บทที่ 11ค่าเสื่อมราคาและค่าสูญสิ้นค่าเสื่อมราคา (Depreciation Expenses การแปล - บทที่ 11ค่าเสื่อมราคาและค่าสูญสิ้นค่าเสื่อมราคา (Depreciation Expenses อังกฤษ วิธีการพูด

บทที่ 11ค่าเสื่อมราคาและค่าสูญสิ้นค

บทที่ 11
ค่าเสื่อมราคาและค่าสูญสิ้น
ค่าเสื่อมราคา (Depreciation Expenses)
ค่าเสื่อมราคา คือ จำนวนเงินที่มูลค่าของสินทรัพย์ถาวรเสื่อมค่าลงอันเนื่องมาจากการใช้งานสินทรัพย์ถาวรนั้น ดังที่เคยอธิบายแล้วในบทที่ 1 เรื่องสินทรัพย์ ว่าสินทรัพย์ถาวรนั้นมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี แต่ เมื่อใช้ไปแล้วจริงอยู่ว่าสินทรัพย์ถาวรนั้นยังไม่หมดไป แต่มูลค่าของสินทรัพย์ถาวรนั้นก็ไม่เหลือเท่าเดิมแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากสินทรัพย์ถาวรนั้นมีการเสื่อมค่าลงตามการใช้งานนั่นเอง การที่สินทรัพย์ถาวรนั้นเสื่อมค่าลงในแต่ละปี จนหมดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ถาวรนั้น คือ ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรในแต่ละปี ซึ่งบัญชีค่าเสื่อมราคานี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ กิจการจะต้องทำการปรับปรุงบัญชีสำหรับค่าเสื่อมราคานี้ทุกวันสิ้นงวดบัญชีของกิจการ ทั้งนี้เนื่องจากจะได้ปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ถาวรให้ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งสินทรัพย์ถาวรทุกชนิดจะต้องมีการคิดค่าเสื่อมราคา ยกเว้นที่ดิน
ในการปรับปรุงบัญชีสำหรับค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรนี้ บันทึกบัญชีได้โดย เดบิต ค่าเสื่อมราคา และเครดิต ค่าเสื่อมราคาสะสม ซึ่งเป็นบัญชีปรับมูลค่าของสินทรัพย์ถาวรให้ตรงกับความเป็นจริง โดยที่บัญชีค่าเสื่อมราคาสะสมนี้เป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ที่มียอดคงเหลืออยู่ทางด้านเครดิต เพื่อจะเอาไว้ปรับมูลค่าของสินทรัพย์ถาวรให้ตรงกับความเป็นจริงนั่นเอง โดยที่สินทรัพย์ถาวรสุทธิ จะเท่ากับสินทรัพย์ถาวรที่ราคาทุนหักด้วยค่าเสื่อมราคาสะสม ซึ่งยอดของค่าเสื่อมราคาสะสมจะเพิ่มขึ้นทุกปี จะทำให้ยอดของสินทรัพย์ถาวรสุทธิลดลงทุกปีเช่นกัน ซึ่งถูกต้องตามความเป็นจริง

การคิดค่าเสื่อมราคา
การคิดค่าเสื่อมราคามีวิธีการคิดมากมายหลายวิธี แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ก็จะต้องทราบข้อมูล ดังนี้
ราคาทุนของสินทรัพย์ถาวร (Cost of Assets)คือ ต้นทุนทั้งหมดที่กิจการจ่ายไปเพื่อที่จะได้มาซึ่งสินทรัพย์ถาวรนั้นในสภาพที่พร้อมจะใช้งาน ดังนั้น ราคาทุนก็จะประกอบด้วยราคาซื้อ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะทำให้สินทรัพย์นั้นอยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งาน เช่น ค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง เป็นต้น
อายุการใช้งานโดยประมาณ (Estimated Life)คือ ระยะเวลาที่กิจการประมาณว่าสินทรัพย์ถาวรนั้นจะใช้ได้
มูลค่าซาก (Salvage Value) คือ จำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับจากการขายสินทรัพย์นั้นเมื่อหมดอายุการใช้งาน


การบันทึกบัญชี
เดบิต ค่าเสื่อมราคา - ชื่อสินทรัพย์ xxx
เครดิต ค่าเสื่อมราคาสะสม - ชื่อสินทรัพย์ xxx
ค่าเสื่อมราคา ถือเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการที่ไม่ได้เป็นตัวเงิน เนื่องจากเมื่อกิจการซื้อสินทรัพย์มา ซึ่งมีราคาสูง และมีการใช้งานหลายปี ถ้าจะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนเลยก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ในปีที่ซื้อสินทรัพย์ ส่วนปีถัดไปจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลยแม้ว่าจะใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์นั้น ๆ ดังนั้นจึงต้องมีการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายตามจำนวนปีที่จะใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์นั้น
ค่าเสื่อมราคาสะสม เป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ แต่เป็นตัวลดยอดของสินทรัพย์นั้น ๆ เพราะเมื่อกิจการซื้อสินทรัพย์มา ก็จะบันทึกเป็นสินทรัพย์ แต่สินทรัพย์นี้เมื่อมีการใช้งานแล้วจะเสื่อมค่าลง ดังนั้นทุกสิ้นปีจึงต้องบันทึกค่าเสื่อมราคา
วิธีคำนวณค่าเสื่อมราคา
1.วิธีเส้นตรง ( Straight – line Method )
2. วิธีชั่วโมงการทำงาน ( Working-hours method)
3. วิธีคำนวณตามผลผลิต(Productive-output method)
4. วิธีลดลงทุกปี (Reducing-charge method)
ก.Declining balance method
ข. Double-declining balance method
ค. Sum of years’ digits method
5.Group depreciation
6. Composite depreciation
7. โดยวิธีอื่นๆ
1. วิธีเส้นตรง ( Straight – line Method )
การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้ตั้งอยู่บนข้อสมมติฐานว่า สินทรัพย์จะเสื่อมสภาพไปตามระยะเวลามากกว่าการใช้งาน และการเสื่อมสภาพนั้นเป็นการเสื่อมสภาพในอัตราที่เท่ากันทุกปี ดังนั้น ค่าเสื่อมราคาจึงเท่ากันทุกปีตามอัตราการเสื่อมสภาพ วิธีนี้นิยมใช้กันมากเพราะเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรงจะเป็นการปันส่วนมูลค่าเสื่อมสภาพของสินทรัพย์ให้เป็นค่าเสื่อมราคาที่เท่ากันทุกปีตลอดอายุการใช้งานของสินทรัพย์นั้น ซึ่งค่าเสื่อมราคาแต่ละปีจะคำนวณได้ดังนี้
ค่าเสื่อมราคา/ปี = มูลค่าสินทรัพย์ - ราคาซาก ( ถ้ามี)
อายุการใช้งาน
หรือ ค่าเสื่อมราคา/ปี = (มูลค่าสินทรัพย์ - ราคาซาก ( ถ้ามี) ) x อัตราค่าเสื่อมราคา
เมื่อคำนวณค่าเสื่อมราคาได้ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีปัจจุบัน กิจการจะทำการบันทึกบัญชีดังนี้
เดบิต ค่าเสื่อมราคา - ชื่อสินทรัพย์ xxx
เครดิต ค่าเสื่อมราคาสะสม - ชื่อสินทรัพย์ xxx

ตัวอย่างที่ 1. วันที่ 1 มกราคม 2541 ซื้อเครื่องจักรราคาทุน 120,000 บาท ประมาณอายุการใช้งาน 5 ปี ราคาขายซาก 20,000 บาท
ค่าเสื่อมราคาต่อปี = 120,000-20,000
5 ปี
= 20,000 บาท
การบันทึกบัญชี
ธ.ค 31Dr. ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร 20,000
Cr. ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร 20,000
ปรับปรุงค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร


2. วิธีชั่วโมงการทำงาน ( Working-hours method)
การคำนวณค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้จะเฉลี่ยต้นทุนขิงสินทรัพย์ ตามชั่วโมงทำงาน ที่กิจกรจะได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์นั้น ดังนั้นค่าเสื่อมราคาแต่ละปีจะมีจำนวนไม่เท่ากัน เพราะอยู่กับชั่วโมงการทำงานของสินทรัพย์ในแต่ละปี ว่าใช้ชั่วโมงการทำงานมากหรือน้อย ดังนี้
1. อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง = ราคาทุน-ราคาซาก
ประมาณชั่วโมงการทำงาน
2. ค่าเสื่อมราคาต่อปี = อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง×จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละปี

ตัวอย่างที่ 2 จากโจทย์ที่ 1 สมมติว่าเครื่องจักรประมาณว่าจะใช้งานได้ 50,000 ชั่วโมง และกิจการเดินเครื่องจักรในแต่ละปี ดังนี้
ปี 2541 10,000 ชั่วโมง
ปี 2542 25,000 ชั่วโมง
การคำนวณ
1. อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง = 120,000-20,000
50,000
= 2 บาท
2. ค่าเสื่อมราคาแต่ละปี
ปี 2541 = 2×10,000
= 20,000 บาท
ปี 2542 = 2×25,000
= 50,000 บาท
การบันทึกบัญชี
ปี 2541
ธ.ค 31 Dr. ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร 20,000
Cr. ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร 20,000
ปรับปรุงค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
ปี 2542
ธ.ค 31 Dr. ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร 50,000
Cr. ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร 50,000
ปรับปรุงค่าเสื่อมราคา
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 11ค่าเสื่อมราคาและค่าสูญสิ้นค่าเสื่อมราคา (Depreciation Expenses) ค่าเสื่อมราคา คือ จำนวนเงินที่มูลค่าของสินทรัพย์ถาวรเสื่อมค่าลงอันเนื่องมาจากการใช้งานสินทรัพย์ถาวรนั้น ดังที่เคยอธิบายแล้วในบทที่ 1 เรื่องสินทรัพย์ ว่าสินทรัพย์ถาวรนั้นมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี แต่ เมื่อใช้ไปแล้วจริงอยู่ว่าสินทรัพย์ถาวรนั้นยังไม่หมดไป แต่มูลค่าของสินทรัพย์ถาวรนั้นก็ไม่เหลือเท่าเดิมแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากสินทรัพย์ถาวรนั้นมีการเสื่อมค่าลงตามการใช้งานนั่นเอง การที่สินทรัพย์ถาวรนั้นเสื่อมค่าลงในแต่ละปี จนหมดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ถาวรนั้น คือ ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรในแต่ละปี ซึ่งบัญชีค่าเสื่อมราคานี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ กิจการจะต้องทำการปรับปรุงบัญชีสำหรับค่าเสื่อมราคานี้ทุกวันสิ้นงวดบัญชีของกิจการ ทั้งนี้เนื่องจากจะได้ปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ถาวรให้ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งสินทรัพย์ถาวรทุกชนิดจะต้องมีการคิดค่าเสื่อมราคา ยกเว้นที่ดินในการปรับปรุงบัญชีสำหรับค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรนี้ บันทึกบัญชีได้โดย เดบิต ค่าเสื่อมราคา และเครดิต ค่าเสื่อมราคาสะสม ซึ่งเป็นบัญชีปรับมูลค่าของสินทรัพย์ถาวรให้ตรงกับความเป็นจริง โดยที่บัญชีค่าเสื่อมราคาสะสมนี้เป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ที่มียอดคงเหลืออยู่ทางด้านเครดิต เพื่อจะเอาไว้ปรับมูลค่าของสินทรัพย์ถาวรให้ตรงกับความเป็นจริงนั่นเอง โดยที่สินทรัพย์ถาวรสุทธิ จะเท่ากับสินทรัพย์ถาวรที่ราคาทุนหักด้วยค่าเสื่อมราคาสะสม ซึ่งยอดของค่าเสื่อมราคาสะสมจะเพิ่มขึ้นทุกปี จะทำให้ยอดของสินทรัพย์ถาวรสุทธิลดลงทุกปีเช่นกัน ซึ่งถูกต้องตามความเป็นจริง
การคิดค่าเสื่อมราคา
การคิดค่าเสื่อมราคามีวิธีการคิดมากมายหลายวิธี แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ก็จะต้องทราบข้อมูล ดังนี้
ราคาทุนของสินทรัพย์ถาวร (Cost of Assets)คือ ต้นทุนทั้งหมดที่กิจการจ่ายไปเพื่อที่จะได้มาซึ่งสินทรัพย์ถาวรนั้นในสภาพที่พร้อมจะใช้งาน ดังนั้น ราคาทุนก็จะประกอบด้วยราคาซื้อ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะทำให้สินทรัพย์นั้นอยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งาน เช่น ค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง เป็นต้น
อายุการใช้งานโดยประมาณ (Estimated Life)คือ ระยะเวลาที่กิจการประมาณว่าสินทรัพย์ถาวรนั้นจะใช้ได้
มูลค่าซาก (Salvage Value) คือ จำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับจากการขายสินทรัพย์นั้นเมื่อหมดอายุการใช้งาน


การบันทึกบัญชี
เดบิต ค่าเสื่อมราคา - ชื่อสินทรัพย์ xxx
เครดิต ค่าเสื่อมราคาสะสม - ชื่อสินทรัพย์ xxx
ค่าเสื่อมราคา ถือเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการที่ไม่ได้เป็นตัวเงิน เนื่องจากเมื่อกิจการซื้อสินทรัพย์มา ซึ่งมีราคาสูง และมีการใช้งานหลายปี ถ้าจะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนเลยก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ในปีที่ซื้อสินทรัพย์ ส่วนปีถัดไปจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลยแม้ว่าจะใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์นั้น ๆ ดังนั้นจึงต้องมีการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายตามจำนวนปีที่จะใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์นั้น
ค่าเสื่อมราคาสะสม เป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ แต่เป็นตัวลดยอดของสินทรัพย์นั้น ๆ เพราะเมื่อกิจการซื้อสินทรัพย์มา ก็จะบันทึกเป็นสินทรัพย์ แต่สินทรัพย์นี้เมื่อมีการใช้งานแล้วจะเสื่อมค่าลง ดังนั้นทุกสิ้นปีจึงต้องบันทึกค่าเสื่อมราคา
วิธีคำนวณค่าเสื่อมราคา
1.วิธีเส้นตรง ( Straight – line Method )
2. วิธีชั่วโมงการทำงาน ( Working-hours method)
3. วิธีคำนวณตามผลผลิต(Productive-output method)
4. วิธีลดลงทุกปี (Reducing-charge method)
ก.Declining balance method
ข. Double-declining balance method
ค. Sum of years’ digits method
5.Group depreciation
6. Composite depreciation
7. โดยวิธีอื่นๆ
1. วิธีเส้นตรง ( Straight – line Method )
การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้ตั้งอยู่บนข้อสมมติฐานว่า สินทรัพย์จะเสื่อมสภาพไปตามระยะเวลามากกว่าการใช้งาน และการเสื่อมสภาพนั้นเป็นการเสื่อมสภาพในอัตราที่เท่ากันทุกปี ดังนั้น ค่าเสื่อมราคาจึงเท่ากันทุกปีตามอัตราการเสื่อมสภาพ วิธีนี้นิยมใช้กันมากเพราะเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรงจะเป็นการปันส่วนมูลค่าเสื่อมสภาพของสินทรัพย์ให้เป็นค่าเสื่อมราคาที่เท่ากันทุกปีตลอดอายุการใช้งานของสินทรัพย์นั้น ซึ่งค่าเสื่อมราคาแต่ละปีจะคำนวณได้ดังนี้
ค่าเสื่อมราคา/ปี = มูลค่าสินทรัพย์ - ราคาซาก ( ถ้ามี)
อายุการใช้งาน
หรือ ค่าเสื่อมราคา/ปี = (มูลค่าสินทรัพย์ - ราคาซาก ( ถ้ามี) ) x อัตราค่าเสื่อมราคา
เมื่อคำนวณค่าเสื่อมราคาได้ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีปัจจุบัน กิจการจะทำการบันทึกบัญชีดังนี้
เดบิต ค่าเสื่อมราคา - ชื่อสินทรัพย์ xxx
เครดิต ค่าเสื่อมราคาสะสม - ชื่อสินทรัพย์ xxx

ตัวอย่างที่ 1. วันที่ 1 มกราคม 2541 ซื้อเครื่องจักรราคาทุน 120,000 บาท ประมาณอายุการใช้งาน 5 ปี ราคาขายซาก 20,000 บาท
ค่าเสื่อมราคาต่อปี = 120,000-20,000
5 ปี
= 20,000 บาท
การบันทึกบัญชี
ธ.ค 31Dr. ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร 20,000
Cr. ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร 20,000
ปรับปรุงค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร


2. วิธีชั่วโมงการทำงาน ( Working-hours method)
การคำนวณค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้จะเฉลี่ยต้นทุนขิงสินทรัพย์ ตามชั่วโมงทำงาน ที่กิจกรจะได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์นั้น ดังนั้นค่าเสื่อมราคาแต่ละปีจะมีจำนวนไม่เท่ากัน เพราะอยู่กับชั่วโมงการทำงานของสินทรัพย์ในแต่ละปี ว่าใช้ชั่วโมงการทำงานมากหรือน้อย ดังนี้
1. อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง = ราคาทุน-ราคาซาก
ประมาณชั่วโมงการทำงาน
2. ค่าเสื่อมราคาต่อปี = อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง×จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละปี

ตัวอย่างที่ 2 จากโจทย์ที่ 1 สมมติว่าเครื่องจักรประมาณว่าจะใช้งานได้ 50,000 ชั่วโมง และกิจการเดินเครื่องจักรในแต่ละปี ดังนี้
ปี 2541 10,000 ชั่วโมง
ปี 2542 25,000 ชั่วโมง
การคำนวณ
1. อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง = 120,000-20,000
50,000
= 2 บาท
2. ค่าเสื่อมราคาแต่ละปี
ปี 2541 = 2×10,000
= 20,000 บาท
ปี 2542 = 2×25,000
= 50,000 บาท
การบันทึกบัญชี
ปี 2541
ธ.ค 31 Dr. ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร 20,000
Cr. ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร 20,000
ปรับปรุงค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
ปี 2542
ธ.ค 31 Dr. ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร 50,000
Cr. ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร 50,000
ปรับปรุงค่าเสื่อมราคา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Chapter 11
Depreciation, depletion and
depreciation. (Depreciation Expenses)
is the amount of depreciation of fixed assets deteriorated due to the use of fixed assets. As explained in Chapter 1 of the asset. The fixed assets that last for more than 1 year, but when it is true that the assets are not gone. However, the value of fixed assets is not the same now. This is because the fixed assets have been deteriorated by use itself. The fixed assets are depreciated each year. The end of their useful lives of fixed assets is depreciated each year. Depreciation, which is now in charge of affairs. Company will be adjusted to account for depreciation, all on the balance sheet of the Company. Fixed assets are due to meet with reality. All fixed assets have to be depreciated. Except land
to improve the accounting for depreciation of fixed assets. Accounted for by debit, credit, depreciation and accumulated depreciation. The adjusted book value of fixed assets to match reality. The accumulated depreciation account is an asset account with a balance on the credit side. In order to take on the revaluation of fixed assets to match the reality itself. The net fixed assets Is equal to the fixed assets at cost less accumulated depreciation. The amount of depreciation is increasing every year. To make the top of the net fixed assets decreased every year. Which is required by the reality of depreciation and depreciation method are lots of ways. But whether the method used. I need to know The cost of fixed assets (Cost of Assets) is the total cost to the Company paid to acquire fixed assets, in a state that is ready to use, so the cost will include the purchase price. And cost more to make the asset is in a ready to use, including transportation expenses, installation and lifetime estimate (Estimated Life) is the period where the business is estimated to be fixed, it is not worth. (Salvage Value) is the amount expected to be received from the sale of the asset at the end of its accounting records debit. Depreciation - Property name xxx credit Accumulated Depreciation - Property name. xxx depreciation Is the cost of the non-monetary. When the acquisition of the assets The high price And has been used for many years. If the amount is recorded as an expense, it will result in higher costs. In an asset purchase The next year will be no charge, even if the use of the asset, so it must have cost the average number of years to take advantage of that asset depreciation. An asset account But actually reduce the amount of the assets when the assets are purchased. It is recorded as an asset But this asset when it is in use, it deteriorated. So every year we have to save the depreciation method are depreciated using the straight line 1. (Straight - Line Method) 2. The hours of work (Working-hours Method) 3. Calculation of the yield (Productive-output method). 4. Every year decline (Reducing-charge method) b. Declining balance method b. Double-declining balance method c. Sum of years' Digits Method Depreciation 5.Group 6. Composite Depreciation 7. By the way, the other one. A straight line (Straight - line Method) the depreciation method is based on the assumption that. Assets will wear out over time rather than active. And degeneration is a deterioration in the rate in each year, depreciation is the same every year, the rate of deterioration. This method is very popular because it is simple and easy. The depreciated on a straight line will be allocated to a deterioration of asset depreciation in each year throughout the lifetime of the assets. The depreciation each year is calculated as follows: Depreciation / year = Total assets - salvage value (if any) lifetime or. Depreciation / year = (NAV - salvage value (if any)) x depreciation rates when calculating depreciation. This is the cost incurred in the current period. Acquisitions will be recorded as a debit. Depreciation - Property name xxx credit Accumulated Depreciation - Property name. xxx Example 1. On January 1, 2541 for 120,000 baht Construction cost estimates of the 5-year price remains 20,000 baht depreciation per year = 120000-20000 5 years = 20,000 baht accounting record path. The 31Dr. Depreciation - Construction 20,000 Cr. Accumulated Depreciation - machinery. 20,000 depreciation Update 2. The hours of operation (Working-hours. method) the depreciation method is to average the cost ginger assets. By working hours The mission organizations will benefit from the assets. Thus, depreciation each year shall be equal. Because the working hours of its assets each year. That the working hours, more or less as follows: 1. The depreciation rate per hour = cost - salvage value of the hours worked 2. Depreciation per year = depreciation rate per hour × number of hours worked each year in Example 2 of Proposition 1 Assume that the equipment is to be used for 50,000 hours and its operation in the year following the year in 2541 to 10,000 hours. year 2542 to 25,000 hours to calculate one. Depreciation rate per hour = 120000-20000 50,000 baht = 2 2. depreciation each year of two thousand five hundred forty-one = 2 × 10,000 = 20,000 baht a year in 2542 = 2 × 25,000 = 50,000 baht for accounting year 2541 the Bank. The 31 Dr. Depreciation - Construction 20,000 Cr. Accumulated Depreciation - machinery. 20,000 adjusted depreciation year 2542 the Bank. The 31 Dr. Depreciation - Construction 50,000 Cr. Accumulated Depreciation - machinery. 50,000 Adjustments for depreciation





































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Chapter 11

depreciation Depreciation and the lost (Depreciation Expenses)
.Depreciation is the amount of money the value of fixed assets depreciation down due to use fixed assets. As I explain in Chapter 1 about asset. That fixed assets that last more than 1 years, but.But the value of fixed assets is not the same. Due to the fixed assets depreciation down there according to the application itself. The fixed assets depreciation in that each year.Is the depreciation of fixed assets each year. The depreciation is the cost of business. The parties must be developed to improve accounting for depreciation period every day the account business.The fixed assets of all kinds must have depreciation, except land
.On the improvement of accounting for depreciation of fixed assets, accounting records by debit value mat Amara price and credit, accumulated depreciation. Which is the adjusted value of fixed assets accounting to match the reality.To this adjusted value of fixed assets to match the fact that without permanent assets net. Is equal to the fixed assets cost minus accumulated depreciation. The amount of accumulated depreciation is increasing year by year.The correct
.Depreciation

. Depreciation is how to think a lot in several ways, but no matter what method is used, it will need to know the information as follows:
.The original cost of fixed assets (Cost of Assets) is the total cost to businesses pay to acquire fixed assets that condition to use. So the cost will be composed of the purchase price, and other expenses.Such as freight, installation, etc.!The estimated lifetime (Estimated Life) is a period that business about fixed assets that are available
value. (Salvage Value). Is the amount expected to be received from the sale of the asset when the end of life



. Saving accountDebit credit assets depreciation - the name XXX
- name XXX assets accumulated depreciation.
.Depreciation. Is the cost of business that is not money. Because when the business buy assets, which are expensive, and is in use for many years. If the number of saves cost it will make cost is high.The next year will be at no cost at all, though use of the asset. So it requires to average cost according to the number of years to take advantage of the asset
.Accumulated depreciation account category as assets, but is reduce the amount of the asset, because whenever business acquisition, it will save as an asset. But this asset when in use and will devalue.
.Method of depreciation
1. Straight line method (Straight - line Method)
2. How work hours (Working-hours method)
3. Method according to yield (Productive-output. Method)
4. How decreases every year (Reducing-charge method)
g Declining balance method
B. Double-declining balance method
C. Sum. Of years' digits method
5.Group depreciation
6. Composite depreciation

7. By other means 1. Straight line method (Straight - line Method)
.Depreciation method is based on the assumptions that According to the asset will deteriorate more period use. Deterioration deterioration in and is at the same rate every year.In this way, a very popular because it is simple and convenient. Thinking of straight-line method will be allocated deterioration value of assets to the value depreciation rate every year throughout the life of the asset.
.Depreciation / year = asset price remains (if any)

or lifetime depreciation / years = (value assets - price remains. (if any) x depreciation rate
.When calculating depreciation. Which is the costs incurred in the current accounting period The company will save the account debit - assets depreciation

XXX credit concentration ราคาสะ proper - name assets XXX

example 1.The 1 January 2541 buy machinery, cost 120 000 baht, about life 5 years price 20 remains,
ค่าเสื่อมราคา 000% per year. 120 000-20 =,, 5 000

= 20 000 per year, accounting 31Dr

December. Depreciation - machinery, 20 000
Cr.Accumulated depreciation - machinery, improve 20 000



2 machinery depreciation method working hours (Working-hours method)
.Depreciation calculation method is average cost ginger assets, according to working hours. The business enterprise can benefit from the asset. So each year there will be a number equal to the depreciationHow to use the working hours more or less as follows:
.1. Depreciation rate per hour = cost - price remains about working hours 2

. Depreciation per year = depreciation rate per hour * number of hours of work each year

.Example 2 from problems 1 assuming machines are estimated to use, 50 000 hours. Business machinery and walk each year. The following year, 2541
10 000 hours
years 2542 25 000 hours

, calculation 1.? Depreciation rate per hour = 120 000-20 000,,,
50 000
.= 2)
2. Depreciation each year
years 2541 = 2 × 10 000
=,, 20 000)
years 2542 = 2 × 25 000
=,, 50 000)
accounting 2541

year December 31, Dr. Depreciation - machinery, 20 000
Cr. Accumulated depreciation - machinery 20 000
depreciation, improve machine 2542

year December 31 Dr.Depreciation - machinery, 50 000
Cr. Accumulated depreciation - machine. 50, the 000
improve depreciation.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: