4. สิทธิประโยชน์อื่นสำหรับนายจ้าง ม

4. สิทธิประโยชน์อื่นสำหรับนายจ้าง
มาตรา 39 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 กำหนดว่า “ในกรณีที่รัฐหรือหน่วยงานของรัฐจะพิจารณาให้สัมปทาน การส่งเสริมการลงทุน การประกาศเกียรติคุณ สินเชื่อ รางวัล เครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใด แก่นายจ้าง หรือสถานประกอบการใด ให้นำข้อมูลที่ได้ประกาศตามวรรคหนึ่งมาประกอบการพิจารณาด้วย”
นอกจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการได้รับจากการจ้างลูกจ้างพิการแล้วนั้น ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการอาจได้รับตามมาตรา 39 วรรค 2 ดังที่กล่าวข้างต้น ปัจจุบันสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) ได้คัดเลือกนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างแรงงานคนพิการไว้เกินกว่าระบบสัดส่วนการจ้างงานกำหนด ให้ได้รับ
ใบประกาศเกียรติคุณในวันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มอบประกาศเกียรติคุณดังกล่าว
ปัจจุบันนี้ พก. มีการประกาศเกียรติคุณให้แก่องค์กรเอกชนที่เชิดชูคุณค่าแห่งความเท่าเทียมกันของ
คนพิการ ซึ่งรวมถึงองค์กรเอกชนที่ได้จ้างงานคนพิการเป็นจำนวนมาก และจัดสวัสดิการให้แก่คนพิการได้อยู่อย่างบุคคลทั่วไปด้วย

5. ตัวอย่างการเสียภาษีในกรณีจ้างหรือไม่จ้างคนพิการ
บริษัทใจดี มีรายได้จากการขายสินค้าเป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท มีลูกจ้าง 1,000 คน ค่าแรงถัวเฉลี่ย 1 แสนบาท /คน /ปี มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมกันเป็นเงิน 90 ล้านบาท บริษัทใจดีเสียภาษีในอัตราร้อยละ 23 อยากทราบว่าบริษัทฯ ต้องจ้างแรงงานคนพิการกี่คน ถ้าไม่จ้างต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นจำนวนเงินเท่าใด หากจ้างแรงงานคนพิการ บริษัทใจดีจะได้รับสิทธิประโยชน์ในทางภาษีเท่าใด
จากตัวอย่างข้างต้น 
บริษัทฯ มีเงินได้ 200 ล้านบาท - ค่าแรง 100 ล้านบาท - ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 90 ล้านบาท
= มีกำไร 10 ล้านบาท
เสียภาษี = 10 ล. *23/100 = 2.3 ล้านบาท

1) กรณีที่ 1 หากบริษัทใจดีไม่จ้างงานคนพิการ
หากยึดตามมติคณะรัฐมนตรี นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องจ้างคนพิการในสัดส่วนลูกจ้างทั่วไป 100 คนต่อลูกจ้างคนพิการ 1 คน ถ้าไม่จ้างต้องจ่ายเงินสมบทเข้ากองทุนจำนวนเท่ากับค่าแรง
ขั้นต่ำสุดของประเทศคูณด้วย 365 วัน คูณด้วยจำนวนคนพิการที่ต้องจ้างบริษัทใจดีต้องจ้างแรงงานคนพิการ = 1,000/100 = 10 คน
หากบริษัทฯ ไม่จ้างคนพิการเข้าทำงาน ก็มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นจำนวนเงินเท่ากับ ค่าแรงขั้นต่ำที่สุดของประเทศ 300 บาท คูณ 365 วัน คูณ 10 คน = 1,095,000 บาท
นั่นหมายความว่าบริษัทใจดีจะต้องเสียภาษี 2.3 ล้านบาทและต้องจ่ายเงินเข้ากองทุน 1,095,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 3,395,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมสรรพากรวินิจฉัยว่า เงินที่จ่ายเข้ากองทุนเป็นรายจ่ายตามกฎหมายที่นายจ้างมีหน้าที่จ่ายทำให้สามารถนำจำนวนเงินที่จ่ายไปหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ (หนังสือที่ กค 0702/2904 ลงวันที่ 11 เมษายน 2555)
2) กรณีที่ 2 หากบริษัทใจดีจ้างคนพิการ
ถ้าบริษัทฯ จ้างคนพิการเข้าทำงาน 10 คน แทนการจ้างคนทั่วไป บริษัทใจดียังมีคนงาน 1,000 คน แทนที่จะถือเป็นรายจ่าย 100 ล้านบาท ก็สามารถถือเป็นรายจ่ายได้ถึง 101 ล้านบาท (คนพิการ 10 คน ถือเป็นรายจ่ายเพิ่มได้อีกคนละ 1 แสนบาท)

ในทางภาษีทำให้บริษัทใจดีมีกำไร = 200 ล้านบาท – 101 ล้านบาท – 90 ล้านบาท
= 9 ล้านบาท
คิดเป็นภาษีทีต้องเสียเท่ากับ 9 ล้านบาท * 23/100 = 2,070,000 บาท
3) เปรียบเทียบระหว่างกรณีไม่จ้างคนพิการกับกรณีจ้างคนพิการ
เมื่อเปรียบเทียบกรณีที่บริษัทใจดีไม่จ้างคนพิการเข้าทำงาน ต้องเสียภาษีเต็มจำนวนและต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนถึง 1,095,000 บาท แต่ถ้าจ้างพิการเข้าทำงานจะทำให้เสียภาษีน้อยลง 230,000 บาท และไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุน เท่ากับบริษัทใจดีประหยัดเงินทั้งหมด 1,325,000 บาท
4) กรณีที่ 3 กรณีที่บริษัทใจดีไม่ต้องเสียภาษีเลย
ดังนั้น หากบริษัทใจดีจ้างคนพิการเข้าทำงานแทนคนทั่วไปเพียงแค่ 100 คน ไม่ต้องถึงร้อยละ 60 ของลูกจ้างทั้งหมด บริษัทใจดีก็ไม่ต้องเสียภาษีแต่อย่างใด เนื่องจากการที่บริษัทสามารถนำเงินเดือนและค่าใช้จ่ายในการจ้างคนพิการมาเป็นรายจ่ายสองเท่า ทำให้บริษัทไม่มีกำไรทางภาษีมาคำนวนภาษี
แต่กรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนายจ้างที่มีลูกจ้างพิการมากกว่าร้อยละ 60 ของลูกจ้างทั้งหมดเป็นไปตามมาตรา 38 ที่กำหนดว่า “นายจ้าง หรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างคนพิการเข้าทำงานมากกว่าร้อยละหกสิบของลูกจ้างในสถานประกอบการนั้น โดยมีระยะเวลาจ้างเกินกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวันในปีภาษีใด มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ในปีภาษีนั้น ทั้งนี้ตามที่กฎหมายกำหนด” ในกรณีนี้ให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้แก่กิจการซึ่งต้องใช้แรงงานจำนวนมาก จึงได้เสนอให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างแรงงาน
คนพิการเกินกว่าร้อยละ 60 มีสิทธิได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนเพิ่มเติมอีกร้อยละหนึ่งร้อย ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 519) พ.ศ.2554 นั่นหมายความว่านายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างแรงงานคนพิการเกินกว่าร้อยละ 60 มีสิทธินำค่าจ้างคนพิการมาหักเป็นรายจ่ายได้ 3 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง กรณีที่จ้างคนพิการ 100,000 บาท/ คน/ ปี ก็มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายได้ถึง 300,000 บาท/ คน/ ปี หากได้จ้างคนพิการเป็นจำนวนมากย่อมน่าเชื่อได้ว่านายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการนั้นจะไม่มีกำไรทางภาษีที่ต้องไปเสียภาษีแต่อย่างใด
หมายเหตุ หากบริษัทใจดีไม่ประสงค์จะจ่ายเงินเข้ากองทุนก็ต้องหาทางสร้างงานให้แก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการแทนการจ้างงานก็ได้ ตามมาตรา 35 โดยการให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการโดยวิธีกรณีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวย
ความสะดวก ล่ามภาษามือ หรือให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการก็ได้ ทั้งนี้ ต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

4. other benefits for employers The second paragraph of section 39 of the Act the Act to promote and improve the quality of life for people with disabilities, b.e. 2550 determined that "in cases where a State or State Agency will consider providing investment promotion concessions coined loan award insignia or any other benefits or employer sanction any establishment information to be published in accordance with paragraph one."In addition to the tax benefits which the employer or the owner of the establishment has received from the employer an employee with a disability. There are also other benefits, employer or the owner of the establishment could have received under section. As mentioned above, under paragraph 39 2. The current Bureau to promote and improve the quality of life for people with disabilities: national (carry.) has selected the employer or the owner of the premises to which employment has exceeded the proportion of employment systems designated to receive.Certifications on December 3 of every year, with the Prime Minister's award. We now carry. There is recognition, private organizations upholding the value of equality of.People with disabilities, including private organizations, employment and welfare of persons with disabilities, disabled persons with common address. 5. in case of VAT or not hiring people with disabilities. Good company. Revenue from the sale of goods in amount of baht 200 million. Employ 1,000 people, average labour costs 100,000 baht. /Person/year. There are other costs combined salary is 90 million baht. Good company tax rates, 23 percent wanted to know which company to hire many workers with disabilities. If the employer does not have to pay contributions into the Fund. If the employment of persons with disabilities Good companies will receive tax benefits, how much. From the above example The company has 200 million baht in cash. -Labor cost 100 million baht. -Other costs of 90 million baht. = Profit is 10 million. These tax = 10 l * 23/100 = 2.3 million baht.1) case 1 if the company does not employ the kind of disability. If based on the Cabinet's employer or the owner of an establishment must employ people with disabilities in the proportion of employed persons per 100 employees General disabled persons 1 person if not reasonably paid employment chapter into the Fund an amount equivalent to labor.A minimum of 365 days, multiply by countries multiplied by the number of people with disabilities who want good company to hire workers with disabilities = 1000/100 = 10 people. If the company does not hire people with disabilities to work, it has a legal obligation to pay contributions into the Fund an amount equal to the minimum wage of the country's 300 THB 365 days multiplied, multiplying 10 people = 1,095,000 baht. That means that companies like the 2.3 million and to pay money into the Fund, all funds totalling 1,095,000 3,395,000 baht.Now, however, the Revenue Department that the funds paid into the Fund is legal expenses that the employer has the duty to pay to be able to deduct the amount paid in tax expenses (books that 2889/0702 kok down April 11 2555)2.) case 2 If the company hire someone good disability. If the company hired disabled people into the work of 10 people instead of hiring a company like General folks still have 1,000 people instead are treated as expenditure 100 million baht. It can be considered to be expenditure has reached 101 billion baht (disabled people, 10 people, treated as expenditure increase to one hundred thousand baht) In good company, tax profit = 200 million baht – 101 million baht to 90 million baht. = 9 million baht. Think of it as wasted tax equal to 9 million baht. * 11/100 = 2,070,000 baht.3 comparison between the case of not hiring) people with disabilities to employment of persons with disabilities.When the comparison is not good if the company hired disabled people into work. Taxable in full and must pay contributions into a fund to hire handicapped access, but if the baht 1,095,000 runs to make taxation less 230,000 baht and are not required to pay into the Fund only with good company, saving money all 1,325,000 baht.Case 3 case 4), good company, not taxable, Loei.Therefore, the The company has the good employment of persons with disabilities into work instead of people, General, just 100 people, 60 percent of all employees. Good company, it is not taxable, but somehow, because we can bring the salaries and expenses of the employment of persons with disabilities came into expenditure doubled. The company has no profits tax calculate tax. แต่กรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนายจ้างที่มีลูกจ้างพิการมากกว่าร้อยละ 60 ของลูกจ้างทั้งหมดเป็นไปตามมาตรา 38 ที่กำหนดว่า “นายจ้าง หรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างคนพิการเข้าทำงานมากกว่าร้อยละหกสิบของลูกจ้างในสถานประกอบการนั้น โดยมีระยะเวลาจ้างเกินกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวันในปีภาษีใด มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ในปีภาษีนั้น ทั้งนี้ตามที่กฎหมายกำหนด” ในกรณีนี้ให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้แก่กิจการซึ่งต้องใช้แรงงานจำนวนมาก จึงได้เสนอให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างแรงงานคนพิการเกินกว่าร้อยละ 60 มีสิทธิได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนเพิ่มเติมอีกร้อยละหนึ่งร้อย ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 519) พ.ศ.2554 นั่นหมายความว่านายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างแรงงานคนพิการเกินกว่าร้อยละ 60 มีสิทธินำค่าจ้างคนพิการมาหักเป็นรายจ่ายได้ 3 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง กรณีที่จ้างคนพิการ 100,000 บาท/ คน/ ปี ก็มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายได้ถึง 300,000 บาท/ คน/ ปี หากได้จ้างคนพิการเป็นจำนวนมากย่อมน่าเชื่อได้ว่านายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการนั้นจะไม่มีกำไรทางภาษีที่ต้องไปเสียภาษีแต่อย่างใดNote the good company will pay into the Fund, it must find a way to create jobs, provide to persons with disabilities or persons with disabilities instead of hiring administrators. Under section 35, by giving concessions to arrange places for the sale of goods or services. Employment services during the Charter or by way of special case, internship, or provide equipment or facilities.Convenience. Interpreting sign language or any other assistance to people with disabilities or persons with disabilities, it administrators. Both.