Nano electronics At present we are living in a world of electronic and digital computers. Science of electronics makes the man; Build a facility up and it seems that we will not look at any property of human morals and spread out to Araya, the invention of the human being with the best of the electronic elements are almost all. Until the other electronic forms the basis of modern civilized the Dharma. Nano-technology in the article now focuses to a role of nanotechnology that are to adjust the direction and development of electronic, which are going to be arriving at the spots, can be developed. This can make for many travelers, the discomfort? Most computer engineers do not want to accept the truth. The fact that we may not be able to maintain the same statistics that we can develop a computer, there is a higher rate of speed that is higher, as Gordon Moore Intel disobeyed company founder. "the number of transistor, which is contained on this circuit, or microchip is increased.Only once every 18 months, "notong Say an name him as the rules of Moore (Moore Law), which has been accepted and is the pressure to produce chips, industry development phasamarot chip, there is a high speed, fast personal computer purchased new with an obsolete to every need. A year and a half, but this is going to be Moore's rule, wobbly. To increase the number of transistor to contain the size of the thumbnails on the circuit are coming to understand this situation limits severely all round obvious we would have come to understand the development of the electronics industry.The history of the electronics industry.History of the home of the electronic industry will start to come from the invention of the tube, ovary, colors, price of thot (Cathode Rays Tube), Sir William (Sir William Crookes) khruk in 1875 lead to the discovery of the x-ray, by roen (Wilhelm Conrad Roentgen) Genting Highlands in 1895, and the discovery of the electron by Thompson (Joseph Thomson) in 1897, and then in 1904 Fleming (John Ambrose Fleming) is a tube diode fabrication for the first time, which is the basis of all kinds of electronic equipment, and then again two years later, the forest (Lee De Forest) was able to fabricate a tube triode which can control the flow of electrons. The next year, another 13 are in the year 1919 chotki (Walter Schottky) invented the multiple vacuum tube anode. In addition, he has developed a theory that is used to describe the flow of electrons and holes in the electronic devices.พัฒนาการที่สำคัญของวงการอิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1940 หลังจากที่หลอดสุญญากาศแสดงบทบาท ในฐานะอุปกรณ์ควบคุมในเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายมาร่วม 3 ทศวรรษ โดยโอลห์ (Russell Shoemake Ohl) ค้นพบว่าผลึกซิลิกอนสามารถจะนำมาสร้างเป็นอุปกรณ์ไดโอดได้ ซึ่งนำไปสู่การคิดค้นทรานซิสเตอร์ของ ชอคลี (William Bradford Schockley) แบรตเทน (Walter H. Brattain) และ บาร์ดีน (John Bardeen) ในปี ค.ศ. 1948 หลังจากนั้นอุปกรณ์พวกสารกึ่งตัวนำได้เริ่มเข้ามาแทนที่หลอดสุญญากาศ ทำให้เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มีขนาดเล็กลงและราคาถูกลงมาก อย่างไรก็ตามก็ยังไม่เป็นที่พึงพอใจของอุตสาหกรรมเท่าไรนัก เนื่องจากว่าการสร้างเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ยังคงต้องนำอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำจำนวนมากมาต่อเชื่อมกันให้เป็นวงจรรวม ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างยุ่งยาก จึงเกิดแนวความคิดที่จะทำให้อุปกรณ์หล่านั้น รวมทั้งวงจร ถูกยุบรวมเข้าไปบนสารกึ่งตัวนำที่เป็นชิ้นเดียว และแล้วในปี ค.ศ. 1959 เออร์นี (Jean Hoerni) และ นอยซ์ (Robert Noyce) ก็สามารถพัฒนาแผงวงจรรวมดังกล่าว (Integrated Circuit หรือ IC) ได้สำเร็จ และเพียงปีเดียวเท่านั้นแผงวงจรรวมดังกล่าวก็เข้าไปแทนที่อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำแบบแยกส่วนถึง 90% เลยที่เดียว ในช่วงต้นๆ ของทศวรรษ 1960 นั้น วงจรรวมยังไม่มีความซับซ้อนมาก โดยอาจมีทรานซิสเตอร์ประมาณ 20-200 ตัวต่อแผ่นชิพหนึ่งแผ่น และเพิ่มขึ้นมาเป็น 200-5000 ตัวในช่วงปี 1970 ปัจจุบันนี้เรามีแผงวงจรรวมที่มีทรานซิสเตอร์นับล้านตัวเลยทีเดียว Figure 1 the complexity of an integrated circuit (from IBM)The production of micro-technology, ICSAlthough current production chips, phaai c, there will be a lot of progressive technology, until the people in the industry call it high-tech no Lo-Yi, according to the. The process and procedures used to produce the live map formulated since the reign of oeni and Noyce.การผลิตชิพนั้นเริ่มต้นโดยการนำทรายมาแยกเอาซิลิกอนที่มีความบริสุทธิ์สูง ระดับ 99.9999999 เปอร์เซ็นต์ นั่นก็คือในหนึ่งพันล้านอะตอมนั้น จะมีอะตอมของธาตุอื่นปลอมปนมาได้ไม่เกินหนึ่งอะตอมเท่านั้น โดยปล่อยให้ซิลิกอนตกผลึกเป็นแท่งกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 6 ถึง 8 นิ้ว จากนั้นนำแท่งซิลิกอนมาฝานออกเป็นแผ่นกลมบางๆ ที่มีความหนาขนาด 0.002 นิ้ว ที่เรียกว่าแผ่นเวเฟอร์ (wafer) ขั้นตอนต่อไปก็คือ ทำให้ผิวของเวเฟอร์นั้นอยู่ในรูปของออกไซด์ โดยนำไปสัมผัสกับไอน้ำร้อนๆ ออกไซด์ดังกล่าวมีประโยชน์ในการเป็นฉนวนไฟฟ้า เป็นตัวควบคุมสนามไฟฟ้า เป็นตัวป้องกันการโดพ (dope) สารในบริเวณที่ไม่ต้องการ เนื่องจากความสามารถในการป้องกันแผ่นเวเฟอร์ จากการรบกวนจากภายนอกของชั้นออกไซด์ แผ่นเวเฟอร์จึงแทบจะไม่มีประโยชน์เลยหากถูกเคลือบโดยออกไซด์ทั้งหมดขั้นตอนต่อไปจึงต้องทำการขจัดชั้นของออกไซด์ออกไปในบริเวณที่จะใช้งาน วิธีนี้เรียกว่าวิธีสร้างลายวงจรด้วยแสง (Photolithography) โดยนำแผ่นเวเฟอร์มาเคลือบด้วยสารเคมีที่ไวต่อแสง โดยสารเคมีดังกล่าวจะละลายในตัวทำละลายได้ดีหากโดนแสง ดังนั้นเมื่อนำลายวงจรมาเป็นฉากกั้นหน้าแผ่นเวเฟอร์ แล้วฉายแสงลงไปบนฉาก บริเวณที่แสงส่องลงไปโดนเวเฟอร์นี้ แสงจะไปเปลี่ยนคุณสมบัติของสารเคมีที่เคลือบอยู่ทำให้ละลายออกได้ง่าย ซึ่งเมื่อผ่านตัวทำละลายลงไป มันก็จะไปขจัดเอาชั้นออกไซด์ออกไปด้วย ส่วนบริเวณที่ไม่โดนแสงก็ยังคงมีชั้นออกไซด์นั้นอยู่ ดังนั้นการทำ Photolithography หลายๆ ครั้ง ก็จะสามารถสร้างลายวงจรที่มีความซับซ้อนได้ Figure 2 one wafer can produce hundreds of chips, ripped. The red rectangle in the image is the size of the integrated circuit, all of which will be packaged in a chip (from Fullman Company).When the wafer with a laiwongchon. Wafer to contain anything from domain to Silicon, nami, electrical properties that changed.
การแปล กรุณารอสักครู่..