วันเสาร์ที่จะถึงฉันว่าจะไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียว การเดินทางไปเดี๋ยวนี้สะดวกสบาย มีทางเลี่ยงเมืองชลบุรี ตามไปถนนหมายเลข 7 ระยะทาง 80 กม.กว่าๆ ไม่นานนัก ก็ถึงปากทางเข้าเป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ จ่ายค่าผ่านทางเสร็จฉันก็พารถเข้าไปแล่นปร๋ออยู่ในสวนสัตว์แล้ว สนนราคาค่าเข้าสวนสัตว์ไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับความรื่นรมย์ที่จะได้เดินหรือนั่งรถเที่ยวชมสัตว์ ที่มีมากกว่า 300 ชนิด จำนวนมากกว่า 8,000 ตัว เนื้อที่เฉพาะที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสัตว์ต่างๆ และพักผ่อนหย่อนใจได้ก็ปาเข้าไป 500 ไร่ นี่ยังไม่นับส่วนที่เป็นคอกสัตว์และส่วนแสดงสัตว์โซนต่างๆ และพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้า คือส่วนวิจัยและขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก และจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ รวมถึงโครงการศึกษาวิจัยพันธุ์ไม้ป่า
ถ้าไม่อยากขับรถเที่ยวชมเอง ก็ไปรอนั่งรถพ่วงบริการนำชมรอบสวนสัตว์ ที่มีตลอดทั้งวันพร้อมผู้บรรยายตลอดเส้นทาง ที่สำคัญคือฟรี แต่ถ้าอยากส่วนตัวหน่อย ก็ใช่บริการรถกอล์ฟที่มีให้เช่า แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ฉันเอารถเข้ามาแล้ว ก็ขอตามใจตัวเองด้วยการขับรถไปเรื่อยๆ จะได้หยุดถ่ายรูปได้ครั้งละนานๆ
เที่ยวช่วงนี้ ยิ่งดีใหญ่แม้ฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ แต่ก็ได้บรรยากาศสงบๆ ยิ่งมาช่วงนี้ ต้นไม้เขียวชอุ่มจริงๆ สำคัญแค่ "อย่าลืมร่ม"
ด่านแรก ฉันก็เจอกับสัตว์รับแขกอย่างกวางและลิง ที่อยู่โซนด้านหน้า ก่อนจะเลี้ยวรถไปแปะไม่ไกลจากกรงหมีขอ ที่กำลังมีเด็กๆ นักเรียนมายืนดู ฉันเดินเลยลงไปด้านล่าง ที่บ่อฮิปโปฯ ตัวใหญ่ๆ
ฉันรู้แล้ว "เสียงรถสิบล้อ" เหมือนเสียงอะไร ก็ตอนที่เจ้าฮิปโปฯ ส่งเสียงคำรามนี่เอง แต่ดูๆ ไปมันเหมือนสัตว์เชื่องช้าอยู่ในน้ำ แต่จากสถิติของจริงกลับพบว่ามันเป็นสัตว์ที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าใครเพื่อน
ด้านบน...จะเอ๋กับเจ้าลูกฮิปโปฯ ตัวกระเปี๊ยก ที่นัวเนียอยู่กับแม่ของมันในกรง ถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่า มันเพิ่งเกิดได้เดือนเดียวเอง ตัวมันเล็ก แม่มันก็ตัวเล็ก เพราะมันเป็นฮิปโปฯ แคระนั่นเอง
คุณสุริยา แสงพงษ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว บอกว่า เดือนตุลาคมนี้ ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จะจัดให้มีการประกวดตั้งชื่อลูกฮิปโปฯ แคระ
"ตอนนี้ทั้งแม่และลูก ดูจะมีความพร้อม มีความแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งจะให้สัตวแพทย์เข้าไปดูว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย จากนั้นก็จะประกาศเชิญชวนประกวดตั้งชื่อ ซึ่งก็น่าจะเริ่มต้นเดือนตุลาคม"