Kitab Quran tidak memberikan butir-butir tentang kehidupan Ishak HA keperluan mereka ringkasan Alkitab sebagai pembekal yang boleh dipercayai daripada Al-Quran telah berkata, apabila Nabi Muhammad Ibn Ibraheem rasa yang kehidupan mereka berhampiran akhir saya. Beliau ingin melihat Israel HA kadai perkahwinan. Dia tidak mahu orang-orang Israel, kataeng HA dengan gadis-gadis yang sembah patung Ka Na, jadi dia menghantar salah satu daripada hamba setia kepada laporan HA Iraq, untuk memilih pemilik. Young, Isaac HA., yang digunakan untuk memilih. Seorang wanita bernama RI kha Benedict Benedict penerbangan El Al Nui Te Su na Lahore sebagai salah satu daripada saudara-saudara Nabi Muhammad Ibn Ibraheem. Issachar HA kadai berkahwin dengan gadis ini dan beliau juga mempunyai sepasang Kembar di Timur Al (Sao), dan kup (beratus-ratus penyokong)... Tetapi apabila dua bersaudara membesar Dua bersaudara, Kembar berlaku dari. Saya tidak suka itu ya e Sao kup disayangi oleh bapa dan menerima satu limpah kurnia dari Allah kepada Nabi Muhammad telah dilantik sebagai. Kuat perasaan ini buruk sehingga e-São mengugut untuk membunuh saudaranya. Jadi dengan rasa takut, ia akan melarikan diri dari hutan belantara kup alamat mereka. Rakyat Alkitab berkata apabila Ishak HA kami, dia berkahwin dengan 40 tahun untuk rumah Martin Benedict penerbangan Su El kha. Manakala bapanya hidup. Mereka telah berkata bahawa dia tidak mampu jadi. Israel telah berusaha begitu kuat terhadap Hamilton, kachueng Allah selepas bahawa dia sedang mengandung. Dia ada twin boys, kelahiran bola. Nama pertama twins e Sao, yang orang Arab dipanggil Al Timur. Seterusnya kedua Kembar bilik bahagian ruang nama yang bermaksud Israel kup (sebagai orang-orang Israel). ชาวคัมภีร์อ้างว่าเมื่ออิสฮากแก่ตัวลงและสายตามองไม่ค่อยเห็น วันหนึ่ง เขามีความต้องการอาหาร ดังนั้น เขาจึงขอให้อีเซาไปล่าสัตย์เพื่อนำมาทำอาหาร อีเซาได้ขอเขาวิงวอนขอความจำเริญให้แก่อาหารและขอพรให้แก่เขา หลังจากนั้น อีเซานักล่าก็ออกไปล่าเนื้อให้พ่อ เมื่อรีเบคาห์ได้ยินเรื่องนี้ นางได้สั่งยะกู๊บลูกชายของนางให้เชือดแพะตัวที่ดีที่สุดสองตัวและนำไปปรุง อาหารที่พ่อชอบและนำไปให้พ่อก่อนที่พี่ชายของเขาจะกลับมา นางได้ให้ยะกู๊บใส่เสื้อผ้าของพี่ชายและเอาหนังแพะใส่ไว้บนแขนทั้งสองข้าง และคอ เพราะอีเซาเป็นคนที่มีขนดกซึ่งผิดกับยะกู๊บ เมื่อเขาได้เข้ามาหาพ่อพร้อมกับอาหาร พ่อของเขาได้ถามว่า “เจ้าเป็นใคร?” ยะกู๊บได้ตอบว่า “ฉันเป็นลูกชายของพ่อ” เมื่อพ่อของเขากินอาหารอิ่มแล้วก็วิงวอนให้ลูกชายของเขาได้เป็นพี่ชายที่ได้ รับพระพรมากกว่าพี่น้องคนใดและมีอำนาจเหนือผู้คนทั้งหมด และได้วิงวอนต่ออัลลอฮฺให้ปกป้องรักษาเขาและลูกหลานของเขาด้วย เมื่อยะกู๊บได้ออกไปจากพ่อแล้ว อีเซาพี่ชายของเขาซึ่งออกไปปฏิบัติหน้าที่ที่พ่อได้มอบให้ก็เข้ามา อิสฮากได้ถามเขาว่า “นี่อะไรลูก?” เขาได้ตอบว่า “นี่คืออาหารที่พ่อชอบไงล่ะ” อิสฮากจึงได้กล่าวว่า “เมื่อก่อนหน้านี้เจ้าได้นำมาให้พ่อและขอให้พ่อขอพรให้เจ้าแล้วไม่ใช่หรือ ?” อีเซาตอบว่า “เปล่าเลย ฉันสาบานได้ว่าฉันไม่ได้ทำ” และเขาก็รู้ว่าน้องชายของเขาได้ชิงตัดหน้าเข้ามาเสียก่อนแล้ว เขาจึงรู้สึกท้อใจเป็นอย่างมาก ชาวคัมภีร์ได้กล่าวว่าอีเซาขู่จะฆ่าน้องชายของเขาเมื่อพ่อของ เขาเสียชีวิตพวกเขายังได้กล่าวด้วยว่าอีเซาได้ขอให้พ่อของเขาวิงวอนต่ออัล ลอฮฺให้พระองค์ทรงทำให้โลกนี้เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับลูกหลานของเขาและเพิ่ม พูนปัจจัยและผลไม้ให้แก่เขา ชาวคัมภีร์ได้กล่าวว่าอีเซาขู่จะฆ่าน้องชายของเขาเมื่อพ่อของ เขาเสียชีวิตพวกเขายังได้กล่าวด้วยว่าอีเซาได้ขอให้พ่อของเขาวิงวอนต่ออัล ลอฮฺให้พระองค์ทรงทำให้โลกนี้เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับลูกหลานของเขาและเพิ่ม พูนปัจจัยและผลไม้ให้แก่เขา เมื่อแม่ของเขารู้ว่าอีเซาขู่จะฆ่ายะกู๊บน้องชาย นางได้สั่งยะกู๊บไปหาละบานน้องชายของนางในฮารานและเชื่อฟังเขาจนกว่าพี่ชาย ของเขาจะหายโกรธ และสั่งให้เขาแต่งงานกับลูกสาวคนหนึ่งของละบาน นางได้บอกอิสฮากสามีของนางให้สั่งเขาให้ทำตามคำแนะนำนั้นและวิงวอนให้แก่เขา ซึ่งอิสฮากก็ทำตาม
ยะกู๊บได้ออกจากครอบครัวของเขาไป เมื่อตกกลางคืน เขาก็ได้พบสถานที่พักผ่อนแห่งหนึ่ง เขาได้เอาหินมาหนุนหัวและนอนหลับไป เขาได้ฝันเห็นมีบันไดจากสวรรค์ลงมายังโลกโดยมีมลาอิก๊ะฮฺกำลังขึ้นลงอยู่ และพระเจ้าได้ตรัสกับเขาว่า “ฉันจะให้พรเจ้าและลูกหลานของเจ้าและทำให้แผ่นดินนี้เป็นของเจ้าและของผู้ ที่จะมาหลังจากเจ้า”
เมื่อเขาตื่นขึ้น เขามีความสุขจากสิ่งที่เขาเห็นในความฝันและสาบานว่าถ้าเขากลับมาถึงครอบครัว ของเขาอย่างปล่อดภัย เขาจะสร้างวิหารแห่งหนึ่งที่นี่เพื่ออัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่ นอกจากนี้แล้วเขายังได้สาบานที่จะให้ทรัพย์สินหนึ่งในสิบของเขาเพื่ออัลลอฮฺ เขาเทน้ำมันลงบนก้อนหินเพื่อเป็นสัญลักษณ์และเรียกสถานที่แห่งนั้นว่า “เบเธล” (บ้านของอัยล์ส) ซึ่งหมายถึง “บ้านของอัลลอฮฺ” ต่อมาสถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของเมืองเยรูซาเล็ม
ชาวคัมภีร์ยังได้กล่าวอีกว่าเมื่อยะกู๊บมาหาลุงในแผ่นดินฮาราน ลุงของเขามีลูกสาวสองคน คนโตชื่อลีอาห์ (เลีย) และคนเล็กชื่อราเชล (รอฮีล) แต่คนน้องเป็นคนที่ดีกว่าและน่ารักกว่า ลุงของเขายินดีที่จะยกลูกสาวให้แต่งงานกับยะกู๊บโดยมีเงื่อนไขว่ายะกู๊บต้อง เลี้ยงดูฝูงแกะของเขาเป็นเวลาเจ็ดปี
หลังจากนั้นระยะหนึ่ง ลุงของเขาก็เตรียมจัดงานเลี้ยงและรวมคนเพื่องานฉลองเขาได้ให้ลีอาห์แต่งงาน กับยะกู๊บในตอนกลางคือ แต่ลีอาห์สายตาไม่ดีและหน้าต่าน่าเกลียด เมื่อถึงรุ่งเช้า ยะกู๊บก็พบว่าภรรยาของเขาคือลีอาห์ เขาจึงได้ตำหนิลุงของเขาว่า “ลุงหลอกฉัน ฉันหมั้นหมายกับราเชล แต่ลุงแต่งงานฉันกับลีอาห์” ลุงของเขาจึงกล่าวว่า “มันไม่ใช่ประเพณีปฏิบัติของเราที่จะแต่งงานลูกสาวคนรองก่อนคนแรกอย่างไรก็ ตาม ถ้าหากเจ้ารักน้องสาวของนางก็ทำงานต่ออีกเจ็ดปีและฉันจะแต่งงานเจ้าทั้งสอง”
ยะกู๊บทำงานต่ออีกเป็นเวลาเจ็ดปีและหลังจากนั้นก็แต่งงานกับรา เชล ในคัมภีร์เตารอตกล่าวว่าในตอนนั้น การแต่งงานกับผู้หญิงสองคนที่เป็นพี่น้องกันเป็นที่ยอมรับได้ ละบานได้ให้บ่าวหญิงแก่ลูกสาวแต่ละคน บ่าวหญิงของลีอาห์ชื่อซิลปาห์และบ่าวหญิงของราเชลชื่อบิลฮา
อัลลอฮฺชดเชยความด้อยกว่าของลีอาห์ด้วยการให้นางมีบุตรชายหลายคน คนแรกชื่อ (รอบีล) หลังจากนั้นก็มีซินเมโอน (ซ
การแปล กรุณารอสักครู่..
