ฟอร์ด เฟียสตา มีวิวัฒนาการตามช่วงเว

ฟอร์ด เฟียสตา มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาแบ่งได้ 6 รุ่น ดังนี้


รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2519 - 2526)[แก้]





ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 1
ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นแรก มีความแตกต่างจากรถ Subcompact รุ่นอื่นๆ ในยุคนั้น ตรงที่การออกแบบนั้นได้นำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เสมือนจริงมาช่วยในการออกแบบ รวมทั้งมีนวัตกรรมที่ทันสมัยและภายในหรูหรากว่ารถ Subcompact รุ่นอื่นๆ (สมัยนั้น อุปกรณ์เสริมความหรูหรามักติดตั้งในรถขนาดใหญ่ ราคาแพง เกรดสูงๆ ไม่ใช่รถ Subcompact) เช่น กระจกนิรภัย, เข็มขัดนิรภัยดึงกลับอัตโนมัติแบบปรับระดับสูง-ต่ำได้ และอุปกรณ์ไล่ฝ้าที่กระจกหลัง, มูนรูฟ (หน้าต่างบนหลังคา เปิดดูดาวได้) ฯลฯ ซึ่งส่วนมากในยุคนั้นอุปกรณ์ประเภทนี้จะมีในรถขนาดกลางขึ้นไป ซึ่งความทันสมัยดังกล่าวได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของเฟียสตาเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้การออกแบบโดยใช้โปรแกรมช่วย ทำให้สามารถออกแบบรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานเพียง 0.42 (ต่ำมากเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในยุคเดียวกัน) ทำให้รถลู่ลม ไม่ต้านลม เครื่องยนต์จึงทำงานเบาลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ใช้น้ำมันน้อยลง และยังช่วยให้อัตราเร่งดีขึ้นด้วย โดยเครื่องยนต์รุ่นมาตรฐาน(ลูกสูบเล็กที่สุด) เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 957 ซีซี ให้กำลัง 40 แรงม้า มีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 17.8 กิโลเมตร/ลิตร (ประหยัดมาก แม้เมื่อเทียบกับรถสมัยใหม่) ส่วนเครื่องยนต์ที่ให้แรงมากกว่า ก็จะนิยมรุ่น 1298 ซีซี ให้กำลัง 66 แรงม้า มีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 16.1 กิโลเมตร/ลิตร

ใน พ.ศ. 2522 เป็นเวลาเพียง 3 ปี ฟอร์ด เฟียสตา สามารถทำยอดขายสะสมได้ครบ 1 ล้านคัน และครบอีก 1ล้าน รวมเป็น 2 ล้านคันในปี 2524 เป็นยอดขายที่เร็วมาก


รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2526 - 2532)[แก้]





ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 2
เฟียสตารุ่นที่ 2 มีจุดเด่นคือเครื่องยนต์(เฉพาะเครื่อง 1298 ซีซี) สามารถรองรับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว และมีระบบเกียร์อัตโนมัติแบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT (รถญี่ปุ่นอื่นๆ เปลี่ยนมาใช้เกียร์ CVT เมื่อประมาณ พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา) ส่วนภาพรวมอื่นๆ คือ เครื่องยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ให้กำลังน้อยลงเล็กน้อย

แต่ที่แปลกประหลาดและเรียกความสนใจของเฟียสตาที่เป็นที่กล่าวถึงกันมาก คือ หน้าปัทม์รถ ที่มีรูปร่างประหลาด ปกติ หน้าปัทม์รถแบบทั่วไป เข็มวัดทุกเข็มจะอยู่รวมกันในเบ้าใหญ่เบ้าเดียว แต่เฟียสตารุ่นที่ 2 ในต่างประเทศ เกจ์วัดแต่ละเกจจะอยู่ในเบ้าเล็กๆ เกจ์ละเบ้า ไม่ได้อยู่รวมกัน


รุ่นที่ 3 (พ.ศ. 2532 - 2540)[แก้]





ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 3
เฟียสตารุ่นที่ 3 มีการผลิตรถแฮทช์แบคแบบ 5 ประตูเป็นครั้งแรก (ก่อนหน้านี้มักจะมีแต่แบบ 3 ประตู) เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2532 ก่อนการเปิดตัว 2 เดือน ต้นแบบรถเฟียสตารุ่นที่ 3 จำนวน 250 คัน ได้ถูกส่งมอบไปให้กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท เพื่อเข้าสู่กระบวนการทดสอบรถบนการใช้งานจริง โดยเฟียสตาใหม่ มีระบบควบคุมการหยุด (อังกฤษ: Stop Control System-SCS) และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (อังกฤษ: Anti-lock Breaking System-ABS) ทำให้มีความน่าเชื่อถือในการใช้งาน

ภายในปีแรกหลังการเปิดตัว ฟอร์ดสามารถขายเฟียสตาใหม่ได้ถึง 500,000 คัน และในปีที่สองมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 649,781 คัน และนอกจากนี้ ยังมีการเสริมระบบความปลอดภัย เช่น เปลี่ยนวัสดุที่บุพวงมาลัยให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น เพื่อลดการบาดเจ็บจากการที่ศีรษะกระแทกพวงมาลัยหากรถชน, ติดตั้งถุงลมนิรภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ตัวถังที่แข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง, เข็มขัดนิรภัยที่มีระบบดึงกลับและปรับความตึงอัตโนมัติ, เบาะคู่หน้าแบบป้องกันการลื่นไถล, ปุ่มฉุกเฉิน กดเพื่อตัดการจ่ายเชื้อเพลิงออกจากถังในทันทีในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่อาจมีเชื้อเพลิงรั่วไหล ดังนั้น ถึงแม้เฟียสตาอาจมีความปลอดภัยต่ำกว่ารถรุ่นอื่นๆ เป็นบางรุ่น ก็เป็นธรรมดาของรถขนาดเล็กที่มีความสามารถในการปกป้องผู้โดยสารต่ำกว่ารถใหญ่โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับรถขนาดเดียวกันแล้ว ถือว่า "ปลอดภัยไร้เทียมทาน"

นอกจากนี้ เฟียสตารุ่น 3 ยังสามารถกวาดรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ ได้มากมาย เช่น รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 1989 จากนิตยสาร What Car?, รางวัลรถขนาดกะทัดรัดยอดเยี่ยมจากการโหวตของผู้ว่านนิตยสาร Auto, Motor und Sport, รางวัลรถซิตี้คาร์ยอดเยี่ยมจากนิตยสาร Neue Revue, รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของยุโรปประจำปี 1990 (อังกฤษ: European Car of the Year)


รุ่นที่ 4 (พ.ศ. 2538 - 2545)[แก้]





ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 4
เฟียสตารุ่นที่ 4 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมนรอบขึ้น เหลี่ยมมุมต่างๆ ถูกแทนที่ด้วยลายเส้นโค้ง ทำให้ลู่ลมได้ดีขึ้น ช่องระบายอากาศด้านล่างถูกเปลี่ยนใหม่, มีแผงไฟขนาดใหญ่ขึ้น, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าออกแบบใหม่โดยใช้เหล็กเสริมกันโครง, และด้านหลังมีการออกแบบคานบิดใหม่และติดตั้งระบบควบคุมการยึดเกาะ Traction Control เพื่อเพิ่มความสามารถในการทรงตัว, มีการติดตั้งระบบเบรกแบบ ABS 4 Channel, เครื่องยนต์ใหม่ ประหยัดน้ำมันและปล่อยไอเสียในระดับต่ำ จนได้รางวัล รถยนต์สีเขียว

ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 4 เป็นรถที่มียอดขายสูงที่สุดในสหราชอาณาจักร 3 ปีซ้อน และมีภาพรวมเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดในยุโรป


รุ่นที่ 5 (พ.ศ. 2545 - 2551)[แก้]





ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 5
เฟียสตารุ่นที่ 5 ออกแบบให้ทันสมัยขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีการติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้าง

ในภาพรวมแล้ว เฟียสตาเริ่มเสื่อมความนิยมลงในแถบยุโรป โดยกลายเป็นรถที่มียอดขายอันดับ 3 รองจาก โอเปิล คอร์ซา (อังกฤษ: Opel Corsa) และ เปอโยต์ 206 (อังกฤษ: Peugeot 206) แต่ยังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในประเทศ บราซิล


รุ่นที่ 6 (พ.ศ. 2551 - ปัจจุบัน)[แก้]





ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 6
ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 6 เปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ 2008 และเริ่มขายตลาดไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่ฟอร์ดประเทศไทย ได้นำเฟียสตาเข้ามาผลิตและจำหน่าย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Ford Fiesta There is a time-based evolution can be divided as follows: version 6.Version 1 (b.e. 2519-2526 (1983)) [edit] Ford Fiesta Version 1Ford Fiesta The first version of the There are differences from other versions of the Subcompact car. In that era, a match that brought the virtual computer program to help in the design, including innovative, modern and luxurious interior than the other versions of the Subcompact car (luxury accessories that are often installed in a large, expensive car. Grade your opponents is not a Subcompact car) such as safety belts, safety glasses, pull back automatic height adjustable and heated mirrors, rear accessories Moon roof (roof window. Open, view, etc.), which most stars have in that era, this type of device is available in a medium-sized car, which modernity has become such a cultural Fiesta's to the present.นอกจากนี้การออกแบบโดยใช้โปรแกรมช่วย ทำให้สามารถออกแบบรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานเพียง 0.42 (ต่ำมากเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในยุคเดียวกัน) ทำให้รถลู่ลม ไม่ต้านลม เครื่องยนต์จึงทำงานเบาลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ใช้น้ำมันน้อยลง และยังช่วยให้อัตราเร่งดีขึ้นด้วย โดยเครื่องยนต์รุ่นมาตรฐาน(ลูกสูบเล็กที่สุด) เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 957 ซีซี ให้กำลัง 40 แรงม้า มีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 17.8 กิโลเมตร/ลิตร (ประหยัดมาก แม้เมื่อเทียบกับรถสมัยใหม่) ส่วนเครื่องยนต์ที่ให้แรงมากกว่า ก็จะนิยมรุ่น 1298 ซีซี ให้กำลัง 66 แรงม้า มีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 16.1 กิโลเมตร/ลิตรIn just three years, as 2522 Ford Fiesta can make a cumulative sales of 1 million vehicles and get another 1 million to 2 million vehicles in the year, total sales at 2524 much faster.Version 2 (b.e. 2526-2532 (1989)) [edit] Ford Fiesta Version 2There are 2 versions of the Fiesta highlights is the engine (local 1298 CC) gasoline and unleaded has a automatic or CVT continuously variable ratios (CVT gearbox using other Japan approximately 2543 etc.). The overview section is the other engine is more environmentally friendly, but are slightly less.But that bizarre and called the attention of the Fiesta is the most commonly mentioned is of a car that has the shape of a car freak, the normal needle needle every general measure are located in Bao Bao, but one big Fiesta version 2 in foreign countries. Each gauge gauges are located in small flasks. Each gauge orbit or not.3rd generation (2532-2540 (1997)) [edit] Ford Fiesta Version 3.There are 3 versions of the Fiesta car manufacturing brand rechargeable 5 door hatch for the first time (previously, but usually has a 3-door) Launched in February, two months before the release 2532 car Fiesta 3 250 the number of cars has been delivered to a group of the company's largest customers to log on to the test car process on actual usage by the new Fiesta has a control system to stop (English: Control System-SCS Stop) lock brakes and wheel protection (English: Anti-lock Breaking System-ABS) Make it reliable in use.ภายในปีแรกหลังการเปิดตัว ฟอร์ดสามารถขายเฟียสตาใหม่ได้ถึง 500,000 คัน และในปีที่สองมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 649,781 คัน และนอกจากนี้ ยังมีการเสริมระบบความปลอดภัย เช่น เปลี่ยนวัสดุที่บุพวงมาลัยให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น เพื่อลดการบาดเจ็บจากการที่ศีรษะกระแทกพวงมาลัยหากรถชน, ติดตั้งถุงลมนิรภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ตัวถังที่แข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง, เข็มขัดนิรภัยที่มีระบบดึงกลับและปรับความตึงอัตโนมัติ, เบาะคู่หน้าแบบป้องกันการลื่นไถล, ปุ่มฉุกเฉิน กดเพื่อตัดการจ่ายเชื้อเพลิงออกจากถังในทันทีในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่อาจมีเชื้อเพลิงรั่วไหล ดังนั้น ถึงแม้เฟียสตาอาจมีความปลอดภัยต่ำกว่ารถรุ่นอื่นๆ เป็นบางรุ่น ก็เป็นธรรมดาของรถขนาดเล็กที่มีความสามารถในการปกป้องผู้โดยสารต่ำกว่ารถใหญ่โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับรถขนาดเดียวกันแล้ว ถือว่า "ปลอดภัยไร้เทียมทาน"Additionally, the Fiesta model can also sweep the awards from various agencies, such as the award of excellent car from What Car? magazine 1989 Awards, compact, excellent car from people's votes with pulp magazine. Auto, Motor und Sport car city, Carthage, Neue Revue magazine, an excellent car, 3rd prize of Europe for the year 1990 (European Car of the Year: English)Version 4 (b.e. 2538-2545 (2002)) [edit] Ford Fiesta Version 4.Fiesta version 4 has been redesigned, streamlined round-up. Corners have been replaced with curves. Moonlit make better. The vents on the bottom were replaced, there is a larger light Panel, front suspension, new design, using steel frame together, and the back has a new twist beam design and install Traction Control traction control system to enhance stability, braking system is installed, a new 4-Channel ABS, engine exhaust emissions and fuel economy in the low level award. The green car.Ford Fiesta Version 4 is a car that has the highest sales in the United Kingdom for 3 years and have an overview of small passenger cars are sold in Europe.5th generation (b.e. 2545-2551 (2008)) [edit] Ford Fiesta Version 5.The 5th version of the Fiesta, more modern design leaps and are equipped with side airbags.In an overview, and then began to degenerate Fiesta popularity down in Europe. Doiklai is a car that has sold an Apple core from Osaka # 3 (English: Opel Corsa) and Peugeot 206 (English: Peugeot 206), but has also been highly popular in the country. BrazilVersion 6 (b.e. 2551-present) [edit] Ford Fiesta The version 6.ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 6 เปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ 2008 และเริ่มขายตลาดไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่ฟอร์ดประเทศไทย ได้นำเฟียสตาเข้ามาผลิตและจำหน่าย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Ford Fiesta has evolved over time, divided the sixth generation version 1 (year 2519-2526) [edit] Ford Fiesta first generation Ford Fiesta. Star first Subcompact cars are different from other models in that era where design has led to the virtual computer aided design. As well as cutting-edge innovation and a more luxurious car Subcompact other models (those luxury accessories are installed in a large high-grade higher than a car Subcompact) such as glass, seat belts retract automatically adjustable. high - low Defroster and rear window, moon roof (the roof. Open star) etc, most of that period, this type of device will be up to the mid-size car. This modernization has become the identity of the Fiesta continues to the present, also helped design the program. Making it possible to design the car effectively. A 0.42 coefficient of friction (very low when compared with other models. In the same era) made ​​aerodynamic car engine is not running against the wind dies down. As a result, the engine uses less fuel. It also allows for better acceleration. The engine standard (piston smallest) is a 4-cylinder engine with 957 cc power 40 hp with a consumption rate of oil is 17.8 km / L (low, even compared with modern) engine that delivers power over it. Top model 1298 cc, 66 hp with a fuel consumption rate is 16.1 km / liter in 2522 was just over three years, Ford Fiesta can be reached cumulative sales of 1 million units. a total of 1 million to 2 million units in 2524 as sales very early versions of two (AD 2526-2532) [edit] Ford Fiesta model, the two Fiesta models. 2, featuring an engine (only 1298 cc) capacity unleaded gasoline. The system continuously variable ratio automatic transmission or CVT (Japan others. Switching to a CVT transmission, about 2543 onwards) and the other is overall more environmentally friendly engines. I am a little bit strange, but the attention and the Fiesta is the car with the dial is very odd shape normally dial a conventional car. Every indicator needle is in the Bao Bao big one. The Fiesta model in two different gauge each package is placed in a gauge of Bao Bao does not include third-generation (AD 2532-2540) [edit] Ford Fiesta. Star's third-generation Fiesta, the third generation has produced a five-door hatchback car for the first time. (Previously often only 3-door), launched in February 2532 two months before the launch of the original car, the Fiesta, the third generation of the 250 units have been delivered to the Company's major customers. To undergo testing on actual usage. The new Fiesta Controlled stop (London: Stop Control System-SCS) and Anti-lock Braking System (UK: Anti-lock Breaking System-ABS) makes reliable in use within the first year after launch. Ford could sell the Fiesta up to 500,000 units in its second year, has sold a record 649,781 cars and also provides extra security, such as the material covered steering wheel to be able to absorb. bumps better To reduce injuries from head banged the steering wheel if the car crash, install airbags as standard equipment, chassis strength to prevent shocks from the side, the seat belt with retractable and tension adjustment, auto upholstery. front anti-skid, emergency button press to cut the fuel from the tank immediately in case of an accident that could have a fuel leak, so even though the Fiesta may be less secure than the other models are slim. it is a common version of the small car that is capable of protecting vehicle passengers under the most naturally anyway. But compared with the same size then considered "safe unparalleled" The Fiesta model can also swept three awards from various organizations, such as the award Car of the Year 1989 award from the magazine What Car ?, car size. compact wonderful, by a vote of the magazine Auto, motor und Sport, awarded the city car wonderful magazine Neue Revue, won Car of Europe's No. 3 for the year 1990 (London: European Car of the year) model. 4 (bE 2538-2545) [edit] Ford Fiesta 4th generation Fiesta version 4 has been redesigned to be rounded up around. Square corners Replaced by curved lines Wind makes it better Vents below were changed, a panel larger, suspension front redesigned using steel reinforced each frame, and rear beam design a new twist and system control adhesion Traction Control to increase. the ability to remain stable, with the installation of a braking system ABS 4 Channel, a new engine. Fuel economy and emissions as low as awarded Green Car Ford Fiesta version 4 is the car with the highest sales in the UK for 3 years and has a total of cars small. best-selling European model 5 (bE 2545-2551) [edit] Ford Fiesta 5th generation Fiesta 5th generation design, modernization leap. And are equipped with side airbags in total. Fiesta began declining reputation in Europe. The car has become the best selling of the three vice Opel Corsa (English: Opel Corsa) and Peugeot 206 (UK: Peugeot 206), but also the most popular in the country. Brazilian version 6 (2551 - present) [edit] Ford Fiesta sixth generation Ford Fiesta version 6 launched at the Frankfurt Motor Show and 2008. start selling to global markets Including Thailand The Ford Thailand Fiesta has brought into production and distribution.