ตอน...

ตอน..." ลงโพรงกระต่าย "อลิซเริ่มเบื

ตอน..." ลงโพรงกระต่าย "
อลิซเริ่มเบื่อที่จะนั่งอยู่ข้าง ๆ พี่สาวโดยที่ไม่มีอะไรทำ เธอเหลือบมองหนังสือ ที่พี่สาวของเธอ ถือไว้ในมือหลายครั้ง ด้วยหนังสือเล่มนั้นไม่มีรูปภาพและบท สนทนาที่น่าสนุกและน่าสนใจอะไร เลยสักนิด...อลิซคิด แต่เป็นเพราะด้วยเธอ เป็นผู้อ้อนวอนให้พี่สาวอ่านหนังสือให้เธอฟังนั่นเอง อลิซชั่งใจ ว่าการทำอย่างอื่น คงจะสนุกกว่าการนั่งฟังอยู่อย่างเงียบ ๆ อย่างนี้หรือ ปล่าวน้า...
" ทันใดนั้นเอง" กระต่ายขาวตาสีชมพูตัวหนึ่งก็วิ่งผ่านมา แต่ภาพที่เห็นนั้นดูไม่มีอะไรแปลกประหลาด เพราะอลิซก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องผิดปกติเท่าไรนักที่ได้ยินกระต่ายพูดกับตัวเอง แบบรีบร้อนว่า " ตายแล้ว ! ตายแล้ว ! ฉันต้องสายแน่ ๆ เลย " แล้วจากนั้นกระต่าย ก็หยิบนาฬิกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อกั๊ก พร้อม กับก้มลงมองเวลา แล้ววิ่งต่อไปด้วย ท่าทางที่รีบร้อน อลิซลุกขึ้นยืน เพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า เธอยังไม่เคยเห็นกระต่ายที่ ไหนใส่เสื้อกั๊กหรือพกนาฬิกาแบบนี้มาก่อนเลย.....

และด้วยความที่สงสัยอย่างเหลือประมาณ อลิซรีบวิ่งตามกระต่ายตัวนั้น ไปในท้องทุ่ง และโชคดี ที่วิ่งไปทันและเห็นมันหายลงไปในโพรงกระต่าย ที่เป็นหลุมใหญ่โพรงหนึ่ง เพียงเดี๋ยวเดียว อลิซก็กระโดดตามลง ไปในโพรงนั้น โดยไม่ได้ฉุกใจคิดแม้แต่น้อยเดียวว่า เธอจะกลับออกมาจากโพรงนี้ได้ด้วยวิธีใด เสียด้วยสิ....ในโพรงกระต่ายนั้นทอดยาวไปเหมือนอุโมง แล้วจู่ ๆ ทางก็หักลงต่ำ จนอลิซต้องชะงักเท้าของตัวเองแทบไม่ทัน มารู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อเธอได้ร่วงลงไป ในเหวลึกนั่นเสียแล้ว
"ว้า..สายไปเสียแล้ว ไม่น่าที่จะกระโดดตามมาเลย นี่ถ้าแม่รู้ คงต้องโกรธแน่ ๆ เพราะแม่เคยบอกไม่ให้เราทำในสิ่งไหนที่ดูเหมือนว่า อาจจะเป็นอันตรายเสียด้วยสิ"

ถ้าไม่ใช่เพราะเหวนี้ลึกมากก็แสดงว่าอลิซคงจะตกลงไปอย่างช้า ๆ เพราะขณะที่ ตกลงไปนั้น เธอยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะเหลียวมองไปรอบ ๆ ตอนแรกเธอ พยายามมองลงไปที่ข้างล่างสุด แต่มันก็ดูเหมือนว่าจะมืดเสียจนมองอะไรไม่เห็น เธอจึงเปลี่ยนมามองที่ด้านข้างและได้พบว่ามีตู้เสื้อผ้าและชั้นหนังสือเต็มไปหมด บางช่วงก็มีแผนที่กับรูปภาพแขวนอยู่บนขอด้วย อลิซหล่นลงไป หล่น ลงไป ลงไป ลงไปเรื่อย ๆ มันจะมีวันจบสิ้นไหมนะ ! อลิซคิด
" สงสัยจังว่าฉันตกลง มาได้กี่ไมล์แล้วนะ" อลิซอดที่จะพูดออกมาดัง ๆ ไม่ได้
"คงใกล้ถึงกลางโลกแล้วมั้งเนี่ย ขอคิดเดี๋ยวนะ....ฉันว่าคงสักสี่พัน ไมล์ ได้ละมั้งนี่....ใช่คงจะลึกราว ๆ นั้นแหละนะ...แต่ เอ๊ะ นี่ฉันจะร่วงผ่านไปถึงโลกอีก ซีกหนึ่งเลย หรือเปล่า ! ถ้าไปโผล่ที่นั่นแล้วไปเจอคนเดินกลับหัวคงตลกดี ! เขา เรียกว่าประเทศที่อยู่ด้านปรปักษ์กันของโลกไง"
...อลิซยังคงหล่นลงไป ลงไป ลงไปเรื่อย ๆ และเมื่อไม่มีอะไรให้ทำเธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเคลิ้มหลับ เธอจึง เอื้อมมือไปคว้าหวีกับกระจกส่องหน้ามาได้ " แหมพอดีเลย กำลังว่างอยู่ทีเดียว ถ้าจะได้เจอคน หลาย ๆ ประเทศ แล้วละก็ ก็ต้องหวีผมเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อนนะ เพราะเดี๋ยวจะต้องไปอายขายหน้าเขา ด้วยผมที่ยุ่ง ๆนี่น่ะสิ ! "

แล้วทันใดนั้นเอง...ก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น ตัวของเธอนั่นเองได้ตกลงไปบนกองกิ่งไม้และใบ ไม้แห้ง แล้วการล่วงหล่นก็จบสิ้นลงเสียที.......อลิซไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด เธอรีบ ลุกขึ้นยืนแล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ด้านบน ก็เห็นแต่เพียงความมืดมิด ข้างหน้า มีทางยาวอีกเส้นหนึ่ง พอเพ่งมองไปก็เห็น กระต่ายขาวเดินอยู่ไม่ไกลนัก มันยัง คงเร่งรุดไปข้างหน้าไม่ยอมรอช้าแม้แต่ครู่เดียว อลิซรีบวิ่งตัวปลิว ตามไป และทัน ได้ยินมันพูดในตอนเลี้ยวหัวมุมว่า
" โธ่...หูฉัน...หนวดฉัน ป่านนี้สายแย่แล้ว ! โธ่ โธ่..."
ตอนที่เลี้ยวนั้นอลิซตามหลังมันมาติด ๆ แต่พอเลี้ยวมาแล้ว กลับมอง ไม่เห็นมันอีกเลย...

สักแค่อึดใจเดียวอลิซพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่ สว่างไสวไปหมด ภายในห้องโถงมี ประตูมากมายหลายบาน แต่ทุกบานปิดล๊อกไว้ทั้งหมด หลังจากที่ไปลองเปิดประตูทุกด้าน ทุกบานดูแล้ว อลิซก็เดินอย่างเศร้าสร้อยมาที่ กลางห้อง นึกในใจว่าเธอจะออกไป จากที่นี่ได้อย่างไรกัน ทันใดนั้นอลิซก็เหลือบไปเห็นโต๊ะกลมสามขาตัวหนึ่ง ทำด้วย แก้วทั้งตัวมีสิ่งหนึ่งวางอยู่ที่บนโต๊ะ นั่นมันเป็นกุญแจทองคำดอกจิ๋วนี่ ทีแรกอลิซคิด ว่ามันจะต้องเป็นลูกกุญแจของประตูบานใดบานหนึ่งอย่าง แน่ ๆ
แต่...โธ่เอ๋ย ถ้าไม่ใช่ รูกุญแจจะใหญ่เกินไปแล้ว ลูกกุญแจก็คงจะเล็กจนเกินไปแหละ เพราะ ไม่ว่ายังไง ๆ มันก็ไขประตูไม่ได้เลยสักบาน แต่เมื่ออลิซพยายามอีกครั้งเธอก็ได้พบว่ามีประตูอยู่ บานหนึ่งที่สอดลูกกุญแจจิ๋วดอกนั้นลงไปได้อย่างพอดีพอเหมาะ อ้า...ดีใจจริง ๆ ที่ ไขได้ ! อลิซเปิดประตูบานนั้นออก ปรากฏว่าเห็นเป็นทางเส้นเล็ก ๆ ใหญ่กว่าโพรง หนูนิดเดียวเอง เธอ คุกเข่าแล้วพยายามมองเข้าไปภายใน ภาพที่เห็นคือสวนที่สวยงาม ที่สุดเท่าที่เคยได้เห็นมา อลิซอยากเข้าไปเดินเล่นในสวนที่เห็น แต่ว่า ประตูนั่นก็เล็ก เสียจนเธอจะเสือกหัวลอดเข้าไปก็ยังไม่ได้ และเท่าที่ผ่าน ๆ มามีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น เยอะแยะ จนอลิซชักจะเริ่มคิดว่า ในโลกนี้มีเรื่องที่เป็นไปไม่ได้น้อยเหลือเกินจริง ๆ.... และดูเหมือนว่าการรอคอยและการนั่งคิดอยู่ตรงหน้าประตูจิ๋วเล็ก ๆ ที่เข้าไปไม่ได้นั้น มันดูว่าจะ ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเสียเลย

อลิซจึงกลับไปที่โต๊ะสามขาตัวเดิมอีกครั้ง แอบหวังว่าบางที อาจจะมีลูกกุญแจ อีกดวงวางอยู่ แต่คราวนี้เธอพบขวดเล็ก ๆ ใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ที่ตรงคอขวดมีแถบกระดาษพันไว้ และมีตัวหนังสือเขียนกำกับไว้ว่า ..." ดื่มฉันสิ " พิมพ์ไว้อย่างสวยงามด้วยอักษรขนาดใหญ่ ก็ดีอยู่หรอกนะที่เขียนว่า " ดื่มฉันสิ " แต่อลิซผู้ฉลาดเฉลียวไม่รีบร้อนทำอะไรแบบ นั้นหรอก
" ไม่ ฉันจะต้องดูก่อนว่า มันมีเครื่องหมายแสดงว่า
" เป็นพิษ " อยู่หรือเปล่า " อลิซพูด แต่ว่าขวดใบนี้ไม่มี เครื่องหมายบอกว่า " เป็นพิษ" อลิซจึงกล้าตัดสินใจยกมันขึ้นดื่มดู ปรากฏว่าเพียง เดี๋ยวเดียวอลิซก็ดื่มจนหมดขวด
" แปลกจัง " อลิซพูดขึ้น " รู้สึกว่าตัวฉันกำลังหด ลงไปเรื่อย ๆ แน่ ๆ เลย " และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ตอนนี้อลิซตัวสูงแค่สิบนิ้ว เธอยิ้มแป้น เพราะรู้ว่าตอนนี้ เธอตัวเล็กพอที่จะเข้าไปในสวนทางประตูเล็ก ๆ นั่น ได้แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน เธอต้องรอดูสักครู่ว่าตัว เธอจะหดเล็กลงไปมากกว่านี้อีกหรือ เปล่า
อลิซรู้สึกหวั่นใ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ตอน..." ลงโพรงกระต่าย"อลิซเริ่มเบื่อที่จะนั่งอยู่ข้างๆ พี่สาวโดยที่ไม่มีอะไรทำเธอเหลือบมองหนังสือที่พี่สาวของเธอถือไว้ในมือหลายครั้งด้วยหนังสือเล่มนั้นไม่มีรูปภาพและบทสนทนาที่น่าสนุกและน่าสนใจอะไรเลยสักนิด... อลิซคิดแต่เป็นเพราะด้วยเธอเป็นผู้อ้อนวอนให้พี่สาวอ่านหนังสือให้เธอฟังนั่นเองอลิซชั่งใจว่าการทำอย่างอื่นคงจะสนุกกว่าการนั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆ อย่างนี้หรือปล่าวน้า..."ทันใดนั้นเอง" กระต่ายขาวตาสีชมพูตัวหนึ่งก็วิ่งผ่านมาแต่ภาพที่เห็นนั้นดูไม่มีอะไรแปลกประหลาดเพราะอลิซก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องผิดปกติเท่าไรนักที่ได้ยินกระต่ายพูดกับตัวเองแบบรีบร้อนว่า "ตายแล้ว ตายแล้ว ฉันต้องสายแน่ๆ เลย "แล้วจากนั้นกระต่ายก็หยิบนาฬิกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อกั๊กพร้อมกับก้มลงมองเวลาแล้ววิ่งต่อไปด้วยท่าทางที่รีบร้อนอลิซลุกขึ้นยืนเพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเธอยังไม่เคยเห็นกระต่ายที่ไหนใส่เสื้อกั๊กหรือพกนาฬิกาแบบนี้มาก่อนเลย... และด้วยความที่สงสัยอย่างเหลือประมาณอลิซรีบวิ่งตามกระต่ายตัวนั้นไปในท้องทุ่งและโชคดีที่วิ่งไปทันและเห็นมันหายลงไปในโพรงกระต่ายที่เป็นหลุมใหญ่โพรงหนึ่งเพียงเดี๋ยวเดียวอลิซก็กระโดดตามลงไปในโพรงนั้นโดยไม่ได้ฉุกใจคิดแม้แต่น้อยเดียวว่าเธอจะกลับออกมาจากโพรงนี้ได้ด้วยวิธีใดเสียด้วยสิ... ๆ ในโพรงกระต่ายนั้นทอดยาวไปเหมือนอุโมงแล้วจู่ทางก็หักลงต่ำจนอลิซต้องชะงักเท้าของตัวเองแทบไม่ทันมารู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อเธอได้ร่วงลงไปรีในเหวลึกนั่นเสียแล้ว"ว้า... สายไปเสียแล้วไม่น่าที่จะกระโดดตามมาเลยนี่ถ้าแม่รู้คงต้องโกรธแน่ๆ เพราะแม่เคยบอกไม่ให้เราทำในสิ่งไหนที่ดูเหมือนว่าอาจจะเป็นอันตรายเสียด้วยสิ" ถ้าไม่ใช่เพราะเหวนี้ลึกมากก็แสดงว่าอลิซคงจะตกลงไปอย่างช้าๆ เพราะขณะที่ตกลงไปนั้นเธอยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะเหลียวมองไปรอบๆ ตอนแรกเธอพยายามมองลงไปที่ข้างล่างสุดแต่มันก็ดูเหมือนว่าจะมืดเสียจนมองอะไรไม่เห็นเธอจึงเปลี่ยนมามองที่ด้านข้างและได้พบว่ามีตู้เสื้อผ้าและชั้นหนังสือเต็มไปหมดบางช่วงก็มีแผนที่กับรูปภาพแขวนอยู่บนขอด้วยอลิซหล่นลงไปหล่นลงไปลงไปลงไปเรื่อยๆ มันจะมีวันจบสิ้นไหมนะ อลิซคิดไม่ได้ "สงสัยจังว่าฉันตกลงมาได้กี่ไมล์แล้วนะ" อลิซอดที่จะพูดออกมาดังๆ"คงใกล้ถึงกลางโลกแล้วมั้งเนี่ยขอคิดเดี๋ยวนะ... ฉันว่าคงสักสี่พันไมล์ได้ละมั้งนี่... ใช่คงจะลึกราวๆ นั้นแหละนะ... แต่เอ๊ะนี่ฉันจะร่วงผ่านไปถึงโลกอีกซีกหนึ่งเลยหรือเปล่า ถ้าไปโผล่ที่นั่นแล้วไปเจอคนเดินกลับหัวคงตลกดี เขาเรียกว่าประเทศที่อยู่ด้านปรปักษ์กันของโลกไง"... อลิซยังคงหล่นลงไปลงไปลงไปเรื่อยๆ และเมื่อไม่มีอะไรให้ทำเธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเคลิ้มหลับเธอจึงเอื้อมมือไปคว้าหวีกับกระจกส่องหน้ามาได้ "แหมพอดีเลยกำลังว่างอยู่ทีเดียวถ้าจะได้เจอคนหลายๆ ประเทศแล้วละก็ก็ต้องหวีผมเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อนนะเพราะเดี๋ยวจะต้องไปอายขายหน้าเขาด้วยผมที่ยุ่งๆนี่น่ะสิ" แล้วทันใดนั้นเอง... ก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นตัวของเธอนั่นเองได้ตกลงไปบนกองกิ่งไม้และใบไม้แห้งแล้วการล่วงหล่นก็จบสิ้นลงเสียที... อลิซไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดเธอรีบลุกขึ้นยืนแล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ด้านบนก็เห็นแต่เพียงความมืดมิดข้างหน้ามีทางยาวอีกเส้นหนึ่งพอเพ่งมองไปก็เห็นกระต่ายขาวเดินอยู่ไม่ไกลนักมันยังคงเร่งรุดไปข้างหน้าไม่ยอมรอช้าแม้แต่ครู่เดียวอลิซรีบวิ่งตัวปลิวตามไปและทันได้ยินมันพูดในตอนเลี้ยวหัวมุมว่า"โธ่... หูฉัน... หนวดฉันป่านนี้สายแย่แล้ว โธ่โธ่..."ตอนที่เลี้ยวนั้นอลิซตามหลังมันมาติดๆ แต่พอเลี้ยวมาแล้วกลับมองไม่เห็นมันอีกเลย... สักแค่อึดใจเดียวอลิซพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่สว่างไสวไปหมดภายในห้องโถงมีประตูมากมายหลายบานแต่ทุกบานปิดล๊อกไว้ทั้งหมดหลังจากที่ไปลองเปิดประตูทุกด้านทุกบานดูแล้วอลิซก็เดินอย่างเศร้าสร้อยมาที่กลางห้องนึกในใจว่าเธอจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรกันทันใดนั้นอลิซก็เหลือบไปเห็นโต๊ะกลมสามขาตัวหนึ่งทำด้วยแก้วทั้งตัวมีสิ่งหนึ่งวางอยู่ที่บนโต๊ะนั่นมันเป็นกุญแจทองคำดอกจิ๋วนี่ทีแรกอลิซคิดว่ามันจะต้องเป็นลูกกุญแจของประตูบานใดบานหนึ่งอย่างจัดๆแต่... โธ่เอ๋ยถ้าไม่ใช่รูกุญแจจะใหญ่เกินไปแล้วลูกกุญแจก็คงจะเล็กจนเกินไปแหละเพราะไม่ว่ายังไงๆ มันก็ไขประตูไม่ได้เลยสักบานแต่เมื่ออลิซพยายามอีกครั้งเธอก็ได้พบว่ามีประตูอยู่บานหนึ่งที่สอดลูกกุญแจจิ๋วดอกนั้นลงไปได้อย่างพอดีพอเหมาะอ้า... ดีใจจริงๆ ไขได้ อลิซเปิดประตูบานนั้นออกปรากฏว่าเห็นเป็นทางเส้นเล็กๆ ใหญ่กว่าโพรงหนูนิดเดียวเองเธอคุกเข่าแล้วพยายามมองเข้าไปภายในภาพที่เห็นคือสวนที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยได้เห็นมาอลิซอยากเข้าไปเดินเล่นในสวนที่เห็นแต่ว่าประตูนั่นก็เล็กเสียจนเธอจะเสือกหัวลอดเข้าไปก็ยังไม่ได้และเท่าที่ผ่านๆ มามีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นเยอะแยะจนอลิซชักจะเริ่มคิดว่าในโลกนี้มีเรื่องที่เป็นไปไม่ได้น้อยเหลือเกินจริงๆ ... และดูเหมือนว่าการรอคอยและการนั่งคิดอยู่ตรงหน้าประตูจิ๋วเล็กๆ ที่เข้าไปไม่ได้นั้นมันดูว่าจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเสียเลย อลิซจึงกลับไปที่โต๊ะสามขาตัวเดิมอีกครั้งแอบหวังว่าบางทีอาจจะมีลูกกุญแจอีกดวงวางอยู่แต่คราวนี้เธอพบขวดเล็กๆ ใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะที่ตรงคอขวดมีแถบกระดาษพันไว้และมีตัวหนังสือเขียนกำกับไว้ว่า..." ดื่มฉันสิ "พิมพ์ไว้อย่างสวยงามด้วยอักษรขนาดใหญ่ก็ดีอยู่หรอกนะที่เขียนว่า"ดื่มฉันสิ"แต่อลิซผู้ฉลาดเฉลียวไม่รีบร้อนทำอะไรแบบนั้นหรอก"ไม่ฉันจะต้องดูก่อนว่ามันมีเครื่องหมายแสดงว่า"เป็นพิษ" อยู่หรือเปล่า "อลิซพูดแต่ว่าขวดใบนี้ไม่มีเครื่องหมายบอกว่า" เป็นพิษ"อลิซจึงกล้าตัดสินใจยกมันขึ้นดื่มดูปรากฏว่าเพียงเดี๋ยวเดียวอลิซก็ดื่มจนหมดขวด"แปลกจัง" อลิซพูดขึ้น "รู้สึกว่าตัวฉันกำลังหดลงไปเรื่อยๆ จัดๆ เลย" และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้อลิซตัวสูงแค่สิบนิ้วเธอยิ้มแป้นเพราะรู้ว่าตอนนี้เธอตัวเล็กพอที่จะเข้าไปในสวนทางประตูเล็กๆ นั่นได้แล้วแต่เดี๋ยวก่อนเธอต้องรอดูสักครู่ว่าตัวเธอจะหดเล็กลงไปมากกว่านี้อีกหรือเปล่าอลิซรู้สึกหวั่นใ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ตอน ... "ลงโพรงกระต่าย"
อลิซเริ่มเบื่อที่จะนั่งอยู่ข้าง ๆ พี่สาวโดยที่ไม่มีอะไรทำเธอเหลือบมองหนังสือที่พี่สาวของเธอถือไว้ในมือหลายครั้ง สนทนาที่น่าสนุกและน่าสนใจอะไรเลยสักนิด ... อลิซคิด แต่เป็นเพราะด้วยเธอ อลิซชั่งใจว่าการทำอย่างอื่น ๆ อย่างนี้หรือปล่าวน้า ...
"ทันใดนั้นเอง" แบบรีบร้อนว่า "ตายแล้ว! ตายแล้ว! ฉันต้องสายแน่ ๆ เลย" แล้วจากนั้นกระต่าย พร้อมกับก้มลงมองเวลาแล้ววิ่งต่อไปด้วยท่าทางที่รีบร้อนอลิซลุกขึ้นยืนเพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเธอยังไม่เคยเห็นกระต่ายที่ อลิซรีบวิ่งตามกระต่ายตัวนั้นไปในท้องทุ่งและโชคดี ที่เป็นหลุมใหญ่โพรงหนึ่งเพียงเดี๋ยวเดียวอลิซก็กระโดดตามลงไปในโพรงนั้น แล้วจู่ ๆ ทางก็หักลงต่ำ ไม่น่าที่จะกระโดดตามมาเลยนี่ถ้าแม่รู้คงต้องโกรธแน่ ๆ ๆ เพราะขณะที่ตกลงไปนั้น ๆ ตอนแรกเธอพยายามมองลงไปที่ข้างล่างสุด อลิซหล่นลงไปหล่นลงไปลงไปลงไปเรื่อย ๆ มันจะมีวันจบสิ้นไหมนะ! อลิซคิด"สงสัยจังว่าฉันตกลงมาได้กี่ไมล์แล้วนะ" อลิซอดที่จะพูดออกมาดัง ๆ ขอคิดเดี๋ยวนะ .... ฉันว่าคงสักสี่พันไมล์ได้ละมั้งนี่ .... ใช่คงจะลึกราว ๆ นั้นแหละนะ ... แต่เอ๊ะนี่ฉันจะร่วงผ่านไปถึงโลกอีกซีกหนึ่งเลยหรือ เปล่า! ! เขา ลงไปลงไปเรื่อย ๆ เธอจึง "แหมพอดีเลยกำลังว่างอยู่ทีเดียวถ้าจะได้เจอคนหลาย ๆ ประเทศแล้วละก็ เพราะเดี๋ยวจะต้องไปอายขายหน้าเขาด้วยผมที่ยุ่ง ๆ นี่น่ะสิ! ไม้แห้ง เธอรีบ ก็เห็น แต่เพียงความมืดมิดข้างหน้ามีทางยาวอีกเส้นหนึ่งพอเพ่งมองไปก็เห็นกระต่ายขาวเดินอยู่ไม่ไกลนักมันยัง อลิซรีบวิ่งตัวปลิวตามไปและทันได้ยินมันพูดในตอนเลี้ยวหัวมุมว่า"โธ่ ... หูฉัน ... หนวดฉันป่านนี้สายแย่แล้ว! โธ่ ๆ แต่พอเลี้ยวมาแล้วกลับมอง สว่างไสวไปหมดภายในห้องโถงมีประตูมากมายหลายบาน แต่ทุกบานปิดล๊อกไว้ทั้งหมดหลังจากที่ไปลองเปิดประตูทุกด้านทุกบานดูแล้วอลิซก็เดินอย่างเศร้าสร้อยมาที่กลางห้องนึกในใจว่าเธอจะออก ไปจากที่นี่ได้อย่างไรกัน ทำด้วย นั่นมันเป็นกุญแจทองคำดอกจิ๋วนี่ทีแรกอลิซคิด ๆ แน่แต่ ... โธ่เอ๋ยถ้าไม่ใช่รูกุญแจจะใหญ่เกินไปแล้วลูกกุญแจก็คงจะเล็กจนเกินไปแหละเพราะไม่ว่ายังไง ๆ มันก็ไขประตูไม่ได้เลยสักบาน อ้า ... ดีใจจริง ๆ ที่ไขได้! อลิซเปิดประตูบานนั้นออกปรากฏว่าเห็นเป็นทางเส้นเล็ก ๆ ใหญ่กว่าโพรงหนูนิดเดียวเองเธอคุกเข่าแล้วพยายามมองเข้าไปภายในภาพที่เห็นคือสวนที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยได้เห็นมา แต่ว่าประตูนั่นก็เล็ก และเท่าที่ผ่าน ๆ มามีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นเยอะแยะจนอลิซชักจะเริ่มคิดว่า ๆ .... ๆ ที่เข้าไปไม่ได้นั้นมันดูว่าจะ แอบหวังว่าบางทีอาจจะมีลูกกุญแจอีกดวงวางอยู่ แต่คราวนี้เธอพบขวดเล็ก ๆ ใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะที่ตรงคอขวดมีแถบกระดาษพันไว้และมีตัวหนังสือเขียนกำกับไว้ว่า ... "ดื่มฉันสิ" ก็ดีอยู่หรอกนะที่เขียนว่า "ดื่มฉันสิ" นั้นหรอก"ไม่ฉันจะต้องดูก่อนว่ามันมีเครื่องหมายแสดงว่า" เป็นพิษ "อยู่หรือเปล่า" อลิซพูดแต่ว่าขวดใบนี้ไม่มีเครื่องหมายบอกว่า "เป็นพิษ" ปรากฏว่าเพียงเดี๋ยวเดียวอลิซก็ดื่มจนหมดขวด"แปลกจัง" อลิซพูดขึ้น "รู้สึกว่าตัวฉันกำลังหดลงไปเรื่อย ๆ แน่ ๆ เลย" และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ตอนนี้อลิซตัวสูง แค่สิบนิ้วเธอยิ้มแป้นเพราะรู้ว่าตอนนี้ นั่นได้ ๆ แล้ว แต่เดี๋ยวก่อนเธอคุณต้องรอดูสักครู่ว่าได้ตัวเธอจะหดเล็กลงไปมากกว่านี้อีกหรือเปล่าอลิซรู้สึกหวั่นใ




















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ตอน " ลงโพรงกระต่าย "
. . . . . . .อลิซเริ่มเบื่อที่จะนั่งอยู่ข้างจะพี่สาวโดยที่ไม่มีอะไรทำเธอเหลือบมองหนังสือที่พี่สาวของเธอถือไว้ในมือหลายครั้งด้วยหนังสือเล่มนั้นไม่มีรูปภาพและบทสนทนาที่น่าสนุกและน่าสนใจอะไรเลยสักนิด . . . . . . .อลิซคิดแต่เป็นเพราะด้วยเธอเป็นผู้อ้อนวอนให้พี่สาวอ่านหนังสือให้เธอฟังนั่นเองอลิซชั่งใจว่าการทำอย่างอื่นคงจะสนุกกว่าการนั่งฟังอยู่อย่างเงียบจะอย่างนี้หรือปล่าวน้า
. . . . . . ." ทันใดนั้นเอง " กระต่ายขาวตาสีชมพูตัวหนึ่งก็วิ่งผ่านมาแต่ภาพที่เห็นนั้นดูไม่มีอะไรแปลกประหลาดเพราะอลิซก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องผิดปกติเท่าไรนักที่ได้ยินกระต่ายพูดกับตัวเองแบบรีบร้อนว่า " ตายแล้ว !ตายแล้ว !ฉันต้องสายแน่จะเลย " แล้วจากนั้นกระต่ายก็หยิบนาฬิกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อกั๊กพร้อมกับก้มลงมองเวลาแล้ววิ่งต่อไปด้วยท่าทางที่รีบร้อนอลิซลุกขึ้นยืนเพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเธอยังไม่เคยเห็นกระต่ายที่. . . . . . .

และด้วยความที่สงสัยอย่างเหลือประมาณอลิซรีบวิ่งตามกระต่ายตัวนั้นไปในท้องทุ่งและโชคดีที่วิ่งไปทันและเห็นมันหายลงไปในโพรงกระต่ายที่เป็นหลุมใหญ่โพรงหนึ่งเพียงเดี๋ยวเดียวอลิซก็กระโดดตามลงไปในโพรงนั้นเธอจะกลับออกมาจากโพรงนี้ได้ด้วยวิธีใดเสียด้วยสิ .. . . . . . . ในโพรงกระต่ายนั้นทอดยาวไปเหมือนอุโมงแล้วจู่จะทางก็หักลงต่ำจนอลิซต้องชะงักเท้าของตัวเองแทบไม่ทันมารู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อเธอได้ร่วงลงไปในเหวลึกนั่นเสียแล้ว
" ว้า . . . . . . .สายไปเสียแล้วไม่น่าที่จะกระโดดตามมาเลยนี่ถ้าแม่รู้คงต้องโกรธแน่จะเพราะแม่เคยบอกไม่ให้เราทำในสิ่งไหนที่ดูเหมือนว่าอาจจะเป็นอันตรายเสียด้วยสิ "

ถ้าไม่ใช่เพราะเหวนี้ลึกมากก็แสดงว่าอลิซคงจะตกลงไปอย่างช้าจะเพราะขณะที่ตกลงไปนั้นเธอยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะเหลียวมองไปรอบจะตอนแรกเธอพยายามมองลงไปที่ข้างล่างสุดเธอจึงเปลี่ยนมามองที่ด้านข้างและได้พบว่ามีตู้เสื้อผ้าและชั้นหนังสือเต็มไปหมดบางช่วงก็มีแผนที่กับรูปภาพแขวนอยู่บนขอด้วยอลิซหล่นลงไปหล่นลงไปลงไปลงไปเรื่อยจะมันจะมีวันจบสิ้นไหมนะ !อลิซคิด
" สงสัยจังว่าฉันตกลงมาได้กี่ไมล์แล้วนะ " อลิซอดที่จะพูดออกมาดังจะไม่ได้
" . . . . . . . คงใกล้ถึงกลางโลกแล้วมั้งเนี่ยขอคิดเดี๋ยวนะฉันว่าคงสักสี่พันไมล์ได้ละมั้งนี่ใช่คงจะลึกราวนั้นแหละนะจะ . . . . . . . . . . . . . .A เอ๊ะนี่ฉันจะร่วงผ่านไปถึงโลกอีกซีกหนึ่งเลยหรือเปล่า ! ถ้าไปโผล่ที่นั่นแล้วไปเจอคนเดินกลับหัวคงตลกดี ! เขาเรียกว่าประเทศที่อยู่ด้านปรปักษ์กันของโลกไง "
. . . . . . .อลิซยังคงหล่นลงไปลงไปลงไปเรื่อยจะและเมื่อไม่มีอะไรให้ทำเธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเคลิ้มหลับเธอจึงเอื้อมมือไปคว้าหวีกับกระจกส่องหน้ามาได้ " แหมพอดีเลยกำลังว่างอยู่ทีเดียวถ้าจะได้เจอคนหลายจะประเทศก็ต้องหวีผมเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อนนะเพราะเดี๋ยวจะต้องไปอายขายหน้าเขาด้วยผมที่ยุ่งๆนี่น่ะสิ !"

แล้วทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นตัวของเธอนั่นเองได้ตกลงไปบนกองกิ่งไม้และใบไม้แห้งแล้วการล่วงหล่นก็จบสิ้นลงเสียที . . . . . . . . . . . . . .อลิซไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดเธอรีบลุกขึ้นยืนแล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ด้านบนก็เห็นแต่เพียงความมืดมิดข้างหน้ามีทางยาวอีกเส้นหนึ่งพอเพ่งมองไปก็เห็นกระต่ายขาวเดินอยู่ไม่ไกลนักมันยังอลิซรีบวิ่งตัวปลิวตามไปและทันได้ยินมันพูดในตอนเลี้ยวหัวมุมว่า
โธ่หูฉัน " . . . . . . . . . . . . . . หนวดฉันป่านนี้สายแย่แล้ว ! โธ่โธ่ . . . . . . . "
ตอนที่เลี้ยวนั้นอลิซตามหลังมันมาติดจะแต่พอเลี้ยวมาแล้วกลับมองไม่เห็นมันอีกเลย

. . . . . . .สักแค่อึดใจเดียวอลิซพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่สว่างไสวไปหมดภายในห้องโถงมีประตูมากมายหลายบานแต่ทุกบานปิดล๊อกไว้ทั้งหมดหลังจากที่ไปลองเปิดประตูทุกด้านทุกบานดูแล้วกลางห้องนึกในใจว่าเธอจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรกันทันใดนั้นอลิซก็เหลือบไปเห็นโต๊ะกลมสามขาตัวหนึ่งทำด้วยแก้วทั้งตัวมีสิ่งหนึ่งวางอยู่ที่บนโต๊ะนั่นมันเป็นกุญแจทองคำดอกจิ๋วนี่ทีแรกอลิซคิดไม่มีแน่
A . . . . . . .โธ่เอ๋ยถ้าไม่ใช่รูกุญแจจะใหญ่เกินไปแล้วลูกกุญแจก็คงจะเล็กจนเกินไปแหละเพราะไม่ว่ายังไงจะมันก็ไขประตูไม่ได้เลยสักบานแต่เมื่ออลิซพยายามอีกครั้งเธอก็ได้พบว่ามีประตูอยู่อ้า .. . . . . . . ดีใจจริงจะที่ไขได้ !อลิซเปิดประตูบานนั้นออกปรากฏว่าเห็นเป็นทางเส้นเล็กจะใหญ่กว่าโพรงหนูนิดเดียวเอง You คุกเข่าแล้วพยายามมองเข้าไปภายในภาพที่เห็นคือสวนที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยได้เห็นมาแต่ว่าประตูนั่นก็เล็กเสียจนเธอจะเสือกหัวลอดเข้าไปก็ยังไม่ได้และเท่าที่ผ่านจะมามีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นเยอะแยะจนอลิซชักจะเริ่มคิดว่าในโลกนี้มีเรื่องที่เป็นไปไม่ได้น้อยเหลือเกินจริงไม่มี .. . . . . . . และดูเหมือนว่าการรอคอยและการนั่งคิดอยู่ตรงหน้าประตูจิ๋วเล็กจะที่เข้าไปไม่ได้นั้นมันดูว่าจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเสียเลย

อลิซจึงกลับไปที่โต๊ะสามขาตัวเดิมอีกครั้งแอบหวังว่าบางทีอาจจะมีลูกกุญแจอีกดวงวางอยู่แต่คราวนี้เธอพบขวดเล็กจะใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะที่ตรงคอขวดมีแถบกระดาษพันไว้และมีตัวหนังสือเขียนกำกับไว้ว่า . . . . . . ." ดื่มฉันสิ " พิมพ์ไว้อย่างสวยงามด้วยอักษรขนาดใหญ่ก็ดีอยู่หรอกนะที่เขียนว่า " ดื่มฉันสิ " แต่อลิซผู้ฉลาดเฉลียวไม่รีบร้อนทำอะไรแบบนั้นหรอกไม่ฉันจะต้องดูก่อนว่ามันมีเครื่องหมายแสดงว่า

"" เป็นพิษ " อยู่หรือเปล่า " อลิซพูดแต่ว่าขวดใบนี้ไม่มีเครื่องหมายบอกว่า " เป็นพิษ " อลิซจึงกล้าตัดสินใจยกมันขึ้นดื่มดูปรากฏว่าเพียงเดี๋ยวเดียวอลิซก็ดื่มจนหมดขวด
" แปลกจัง " อลิซพูดขึ้น " รู้สึกว่าตัวฉันกำลังหดลงไปเรื่อยจะไม่มีแน่เลย " และก็เป็นอย่างนั้นจริงจะตอนนี้อลิซตัวสูงแค่สิบนิ้วเธอยิ้มแป้นเพราะรู้ว่าตอนนี้เธอตัวเล็กพอที่จะเข้าไปในสวนทางประตูเล็กจะนั่นได้แล้วเธอต้องรอดูสักครู่ว่าตัวเธอจะหดเล็กลงไปมากกว่านี้อีกหรือเปล่า
อลิซรู้สึกหวั่นใ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: