โครงการวิจัยเรื่อง การศึกษาพฤติกรรม

โครงการวิจัยเรื่อง การศึกษาพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคไข้เลือดออก จากหมู่บ้าน คลองสิบศอก หมู่ที่ ๖ ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคไข้เลือดออก โดยกลุ่มประชากรที่ใช้วิจัย จากหมู่บ้านคลองสิบศอก หมู่ 6 จำนวน 300 หลังคาเรือง แต่สุ่มตัวอย่างประชากร จำนวน 179 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นแบบสอบถาม เกี่ยวกับ ความรู้ พฤติกรรม และการป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยสถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ จำนวน ร้อยละ และค่าเฉลี่ย
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ประชากรหมู่บ้านคลองสิบศอก หมู่ที่ 6 ตำบล หลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 179 คน ลักษณะประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากถึงคิดเป็นร้อยละ 35.8 รองลงมา คือ เพศชาย คิดเป็นร้อยละ 28.44 ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ ต่ำกว่า 25 ปี จำนวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 48.0 รองลงมาคือ อายุ 36 ปี ขึ้นไป จำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 30.2 ค่าต่ำสุด อาชีพ ส่วนมากประกอบอาชีพ รับจ้าง จำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 22.3 รองลงมาคือประกอบอาชีพ ธุรกิจ/ค้าขาย จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 16.8 ระดับการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีการศึกษาสูงสุด ระดับมัธยมศึกษา จำนวน 97 คน คิดเป็นร้อยละ 40.8 รองลงมาคือ ปริญญาตรี จำนวน 55 คน คิดเป็นร้อยละ 30.7 ประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก จำนวน 153 คน คิดเป็นร้อยละ 85.5 รองลงมาคือ เคยมีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 14.5 การรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก จำนวน 179 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 ความรู้เรื่องโรคไข้เลือดออกที่ตอบถูกส่วนมาก คือ ยุงลายเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก จำนวน 268 คน ร้อยละ 100 รองลงมาคือ การกำจัดลูกน้ำยุงลายจะป้องกันไข้เลือดออกได้ จำนวน 268 คน คิดเป็นร้อยละ 100 และตอบถูกน้อยที่สุด คือ เชื้อที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกมากที่สุด คือเชื้อ Chikungunya จำนวน 180 คน คิดเป็นร้อยละ 67.16 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีความรู้เรื่องโรคไข้เลือดออก อยู่ในระดับสูง จำนวน 221 คน คิดเป็นร้อยละ 82.6 รองลงมาอยู่ในระดับปานกลาง คือ 37 8คน คิดเป็นร้อยละ 13.8 รองลงมา ต่ำสุด จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 3.6 ด้านพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก พบว่า ส่วนใหญ่ ปฎิบัติบ่อยครั้ง มีพฤติกรรมนอนกามุ้ง หรือในที่ที่มุ้งลวด ทั้งกลางวันและกลางคืน จำนวน 229 คน คิดเป็นร้อยละ 85.45 รองลงมา ปฎิบัติบางครั้ง คือ ใส่เกลือ ผงซักผอง น้ำส้มสายชู ลงในจานรองขาตู้กับทายากันยุง จำนวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 28.73 ไม่เคยปฎิบัติ คือ สำรวจลูกน้ำยุงลายในภาชนะรองรับน้ำ จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 1.87 ตามระดับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีพฤติกรรมป้องกันโรคไข้เลือดออกระดับสูง จำนวน 216 คน คิดเป็นร้อยละ 80.5 จาการศึกษาในครั้งนี้คณะผู้ศึกษาจะนำเอาข้อมูลที่ได้ไปทำการวางแผนเพื่อนำกลับมาแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของโรคไข้เลือดออก เพื่อลดอัตราเสี่ยงของการเสียชีวิต และเพิ่มความรู้ให้มากขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
ผู้ทำการศึกษามีข้อเสนอแนะ จากการศึกษาครั้งนี้ ควรทำวิจัยในเรื่องนี้ในเขตชุมชนอื่นๆเพื่อนำมาเปรียบเทียบนำมาปรับปรุงการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป ควรศึกษาเกี่ยวกับอุปสรรคในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นข้อมูลในการนำกลับมาพัฒนาปรับปรุงแก้ไขการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Research project title study of self defense against dengue disease. From the village. Canal 10 elbow Among the 6 Tambon Muang pathum Thani province with six main objectives for education, knowledge and behaviours to protect ourselves from DHF by population-based research, ten Canal Village Sok. Among the 300 number 6 roof bearing population sampling, but the number of 179 people, a tool that is used to store data in the questionnaire about knowledge, behavior and to prevent DHF by the fact that data analysis is the amount per cent and the average. ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ประชากรหมู่บ้านคลองสิบศอก หมู่ที่ 6 ตำบล หลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 179 คน ลักษณะประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากถึงคิดเป็นร้อยละ 35.8 รองลงมา คือ เพศชาย คิดเป็นร้อยละ 28.44 ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ ต่ำกว่า 25 ปี จำนวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 48.0 รองลงมาคือ อายุ 36 ปี ขึ้นไป จำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 30.2 ค่าต่ำสุด อาชีพ ส่วนมากประกอบอาชีพ รับจ้าง จำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 22.3 รองลงมาคือประกอบอาชีพ ธุรกิจ/ค้าขาย จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 16.8 ระดับการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีการศึกษาสูงสุด ระดับมัธยมศึกษา จำนวน 97 คน คิดเป็นร้อยละ 40.8 รองลงมาคือ ปริญญาตรี จำนวน 55 คน คิดเป็นร้อยละ 30.7 ประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก จำนวน 153 คน คิดเป็นร้อยละ 85.5 รองลงมาคือ เคยมีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 14.5 การรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก จำนวน 179 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 ความรู้เรื่องโรคไข้เลือดออกที่ตอบถูกส่วนมาก คือ ยุงลายเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก จำนวน 268 คน ร้อยละ 100 รองลงมาคือ การกำจัดลูกน้ำยุงลายจะป้องกันไข้เลือดออกได้ จำนวน 268 คน คิดเป็นร้อยละ 100 และตอบถูกน้อยที่สุด คือ เชื้อที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกมากที่สุด คือเชื้อ Chikungunya จำนวน 180 คน คิดเป็นร้อยละ 67.16 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีความรู้เรื่องโรคไข้เลือดออก อยู่ในระดับสูง จำนวน 221 คน คิดเป็นร้อยละ 82.6 รองลงมาอยู่ในระดับปานกลาง คือ 37 8คน คิดเป็นร้อยละ 13.8 รองลงมา ต่ำสุด จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 3.6 ด้านพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก พบว่า ส่วนใหญ่ ปฎิบัติบ่อยครั้ง มีพฤติกรรมนอนกามุ้ง หรือในที่ที่มุ้งลวด ทั้งกลางวันและกลางคืน จำนวน 229 คน คิดเป็นร้อยละ 85.45 รองลงมา ปฎิบัติบางครั้ง คือ ใส่เกลือ ผงซักผอง น้ำส้มสายชู ลงในจานรองขาตู้กับทายากันยุง จำนวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 28.73 ไม่เคยปฎิบัติ คือ สำรวจลูกน้ำยุงลายในภาชนะรองรับน้ำ จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 1.87 ตามระดับพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีพฤติกรรมป้องกันโรคไข้เลือดออกระดับสูง จำนวน 216 คน คิดเป็นร้อยละ 80.5 จาการศึกษาในครั้งนี้คณะผู้ศึกษาจะนำเอาข้อมูลที่ได้ไปทำการวางแผนเพื่อนำกลับมาแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของโรคไข้เลือดออก เพื่อลดอัตราเสี่ยงของการเสียชีวิต และเพิ่มความรู้ให้มากขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป A study with recommendations from the study findings should be made in this regard in other Community regions compared to bring improvements to the participation of the people in the community more effective, further. Should learn about the obstacles in others officials to be brought in to develop the revision work even more efficiently.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The research project Behavior to protect themselves from dengue ten cubits from Klong Moo 6, Tambon Lak Hok, Muang Pathum Thani. The purposes of education, knowledge and behaviors to protect themselves from the disease. The population-based research group Klong ten cubits from among six sample population of 300 179, but the roof was used to store data. A questionnaire about their knowledge, behavior and disease prevention. The statistics used in this study were the percentage and the average
results of the study found. Population Klong ten cubits Moo 6, Tambon Lak Hok, Muang Pathum 179 people, population characteristics, most were women, up to a percentage of 35.8, followed by the male as a percentage of 28.44, largely in low age. More than 25 years were 86 percent, 48.0, followed by the age of 36 years and over 54 people, representing 30.2 percent, the lowest career mostly to employment of 40 people, representing 22.3 per cent, followed by the assembly. career Business / Retail trade accounted for 16.8 percent of 30 studies showed that the most highly educated. High of 97, accounting for 40.8 percent, followed by the BA of 55 people, representing 30.7 per cent on dengue illness history. Found that most samples Never has a history of illness, fever of 153 people, representing 85.5 percent had a history minor is sick with the disease in 26 patients, representing 14.5 percent of perception about the disease was found. Most samples Get informed about the disease of 179 per cent to 100.00 knowledge about dengue response was mainly the mosquito-borne dengue fever, 268 people, 100 percent, followed by the elimination of mosquito larvae in. Dengue Prevention 268 people representing 100 per cent of the answers were minimal bacteria that cause infection Chikungunya disease is most of the 180 people, representing 67.16 per cent of the sample are most knowledgeable about the disease. The high level of 221, representing a 82.6 percent lower in moderate is 37 to 8, representing 13.8 percent, followed by a minimum of 10 people, representing 3.6 per cent in behavior to prevent disease was found. Large practices often. The Nets have a habit of sleeping Or in the screened Day and night, 229 percent of 85.45, followed by practice sometimes is salt washing powder cohorts vinegar into a saucer stand on topical mosquito numbers were 77 per cent 28.73 not fighting. Continue the exploration mosquito larvae in a container of water with 5 percent 1.87 based prevention behaviors disease found that most are behaving anti-dengue level of 216 people, representing 80.5 per cent from the study. This time, the students will take the information that has to make a plan to bring back the public health problem of dengue. To reduce the risk of death. And knowledge more. For better quality of life to
the study suggested. From this study, Do research on this issue in other communities to be compared to improve the participation of citizens in the community to more effectively next. Should learn about the obstacles to the work of the authorities for information on recycling development work to improve efficiency even more.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The research project on Study the prevention of dengue fever from the village canal ten cubits. Among the six main district, Mueang Pathum Thani.The population research, from the Canal Village ten cubits. The 6 number 300 roof bearing, but random samples of 179 people the tools used in the data collection. A questionnaire about knowledge, behavior.By statistics in data analysis is the mean percentage
.The results of the study showed that the Canal Village ten cubits. The 6 District, six main district, Pathum Thani province. The 179. Population mostly female to 35.8% respectively. Is a male, were 28.44 mainly in their lower 25 years of 86 people were 48.0 followed by age 36 years, up to the number of 54 people were 30.2 minimum value Most career career contract number 40 people were 22.3 followed by occupation, business / trading of 30 people were 16.8 education showed that the group had the highest example Secondary level of 97 people were 40.8 followed by bachelor degree of 55 people were 30.7 illness with fever, bleeding It is found that the most. Never have a history of illness, with dengue fever were 153 people were 85.5 followed by have a history of illness, with dengue fever were 26 people were 14.5 information about dengue hemorrhagic fever, it is found that the majority of 179 get to know ข่าวสารเกี่ยวกับ dengue fever. The percentage of 100.00 knowledge about dengue fever that answer was, is a carrier of dengue fever mosquito net 268 people 100% respectively. Removal of mosquitoes to prevent dengue fever, the number of 268 people were 100 and answer being less possible.Infections that cause hemorrhagic fever most is Chikungunya infections were 180 people were 67.16 showed that the most of the knowledge about dengue fever is high. The 221 people were 82.6 followed in the medium. Is 37 8 people were 13.8 followed by minimum number of 10 people were 3.The 6 prevention behavior, most practices often have นอนกา behavior or in which mosquito nets, both day and night. The 229 people were 85.45 followed by practice sometimes is salt washing powder the vinegar into the saucer cabinet legs with ทายากันยุง were 77 people were 28.73 never practice. The survey of mosquitoes in water containers were 5 people were 1.87 according to the level of health behavior, the behaviors of most preventing Dengue fever were 216 high. The percentage of 80.5 hot in this study, the study will bring information to the plan to bring back the health problems of the dengue fever. To reduce the risk of death. And increase knowledge. For better life next
.The study on some suggestions from this study. Do some research in this area in other communities to compare the improvement of public participation in the community more efficiently.












.