The mik Thermo properties (Thermodynamic properties).Important in the analysis of thermal system is to provide the properties defined by the mik Thermo dynamic boundary (boundary) refers to the characteristic of an object or substance that can measure such size out temperature, pressure and density and kantha work section features.The heat conditions We can measure it in the form of changes to the property, but not the property itself, or in other words. What features are available in the "talk" while at work and heat transfer is what "action" until a change occurs to the system properties. We can measure the size of the task and the heat from the boundary (boundary) of the system and the amount of heat energy that is more or less depending on the change of the property. เนื่องจากเทอร์โมไดนามิคส์มีศูนย์กลางอยู่ที่เรื่องพลังงาน คุณสมบัติทางเทอร์โมไดนามิคส์ทุกตัวจึงเกี่ยวพันอยู่กับพลังงาน และสภาวะ (state) ทางเทอร์โมไดนามิคส์ของระบบจะถูกระบุได้ด้วยค่าของคุณสมบัติ ในสภาพปกติทั่วไป เราสามารถระบุสภาวะของระบบได้ด้วยคุณสมบัติ 2 ตัวที่เป็นอิสระต่อกัน เช่น ไอน้าที่อุณหภูมิ 125 ความดันบรรยากาศ แต่ในสภาพที่ระบบมีมากกว่า 1 สถานะ เช่น อากาศแห้งและไอน้ำ การจะระบุสภาวะได้อาจจะต้องทราบคุณสมบัติถึง 3 ตัว ถ้าเราสามารถระบุสภาวะของสารหรือระบบได้แล้ว ก็จะสามารถทราบค่าของคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันได้The mik Thermo properties that we are interested in are discussed here include temperature, pressure, volume, density, specific heat (specific volume), specifications (specific heat), Tal (enthalpy) entity entropy (entropy) and the status property of the liquid and steam (vapor-liquid state of property).Temperature (Temperature: t) The temperature of the substance to be an indicator of thermal conditions and the ability to exchange energy with the substance when taken. Where is the transfer of energy is higher than the temperature into substance at the S.I. Unit of temperature is lower than in the us use the degree Celsius (° C) as the reference level by temperature measurement freezing point of water (0° C) and boiling point of water (100° C).อุณหภูมิสัมบูรณ์ ( Temperature: T) เป็นตัวเลขบอกองศาที่อยู่เหนือจุดศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero) แสดงค่าด้วยเคลวิน (K) โดยที่ T = 1๐C + 273 ดังนั้น ความแตกต่างอุณหภูมิของทั้ง 2 สเกลนี้ จึงมีค่าเท่ากัน ซึ่งสามารถใช้แทนกันได้ความดัน (Pressure: P) เป็นแรงตั้งฉากที่ของไหลกระทำต่อ 1 หน่วยพื้นที่ ที่ต้านทิศทางแรงนั้น ความดันสมบูรณ์ เป็นการวัดความดันเหนือจุดศูนย์ ความดันเกจ เป็นการวัดความดันที่สูงกว่าความดันบรรยากาศ หน่วยที่ใช้ในการวัดความดันในระบบ คือ นิวตันต่อตารางเมตร (N/m2) หรือ เรียกว่า ปาสคาล (Pascal, Pa) นิวตัน เป็นหน่วยที่ใช้วัดแรง (N) ความดันบรรยากาศมาตรฐาน มีค่า = 101.3 kPa (14.7 psia) เครื่องมือที่ใช้วัดความดัน ได้แก่ pressure gauges และ manometerความหนาแนน่ และปริมาตรจำเพาะ (Density and specific volume: , v )ความหนาแน่นของของไหล หาได้โดย นำมวลหารด้วยปริมาตร ในขณะที่ปริมาตรจำเพาะ หาได้โดยนำปริมาตรหารด้วยมวล ดังนั้น ความหนาแน่น และปริมาตรจำเพาะ จึงเป็นปฏิภาค กลับซึ่งกันและกัน ความหนาแน่นของอากาศที่ความดันบรรยากาศมาตรฐาน และ 25๐C มีค่าโดยประมาณ เท่ากับ 1.2 kg/m3ความร้อนจำเพาะ (Specific heat: Cp)
ความร้อนจำเพาะของสาร หมายถึง ปริมาณของพลังงานที่ต้องการในการทำให้ 1 หน่วยมวลของตัวมันมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 หน่วยองศา (1 K) ความร้อนจำเพาะพื้นฐานที่ใช้กันมี 2 ตัว ความร้อนจำเพาะที่ปริมาตรคงที่ (Specific heat at content volume, Cv) และความร้อนจำเพาะที่ความดันคงที่ (Specific heat at content pressure, Cp) ซึ่งตัวหลังจะถูกกล่าวถึงมากกว่า เนื่องจากมันสามารถ นำไปใช้กับกระบวนการต่าง ๆ เป็นที่เกิดขึ้นในการทำความเย็น และการปรับอากาศ
เอนทัลปี (Enthalpy: h)
ถ้าในขบวนการความดันคงที่ดังตัวอย่างที่ 1.2 ไม่มีงานเกิดขึ้น ขนาดของความร้อนที่เพิ่ม หรือที่ขจัดออกต่อหน่วยมวล จะแทนการเปลี่ยนแปลงเอนทัลปีของสาร เราสามารถหาค่าเอนทัลปีของสารหลายตัวได้จากตาราง และแผนภูมิ (charts) ซึ่งค่า เอนทัลปี เหล่านี้ จะมีพื้นฐานอ้างอิงมาจาก การเลือกระดับที่กำหนด (datum plane) ให้โดยไม่มีเกณฑ์ เช่น datum plane ของน้ำและไอน้ำนั้น เอนทัลปี จะมีค่าศูนย์ (0) สำหรับที่ 0๐C โดยพื้นฐานอ้างอิงตัวนี้ เอนทัลปี ของน้ำที่ 100๐C จะมีค่า 419.06 kJ/kg และไอน้ำที่ 100๐C จะมีค่า 2676 kJ/kg
เอนโทรปี (Entropy: s)
แม้ว่าว่าจะเป็นการยากมากในการนิยามคำว่า เอนโทรปี เนื่องจากมันต้องอาศัยคำอธิบายสำคัญหลายอย่างทั้งในด้านเทคนิค และปรัชญา แต่เราก็จะใช้คุณสมบัติตัวนี้ในการระบุ และกำหนดพฤติกรรมของสารเช่นกัน เราสามารถอ่านค่า เอนโทรปี ได้จากตารางหรือ แผนภูมิของคุณสมบัติ เช่นเดียวกับ เอนทัลปี ในที่นี้จะกล่าวถึงสมติฐานที่มีส่วนเกี่ยวพันกับคุณสมบัติตัวนี้ 2 ข้อ ด้วย กันคือ 1. ถ้าแก๊ส หรือ ไอ ถูกอัด (compressed) หรือขยายตัว (expanded) แบบไม่มีความเสียดทานโดยไม่มีการเพิ่มหรือขจัดความร้อนระหว่างขบวนการแล้ว ค่า เอนโทรปี ของสารจะถือว่าคงที่ 2. ตามกระขบวนการในข้อ 1 การเปลี่ยนแปลงของเอนทัลปี ที่เกิดขึ้นจะแสดงปริมาณของงาน (work) ต่อหน่วยมวล ที่ต้องการให้การอัด หรือที่ได้ออกมาจากการขยายตัว เป็นไปได้ว่า การใช้งานเกี่ยวกับ เอ็นโทรปี ที่มากที่สุด ก็คือ การอ่านค่าตามเส้นเอนโทรปีคงที่ในกราฟ เพื่อคำนวณงานของการอัด ในระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor-compression refrigeration cycles)
คุณสมบัติของของเหลว – ไอ (Liquid –vapor properties)
ระบบทางความร้อน ส่วนมากแล้ว สารที่ไหลเวียนในวัฏจักรจะเปลี่ยนสภาวะไปมาระหว่างสถานะที่เป็นของเหลว และไอ ความดัน อุณหภูมิ และ เอนทัลปี จะเป็นคุณสมบัติที่เป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณสมบัติเหล่านี้ จะแสดงในตาราง หรือบนแผนภูมิต่าง ๆ เช่น แผนภูมิ ความดัน และ เอน
การแปล กรุณารอสักครู่..