคนโง่ โดยเฉพาะเรื่องการพูดถึงแม้ว่าการพูดของเขาจะดีขึ้น แต่เขาก็ยังเงียบขรึมและ เมื่อไอน์สไตน์อายุได้ 5 ขวบ (โรงยิม) นักเรียน และนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ใช้วิธีการท่องจำเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นวิธีการที่เขาเกลียดที่สุดทำให้ไอน์สไตน์ไม่อยากไปโรงเรียน แต่วิชาที่ไอน์สไตน์ให้ความสนใจมากที่สุดคือคณิตศาสตร์ ทำให้เขาละทิ้งวิชาอื่นยกเว้นวิชาดนตรีและเรียนวิชาอื่นได้แย่มาก 15 ปีกิจการโรงงานของพ่อเขาแย่ลง (มิลาน) ประเทศอิตาลี (Italy) แต่ไอน์สไตน์ไม่ได้ย้ายตามไปด้วยเพราะยังติดเรียนอยู่ หลังจากนั้นอีก 6 เดือนเขาได้วางแผน ไปหาครอบครัวที่มิลาน ที่วิทยาลัยโปลีเทคนิคเมืองซูริค (สหรัฐ Poleytechnic ซูริก) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนวิชาชีววิทยาและภาษาได้แย่มากทำให้ ต่อมาอีก 1 สัปดาห์ ได้เชิญเขาไปพบและแนะนำให้เขาไปเรียนต่อเพื่อให้ได้ประการศนียบัตร หลัง ตามหลักสูตร 1 ปี แห่งนี้ และไม่ จำกัด มากจนเกินไปแนวการสอน เพราะได้มีการจัดห้องเรียนเฉพาะสำหรับแต่ละวิชาเช่นห้องเรียนภูมิศาสตร์ก็มีภาพแผนที่สถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศแขวนไว้โดยรอบห้อง ทำให้ 1 ปี แต่ได้รับการปฏิเสธโดยไม่มีเหตุอันเหมาะสม ไอน์สไตน์ได้เข้ารับการสัมภาษณ์ ดังนั้นในปี ค.ศ. 1901 จากนั้นไอน์สไตน์จึงรับจ้างเป็นครูสอนพิเศษตามบ้าน ที่โรงเรียนอีก ๆ ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่ไอน์สไตน์สอนแม้ว่าเด็ก ๆ จะรักและชอบวิธีการสอนของเขาก็ตาม ค.ศ. 1902 ถึงแม้ว่าไอน์สไตน์จะไม่ชอบงานที่นี่มากนัก แต่รายได้ปีละ 250 ปอนด์ และมีโอกาสได้พบกับสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่อีกด้วย เครื่องมือบันทึกการวัดกระแสไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The history of the Albert Einstein
first name Albert Einstein (England)
Albert 1er ein customers (Germany)
born 14 March 2422
District, Ulm The province got art but Berg, Germany
died 18 April 2498
.City, New Jersey, and the United States print stun
- professional physicists, mathematicians
nationality German (the 2422 - 2439 2457 - and 2476)
Swiss (the 2444 - 2498)
American (the 2483 - 2498 race, Jews, Germans)

.The highest degree of Ph.D., Zurich University
honors the Nobel Prize in physics 2007 2464

Einstein was born on the 14 March. Ad1879 city of Ulm, Germany, Einstein is German but Jewish descent. The father of Einstein owned shops and chemical engine named Herman Einstein Stein (Herman Einstein) later on, Einstein was 1.His father moved to Munich. Which most people in the city's Jewish as well as him, he doesn't have a problem with the neighbor ein Stein was silent. And often don't like to go out and play with friends in the same age.It has hired a tutor to Einstein at home, especially in speaking, though the speech he will be better, but he was sober. Don't go out to play with my friends, as always, when Einstein was 5 years old.(Gymnasium) the students in this school are all German and Roman Catholic Christian denomination. That Einstein's friends as well. But what he doesn't like most in school teaching is tedious.Which is how he hated the most. The Einstein didn't want to go to school. Mothers can get the solution to Einstein. By providing he studied violin and piano, but subjects. Einstein pay most attention is math.He abandoned the other subjects except music courses and learning the other is bad. Although the score math very well. He was always being teachers blame
.
.Later, Einstein was 15 years. Factory his father down. Due to the merger of the companies producing electrical and chemical in many places. The factory's father can't sell goods. His family moved to the city of Milan (Milan).(Italy) but Einstein did not move along, because still in school. But they missed my family very 6 after another month. He planned to medical certification that he sick with nerves.When so Einstein went to the family Milan. But before he could leave his certification in education. To study in school, other
.Later, Einstein has entered the study in mathematics and physics. At the Polytechnic College, city of Zurich (Federal Poleytechnic of Zurich). Switzerland Einstein mathematics examination score very well, the biology and English is bad.He was not selected to attend the college, then another 1 week. He received a letter from the principal Polytechnic College has invited him to go and advised him to go to college. To obtain the certificate.)After that he went to College of Switzerland in the curriculum 1 years. During this time he was living with a teacher who taught at the school. One is ein stone like the college.And creating too much approach encourages the students to learn according to their capabilities. The learning environment is also very good, because the class specific for each subject, such asVarious places, both domestic and foreign, hung by around the room, the room is a chemical equipments in modern science experiment The school also has many students.After he graduated from high school 1 years. Einstein to study in college. Technique in the Faculty of mathematics and physics as intended
.
.After graduation. Einstein had to join in the assistant professor at the University of เมืองซูริค, but has been rejected without proper reasonThen the Einstein started out looking for a job from the announcement in the newspaper which has to announce the teacher, many of Einstein to attend the interview. However, it appears that no institution of any hired him, not even a single.So in the year.Prof.1901 Einstein has is from Switzerland, naturalization But even that can't make him a job. Finally, Einstein had jobs as teachers in high school. But it was only a few months was expelled.Private tutor. But it could soon be the parents of the child are fired. Since Einstein has shown that should not be given to children to the fault class in the school. Because the teachers at the school mathematics in the wrong way.Although kids will love and like his teaching methods. Einstein was right and fired anyway
.Later in the year.1902 Einstein met with an old friend leave job at the patent office in Bern. Although Einstein won't like this job very much. But the revenue per year 250 pounds, which make his life better.The invention of exotic. During the Einstein working here. He took part with the invention of things as well. The invention of the first Einstein. Save current measuring tool
.

.