กระถิน ชื่อสามัญ White Popinac, Lea

กระถิน ชื่อสามัญ White Popinac, Lead Tree, Horse tamarind, Leucaena, lpil-lpi กระถิน ชื่อวิทยาศาสตร์ Leucaena leucocephala (Lamk.) de Wit จัดอยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE หรือ FABACEAE และอยู่ในวงศ์ย่อย MIMOSOIDEAE, เช่นเดียวกับกระถินณรงค์ กระถินเทพา ชะเอมไทย ผักกระเฉด ต้นแดง ไมยราบ สะตอ และเหรียง
ผักกระถิน ยังมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆ อีกเช่น กะเส็ดโคก กะเส็ดบก (ราชบุรี), กะตง กระถิน กระถินน้อย กระถินบ้าน ผักก้านถิน (สมุทรสงคราม), ผักก้านถิน (เชียงใหม่), ผักหนองบก (ภาคเหนือ), กระถินไทย กระถินบ้าน กระถินดอกขาว กระถินหัวหงอก (ภาคกลาง), ตอเบา สะตอเทศ สะตอบ้าน (ภาคใต้), กระถินยักษ์ เป็นต้น[1],[2] และมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเขตร้อนและในหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย เนื่องจากต้นกระถินเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่ายจึงพบได้ทั่วไป[3],[8]
ลักษณะของกระถิน
ต้นกระถิน จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก มีขนาดความสูงประมาณ 3-10 เมตร ไม่ผลัดใบ ลักษณะทรงต้นเป็นเรือนยอดรูปไข่หรือกลม เปลือกต้นมีสีเทา และมีปุ่มนูนของรอยกิ่งก้านที่หลุดร่วงไป และขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยหรือในดินเหนียวอุ้มน้ำได้ดี
สรรพคุณของกระถิน
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ (ราก, เมล็ดแก่)
กระถินมีฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูก (ยอดอ่อน,ฝักอ่อน,เมล็ด)
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (ยอดอ่อน)
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ยอดอ่อน)
กระถินอุดมไปด้วยวิตามินเอ จึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้ (ยอดอ่อน)
ช่วยบำรุงหัวใจ (ฝักอ่อน,ยอดอ่อน)
ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ (เมล็ดแก่)
ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ฝักอ่อน,ยอดอ่อน)
ช่วยแก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ (ฝักอ่อน,ยอดอ่อน)
ช่วยแก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (ดอก)
ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ฝัก)
เมล็ด กระถิน สรรพคุณใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม (Ascariasis) สำหรับผู้ใหญ่ให้ใช้ครั้งละ 25-50 กรัม ส่วนเด็กให้ใช้ 5-20 กรัม ต่อวัน โดยใช้รับประทานในช่วงตอนท้องว่างในตอนเช้าประมาณ 3-5 วัน
สรรพคุณกระถิน ช่วยขับลมในลำไส้ (ราก, เมล็ดแก่)
ช่วยขับระดูขาวของสตรี (ราก เมล็ดแก่)
ช่วยลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร (ยอดอ่อน,ฝักอ่อน,เมล็ด)
ดอกกระถิน สรรพคุณช่วยบำรุงตับ (ดอก) ช่วยบำรุงไตและตับ (เมล็ดแก่)
ฝักกระถินเป็นยาฝาดสมาน ใช้ห้ามเลือด (ฝัก,เปลือก)
หมายเหตุ : ใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกมีรสมัน เมล็ดอ่อนมีรสมันอมหวานเล็กน้อย รากมีรสจืดเฝื่อน ส่วนเปลือกมีรสฝาด

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Babul common name White Popinac, Lead Tree, Leucaena, Acacia Horse tamarind, Leucaena leucocephala, scientific name lpil-lpi (Lamk.) de Wit LEGUMINOSAE or FABACEAE subfamily classified and placed in the subfamily MIMOSOIDEAE, as well as Acacia Acacia phakkrachet Thailand started campaigning thepha, Mimosa, red licorice and bed sataw.ผักกระถิน ยังมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆ อีกเช่น กะเส็ดโคก กะเส็ดบก (ราชบุรี), กะตง กระถิน กระถินน้อย กระถินบ้าน ผักก้านถิน (สมุทรสงคราม), ผักก้านถิน (เชียงใหม่), ผักหนองบก (ภาคเหนือ), กระถินไทย กระถินบ้าน กระถินดอกขาว กระถินหัวหงอก (ภาคกลาง), ตอเบา สะตอเทศ สะตอบ้าน (ภาคใต้), กระถินยักษ์ เป็นต้น[1],[2] และมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเขตร้อนและในหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย เนื่องจากต้นกระถินเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่ายจึงพบได้ทั่วไป[3],[8]ลักษณะของกระถินต้นกระถิน จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก มีขนาดความสูงประมาณ 3-10 เมตร ไม่ผลัดใบ ลักษณะทรงต้นเป็นเรือนยอดรูปไข่หรือกลม เปลือกต้นมีสีเทา และมีปุ่มนูนของรอยกิ่งก้านที่หลุดร่วงไป และขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยหรือในดินเหนียวอุ้มน้ำได้ดีสรรพคุณของกระถินใช้เป็นยาอายุวัฒนะ (ราก, เมล็ดแก่)กระถินมีฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูก (ยอดอ่อน,ฝักอ่อน,เมล็ด)ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (ยอดอ่อน)ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ยอดอ่อน)กระถินอุดมไปด้วยวิตามินเอ จึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้ (ยอดอ่อน)ช่วยบำรุงหัวใจ (ฝักอ่อน,ยอดอ่อน)ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ (เมล็ดแก่)ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ฝักอ่อน,ยอดอ่อน)ช่วยแก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ (ฝักอ่อน,ยอดอ่อน)ช่วยแก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (ดอก)ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ฝัก)เมล็ด กระถิน สรรพคุณใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม (Ascariasis) สำหรับผู้ใหญ่ให้ใช้ครั้งละ 25-50 กรัม ส่วนเด็กให้ใช้ 5-20 กรัม ต่อวัน โดยใช้รับประทานในช่วงตอนท้องว่างในตอนเช้าประมาณ 3-5 วัน สรรพคุณกระถิน ช่วยขับลมในลำไส้ (ราก, เมล็ดแก่)ช่วยขับระดูขาวของสตรี (ราก เมล็ดแก่)ช่วยลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร (ยอดอ่อน,ฝักอ่อน,เมล็ด)ดอกกระถิน สรรพคุณช่วยบำรุงตับ (ดอก) ช่วยบำรุงไตและตับ (เมล็ดแก่)ฝักกระถินเป็นยาฝาดสมาน ใช้ห้ามเลือด (ฝัก,เปลือก)หมายเหตุ : ใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกมีรสมัน เมล็ดอ่อนมีรสมันอมหวานเล็กน้อย รากมีรสจืดเฝื่อน ส่วนเปลือกมีรสฝาด