ประวัติความเป็นมาของกีฬาเซปัคตะกร้อ

ประวัติความเป็นมาของกีฬาเซปัคตะกร้อ

ในการค้นคว้าหาหลักฐานเกี่ยวกับ แหล่งกำเนิดการกีฬาตะกร้อในอดีตนั้น ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่าง ชัดเจนว่า กีีฬาตะกร้อนั้นกำเนิดจากที่ใด จากการสันนิษฐาน คงจะได้หลายเหตุผลดังนี้

ประเทศพม่า เมื่อประมาณ พ.ศ.2310 พม่ามาตั้งค่ายอยู่ที่โพธิ์สามต้น ก็เลยเล่นกีฬาตะกร้อกัน ซึ่งทางพม่า เรียกว่า "ชิงลง" ทางมาเลเซียก็ประกาศว่า ตะกร้อเป็นกีฬาของประเทศมาลายูเดิมเรียกว่า ซีปักรากา (Sepak Raga) คำว่า Raga หมายถึง ตะกร้า ทางฟิลิปปินส์ ก็นิยมเล่นกันมานานแล้ว แต่เรียกว่า Sipak ทางประเทศจีน ก็มีกีฬาที่คล้าย กีฬาตะกร้อ แต่เป็นการเตะตะกร้อชนิดที่เป็นลูกหนังปักขนไก่ ชาวจีนกวางตุ้ง ที่เดินทางไป ตั้งรกรากในอเมริกา ได้นำการเล่นตะกร้อขนไก่นี้ไปเผยแพร่ แต่เรียกว่า เตกโก (Tek K'au) ซึ่งหมายถึง การเตะ ลูกขนไก่ ประเทศเกาหลี ก็มีลักษณะคล้ายกับของจีน แต่ลักษณะของลูกตะกร้อแตกต่างไปคือ ใช้ดินเหนียว ห่อด้วยผ้าสำลี เอาหางไก่ฟ้าปัก ประเทศไทย ก็นิยมเล่นกีฬาตะกร้อมายาวนาน และประยุกต์จนเข้ากับ ประเพณีของชนชาติไทย อย่างกลมกลืนและสวยงามทั้งด้านทักษะและความคิด

ประวัติความเป็นมาในประเทศไทย

ในสมัยโบราณนั้น ประเทศไทยเรามีกฎหมายและวิธีการลงโทษผู้กระทำความผิด โดยการนำเอานักโทษ ใส่ลงไปในสิ่งกลมๆ ที่สานด้วยหวายให้ช้างเตะ แต่สิ่งที่ช่วยสนับสนุนประวัติของตะกร้อได้ดี คือ ใน พระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาของรัชกาลที่ 2 ในเรื่องมีบางตอนที่กล่าวถึงการเล่นตะกร้อ และที่ระเบียงพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเขียนเรื่องรามเกียรติ์ ก็มีภาพการเล่นตะกร้อแสดงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้

โดยภูมิศาสตร์ของไทยเองก็ส่งเสริมสนับสนุนให้เราได้ทราบประวัติของตะกร้อ คือ ประเทศของเรา อุดมไปด้วย ไม้ไผ่และหวาย คนไทยนิยมนำเอาหวายมาสานเป็นสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านด้วย อีกทั้ง ประเภทของกีฬาตะกร้อในประเทศไทย ก็มีหลายประเภท เช่น ตะกร้อวง ตะกร้อลอดห่วง ตะกร้อชิงธง และ การแสดงตะกร้อพลิกแพลงต่างๆ ซึ่งการเล่นตะกร้อของประเทศอื่นๆนั้น มีการเล่นไม่หลายแบบหลายวิธี เช่นของไทยเราการเล่นตะกร้อมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องมาตามลำดับ ทั้งด้านรูปแบบและวัตถุดิบ ในการทำ จากสมัยแรกเป็นผ้า, หนังสัตว์, หวาย จนถึงประเภทสังเคราะห์ (พลาสติก)

คำว่า "ตะกร้อ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า "ลูกกลมสานด้วยหวายเป็นตา สำหรับเตะ"

วิวัฒนาการการเล่นการเล่นกีฬาเซปัคตะกร้อ

การเล่นตะกร้อ ได้มีวิวัฒนาการในการเล่นมาอย่างต่อเนื่อง ในสมัยแรกๆ ก็เป็นเพียงการช่วยกันเตะลูก ไม่ให้ตกถึงพื้นต่อมาเมื่อเกิดความชำนาญและหลีกหนีความจำเจ ก็คงมีการเริ่มเล่นด้วยศีรษะ เข่า ศอก ไหล่ มีการจัดเพิ่มท่าให้ยากและสวยงามขึ้นตามลำดับ จากนั้นก็ตกลงวางกติกาการเล่นโดยเอื้ออำนวยต่อผู้เล่น เป็นส่วนรวม อาจแตกต่างไปตามสภาพภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ แต่คงมีความใกล้เคียงกันมากพอสมควร

ตะกร้อนั้นมีมากมายหลายประเภทเช่น

ตะกร้อข้ามตาข่าย
ตะกร้อลอดบ่วง
ตะกร้อพลิกแพลงเป็นต้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The history of the sport takraw pak seIn the research to find evidence about the origin of the sport in the past, Sepaktakraw. I still can't find a conclusion, it is clear that the sport where it originated from Sepaktakraw assumed he might have several reasons:ประเทศพม่า เมื่อประมาณ พ.ศ.2310 พม่ามาตั้งค่ายอยู่ที่โพธิ์สามต้น ก็เลยเล่นกีฬาตะกร้อกัน ซึ่งทางพม่า เรียกว่า "ชิงลง" ทางมาเลเซียก็ประกาศว่า ตะกร้อเป็นกีฬาของประเทศมาลายูเดิมเรียกว่า ซีปักรากา (Sepak Raga) คำว่า Raga หมายถึง ตะกร้า ทางฟิลิปปินส์ ก็นิยมเล่นกันมานานแล้ว แต่เรียกว่า Sipak ทางประเทศจีน ก็มีกีฬาที่คล้าย กีฬาตะกร้อ แต่เป็นการเตะตะกร้อชนิดที่เป็นลูกหนังปักขนไก่ ชาวจีนกวางตุ้ง ที่เดินทางไป ตั้งรกรากในอเมริกา ได้นำการเล่นตะกร้อขนไก่นี้ไปเผยแพร่ แต่เรียกว่า เตกโก (Tek K'au) ซึ่งหมายถึง การเตะ ลูกขนไก่ ประเทศเกาหลี ก็มีลักษณะคล้ายกับของจีน แต่ลักษณะของลูกตะกร้อแตกต่างไปคือ ใช้ดินเหนียว ห่อด้วยผ้าสำลี เอาหางไก่ฟ้าปัก ประเทศไทย ก็นิยมเล่นกีฬาตะกร้อมายาวนาน และประยุกต์จนเข้ากับ ประเพณีของชนชาติไทย อย่างกลมกลืนและสวยงามทั้งด้านทักษะและความคิด ประวัติความเป็นมาในประเทศไทยในสมัยโบราณนั้น ประเทศไทยเรามีกฎหมายและวิธีการลงโทษผู้กระทำความผิด โดยการนำเอานักโทษ ใส่ลงไปในสิ่งกลมๆ ที่สานด้วยหวายให้ช้างเตะ แต่สิ่งที่ช่วยสนับสนุนประวัติของตะกร้อได้ดี คือ ใน พระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาของรัชกาลที่ 2 ในเรื่องมีบางตอนที่กล่าวถึงการเล่นตะกร้อ และที่ระเบียงพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเขียนเรื่องรามเกียรติ์ ก็มีภาพการเล่นตะกร้อแสดงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้โดยภูมิศาสตร์ของไทยเองก็ส่งเสริมสนับสนุนให้เราได้ทราบประวัติของตะกร้อ คือ ประเทศของเรา อุดมไปด้วย ไม้ไผ่และหวาย คนไทยนิยมนำเอาหวายมาสานเป็นสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านด้วย อีกทั้ง ประเภทของกีฬาตะกร้อในประเทศไทย ก็มีหลายประเภท เช่น ตะกร้อวง ตะกร้อลอดห่วง ตะกร้อชิงธง และ การแสดงตะกร้อพลิกแพลงต่างๆ ซึ่งการเล่นตะกร้อของประเทศอื่นๆนั้น มีการเล่นไม่หลายแบบหลายวิธี เช่นของไทยเราการเล่นตะกร้อมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องมาตามลำดับ ทั้งด้านรูปแบบและวัตถุดิบ ในการทำ จากสมัยแรกเป็นผ้า, หนังสัตว์, หวาย จนถึงประเภทสังเคราะห์ (พลาสติก)คำว่า "ตะกร้อ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า "ลูกกลมสานด้วยหวายเป็นตา สำหรับเตะ"วิวัฒนาการการเล่นการเล่นกีฬาเซปัคตะกร้อการเล่นตะกร้อ ได้มีวิวัฒนาการในการเล่นมาอย่างต่อเนื่อง ในสมัยแรกๆ ก็เป็นเพียงการช่วยกันเตะลูก ไม่ให้ตกถึงพื้นต่อมาเมื่อเกิดความชำนาญและหลีกหนีความจำเจ ก็คงมีการเริ่มเล่นด้วยศีรษะ เข่า ศอก ไหล่ มีการจัดเพิ่มท่าให้ยากและสวยงามขึ้นตามลำดับ จากนั้นก็ตกลงวางกติกาการเล่นโดยเอื้ออำนวยต่อผู้เล่น เป็นส่วนรวม อาจแตกต่างไปตามสภาพภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ แต่คงมีความใกล้เคียงกันมากพอสมควร
ตะกร้อนั้นมีมากมายหลายประเภทเช่น

ตะกร้อข้ามตาข่าย
ตะกร้อลอดบ่วง
ตะกร้อพลิกแพลงเป็นต้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

the history of sports sepak takraw

.In searching for evidence about. In the past, the source of sports skill Can't find the obvious conclusion that GI sport ball that origins from anywhere from lean toxic base will be many reasons as follows:

Myanmar. About BC.2310 Myanmar came and pitched pho three early, so the sport skill. The Myanmar, also known as "Qing" Malaysia was announced. The muzzle is a sport of the country, a Malay originally called ซีป black crow (Sepak Raga.) "Raga means basket, the Philippines.But in China, it is called Sipak sports like takraw, but is kicked ball type as football embroidered feather Cantonese. Traveling in America. The settled to play ball, but this feather to publish called Taekwondo KoK 'AU) which means kick shuttlecock, Korea is similar to China. However, the ball is different is the use of clay wrapped with flannelette. Remove the tail blue embroidery. Thailand is a popular sport muzzle long.The tradition of the Thai nation. Harmony and beautiful both skills and ideas!
the history in

.In the ancient times. Thailand, we have a law, and how to punish criminals by bringing the prisoners put into this round, woven rattan elephant kick. But what helps support the history of the muzzle is in the well.2 in some episode mentioned playing ball and terrace temple. The temple of the Emerald Buddha, which wrote the Ramayana. They have a play ball is shown for future generations to know
.