ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตน

ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2385 หลังจากย้ายชุมชนจากฝั่งแหลมสน มาอยู่ในชุมชนฝั่งบ่อยาง จึงทำให้เกิดบริเวณถนนนครนอก – นครใน ในอดีตสมัยที่เมืองสงขลายังมีกำแพงเมือง บริเวณถนนนครนอก – นครใน เป็นที่อยู่อาศัย และสถานที่ค้าขาย ซึ่งตั้งอยู่ในกำแพงเมือง มีการติดต่อกับนอกเมืองด้านทะเลสาบ โดยมีประตูเมืองด้านนี้ถึง 4 ประตู แนวถนนนครนอก คือถนนนอกกำแพงเมือง ตึกแถวริมถนนนครนอกด้านถนนนครนอก คือแนวกำแพงเมือง ประตูเมืองด้านนี้ ตั้งอยู่ที่แนวถนนสายบุรี ถนนหนองจิก ถนนปัตตานี และถนนพัทลุง ปลายถนนสายต่างๆ นี้ จะเป็นท่าน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา

ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดิน ประเภทพาณิชยกรรม และที่อยู่อาศัยหนาแน่นมากของชุมชนเมืองสงขลา ซึ่งมีอาณาเขตจากฝั่งทะเลสาบถึงถนนไทรบุรี และจากถนนสายบุรีถึงถนนพัทลุง ถนนไทรบุรี ถนนสายบุรี และถนนพัทลุง เป็นถนนสายสำคัญของบริเวณ ซึ่งมีแนวเชื่อมต่อกับบริเวณอื่นของชุมชนเมืองสงขลา และได้ขยายพื้นที่ใหญ่ขึ้นโดยขยายออกไปทางด้านปากน้ำ ทะเลสาบสงขลา ทะเลหลวง และทางด้านภูเขาเก้าเส้ง การใช้ประโยชน์ที่ดิน ก็กระจายตัวตามไปด้วย รวมทั้งศูนย์รวมกิจกรรมที่สำคัญต่างๆ ก็ขยายออกไป แต่ที่อยู่อาศัยบริเวณถนนนครนอก – นครใน ก็ยังคงเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก และเป็นบริเวณพาณิชยกรรมของเมือง แต่การให้บริการค่อนข้างจำกัด เนื่องจากถนนแคบ ทำให้การเข้าถึงไม่สะดวก และมีที่จอดรถน้อยบริเวณถนนนครนอก – นครใน จึงถูกปล่อยให้เสื่อมโทรมลง อาคารบางหลังชำรุดทรุดโทรม และไม่ได้รับการซ่อมแซม บางหลังก็ได้รับการซ่อมแซมให้พอใช้ได้เท่านั้น

เจ้าของอาคารหลายราย ได้ย้ายออกไปหาที่อยู่อาศัยในที่สะดวกสบาย และมีบริการสมัยใหม่ เช่น มีถนนกว้าง มีที่จอดรถ มีวิวทิวทัศน์ มีบริเวณกว้างขวาง พอที่จะปลูกต้นไม้ และทำสวนในบริเวณบ้านได้ จึงปล่อยให้อาคารเดิมว่างเปล่า ประกอบกับบริเวณถนนนครนอก – นครในอยู่ติดกับทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีแต่เรือนและแพปลา ทำให้ชาวประมงเมื่อนำเรือมาจอดเพื่อนำปลามาส่ง และรอการซ่อมแซมเรือ ต้องใช้บริการในบริเวณดังกล่าว จึงทำให้มีการเช่าอาคารที่ว่างเปล่า แล้วมาตกแต่งเพียงเล็กน้อย ให้เป็นสถานเริงรมย์ และบริการเกี่ยวกับร้านอาหารเครื่องดื่ม ชนิดมีตู้เพลงและมีหญิงบริการ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เป็นจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณนี้จึงเปลี่ยนไป อาคารและงานสถาปัตยกรรม มีแนวโน้มที่จะเสื่อมโทรมลง และเจ้าของอาคารจะอพยพออกจากบริเวณมากขึ้น หากไม่มีการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่

เนื่องจากที่ตั้งของบริเวณถนนนครนอก – นครใน มีงานสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะพิเศษ รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มก้อนในบริเวณกว้างขวาง และยังมีกิจกรรมต่างๆ ของบริเวณอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ค่อยคึกคักมาก แต่ก็ยังคงลักษณะเฉพาะของบริเวณนี้อย่างเด่นชัด ได้แก่ เป็นที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร โรงเจ และศาลเจ้า เป็นต้น ถ้าจะพูดถึงบริเวณถนนนครนอก – นครใน เป็นส่วนของเมืองเก่าสงขลาด้านติดทะเลสาบ เฉพาะบริเวณนี้มีประตูออกถึง 4 ประตู จึงน่าจะเป็นข้อสังเกตว่า ในอดีตบริเวณนี้ ต้องมีความสำคัญมากมีประชากรอาศัยมาก และเป็นท่าเทียบเรือ สำหรับขนส่งสินค้า เมื่อเป็นเช่นนั้น ต้องมีการค้าขายในบริเวณนี้ด้วย ประตูดังกล่าวมี 2 ประตู ที่พุ่งเข้าสู่ศูนย์กลางของชุมชนเมืองบริเวณนี้ ได้แก่ ประตูที่ 1 พุ่งเข้าสู่ศาลหลักเมือง ซึ่งประกอบด้วยโรงเจ ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ ส่วนประตูที่ 2 พุ่งเข้าสู่วัดมัชฌิมาวาส ซึ่งเป็นวัดใหญ่ของบริเวณนี้อีก 2 ประตู เป็นประตูที่ออกมาจากถนนไทรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายที่ต่อไปยังบริเวณอื่นของเมือง นับได้ว่าเป็นถนนสายหลักของบริเวณนี้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Since the reign of the 3rd District of Ratanakosin b.e. 2385 after moving from community to community, Laem son Lake-side-side, thus causing the rubber Pond Road in the metropolitan area outside of the city in the past-also has a walled city of Songkhla. Outside the metropolitan area road-in the residential and commercial premises, which are located in the city walls outside the city have been in contact with the sides of the Lake by the city this side of the door to door Street, 4th Street, outside the city walls, is outside the Metropolitan. Angolan Street tenement outside Metropolitan roads outside the city walls, city gates, is the trend. Located across the Sai buri road. Nong Chik Pattani road road road and phatthalung This will be the streets end Pier into the Songkhla Lake.As part of the current areas of land utilization types, Commerce and very dense residential community of Muang Songkhla, which has a territory from Lake Street to thairaburi Street and Sai buri to phatthalung road. Thairaburi road Phatthalung road and Sai buri road is a major road of the area, which is connected to other concepts of urban space and the Songkhla bigger by expanding toward the mouth water. Songkhla Lake, the sea and the mountain side nine seng. Land utilization along with dispersion, including activities that expand critical habitat area but outside metropolitan road – it is still in very dense residential and commercial area of the city, but the service is somewhat limited because of the narrow roads, making access inconvenient and little parking area outside the Metropolitan – metropolitan road in being let down, wane. Some buildings in disrepair and damaged after not receiving repairs. After it was repaired, only.เจ้าของอาคารหลายราย ได้ย้ายออกไปหาที่อยู่อาศัยในที่สะดวกสบาย และมีบริการสมัยใหม่ เช่น มีถนนกว้าง มีที่จอดรถ มีวิวทิวทัศน์ มีบริเวณกว้างขวาง พอที่จะปลูกต้นไม้ และทำสวนในบริเวณบ้านได้ จึงปล่อยให้อาคารเดิมว่างเปล่า ประกอบกับบริเวณถนนนครนอก – นครในอยู่ติดกับทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีแต่เรือนและแพปลา ทำให้ชาวประมงเมื่อนำเรือมาจอดเพื่อนำปลามาส่ง และรอการซ่อมแซมเรือ ต้องใช้บริการในบริเวณดังกล่าว จึงทำให้มีการเช่าอาคารที่ว่างเปล่า แล้วมาตกแต่งเพียงเล็กน้อย ให้เป็นสถานเริงรมย์ และบริการเกี่ยวกับร้านอาหารเครื่องดื่ม ชนิดมีตู้เพลงและมีหญิงบริการ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เป็นจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณนี้จึงเปลี่ยนไป อาคารและงานสถาปัตยกรรม มีแนวโน้มที่จะเสื่อมโทรมลง และเจ้าของอาคารจะอพยพออกจากบริเวณมากขึ้น หากไม่มีการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่เนื่องจากที่ตั้งของบริเวณถนนนครนอก – นครใน มีงานสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะพิเศษ รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มก้อนในบริเวณกว้างขวาง และยังมีกิจกรรมต่างๆ ของบริเวณอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ค่อยคึกคักมาก แต่ก็ยังคงลักษณะเฉพาะของบริเวณนี้อย่างเด่นชัด ได้แก่ เป็นที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร โรงเจ และศาลเจ้า เป็นต้น ถ้าจะพูดถึงบริเวณถนนนครนอก – นครใน เป็นส่วนของเมืองเก่าสงขลาด้านติดทะเลสาบ เฉพาะบริเวณนี้มีประตูออกถึง 4 ประตู จึงน่าจะเป็นข้อสังเกตว่า ในอดีตบริเวณนี้ ต้องมีความสำคัญมากมีประชากรอาศัยมาก และเป็นท่าเทียบเรือ สำหรับขนส่งสินค้า เมื่อเป็นเช่นนั้น ต้องมีการค้าขายในบริเวณนี้ด้วย ประตูดังกล่าวมี 2 ประตู ที่พุ่งเข้าสู่ศูนย์กลางของชุมชนเมืองบริเวณนี้ ได้แก่ ประตูที่ 1 พุ่งเข้าสู่ศาลหลักเมือง ซึ่งประกอบด้วยโรงเจ ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ ส่วนประตูที่ 2 พุ่งเข้าสู่วัดมัชฌิมาวาส ซึ่งเป็นวัดใหญ่ของบริเวณนี้อีก 2 ประตู เป็นประตูที่ออกมาจากถนนไทรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายที่ต่อไปยังบริเวณอื่นของเมือง นับได้ว่าเป็นถนนสายหลักของบริเวณนี้