The behavior of consumers, food supplements for weight control in Bangkok and vicinity areas.Consumer Behavior of Weight Control Supplements in Bangkok and Suburban AreasBy yanee kriti Bunch treasure.2550 years.Abstract (Abstract)This research aims to study the behaviour of consumers, food supplements for weight control in Bangkok and its vicinities, by studying those aged between 18-60 years. Year number of 400 people, using the questionnaire as a tool to collect data, analyze data, and use the statistical analysis include percentage average standard deviation value. Comparative analysis to test the relationship between the two variables using the Chi-square statistic analysis of the difference by analysis of variance (ANOVA One way) and simple correlation statistics of Pearson (Pearson Product Moment Correlation Coefficient). For statistical analysis using SPSS program for Window V.11ผลการวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จะมีอายุมากกว่า 28 ปีขึ้นไป การศึกษาระดับปริญญาตรี และ มีรายได้ครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน 50,000-59,999 บาท มีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว จะชอบแฟชั่นการแต่งกายและรักการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และมีความพึงพอใจในรูปร่างและน้ำหนักในระดับปานกลางพฤติกรรมการบริโภคของผู้ที่เคยบริโภคจะเลือกรูปแบบผลิตภัณฑ์ เป็นแบบชนิดเม็ด/แคปซูล เพราะสะดวกต่อการพกพา/บริโภค ยี่ห้อผลิตภัณฑ์ที่บริโภคขึ้นอยู่กับคุณภาพและราคาของสินค้า และซื้อผลิตภัณฑ์จากตัวแทนจำหน่าย แหล่งที่รู้จักผลิตภัณฑ์ คือการโฆษณาทางทีวี และเมื่อบริโภคแล้วเห็นผลจริงข้อมูลผู้เคยบริโภค คือ ระยะเวลาเห็นผลในการบริโภค โดยเฉลี่ย 1.31 เดือน น้ำหนักลดลง โดยเฉลี่ย 2.15 กก./เดือน ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 1,472 บาท/เดือน ความพึงพอใจในน้ำหนักที่ลดลง โดยเฉลี่ย 2.82 กก./เดือน และผลข้างเคียงที่ได้รับจากการบริโภคอยู่ในระดับปานกลาง
ลำดับความสำคัญ ของปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ อันดับแรกคือ ด้านราคา(ราคาเหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพ) ด้านผลิตภัณฑ์(สินค้ามีความปลอดภัยในการใช้) ด้านช่องทางการจัด จำหน่าย(ผลิตภัณฑ์สามารถหาซื้อได้ง่าย) และด้านการส่งเสริมการตลาด(การนำข้อมูลทางวิชาการมาสนับสนุนสินค้า) โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.20, 4.00, 3.80 และ 3.78 ตามลำดับ
สมมติฐานข้อที่ 1. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภค/ไม่บริโภคอาหารเสริมเพื่อการควบคุมน้ำหนักมีระดับความสัมพันธ์ดังนี้ อันดับ 1. อายุมากกว่า 28 ปี (=.416) อันดับ 2. เชื่อว่าระยะยาวอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (=.293) อันดับ 3. เชื่อว่าลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย(=.279) อันดับ 4. เชื่อว่าได้รับสารอาหารครบถ้วน (=.217) อันดับ 5. เชื่อว่าลดน้ำหนักได้จริง(=.209)อันดับ 6. ความพึงพอใจที่มีต่อรูปร่างและน้ำหนัก (=.191) อันดับ 7. และเชื่อว่าไม่มีอาการโยโย่ เอฟเฟกส์ (=.191) อันดับ 8. ลักษณะทางจิตวิทยา (=.188) อันดับ 9. การศึกษา (=.182) อันดับ 10. อาชีพและอันดับ (=.169) 11. รายได้ครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน (=.155)
สมมติฐานข้อที่ 2. ความพึงพอใจในการลดน้ำหนักมีความสัมพันธ์ดังนี้ คือ อายุมีความสัมพันธ์แนวโน้มการบริโภค/ไม่บริโภคในอนาคต ผลข้างเคียงที่ได้รับจากการบริโภคไม่มีความสัมพันธ์กับแนวโน้มการบริโภคในอนาคต
สมมติฐานข้อที่ 3. ลักษณะทางประชากรศาสตร์ มีอิทธิพลต่อส่วนประสมทางการตลาดดังนี้ การศึกษามีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อด้านผลิตภัณฑ์ รายได้และอาชีพไม่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ รายได้มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อด้านราคา การศึกษาและอาชีพไม่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อด้านราคา รายได้และอาชีพมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อด้านช่องทางการจัดจำหน่าย การศึกษาไม่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อด้านช่องทางการจัดจำหน่าย รายได้มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อด้านส่งเสริมการตลาด การศึกษาและอาชีพไม่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อด้านส่งเสริมการตลาด
DOWNLOAD
Tags: การควบคุมน้ำหนัก, พฤติกรรมการบริโภค, อาหารเสริม
Posted in Thesis, คณะบริหารธุรกิจ (Business Administration)
การแปล กรุณารอสักครู่..
