1. ระบบรองรับน้ำหนัก ระบบกันสะเทือน

1. ระบบรองรับน้ำหนัก
ระบบกันสะเทือน หรือระบบรองรับน้ำหนัก หรือ ระบบแขวนล้อ ซึ่งพวกเรานิยมเรียกว่า "ช่วงล่าง" แปลมาจากคำว่า Suspensions ในภาษาอังกฤษ หน้าที่โดยตรง คือ "ลดอาการสั่นสะเทือนอันเกิดจากการกลิ้งของล้อสัมผัสกับพื้นผิวถนน" ให้หลงเหลือส่งถ่ายไปยังห้องโดยสารน้อยที่สุด แต่ระบบกันสะเทือนก็ยังมีหน้าที่แฝงอีกหลายข้อ ได้แก่ ช่วยให้การบังคับควบคุมรถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ, รักษาระดับตัวรถ ให้พื้นรถห่างจากผิวถนนคงที่, ควบคุมล้อให้ตั้งฉากกับพื้นถนนตลอดเวลาเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนมากที่สุด แม้ในขณะเข้าโค้ง, ลดอาการกระดก และโยนตัว สมดุลให้รถอยู่ในสภาพปกติ ขณะเคลื่อนที่ผ่านผิวถนนที่ไม่ราบเรียบ
การรองรับน้ำหนัก ในศัพท์ทางรถยนต์ หมายถึง การใช้สปริงคั่นกลางระหว่างโครงรถ (Frame), ตัวถัง (Body), เครื่องยนต์, ชุดส่งกำลัง กับล้อ ซึ่งเป็นส่วนที่รับภาระจากการสัมผัสโดยตรงกับพื้นถนน น้ำหนักของอุปกรณ์ดังกล่าว ตลอดจนน้ำหนักบรรทุกที่อยู่ด้านบนของสปริง เราเรียกว่า น้ำหนักเหนือสปริง (Sprung weight) ส่วนน้ำหนักใต้สปริง ซึ่งได้แก่ ล้อ, ยาง, ชุดเพลาท้าย (ในรถที่ใช้แบบคานแข็ง) และเบรก จะเป็นน้ำหนักที่สปริงไม่ได้รองรับ ถูกเรียกว่า น้ำหนักใต้สปริง (Unsprung weight)

1.1 แหนบ
แหนบจะรับน้ำหนักและแรงสั่นสะเทือนโดยการ "โค้งหรืองอตัว" ของแผ่นแหนบ สปริงขดรับน้ำหนักโดยการ "หด หรือยุบตัว" ของขดสปริง ส่วนเหล็กบิด หรือทอร์ชั่นบาร์ นั้น จะรับแรงสั่นสะเทือนโดยการ "บิดตัวของเพลา", สปริงลมลดแรงสั่นสะเทือนจากการ "อัดตัวของลม" ในถุงลม, ส่วนสปริงแบบไฮโดรนิวเมติก ดูดซับแรงสั่นสะเทือน โดยการอัดตัวของแก๊สไนโตรเจนและของเหลว (ที่ใช้อยู่เป็นน้ำมันไฮดรอลิก) ในระบบ


1.2 คอยสปริง
เรามักเข้าใจว่า "สปริง" คือ ขดลวดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดต่างๆ ขดเป็นวง รูปทรงกระบอก (สปริงขด หรือ Coil Spring) แบบอย่างที่เราคุ้นเคยกันมาตลอด แต่ในความเป็นจริง สปริงยังมีอยู่อีกหลายประเภท หลายรูปแบบ และที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ แหนบ (Leaf Spring), เหล็กบิด หรือทอร์ชั่นบาร์(Torsion bar), สปริงลม (Air Spring), สปริงยาง (Rubber Spring) และ ไฮโดรนิวเมติก (Hydro - Pneumatic) ในอนาคตเมื่อความก้าวหน้าทางวิศวกรรมสูงขึ้นอีก ก็อาจมีสปริงรูปแบบใหม่ๆ ออกมาใช้งานอีกก็เป็นได้
สปริงจะยุบและยืดตัวเมื่อล้อวิ่งผ่านผิวถนนที่ขรุขระ ส่งผลให้ล้อเคลื่อนที่ขึ้น-ลงได้เกือบอิสระในแนวดิ่งจากโครงรถ ทำให้สามารถ "ดูดกลืน" (Absorb) แรงเต้นของล้อลงได้ แรงจากการเคลื่อนที่ของล้อจึงถูกส่งถ่ายไปยังตัวถังน้อยกว่าที่ล้อเต้นจริง ผลก็คือผู้โดยสารและน้ำหนักบรรทุกจะได้รับแรงสะเทือนจากล้อลดลงนั่นเอง


1.3 ทอชั่นบาร์ (Torsion bar)
มีรถยนต์หลายรุ่นได้นำเอาทอร์ชั่นบาร์มาใช้แทนแหนบและสปริงขด ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง โดยเฉพาะในล้อหน้าจะเห็นได้ในรถกระบะ ระบบกันสะเทือนรูปแบบนี้จะมีทอร์ชั่นบาร์สองท่อน (ของล้อหน้าซ้าย และล้อหน้าขวา) ติดตั้งตามยาวของโครงรถข้างละท่อน ที่ปลายด้านหน้ายึดติดกับปีกนกล่าง ปลายด้านหลังยึดติดกับซับเฟรม ซึ่งสามารถปรับแต่งความตึงของทอร์ชั่นบาร์ได้ น้ำหนักของรถจะทำให้ทอร์ชั่นบาร์บิดตัวไปเหมือนกับสปริงขด จะยุบตัวหรือบิดตัวมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถ การบิดตัวดังกล่าวจะทำให้เกิดผลของความเป็นสปริง เช่นเดียวกับสปริงรูปแบบอื่นๆ

1.4 ปีกนก (Wishbone suspension)
การออกแบบแตกต่างกันไป เช่น ปีกนกบนและปีกนกล่างยาวไม่เท่ากันแต่ขนานกัน, ปีกนกบนและปีกนกล่างยาวไม่เท่ากันและไม่ขนานกัน ระบบรองรับน้ำหนักประเภทนี้ได้รับความนิยมค่อนข้างแพร่หลาย ปัจจุบันสามารถออกแบบให้แข็งแรงมากพอ และใช้อะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา แทนโครงสร้างเดิมที่เป็นเหล็ก จึงไม่แปลก นอกจากในรถยนต์นั่งแล้ว รถ Off-road หลายรุ่นก็ใช้ระบบกันสะเทือนรูปแบบนี้ด้วย
เซมิเทรลิ่งอาร์ม (Semi trailing arm)
แขนเต้น (Trailing arm) อาจมีอยู่ 2 แขน หรือแขนเดียวก็ได้ ถ้าเป็นแขนเดียวจะเรียกว่า เซมิเทรลิ่งอาร์ม (Semi trailing arm) ถูกออกแบบให้ใช้ในล้อหลัง แขนเต้นมีใช้ทั้งแบบจุดหมุนอยู่ตามแนวยาวและจุดหมุนอยู่ตามแนวขวางกับตัวรถ ปัจจุบันมีให้เห็นมากในรถ MPV ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า จุดเด่น คือ มีชิ้นส่วนในการเคลื่อนที่น้อย ห้องโดยสารจึงออกแบบได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
แม็คเฟอร์สันสตรัท (MacPherson strut)
การออกแบบคล้ายกับระบบปีกนกธรรมดา แต่ไม่มีปีกนกบน โช้คอัพและคอยล์สปริงจะรวมอยู่บนแกนเดียวกัน ทำให้ประหยัดเนื้อที่และลดชิ้นส่วนต่างๆ ลงได้มาก ตัวถังบริเวณที่รองรับชุดแม็คเฟอร์สันสตรัท ต้องแข็งแรงเป็นพิเศษ ข้อเสียของระบบกันสะเทือนชนิดนี้ คือ ไม่สามารถทำให้รถต่ำลงเท่าระบบกันสะเทือนแบบปีกนก จึงไม่นิยมใช้กับรถแข่งทางเรียบ (Racing Car) แต่บนทางฝุ่นในสนามแรลลี่โลก ใช้ แม็คเฟอร์สันสตรัทเกือบทุกค่ายเลยล่ะ
มัลติลิงค์ (Multi-link suspension)
คำว่ามัลติลิงค์จะค่อนข้างครอบคลุม สำหรับระบบกันสะเทือนที่ใช้แขนยึด (Link) แบบหลายจุด เช่น โฟร์บาร์ลิงค์เกจ, ไฟว์ลิงค์ หรือแขนยึดแบบ 5 จุด ที่ออกแบบให้ใช้แขนยึดหลายจุดเพื่อต้องการควบคุมมุมล้อ และรักษาหน้ายางให้ตั้งฉากกับพื้นถนน ปัจจุบันนิยมใช้กับล้อคู่หลังในกลุ่มรถ Luxury เพราะโดดเด่นเรื่องความนุ่มนวล ทั้งยังให้สมรรถนะในการยึดเกาะถนนที่ดี
2. ระบบบังคับเลียว

หน้าที่ของระบบบังคับเลี้ยว คือ เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่จาก
พวงมาลัยในแนวรัศมีไปเป็นการเคลื่อนที่ในแนวระนาบของคันชักคัน
ส่งเพื่อเปลี่ยนทิศทางการเลี้ยวของล้อ นอกจากนี้ระบบเลี้ยวควรจะมี
การทดแรงให้มีการได้เปรียบเชิงกลเพื่อให้คนขับไม่ต้องออกแรงมาก
ส่วนประกอบหลักสำคัญของระบบเลี้ยว ประกอบด้วย
(1) พวงมาลัย (Steering Wheel)
(2) แกนพวงมาลัย (Steering Shaft)
(3) เฟืองพวงมาลัย (Steering gear) ที่จะใช้ในการศึกษาคือ
Rack and pinion
(4) คันชักคันส่ง (Linkage Element)

2.1 แบบลูกปืนหมุนวน
โครงร่างของระบบบังคับเลี้ยวที่ได้ออกแบบมาสำหรับใช้กับรถยนต์ในปัจจุบันเป็นแบบลูกปืนหมุนวนและแบบเฟืองขับเฟืองสะพานที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบบังคับเลี้ยว ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลัก 3 ส่วน
1.แกนพวงมาลัย
2.กระปุกเกียร์พวงมาลัย
3.ก้านต่อพวงมาลัย

แกนพวงมาลัย
แกนพวงมาลัยประกอบด้วย เพลาหลักของพวงมาลัยซึ่งถ่าย ทอดการหมุนพวงมาลัยไปยังกระปุกเกียร์พวงมาลัย ปลอกแกนพวงมาลัยซึ่งเป็นที่อ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

1. the system supports the weight Suspension or suspension systems, wheels, weight, or our popular translation, called the suspension "comes from the word directly to the duty Suspensions in English is" reduce the vibration caused by the rolling of the wheel contact with the surface of the road ", remains the least transmitted to the cabin, but the suspension is responsible for several other alias: helps control the vehicle perform effectively, holding the car to the floor the car away from the surface of the road wheel, fixed, perpendicular to the floor at all times, so that the road in front of the tire contact with the most road. Even when access to the curve, reduce kradok and throw the car in the normal balance. While it moves through the road surface not smoothIn terms of weight car means using a spring between frame (Frame), the body (Body), the engine, the transmission to the wheels, which is a set of parts that are directly exposed to the floor from the street. The weight of the device, as well as the weight that is placed on top of the springs. We called the northern spring weight (Sprung weight) weight under the spring, including the wheels, tires, axle end (in the solid beams used), and the weight to be a spring brake does not support was called the weight under the spring (Unsprung weight.) 1.1 tweezers Tweezers to pick up the weight and vibration by curve or bend the "" of the spring coil weight vacuum pad by "shrink or dissolve the" coil springs. Best steel twist or thochan to get the bar vibration by "a twist of the shaft", Spring wind vibration reduction from "the wind in the wind, spring bags, pneumatic & hydraulic. Vibration absorption by compression of the gas and liquid nitrogen (used as hydraulic oil) in the system. 1.2 wait for spring. We understand that "Spring" is a coil that has a different size diameter curl a cylinder (a spring coil or Coil Spring), we are familiar with each other forever, but in reality. There are also many other springs in multiple formats, and that are currently used: leaf spring (Leaf Spring), twist or thochan bar (Torsion bar) pneumatic (Air Spring), springs, spring rubber (Rubber Spring), pneumatic and hydraulic (Hydro-Pneumatic) in future, when advances in engineering higher again, there may be a new model coming out spring also. Spring will collapse and stretch when the wheels run over the surface of the rough road. As a result, the wheels move up-down almost vertical free from the car. It is possible to "absorb" (Absorb). Strong beats of the wheels. Pressure from the movement of the wheels is transmitted to the wheels, the tank is less than the actual dance as a result, passenger and cargo weights to get strong Quake from the wheels dropped 7. 1.3 bar (Torsion bar) version woven There are several versions of the cars brought Tor station bar and coil spring tweezers. Both the front and rear wheels, especially on the front wheel can be seen in a pickup truck. This suspension is Tor station two pieces (front left and front right) Install according to the length of each side of the frame pieces at the front end with lower. At the end of the back lining with frames that can adjust tension of Tor station bar. The weight of the vehicle would make Tor station bar twist to the same as the spring coil. To collapse or twist the weight more or less depending on the vehicle. The twist will cause the result of spring as with spring and other formats. 1.4 wing birds (Wishbone suspension) Different designs, such as birds and lower wings no longer equal, but the bird on the wing, parallel, and lower unequal length and not parallel. The system supports the weight, this category is quite widespread. The current can be strong enough to design and use a lightweight aluminium instead of the original structure is steel. So no surprise In addition to the car seat. Several versions of the Off-road vehicle suspension system in this format.A temple of the raling arm (Semi trailing arm).Arm dance (Trailing arm) may be the only arms arms, or 2. If this is a single arm is referred to as a temple of the raling arm (Semi trailing arm) is designed to be used on rear wheels. There are a wide arms, dancing dots is along the long rotation and rotation point is across the car. Today, most in car-based MPV powered front wheel. The highlight is the least movement parts. Cabin design is so large.Mac FIR (MacPherson strut) San Street ratการออกแบบคล้ายกับระบบปีกนกธรรมดา แต่ไม่มีปีกนกบน โช้คอัพและคอยล์สปริงจะรวมอยู่บนแกนเดียวกัน ทำให้ประหยัดเนื้อที่และลดชิ้นส่วนต่างๆ ลงได้มาก ตัวถังบริเวณที่รองรับชุดแม็คเฟอร์สันสตรัท ต้องแข็งแรงเป็นพิเศษ ข้อเสียของระบบกันสะเทือนชนิดนี้ คือ ไม่สามารถทำให้รถต่ำลงเท่าระบบกันสะเทือนแบบปีกนก จึงไม่นิยมใช้กับรถแข่งทางเรียบ (Racing Car) แต่บนทางฝุ่นในสนามแรลลี่โลก ใช้ แม็คเฟอร์สันสตรัทเกือบทุกค่ายเลยล่ะมัลติลิงค์ (Multi-link suspension)คำว่ามัลติลิงค์จะค่อนข้างครอบคลุม สำหรับระบบกันสะเทือนที่ใช้แขนยึด (Link) แบบหลายจุด เช่น โฟร์บาร์ลิงค์เกจ, ไฟว์ลิงค์ หรือแขนยึดแบบ 5 จุด ที่ออกแบบให้ใช้แขนยึดหลายจุดเพื่อต้องการควบคุมมุมล้อ และรักษาหน้ายางให้ตั้งฉากกับพื้นถนน ปัจจุบันนิยมใช้กับล้อคู่หลังในกลุ่มรถ Luxury เพราะโดดเด่นเรื่องความนุ่มนวล ทั้งยังให้สมรรถนะในการยึดเกาะถนนที่ดี2. ระบบบังคับเลียว หน้าที่ของระบบบังคับเลี้ยว คือ เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่จากพวงมาลัยในแนวรัศมีไปเป็นการเคลื่อนที่ในแนวระนาบของคันชักคันส่งเพื่อเปลี่ยนทิศทางการเลี้ยวของล้อ นอกจากนี้ระบบเลี้ยวควรจะมีการทดแรงให้มีการได้เปรียบเชิงกลเพื่อให้คนขับไม่ต้องออกแรงมากส่วนประกอบหลักสำคัญของระบบเลี้ยว ประกอบด้วย(1) พวงมาลัย (Steering Wheel)(2) แกนพวงมาลัย (Steering Shaft)(3) เฟืองพวงมาลัย (Steering gear) ที่จะใช้ในการศึกษาคือRack and pinion(4) คันชักคันส่ง (Linkage Element) 2.1 แบบลูกปืนหมุนวน โครงร่างของระบบบังคับเลี้ยวที่ได้ออกแบบมาสำหรับใช้กับรถยนต์ในปัจจุบันเป็นแบบลูกปืนหมุนวนและแบบเฟืองขับเฟืองสะพานที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบบังคับเลี้ยว ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลัก 3 ส่วน 1.แกนพวงมาลัย 2.กระปุกเกียร์พวงมาลัย 3.ก้านต่อพวงมาลัย แกนพวงมาลัย แกนพวงมาลัยประกอบด้วย เพลาหลักของพวงมาลัยซึ่งถ่าย ทอดการหมุนพวงมาลัยไปยังกระปุกเกียร์พวงมาลัย ปลอกแกนพวงมาลัยซึ่งเป็นที่อ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

1. load
suspension. Or weight or suspension wheels, which are commonly called "suspension" translated from the word Suspensions in English directly, is "to reduce vibration caused by the rolling of the wheels in contact with the road surface," the left. Transfer to the cabin to a minimum. The suspension was also responsible for several other potential deals, including helping to control the vehicle efficiently, maintaining the car. A ground vehicle from the road surface, a constant, controlled wheels perpendicular to the road at all times so the tire contact with the ground as possible. Even while cornering, reducing the balance to tilt and threw the car in normal conditions. While moving through the road surface is not flat,
the load. In terms of the car means spring is sandwiched between the frame (Frame), Body (Body), the engine, transmission and the wheels, which are a burden from direct contact with the ground. The weight of the device The payload on top of the spring, we called weight above the springs (Sprung weight) the weight of the spring, including wheels, tires, shaft end (in a car using a solid beam) and brake to a weight that spring is not. The support has been called the spring weight (weight UNSPRUNG) 1.1 tweezers tweezers to handle the weight and vibration by. "Curved or bent" coil spring suspension, the weight of the sheet by "shrink or sink" of the steel coil springs or torsion bar twisting it to vibration by. "Twisting of the shaft", springs to reduce vibration from the wind. "Compressed air" in the alveoli, the hydro-pneumatic spring. Absorb vibration By compressed nitrogen gas and liquid. (As used in the oil hydraulics) in 1.2 await spring we always understand the "spring" is the coil with a diameter of coil cylinder (spring or Coil Spring) model that we are familiar. all But in reality Spring is also available on many different types of formats and the most popular in use today include tweezers (Leaf Spring), steel, twist or torsion bars (Torsion bar), Spring Wind (Air Spring), spring rubber (Rubber Spring). and Hydro-Pneumatic (Hydro - Pneumatic) in the future when the advancement of engineering higher. It may be a new spring styles. Another would be to use a spring to collapse and expand when the wheels ran over rough road surfaces. The wheel moves up - down almost vertically from independent chassis that can "absorb" (Absorb) The beating of the wheels down. The strength of the movement of the wheels was transmitted to the chassis than the actual wheel dancing. The result is that passengers and cargo will get the vibration from the wheel itself fell 1.3 Torsion bars (Torsion bar) has brought several car models and torsion bar suspension and coil springs instead. Both the front and rear wheels The front wheels can be seen in a pickup truck. This forms a suspension torsion bars in two. (Front left wheel And the right front wheel) mounted lengthwise on each side of the chassis beams. The front end is attached to the lower wishbone. Sub-frame attaches to the rear end. You can adjust the tension of the torsion bar. The weight of the car is making torsion bar twisting like a coiled spring. To collapse or twist more or less based on vehicle weight. The twisting effect of the spring. As with other forms springs wishbone 1.4 (Wishbone suspension) design varies as wings on the top and bottom wings parallel but unequal length, pinion upper and lower wishbone unequal length and non-parallel. The system supports the weight of this type have been relatively widespread popularity. Current can be designed to be strong enough. And the use of lightweight aluminum. The original structure is steel, so it is not unusual addition in passenger cars and trucks Off-road models, use the suspension form with a semi-trailer Stallings Arms (Semi trailing arm) arm beats (Trailing arm) may exist. 2 single arm or arms If one arm is called. Kazemi Tracy Arm Curling (Semi trailing arm) was designed to be used on the rear wheels. Dancing with the arm pivot point in both the longitudinal and transverse spin the car. There are currently a large MPV, the front-wheel drive feature is a piece of mobility. The cabin is designed to be more spacious MacPherson strut (MacPherson strut) design similar to conventional wings. But on the wings Shock absorbers and coil springs are included on the same axis. Thus saving space and reducing component into a chassis that supports a series MacPherson strut. Need extra strength The disadvantage of this type of suspension is not possible to make cars much lower suspension arm. Do not use with flat race (Racing Car), but on the dust in the World Rally uses MacPherson strut almost every camp anyway multi-link (Multi-link suspension) the multi-link rather. comprehensive For a suspension arm (Link) multi-point links as a gauge Four, Five or link arm design for the 5-point multi-point arm to control the wheel. And maintain the tire perpendicular to the road. Currently used on the rear wheels of the Luxury car segment because of its softness. It also provides the capacity to grip the two. Steering Steering is a function of changing the direction of motion of the wheel in the radial direction to the movement in the plane of the bows units shipped to change the direction of the steering wheel. Additionally, the system should turn to carry the mechanical advantage so that the driver does not have to exert a lot of the main components of the system drive. Include (1) Steering (Steering Wheel) (2) steering (Steering Shaft) (3) steering gear (Steering gear) to be used in the study is Rack and pinion (4) bows units (Linkage Element) 2.1 a bearing. spiral layout of the steering system is designed for use with today's cars are bearing spiral gears and gear bridges are widely used key components of the steering system. Consists of three main parts : 1. steering wheel 2. Transmission 3. The steering shaft steering column includes a steering column. Main shaft of the steering wheel, shot Fry the steering wheel to the gearbox. Housing steering column, which is that.