พระโอวาท พระพุทธจี้กงเมตตา
ชั้นนี้เป็นชั้นอะไร
ชิงโข่ว ชิงโข่ว แต่ใจเจ้าบริสุทธิ์แล้วหรือยัง
ใจที่ไร้สาระมีมากมาย ใช่หรือไม่
แล้วแบบนี้เรียกว่าบริสุทธิ์ไหม
ใจไม่่บริสุทธิ์ ความนึกคิดก็ไม่บริสุทธิ์
อย่างนี้จะเรียกว่าได้ลดความอยากลงไปแล้วหรือ
ชิงโข่ว ไม่ใช่ว่าเพียงตั้งปณิธานเท่านั้น
แต่จะต้องทำให้สมกับคำว่า ชิงโข่ว
ตั้งปณิธาน ชิงโข่ว แล้วก็ไม่ใช่ว่าฐานะในอาณาจักรธรรมของเจ้าจะแตกต่างไป
ถ้าอย่างนั้นคำว่าชิงโข่วจะมีความหมายอะไร
การทานเจก็เป็นเพียงพื้นฐานที่สมควรทำอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ ผู้บำเพ็ญทำแต่ภายนอก
จะมีสักกี่คนที่เข้าใจว่าบำเพ็ญต้องบำเพ็ญที่จิต มีกึ่คนที่พูดได้ว่าดำเนินรอยตามอริยะเจ้า
ชิงโข่ว ชิงโข่ว ...
วันนี้ให้เจ้าชิงโข่ว ตัวเองก็มีฐานะที่สูงขึ้นมาอืีกหรือไม่
คนอื่นเขาไม่เข้าใจในหลักธรรม เจ้าก็ยังคงที่จะต้องไปเปลี่ยนแปลงเขาใช่ไหม
หรือเพียงตั้งปณิธานเพื่อต้องการเข้าชั้นสำนึกบาปก็เลยชิงโข่ว หากเป็นอย่างนี้อาจารย์จะให้ศิษย์คิดทบทวนเสียใหม่ให้ดี
ศิษย์บำเพ็ญธรรมอย่าบำเพ็ญจนมีแต่ความผิดบาปเต็มไปหมด เมื่อรู้ว่าผิดแล้วยังทำผิดอีก
ใครบ้างจะมีจิตดั่งพระิอริยะเจ้า
คนเราใช่พระอริยะเจ้า ฉะนั้นก้ต้องมีความผิดบ้าง แต่จะมีใครอยากที่จะเลียนแบบท่านเอี๋ยนหุย คือจะไม่ผิดอีกซ้ำสอง
เชื่อว่าทุกคน่างก็มีประสบการณ์ในการวางแผนงานธรรมะกัน
แต่ว่าเมื่อมีความผิดเคยย้อนสำรวจตัวเองหรือไม่
เคยวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองกันบ้างหรือไม่
วันนี้มาที่นี่จุดมุ่งหมายคืออะไร
คำว่า ชิงโข่ว พูดง่าย ๆ ได้หรือ แม้แต่ย้อนมางส่องตนสักนิดก็ไม่มี หรือเพราะว่าเจ้าทานเจทุกอย่างก็เป็นอันเีรียนร้อยหมด
ในอดีตเจ้ไม่ได้ทานเจ เป็นหนี้พวกเขาเท่าไหร่ เขาเหล่านั้น วันนี้ก็คุกเข่าอยู่ข้างหลังเจ้า
ศิษย์เอ๋ย เจ้าตั้งปณิธานทานเจแล้วได้ตั้งปณิธานใหญ่ตามหรือไม่
คนที่ตั้งปณิธานชิงโข่วต้องมีติตเมตตา จิตใจที่เมตตานั้นเจ้ามีเพียงพอหรือไม่ จำเป็นไหมที่จะต้องลงแรงพยายาม
เพราะฉะนั้น จะต้องเร่งรีบสร้างบุญกุศล
แต่ปกติเจ้าก็ยึดมั่นถือมั่นในกุศลที่ทำ คน ๆ หนึ่งที่ยึดติดกุศลนี้ก็เพียงแค่มุมเดียวเท่านั้น
ในเมื่อยึดติดในบุญกุศลก็เป็นอุปสรรคในการบำเพ็ญ
ในบางครั้งอยู่ในอาณาจักรธรรมก็ยังอยากจะเอาหน้า
บำเพ็ญจนถึงสุดท้ายโฉมหน้าของเจ้ามีการเปลี่ยนแปลงบ้างไหม จิตที่เมตตาเหลือไว้กี่ส่วน
วันนี้ต่างก็ชิงโข่วแล้ว
อาจารย์อยากให้ทุกคนคิดถึงเรื่องรางความผิดของตนเอง หรือคิดถึงแต่ความผิดของผู้อื่น
ถ้าคิดถึงความผิดของตนเอง เจ้าก็ต้องทำใจให้บริสุทธิ์กว่านี้
ในเมื่อศิษย์รักทั้งหลายต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญ ทำไมยังไม่รู้จักการปล่อยวาง ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ว่าบุญกุศลนี้เป็นของตน
ความถูกต้องก็คิดว่าเป็นของตน ส่วนความผิดบาปก็โยนให้คนอื่นไป อันนี้คือสิ่งที่ผู้บำเพ็ญสมควรทำหรือไม่
ผู้บำเพ็ญพื้นฐานที่สำคัญที่สุดนั้นหากเกิดการโจมตีอาณาจักรธรรม เจ้าต้องรู้จักปกป้อง ปกปิดความไม่ดีของผู้อื่นและนำเอาความดีงามของผุ้อื่นเผยแพร่ออกไป
ถ้าผู้อื่นเขาทำไม่ดี แล้วเจ้าก็บอกออกไปถึงความไม่ดีของเขาอย่างนี้เรียกว่า ปกปิดความดีของเขา แต่ป่าวประกาษความชั่วร้ายของเขา
หากพูดแต่ความไม่ดีของผู้อื่น พูดแต่ความดีของตนเองอย่างนี้เรียกว่า ปิดบังธรรมะไว้มิให้ปรากฏ
เจ้ามีจิตใจที่แท้จริงต่อกันหรือไม่
จิตใจของพวกเจ้าัยังไม่บริสุทธิ์
ฉะนั้น การชิงโข่วเป็นเรื่องส่วนตัว
ชิงโข่วแล้วแต่ไม่ได้ระวังคำพูดเลย นิสัยความเคยชินที่ไม่ดีก็มีมากมาย อย่างนี้ก็เท่ากับไม่มีประโยชน์อะไรเลย
การตั้งปณิธานชิงโข่วมีกุศลหรือไม่
ชิงโข่วเพื่ออะไร
ใช่หรือไม่ว่าบำเพ็ญเพื่อตัวเราเอง เมื่อรู้ว่าพบจิตของตัวเองเป็นบุญและความเสมอภาคก่อให้เกิดคุณธรรม
ฉะนั้น เจ้าชิงโข่วแล้วใจก็ต้องบริสุทธิ์
เมื่อจิตบริสุทธิ์ก็จะเกิดคุณธรรม คือไม่มีนิสัยความเคยชินที่ไม่ดี ข้อนี้ศิษย์พอจะเข้าใจไหม
ต่อไปต้องควบคุมตนให้เป็นอริยะ
อะไรเรียกว่าการควบคุม
ความนึกคิดที่เปลี่ยนไปได้ทุกเวลา จะขึ้นจะลงก็แค่ชั่วพริบตาจะต้องควบคุมตัวเองให้ได้ จิตที่เป็นลิงของเจ้าจะต้องจับให้อยู่
ถ้าควบคุมจิตจนถึงวินาทีสุดท้ายก็สามารถบรรลุธรรมแน่นอนได้เป็นถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นดีที่สุด