ขนมโมจิเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของชาวญี่ปุ่น หากในประเทศไทยเราจะเห็นแหล่งทำท การแปล - ขนมโมจิเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของชาวญี่ปุ่น หากในประเทศไทยเราจะเห็นแหล่งทำท อังกฤษ วิธีการพูด

ขนมโมจิเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของชาวญี่ป

ขนมโมจิเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของชาวญี่ปุ่น หากในประเทศไทยเราจะเห็นแหล่งทำที่คนสุพรรณรู้จักคือที่จังหวัดนครสวรรค์ เดี๋ยวนี้จะมีขายกันตามปั้มนำมันทั่วทุกแห่ง ทราบหรือไม่ว่าแหล่งทำขนมโมจิตำรับดั่งเดิมของคนญี่ปุ่นต้องมาจากอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ไม่เคยได้ชิมละซิ เพราะเค้าจะไม่วางขายทั่วๆไป ของเค้าจะเป็นแป้งสด ไม่สามารถบรรจุกล่องวางขายนานๆ ได้ หากจะชิมต้องไปที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
ประวัติ ขนมโมจิ สมัยสงครามโลกครั่งที่ 2 ตำนานรักของ สาวบ้านนากับหนุ่มทหาร หมอ กองทัพญี่ปุ่น อมตะซาบซึ่งไม่มีวันลืม ครั่งหนึ่งขนมโมจิ เคยถูกเรียก ว่าขนมกบฏ ห้ามขาย กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นตอนที่กองทัพญีปุ่น มาตั้งฐานทัพในจังหวัดนครนายก ปี พ.ศ.ที่ชาวบ้านเริ่มทำการค้ากับญี่ปุ่น นางพันนา ซึ่งมีอายุประมาณ 18 กว่าปี ทำการค้าขายขนมในค่ายทหารกับญาติ ขายจนได้รู้จักกับทหารหนุ่มชาวญี่ปุ่น
ทหารญี่ปุ่นท่านนี้เป็นหมอ และได้เกิดมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และวันหนึ่ง ทหารญี่ปุ่นต้องโยกย้ายไปที่อื่น แต่ก่อนจากไปนั้น เขาได้สอนนางพันนา ทำขนมโมจิและบอกกับเธอว่า ขนมนี้จะเป็นตัวแทนของซาโต้ และเป็นตัวแทนของประเทศเขา ถ้าเขาไม่อยู่และนางพันนา คิดถึง ซาโต้ ให้ทำขนมนี้ ซาโต้จะกลับมา เมื่อทหารญี่ปุ่นได้สอนจนทำเป็น ซาโต้กินขนมโมจิ แล้บอกกลับนางพันนาว่า นางพันนา ทำขนมญี่ปุ่นโมจิได้อร่อยที่สุด ก่อนที่ทหารญี่ปุ่นจะจากไป ซาโต้บอกกับนางพันนาว่า หากวันใดคิดถึงเขาให้ทำขนมโมจิ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ซาโต้จะกลับมาหานางพันนาอีก ถ้าจะทำขายก็ทำได้ และแล้วซาโต้ก็จากไป แต่นางพันนา ก็ยังคงทำอาชีพหาบของขาย ขนมญี่ปุ่นโมจิให้กับกองทัพทหารญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาญี่ปุ่นแพ้ สงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นกลับ ประเทศญี่ปุ่น แต่นางพันนายังทำขนมโมจิ ขายให้กับผู้คนในจังหวัดนครนายก จนวันหนึ่งทหารไทยบอกกับนางพันนาว่า ขนมที่ทำขายอยู่ ห้ามกิน ห้ามทำ ห้ามขาย เพราะเป็นขนมของญี่ปุ่น ขนมนี้มันคือขนมกบฏ นางพันนาจึงไม่ได้ทำขนมโมจินี้ขาย แต่ทุก ๆ ครั้งที่คิดถึงซาโต้ นางพันนาก็จะแอบทำขนมโมจินี้ เพื่อแทนความคิดถึง หนุ่มญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่รัก และทุกครั้งที่ทำนางพันนา ทำขนมโมจินี้ จะตั้งจิตอธิษฐาน สวดมนต์ภาวนา ให้ซาโต้กลับมากินขนมของตัวเอง วันแล้ว วันเล่า นานหลายสิบปีจนทุกคนลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว
จนถึงพ.ศ. 2547 พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบประวัติเรื่องขนมโมจินี้ จึงให้ทหารคนสนิทไปหาขนมโมจิ โบราณก็ไปหาอยู่หลายที่และนำมาให้เสวย แต่พระเทพทรงตรัสว่าไม่ใช่ขนมโมจิ ที่ตามหา ต่อมาอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นายไพรัช ได้ทราบข่าวว่าพระเทพฯ ทราบตำนานขนมโมจินี้ เคยทำขายเลยรู้ว่าที่ อำเภอบ้านนามียายคนหนึ่ง เคยทำขนมโมจิขายให้กับชาวบ้านและทหารกองทัพญี่ปุ่น อดีตผู้ว่าไพรัชจึงตามหาจนเจอและให้ยายพันทำขนมโมจินำไปถวายพระเทพฯ และทรงเสวยทรงตรัสว่า นี่คือขนมโมจิที่ข้าพเจ้าตามหา ต่อมายายพันนา ก็ได้ทำขนมโมจิถวายถึงพระหัตถ์ของพระเทพฯ ยายพันนารอคอยวันนี้มานานแสนนาน วันที่ขนมโมจิของแกได้ถูกเผยแพร่อีกครั้ง เหมือนได้บอกกับซาโต้ว่ายังมีสาวบ้านนาคนนี้รออยู่ แล้วยายพันนาก็จากไปโ ดยได้รับพระราชทานเพลิงศพจากพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Dessert Mochi is Japan's renowned pastry. If we see Thai domestic sources do people know that the Association is the Nakhon sawan province. Now they are selling well, according to pump it all. Know what mochi baking recipes, sights of Japan who must come from the district ban na. Nakhonnayok never had a tasting with because they do not paste the layout of a typical sales as fresh dough sales cannot be boxed for a place if they want to ban na district tasting nakhonnayok.Mochi cake history The legendary World War 2 girl's love wax or lacquer seal ban na with young soldiers, army doctor Japan immortal Saab that will never forget one of the dried wax or lacquer seal mochi was called a biscuit, the rebels banned sales of once upon a time long ago. From World War II Japanese army initially came to stay at the base in the province of Nakhon nayok was that people began to trade with Japan. Mrs. Phan has over 18 years of age. Trading candy in a barracks with relatives. The young soldier was known to sell nationals of Japan.Japan's military doctor he was born with a good feeling towards each other and one day. Japan soldier need to migrate to another, but before they leave. He has taught Mrs. Panna. Mochi baking and pastry, she tells that this is representative of SATO and represent his country. If he is not, and she misses the Panna. SATO, baking. SATO will be back. When Japan was taught to make mochi dessert eat SATO determined I she her Panna Panna. Japan made the most delicious mochi. Before the military will leave Japan SATO tells her that if any date Panna think they make mochi cake. If he's still alive, she will go back to SATO Panna. If the sale is made, it is done and then SATO had left, but she was still a career making Panna HAP sales. Japan snack mochi, with military forces continue to Japan. Japan subsequently lost. World War 2 soldier returned to Japan, Japan But she also made mochi dessert Panna sold to people in the province of Nakhon nayok, until one day she told Thai troops that sales made at Panna. Do not eat. Prohibits sale of bread, because it is prohibited, Japan. This dessert is rice the rebels. She was not therefore Panna dessert mochi is for sale, but every time I miss SATO. Mrs. Panna, the Abbey made the mochi instead of nostalgic young Japan which is love and every time she made Panna. The mochi baking set mental prayer chant and meditation, SATO came back to eat his own bread a day. For many years, until he was told everyone forgot all about this. จนถึงพ.ศ. 2547 พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบประวัติเรื่องขนมโมจินี้ จึงให้ทหารคนสนิทไปหาขนมโมจิ โบราณก็ไปหาอยู่หลายที่และนำมาให้เสวย แต่พระเทพทรงตรัสว่าไม่ใช่ขนมโมจิ ที่ตามหา ต่อมาอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นายไพรัช ได้ทราบข่าวว่าพระเทพฯ ทราบตำนานขนมโมจินี้ เคยทำขายเลยรู้ว่าที่ อำเภอบ้านนามียายคนหนึ่ง เคยทำขนมโมจิขายให้กับชาวบ้านและทหารกองทัพญี่ปุ่น อดีตผู้ว่าไพรัชจึงตามหาจนเจอและให้ยายพันทำขนมโมจินำไปถวายพระเทพฯ และทรงเสวยทรงตรัสว่า นี่คือขนมโมจิที่ข้าพเจ้าตามหา ต่อมายายพันนา ก็ได้ทำขนมโมจิถวายถึงพระหัตถ์ของพระเทพฯ ยายพันนารอคอยวันนี้มานานแสนนาน วันที่ขนมโมจิของแกได้ถูกเผยแพร่อีกครั้ง เหมือนได้บอกกับซาโต้ว่ายังมีสาวบ้านนาคนนี้รออยู่ แล้วยายพันนาก็จากไปโ ดยได้รับพระราชทานเพลิงศพจากพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ขนมโมจิเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของชาวญี่ปุ่น หากในประเทศไทยเราจะเห็นแหล่งทำที่คนสุพรรณรู้จักคือที่จังหวัดนครสวรรค์ เดี๋ยวนี้จะมีขายกันตามปั้มนำมันทั่วทุกแห่ง ทราบหรือไม่ว่าแหล่งทำขนมโมจิตำรับดั่งเดิมของคนญี่ปุ่นต้องมาจากอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ไม่เคยได้ชิมละซิ เพราะเค้าจะไม่วางขายทั่วๆไป ของเค้าจะเป็นแป้งสด ไม่สามารถบรรจุกล่องวางขายนานๆ ได้ หากจะชิมต้องไปที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
ประวัติ ขนมโมจิ สมัยสงครามโลกครั่งที่ 2 ตำนานรักของ สาวบ้านนากับหนุ่มทหาร หมอ กองทัพญี่ปุ่น อมตะซาบซึ่งไม่มีวันลืม ครั่งหนึ่งขนมโมจิ เคยถูกเรียก ว่าขนมกบฏ ห้ามขาย กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นตอนที่กองทัพญีปุ่น มาตั้งฐานทัพในจังหวัดนครนายก ปี พ.ศ.ที่ชาวบ้านเริ่มทำการค้ากับญี่ปุ่น นางพันนา ซึ่งมีอายุประมาณ 18 กว่าปี ทำการค้าขายขนมในค่ายทหารกับญาติ ขายจนได้รู้จักกับทหารหนุ่มชาวญี่ปุ่น
ทหารญี่ปุ่นท่านนี้เป็นหมอ และได้เกิดมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และวันหนึ่ง ทหารญี่ปุ่นต้องโยกย้ายไปที่อื่น แต่ก่อนจากไปนั้น เขาได้สอนนางพันนา ทำขนมโมจิและบอกกับเธอว่า ขนมนี้จะเป็นตัวแทนของซาโต้ และเป็นตัวแทนของประเทศเขา ถ้าเขาไม่อยู่และนางพันนา คิดถึง ซาโต้ ให้ทำขนมนี้ ซาโต้จะกลับมา เมื่อทหารญี่ปุ่นได้สอนจนทำเป็น ซาโต้กินขนมโมจิ แล้บอกกลับนางพันนาว่า นางพันนา ทำขนมญี่ปุ่นโมจิได้อร่อยที่สุด ก่อนที่ทหารญี่ปุ่นจะจากไป ซาโต้บอกกับนางพันนาว่า หากวันใดคิดถึงเขาให้ทำขนมโมจิ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ซาโต้จะกลับมาหานางพันนาอีก ถ้าจะทำขายก็ทำได้ และแล้วซาโต้ก็จากไป แต่นางพันนา ก็ยังคงทำอาชีพหาบของขาย ขนมญี่ปุ่นโมจิให้กับกองทัพทหารญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาญี่ปุ่นแพ้ สงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นกลับ ประเทศญี่ปุ่น แต่นางพันนายังทำขนมโมจิ ขายให้กับผู้คนในจังหวัดนครนายก จนวันหนึ่งทหารไทยบอกกับนางพันนาว่า ขนมที่ทำขายอยู่ ห้ามกิน ห้ามทำ ห้ามขาย เพราะเป็นขนมของญี่ปุ่น ขนมนี้มันคือขนมกบฏ นางพันนาจึงไม่ได้ทำขนมโมจินี้ขาย แต่ทุก ๆ ครั้งที่คิดถึงซาโต้ นางพันนาก็จะแอบทำขนมโมจินี้ เพื่อแทนความคิดถึง หนุ่มญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่รัก และทุกครั้งที่ทำนางพันนา ทำขนมโมจินี้ จะตั้งจิตอธิษฐาน สวดมนต์ภาวนา ให้ซาโต้กลับมากินขนมของตัวเอง วันแล้ว วันเล่า นานหลายสิบปีจนทุกคนลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว
จนถึงพ.ศ. 2547 พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบประวัติเรื่องขนมโมจินี้ จึงให้ทหารคนสนิทไปหาขนมโมจิ โบราณก็ไปหาอยู่หลายที่และนำมาให้เสวย แต่พระเทพทรงตรัสว่าไม่ใช่ขนมโมจิ ที่ตามหา ต่อมาอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นายไพรัช ได้ทราบข่าวว่าพระเทพฯ ทราบตำนานขนมโมจินี้ เคยทำขายเลยรู้ว่าที่ อำเภอบ้านนามียายคนหนึ่ง เคยทำขนมโมจิขายให้กับชาวบ้านและทหารกองทัพญี่ปุ่น อดีตผู้ว่าไพรัชจึงตามหาจนเจอและให้ยายพันทำขนมโมจินำไปถวายพระเทพฯ และทรงเสวยทรงตรัสว่า นี่คือขนมโมจิที่ข้าพเจ้าตามหา ต่อมายายพันนา ก็ได้ทำขนมโมจิถวายถึงพระหัตถ์ของพระเทพฯ ยายพันนารอคอยวันนี้มานานแสนนาน วันที่ขนมโมจิของแกได้ถูกเผยแพร่อีกครั้ง เหมือนได้บอกกับซาโต้ว่ายังมีสาวบ้านนาคนนี้รออยู่ แล้วยายพันนาก็จากไปโ ดยได้รับพระราชทานเพลิงศพจากพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Candy candy Mochi is a name of Japanese. If we can see the source in do people know is that of Nakhon Sawan province.) Now will be sold as มปั้ม bring it everywhereNakhon Nayok, never try. Because he will not be around, he is not able to sell flour packing boxes for a long time, if will try to go to Ban Na. Nakhon Nayok
.History of Mochi sweets in the World War 2 legend first love with a young soldier girl at doctors division ทัพญ Japan immortal Saab, which never forget, shellac one candy Mochi. Used to be called the candy rebel, do not sell, once upon a time.2 started when the army Japan To set up base in Nakhon Nayok province. B.Professor at the villagers began to trade with Japan. She Panna, which is about 18 over the years. Business snacks in the barracks with relatives. Sell it to know the young soldier Japanese
.The Japanese army he is a doctor. And what have feelings for each other, and one day, the Japanese army to migrate elsewhere. But before leaving, he taught her, Panna pastry Mochi and tell her that This dessert will represent Sato.If he is not and she Panna Miss Sato to do this dessert Sato back. When the Japanese military teaching and acting Sato eat Mochi. Then tell back her Panna. She made a Japanese confectionery Panna Moji has the most delicious. Before the Japanese army to leave.If one day miss him to do snacks Mochi. If he is still alive and Sato back her Panna. If do sell can, and Sato from, but she is still acting career on thousands of sales. Japanese sweets Mochi to army Japan next.World War 2 Japanese soldiers back Japan, but she also thousands of pastry Mochi sold to those people in the Nakhon Nayok province. Until one day, the Thai military told her Panna that sweets made sales are forbidden to eat, you can't do not to sell, because as a snack of Japan.She is not baked in Panna Mo will sell, but every time miss Sato she Panna will secretly do ขนมโมจ this to for the missing Japanese boy, which is love. And every time farming as thousands of pastry. Mo will this'll wish prayDay after day for several decades until everyone's forgotten about it!Until theThe gods 2547 limited highness doth know history of candy Mo will this. The soldiers to close some sweets Mochi. Ancient go to multiple and bring it to undergo. But the LORD hath said, not sweet Mochi. LookingYou pairat knowing that the residents know the legend of this candy Mo will did sell know, Amphoe Ban Na's burdens. Used to make Mochi sweets sold to villagers and army, Japan.And he eats he said, this is the sweet Mochi I find later I Panna, Mochi ถวายถึง dessert, the hand of the Bangkok. I Panna lead today for a long time. The Mochi sweets you was published again.Then I Panna went home Day received from the gods, cremation students department.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: