ประวัติวัดพระธาตุดอยสุเทพวัดพระธาตุดอยสุเทพ หรือ ที่ชาวบ้านนิยมเรียกกั การแปล - ประวัติวัดพระธาตุดอยสุเทพวัดพระธาตุดอยสุเทพ หรือ ที่ชาวบ้านนิยมเรียกกั อังกฤษ วิธีการพูด

ประวัติวัดพระธาตุดอยสุเทพวัดพระธาตุ

ประวัติวัดพระธาตุดอยสุเทพ

วัดพระธาตุดอยสุเทพ หรือ ที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “วัดดอยสุเทพ” นั้น เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ (สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๓,๐๕๑ ฟุต) เลขที่ ๑๒๔ บ้านดอยสุเทพ หมู่ที่ ๙ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๓๖ ไร อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย (ดูเพิ่มที่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย) อนึ่ง วัดแห่งนี้สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ชื่อของดอยสุเทพ เดิมเรียกกันหลายชื่อ นอกจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยังมีชื่อ อุจฉุบรรพต ดอยอ้อยช้าง และดอยกาละ สาเหตุที่ได้ชื่อว่า “วัดพระธาตุดอยสุเทพ” สันนิษฐานว่าเดิมมีฤาษีตนหนึ่งชื่อวาสุเทพหรือสุเทวฤาษี (เชื่อกันว่ามีตัวตนจริง เพราะเป็นผู้สร้างนครหริภุญชัยเมื่อ พ.ศ. ๑๒๐๔ : อ้างตาม ชินกาลมาลีปกรณ์) มาบำเพ็ญตบะอยู่บนเขาลูกนี้ คนทั้งหลายจึงเรียกชื่อภูเขาตามชื่อฤาษีตนนั้น
การเดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพ
จากตัวเมืองสามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางผ่านหน้ามหาวิทยาลัยและสวนสัตว์เชียงใหม่ เดินทางตามถนนห้วยแก้ว ผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ไปตามทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ระหว่างทางจะมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่อยู่เบื้องล่าง ระยะทางจากเชิงดอยถึงวัดประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง










ประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุดอยสุเทพ
สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๙๒๖ ในสมัยของพระญากือนามหาราชและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. ๒๐๑๐ โดยมีตำนานที่เล่าเกี่ยวกับวัดพระธาตุดอยสุเทพไว้ว่า ในสมัยพระญากือนา กษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราชวงศ์มังราย (ครองราชย์ พ . ศ . ๑๘๙๘ - ๑๙๒๘) ผู้ทรงมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากได้โปรดให้สร้างพระเจดีย์บนดอยสุเทพ โดยทรงนิมนต์พระมหาสุมนเถระเจ้าจากเมืองสุโขทัยให้มาประกาศศาสนาที่เมือง เชียงใหม่ และในครั้งนั้น พระมหาสุมนเถระเจ้าได้นำเอาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้ามาด้วย พระญากือนาเกิดความเลื่อมใสมาก จึงโปรดให้มีพิธีสรงน้ำพระบรมธาตุเพื่อจะได้อัญเชิญไปบรรจุไว้ในสถูปเจดีย์ ของวัดบุปผาราม ในขณะที่กระทำพิธีสรงน้ำพระบรมธาตุอยู่นั้นเอง พระบรมธาตุได้แยกออกเป็นสองส่วน พระญากือนากับพระมหาสวามีสุมนะจึงได้พร้อมใจกันทำพิธีบรรจุพระบรมธาตุองค์ ใหม่ไว้ที่วัดสวนดอก ส่วนพระบรมธาตุองค์เดิมนำไปประดิษฐานไว้ที่ดอยสุเทพ โดยเริ่มจากการอัญเชิญผอบพระบรมสารีริกธาตุขึ้นสถิตเหนือเศวตคชาธารช้างมงคล แล้ว อธิษฐานเสี่ยงช้างพระที่นั่งปล่อยไป หากพระบรมธาตุประสงค์จะสถิตอยู่ ณ ที่ใด ก็ขอให้ช้างมงคลหยุด ณ ที่แห่งนั้น และในระหว่างทางที่ช้างมงคลเดินทางไป ก็ได้หยุดเดินถึงสามครั้งทำให้เกิดชื่อของดอยช้างนูนและดอยงาม ครั้งที่สามซึ่งถือเป็นครั้งสำคัญ เนื่องจากช้างมงคลได้ไต่เขาไปจนถึงยอดดอยวาสุเทพบรรพตแล้วร้องเสียงดังจน ก้องสะท้านไปทั่วภูเขา เมื่อเดินประทักษิณ ๓ รอบแล้วจึงคุกเข่าหมอบลง และทันทีที่อาราธนาพระบรมธาตุลงจากหลังแล้ว ช้างมงคลนั้นล้มลงตายในทันที ซึ่งหมายความว่าจะไม่ยอมเป็นพาหนะของผู้ใดอีก
เหตุการณ์ในครั้งนั้นปรากฏใน พงศาวดารโยนก ว่า “… พระเจ้านครเชียงใหม่ให้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์หนึ่งซึ่ง เสด็จมาใหม่ไว้ในวัดบุปผารามนั้น ส่วนพระบรมธาตุองค์เดิมซึ่งพระมหาสุมนะเถระนำมาจากเมืองสุโขทัยนั้น เมื่อจะแสวงหาที่อันสมควรสร้างพระสถูปเจดีย์จึงเชิญผอบพระบรมธาตุขึ้นสถิต เหนือพระคชาธาร อธิษฐานเสี่ยงช้างพระที่นั่งปล่อยไป ช้างทรงพระบรมธาตุนั้นก็บ่ายหน้าเดินออกประตูหัวเวียงไปขึ้นสู่ดอยอุจฉุบรรพต (ดอยสุเทพ) ไปถึงผาลาดก็หยุดรออยู่ครู่หนึ่ง ก็ขึ้นต่อไปจนถึงจอมเขาแล้วก็หยุดอยู่ ณ ที่นั้น พระเจ้านครพิงค์เชียงใหม่กับพระมหาสุมนะเถระจึงพร้อมใจกันสร้างพระเจดีย์ บรรจุพระบรมธาตุนั้นไว้ ณ จอมเขาที่นั้น ในปีชวด อัฐศก จุลศักราช ๗๔๘ พิศาขมาส เพ็ญวันพุธ จันทร์เสวยฤกษ์ ๑๖ เป็นฤกษ์สถาปนาพระเจดีย์ธาตุสุเทพอันปรากฏอยู่ ณ จอมเขาหลังเมืองเชียงใหม่สืบมาจนทุกวันนี้ ”
การสร้างเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมธาตุ เริ่มจากการขุดยอดดอยลึก ๓ ศอก แล้วเอาแท่งหินใหญ่ ๗ ก้อนมากรุเป็นผนังเหมือนหีบใบใหญ่ เมื่อนำพระบรมธาตุลงวางแล้วใช้หินถมทับให้แน่นหนาจนถึงปากแล้วจึงก่อสถูปสูง ๕ วา ครอบปากหลุมไว้อีกชั้นหนึ่ง พระเจดีย์องค์นี้สร้างเสร็จเรียบร้อยเมื่อ พ.ศ. ๑๙๒๘ โดยมีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้านละ ๓ วา สูง ๗ วา รูปทรงเป็นแบบรามัญ ต่อมาในสมัยพระเมืองแก้ว (ระหว่าง พ.ศ. ๒๐๓๘ - ๒๐๖๘) มีการเสริมองค์พระเจดีย์ใหม่โดยขยายฐานออกไปด้านละ ๖ วา สูง ๑๒ วา นอกจากนี้ในรัชสมัยของพระเจ้าทรายคำ (ประมาณปี พ.ศ. ๒๑๘๑) พระองค์ได้พระราชทานทองหนัก ๑,๗๐๐ บาท ให้ตีแผ่นเป็นทองจังโกปิดพระบรมธาตุ อนึ่ง ในปี พ.ศ. ๒๐๘๘ มีการก่อสร้างวิหารและในปี พ.ศ. ๒๑๐๐ พระมหามงคลโพธิ์เป็นผู้อำนวยการก่อสร้างบันไดนาคซึ่งสูง ๓๐๐ ขั้นทอดยาวขึ้นไปสู่วัด นอกจากนี้ในสมัยของพระเจ้ากาวิละมีการสร้างวิหารขึ้น ๒ หลัง ทางทิศตะวันตกและตะวันออกของพระบรมธาตุ ตลอดจนทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระบรมธาตุด้วยการสร้างฉัตรโลหะปักไว้ที่มุม และสร้างรั้วเหล็กล้อมรอบองค์พระธาตุ
จากนั้นก็ได้สร้างถนน ขึ้นสู่ดอยสุเทพ เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๗ สำเร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ รวมระยะทางทั้งสิ้น ๑๑ กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง ๕ เดือน กับอีก ๒๒ วัน โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านทั่วภาคเหนือ และมีท่านครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับเจ้าแก้วนวรัฐ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายฆราวาส
อาคารเสนาสนะโบราณวัตถุและปูชนียวัตถุ ของวัดประกอบด้วยอุโบสถทรงล้านนา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังภาพประวัติพระธาตุดอยสุเทพ พระวิหาร ๒ หลัง ด้านทิศตะวันตกประดิษฐานพระพุทธ ด้านทิศตะวันออกประดิษฐานพระพฤหัส ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์จำนวน ๓๐ หลัง ศาลาที่พักประชาชนหอฉัน สำนักชี ห้องสมุด หอพิพิธภัณฑ์ พระประธานในอุโบสถ พระพุทธรูปแบบพระสิงห์นั่งขัดสมาธิเพชร อนุสาวรีย์ช้างมงคล (ช้างพระที่นั่งของพระเจ้ากือนาที่บรรทุกโกศพระบรมธาตุเสี่ยงทายขึ้นมาบนดอย สุเทพ) อนุสาวรีย์พระสุเทวฤาษี บันไดนาคซึ่งตัวนาคยาวถึง ๖๐ วา ตลอดจนปูชนียวัตถุที่สำคัญมากของวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งได้แก่ พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสั
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
History of Wat Phra that DOI suthepWat phrathat DOI suthep or the locals favorite, also known as "Wat DOI suthep," is one of the most important temples of Chiang Mai. As a Royal Monastery floor rachuanwihan Located on the outskirts (sea level of about 3051 ft) No. 124 ban DOI suthep. Moo 9 tambol suthep, amphur Muang Chiang Mai, has landed up in space 36 metric, how DOI suthep-Pui National Park (see also the DOI suthep-Pui National Park), this temple affiliation of several Maha Nikaya.The name originally referred to several of the DOI suthep mountain name. In addition to that mentioned above, there are also the name banphot utchu DOI DOI check each cause, and sugar cane that has been called "Wat prathat DOI suthep" assumes that the self is one of the names in the original hermit wasuthep, or Temple of the Suez วฤาษี (believed to have actual identity because of who created the robots hariphunchai – 1204: claimed by Mali Chin upon device) to make him a child reside on this taba. Many people call the mountain name according to the hermit.The Wat Phra that DOI suthepFrom the city center can be reached by using the path through University and Chiang Mai Zoo. Trip by Huay Kaew road. Phanonusaori the teacher along a winding oval bat wichai. The way to see the city is below. The distance from the temple about 11 km of DOI to take about half an hour.The history of Wat Phra that DOI suthepสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๙๒๖ ในสมัยของพระญากือนามหาราชและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. ๒๐๑๐ โดยมีตำนานที่เล่าเกี่ยวกับวัดพระธาตุดอยสุเทพไว้ว่า ในสมัยพระญากือนา กษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราชวงศ์มังราย (ครองราชย์ พ . ศ . ๑๘๙๘ - ๑๙๒๘) ผู้ทรงมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากได้โปรดให้สร้างพระเจดีย์บนดอยสุเทพ โดยทรงนิมนต์พระมหาสุมนเถระเจ้าจากเมืองสุโขทัยให้มาประกาศศาสนาที่เมือง เชียงใหม่ และในครั้งนั้น พระมหาสุมนเถระเจ้าได้นำเอาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้ามาด้วย พระญากือนาเกิดความเลื่อมใสมาก จึงโปรดให้มีพิธีสรงน้ำพระบรมธาตุเพื่อจะได้อัญเชิญไปบรรจุไว้ในสถูปเจดีย์ ของวัดบุปผาราม ในขณะที่กระทำพิธีสรงน้ำพระบรมธาตุอยู่นั้นเอง พระบรมธาตุได้แยกออกเป็นสองส่วน พระญากือนากับพระมหาสวามีสุมนะจึงได้พร้อมใจกันทำพิธีบรรจุพระบรมธาตุองค์ ใหม่ไว้ที่วัดสวนดอก ส่วนพระบรมธาตุองค์เดิมนำไปประดิษฐานไว้ที่ดอยสุเทพ โดยเริ่มจากการอัญเชิญผอบพระบรมสารีริกธาตุขึ้นสถิตเหนือเศวตคชาธารช้างมงคล แล้ว อธิษฐานเสี่ยงช้างพระที่นั่งปล่อยไป หากพระบรมธาตุประสงค์จะสถิตอยู่ ณ ที่ใด ก็ขอให้ช้างมงคลหยุด ณ ที่แห่งนั้น และในระหว่างทางที่ช้างมงคลเดินทางไป ก็ได้หยุดเดินถึงสามครั้งทำให้เกิดชื่อของดอยช้างนูนและดอยงาม ครั้งที่สามซึ่งถือเป็นครั้งสำคัญ เนื่องจากช้างมงคลได้ไต่เขาไปจนถึงยอดดอยวาสุเทพบรรพตแล้วร้องเสียงดังจน ก้องสะท้านไปทั่วภูเขา เมื่อเดินประทักษิณ ๓ รอบแล้วจึงคุกเข่าหมอบลง และทันทีที่อาราธนาพระบรมธาตุลงจากหลังแล้ว ช้างมงคลนั้นล้มลงตายในทันที ซึ่งหมายความว่าจะไม่ยอมเป็นพาหนะของผู้ใดอีกเหตุการณ์ในครั้งนั้นปรากฏใน พงศาวดารโยนก ว่า “… พระเจ้านครเชียงใหม่ให้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์หนึ่งซึ่ง เสด็จมาใหม่ไว้ในวัดบุปผารามนั้น ส่วนพระบรมธาตุองค์เดิมซึ่งพระมหาสุมนะเถระนำมาจากเมืองสุโขทัยนั้น เมื่อจะแสวงหาที่อันสมควรสร้างพระสถูปเจดีย์จึงเชิญผอบพระบรมธาตุขึ้นสถิต เหนือพระคชาธาร อธิษฐานเสี่ยงช้างพระที่นั่งปล่อยไป ช้างทรงพระบรมธาตุนั้นก็บ่ายหน้าเดินออกประตูหัวเวียงไปขึ้นสู่ดอยอุจฉุบรรพต (ดอยสุเทพ) ไปถึงผาลาดก็หยุดรออยู่ครู่หนึ่ง ก็ขึ้นต่อไปจนถึงจอมเขาแล้วก็หยุดอยู่ ณ ที่นั้น พระเจ้านครพิงค์เชียงใหม่กับพระมหาสุมนะเถระจึงพร้อมใจกันสร้างพระเจดีย์ บรรจุพระบรมธาตุนั้นไว้ ณ จอมเขาที่นั้น ในปีชวด อัฐศก จุลศักราช ๗๔๘ พิศาขมาส เพ็ญวันพุธ จันทร์เสวยฤกษ์ ๑๖ เป็นฤกษ์สถาปนาพระเจดีย์ธาตุสุเทพอันปรากฏอยู่ ณ จอมเขาหลังเมืองเชียงใหม่สืบมาจนทุกวันนี้ ”การสร้างเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมธาตุ เริ่มจากการขุดยอดดอยลึก ๓ ศอก แล้วเอาแท่งหินใหญ่ ๗ ก้อนมากรุเป็นผนังเหมือนหีบใบใหญ่ เมื่อนำพระบรมธาตุลงวางแล้วใช้หินถมทับให้แน่นหนาจนถึงปากแล้วจึงก่อสถูปสูง ๕ วา ครอบปากหลุมไว้อีกชั้นหนึ่ง พระเจดีย์องค์นี้สร้างเสร็จเรียบร้อยเมื่อ พ.ศ. ๑๙๒๘ โดยมีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้านละ ๓ วา สูง ๗ วา รูปทรงเป็นแบบรามัญ ต่อมาในสมัยพระเมืองแก้ว (ระหว่าง พ.ศ. ๒๐๓๘ - ๒๐๖๘) มีการเสริมองค์พระเจดีย์ใหม่โดยขยายฐานออกไปด้านละ ๖ วา สูง ๑๒ วา นอกจากนี้ในรัชสมัยของพระเจ้าทรายคำ (ประมาณปี พ.ศ. ๒๑๘๑) พระองค์ได้พระราชทานทองหนัก ๑,๗๐๐ บาท ให้ตีแผ่นเป็นทองจังโกปิดพระบรมธาตุ อนึ่ง ในปี พ.ศ. ๒๐๘๘ มีการก่อสร้างวิหารและในปี พ.ศ. ๒๑๐๐ พระมหามงคลโพธิ์เป็นผู้อำนวยการก่อสร้างบันไดนาคซึ่งสูง ๓๐๐ ขั้นทอดยาวขึ้นไปสู่วัด นอกจากนี้ในสมัยของพระเจ้ากาวิละมีการสร้างวิหารขึ้น ๒ หลัง ทางทิศตะวันตกและตะวันออกของพระบรมธาตุ ตลอดจนทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระบรมธาตุด้วยการสร้างฉัตรโลหะปักไว้ที่มุม และสร้างรั้วเหล็กล้อมรอบองค์พระธาตุThen, they created the road up to DOI suthep when successfully completed on November 9, 1937-April 1982, 2477 2478 11 km total distance total time in 5 months with the construction of another 22 days by obtaining cooperation from villagers all over the North, and the registry is your teacher bat wichai. The Saints as its Chairman together with monk solve a loop which is the President of NEN warat.อาคารเสนาสนะโบราณวัตถุและปูชนียวัตถุ ของวัดประกอบด้วยอุโบสถทรงล้านนา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังภาพประวัติพระธาตุดอยสุเทพ พระวิหาร ๒ หลัง ด้านทิศตะวันตกประดิษฐานพระพุทธ ด้านทิศตะวันออกประดิษฐานพระพฤหัส ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์จำนวน ๓๐ หลัง ศาลาที่พักประชาชนหอฉัน สำนักชี ห้องสมุด หอพิพิธภัณฑ์ พระประธานในอุโบสถ พระพุทธรูปแบบพระสิงห์นั่งขัดสมาธิเพชร อนุสาวรีย์ช้างมงคล (ช้างพระที่นั่งของพระเจ้ากือนาที่บรรทุกโกศพระบรมธาตุเสี่ยงทายขึ้นมาบนดอย สุเทพ) อนุสาวรีย์พระสุเทวฤาษี บันไดนาคซึ่งตัวนาคยาวถึง ๖๐ วา ตลอดจนปูชนียวัตถุที่สำคัญมากของวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งได้แก่ พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสั
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
History Wat Phra That Doi Suthep, Wat Phra That Doi Suthep or the locals call it. "Wat Doi Suthep" it is an important measure of one of Chiang Mai. As a secondary monastery Ratchaworawihan. Located on Doi Suthep (Height from sea level to about 3,051 feet), No. 124 Moo 9 Tambon Ban Doi Suthep Suthep, Chiang Mai. There is a land area of 36 rai in Doi Suthep - (See Doi Suthep -) The temple is affiliated with Sangha Maha Nikai name of Doi Suthep. Originally called many names In addition, as mentioned above, there are Banpot Auhฉu name and Doi Doi Agaichgag time, the cause is known. "Wat Phra That Doi Suthep" assumed the identity of a hermit named Wasuetp or random evil hermit. (Believed to have existed. It is a city built Haripunchai Year 1204: cited as Mali's interim Exposition) in asceticism on his son. Then they called the mountain by the hermit their trip to Wat Phra That Doi Suthep, the city has a path through the University and Chiang Mai Zoo. Travel by road Huaykaew Through monument Siwichai Along the way, he winds up On the way to see the city below. Distance from Hill to measure approximately 11 kilometers and takes about half an hour, the history of Wat Phra That Doi Suthep was constructed in 1926 during the reign of King Kue Na Jaya Maharaj and get Wisuongcamseamr year. Since 2010, with the legend about Wat Phra That Doi Suthep said. In the spirit Kue Na. King of the 6th Dynasty Mang (reigned BC.. 1898-1928), who had faith in Buddhism, so please give a pagoda on Doi Suthep. Sumon Maha Thera was invited by you from downtown to the city and declared religion at that time. Sumon Maha Thera, you have to take the relics of Buddha with. The contract Kue Na was very respectable. So please give a bathing ceremony brought the relics to be placed in the pagoda. The measure Buppharam While the ceremony itself bathing relics. The relics are split into two parts. His contract with Kue Na Phra Maha Swami Sumna have united together to contain relics of the Buddha. New at Wat Suan Dok The same applied to the relics enshrined at Doi Suthep. Start by invoking the relics casket up presides over the alabaster throne, royal elephant elephant sacred elephant sounds and then pray to leave. The relics will be enshrined as a sacred elephant does not seek to stop at that place and during the journey to the sacred elephant. He stopped three times, resulting in a relief of Doi Chang and Doi Ngam. The third, which is important. The sacred elephant trekking to the summit of Mount Wasuetp Banphot then cry poverty. Echoes across the mountains vociferously When walking clockwise three rounds and then kneel, crouch down. And immediately invite the relics from back then. Sacred elephant fell dead instantly. This means there will not be any more of those vehicles on the time it appears in the Annals of Ionia that "... God gave Mai pagoda relics which one. The new measure comes in the Buppharam. The relics of the Buddha which Maha Thera Sumna brought from the town of Sukhothai. When will seek to create a reasonable pagoda relics casket invited more static. Over the king's elephant Pray to leave the royal elephant sounds Elephant, relics, then turns to walk out the door, head up to the mountain town Auhฉu Banphot (Doi Suthep) to the slopes just waiting for a moment. He then went on to Wong stopped at Nakorn Ping Chiang Mai with the Lord Maha Thera Sumna it were to build a pagoda. Packing relics are kept at Jomtien him there in rat Aaฐsk Hulsakrach 748 degrees pitch the moon coming Monday, Wednesday and ate the auspicious occasion 16 Inaugural Suthep pagoda relics which he appeared at the South after the city to this day. " To build a stupa Buddha relics From the mountaintops to dig three feet deep, then took a large stone wall is seven more early models like the big chest. When the relics into place and secured to the rock fill over the mouth and then five meters high Stupa mouth holes into the wall. Stupa was built in 1928 BC, when completed, with a square base and three meters high by 7 meters shapes as Raman. Later in the reign of King Kaew (between BC 2038-2068) has added a new pagoda to expand by 6 percent in the high 12 Moreover, in the reign of the sand (about the year.. . 2181) He has given 1700 baht a heavy gold hit a gold plate Django off relics, inter alia, in the year 2088 with the construction of the temple and in the year 2100 Maha Bodhi starred as a director. Construction ladder snake, which is 300 steps leading up to the temple. In addition, during the reign of King Kawila the second temple built up behind the west and east of the relics. As well as the restoration of relics by creating a tiered metal pin in the corner. And building a steel fence surrounding the stupa , then build roads. Up to Doi Suthep on 9 November 2477 complete in April 2478, a total distance of 11 kilometers, with a construction period of five months and 22 days by obtaining cooperation from residents. homes across north And Siwichai Saint of the monks presided over. With Kaew Nawarat The president of secular and sacred buildings Esnasna antiquities. The measure contains Lanna temple. Within a mural history Phra That Doi Suthep temple, two behind the western Buddha. East enshrined Thursday Sermon hall in a monastery Buddhist monk pavilion number 30 after the Convent refectory, a library, museum of Buddha in the temple. Phra Singh Buddha squat diamond. Sacred Elephant Statue (Chang throne of God Kue Na urn carrying the relics toss up on Doi Suthep) Statue of random evil hermit. Naga Naga staircase which the length of 60 meters, as well as the importance of the sacred Doi Suthep temple, which include relics of the Buddha.




















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
History of wat DOI Suthep

.Wat DOI Suthep, or that the locals called "DOI Suthep Temple" is a major measure of one of the mai. The monastery is located on the mountain, I ราชวรวิหาร (height above sea level, about 3,The seminary at 1 ft) number 12 4 home DOI Suthep, among which 9 hospitals has land set measure space. 3 6, however, in the field of Virunga National Park. (see more at Virunga National Park.) 1.The name of the mountain was originally called many names, in addition to that mentioned above are also named อุจฉุ mountain DOI DOI อ้อยช้าง and the cause was called "Wat DOI Suthep." Presumably there is one named Vishnu hermit or Su the HermitBecause the builders City Scot when B.Prof.: 12 and 4 claims by Shin the Malian equipment) to penance on the mountain. They are called by the name of mountain hermit their trip to the wat DOI Suthep

.From the city can travel by routing through the University and zoo เดินทางตาม Huay Kaew road through the monument Kruba. According to the maze on him. On the way to see the city is below.11 kilometers, approximately half an hour!









the history of wat DOI Suthep
created when the nineteenth civilians in the days of the ญาก are นามหาราช received swiftly and year. BCTwenty 10 the legend tells about the wat DOI Suthep, that in the days of the ญาก is Na, a king at 6 of ราชวงศ์มังราย (to the throne. . Prof.133 8 - 19 28th) who have faith in Buddhism very please to create the pagoda on DOI Suthep. He invited the Sumon Thera you from Sukhothai to preach religion at the city of Chiang Mai และในครั้ง.The ญาก is Na's devotion. So please give the diathermy borommathat to brought to packing in the pagoda of the temple flower temple, While performing a ceremony music borommathat in itself. Relics is separated into two parts.New at Wat suandok. The relics of the old shrine at the DOI Start by summoning up over white casket relics is king's elephant elephant favorable. Pray risk Royal elephants and letting go.Where it's elephant favorable stop there, and during the elephant sacred journey. It stopped three times caused the name of elephant mountain convex and mountain beauty. The third which is importantEcho all over the mountains. When walking clockwise three times then kneel down. And as soon as decortication relics from behind. Sacred elephant that fell down dead immediately. Which means that would not be a vehicle of any more!The incident appeared in the Ionian. "... God Mai to create the pagoda relics angel. The new coming in wat buppharam.When to seek proper build the pagoda invited urn relics up static over the stream. Pray risk tea Royal elephants and letting go. Elephant relics is to head for walking out the door to go up to the mountain Hua wiang อุจฉุ banphot.Stop waiting for a moment. The notes reach PHA La Up until the him and stay there. God Chiang Mai Mai to the สุมนะ Thera started building the pagoda contains relics of it. At the he there in the rat, อัฐศก.7 48 stare made b. Observe Wednesday Monday 16 is the auspicious occasion had established a pagoda element Suthep appears, be at the him behind the city find out until this day. "
.The pagoda enshrined relics of the three cubits deep dig hill and took the sticks big rock 7 cubes come as wall as a big box When the Buddha's relics into place and then use the rock fills over tight until then a stupa mouth high 5.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: