วิธีการดำเนินการวิจัยการวิจัยครั้งน

วิธีการดำเนินการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เพื่อพัฒนาพัฒนาการออกเสียง ed ท้ายคำโดยใช้แบบฝึกการออกเสียง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 ปีเทียบโอน) สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ไสใหญ่) โดยใช้แบบทดสอบเพื่อหาแนวทางการพัฒนาการออกเสียง ed ท้ายคำ ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยตามขั้นตอน ดังนี้
1. ขอบเขตด้านประชากร
2. เครื่องมือที่ใช้การศึกษา
3. ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
5. การเก็บรวบรวมข้อมูล
ขอบเขตด้านประชากร
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาปัญหาและข้อผิดพลาดในการออกเสียง ed ท้ายคำโดยใช้แบบฝึก เพื่อพัฒนาการออกเสียง ed ท้ายคำ ให้ดียิ่งขึ้น คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 ปีเทียบโอน) สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ไสใหญ่) จำนวนนักศึกษาทั้งหมด 31 คน โดยสุ่มนักศึกษากลุ่มตัวอย่าง จากคะแนนแบบทดสอบ pretest โดยใช้คะแนนจากแบบทดสอบเป็นเกณฑ์เพื่อสุ่มนักศึกษากลุ่มตัวอย่าง ดังนี้ คะแนน 20 คะแนน คิดเป็น 100% แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน กลุ่มแรกคือ นักศึกษาที่ได้คะแนน 80% ขึ้นไป กลุ่มที่สอง คะแนนที่ได้ระหว่าง 60% ถึง 80% และกลุ่มที่สาม คะแนนที่ได้ต่ำกว่า 60% รวมจำนวนนักศึกษากลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 9 คน
เครื่องมือที่ใช้การศึกษา
(1) แบบทดสอบการออกเสียง ed ท้ายคำ ก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน
(Post-test) โดยดัดแปลงจากแบบทดสอบงานวิจัยของ นาวสาวเมธวดี ริจนา (2557)
(2) แบบฝึกการออกเสียง ed ท้ายคำ จำนวน 4 ชุด

ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ
ขันตอนที่ 1 ศึกษางานวิจัยและเอกสารบทความที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างเครื่องมือในการศึกษาและพัฒนา
ข้นตอนที่ 2 นำเครื่องมือที่สร้างเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบคุณภาพ ทั้งด้าน เนื้อหา การใช้ภาษาตลอดจนพิจารณา ปรับแก้ข้อบกพร่องให้มีความเหมาะสม
ขันตอนที่ 3 นำเสนอแบบทดสอบที่ผ่านการตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว ไปทำการทดสอบกับนักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 เทียบโอน) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่)
ขั้นตอนที่ 4 จัดพิมพ์ แบบ ทดสอบแล้วนำไปใช้เก็บข้อมูล จากกลุ่มตัวอย่าง
การเก็บรวบรวมข้อมูล
(1) นำแบบทดสอบการออกเสียง ed ท้ายคำ จำนวน 20 ข้อ ไปทดสอบกับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 ปีเทียบโอน)
(2) นำผลจากการทำแบบทดสอบการออกเสียง ed ท้ายคำ ของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 ปีเทียบโอน) โดยใช้เกณฑ์จากคะแนนแบบทดสอบ (Pre-test) เพื่อเป็นเกณฑ์แบ่งกลุ่มนักศึกษากลุ่มตัวอย่าง ออกเป็น 3 กลุ่ม จากนั้นสุ่มกลุ่มตัวอย่างจากกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน รวมจำนวนนักศึกษากลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 9 คน
(3) หลังจากนั้นเริ่มพัฒนากลุ่มตัวอย่าง จำนวน 9 คนนี้ โดยใช้แบบฝึกการออกเสียง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 5 สัปดาห์
(4) เมื่อสิ้นสุดการพัฒนาโดยใช้แบบฝึกแล้ว ให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบหลังเรียน (post-test) เพื่อต้องการทราบผลการพัฒนาของนักศึกษากลุ่มตัวอย่าง
การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลทั้งหมดของกลุ่มตัวอย่างจะนำมาวิเคราะห์ โดย ค่าเฉลี่ย แล้วคิดค่าเป็นร้อยละ เพื่อต้องการทราบการพัฒนาของกลุ่มตัวอย่างว่าดีขึ้นหรือแย่ลง โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ ดังนี้
1.ค่าร้อยละ คำนวณจากสูตรต่อไปนี้
X% = (x/k)×100
( Bachman, 2004:301 )
โดย x แทน จำนวนตัวอย่างในข้อคำถาม
k แทน จำนวนตัวอย่างทั้งหมด
2.ค่าเฉลี่ย (Mean) คำนวณจากสูตรต่อไปนี้
X ̅ = (∑▒X)/n
( Bachman, 2004:56 )
โดย X ̅ แทน ค่าคะแนนเฉลี่ย
∑▒X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
n แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง
3.ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) คำนวณจากสูตรต่อไปนี้
SD = √((∑▒〖x² ­ □(((∑▒〖x)²〗)/N)〗)/N)
( Bachman, 2004:68 )
โดย SD แทน ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
∑▒x² แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกกำลังสอง
(∑▒〖x)²〗 แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกกำลังสอง
N แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

How to do research.This research to develop a development vote ed Stern words using the phonetic training. Third year students (2 years course transfers) to the English language Department, global communications, rajamangala University of technology Srivijaya (Sai Yai) using the test to find a development vote ed Stern words, which researchers have conducted the research procedure. As follows:1. population boundaries.2. the tools used to study.3. steps to create tools.4. collection of information5. collection of informationPopulation boundaries. The population used to study problems and errors in pronunciation of the word end ed by using the practice to develop the end ed words, pronunciation, even better is that the third year students (2 years course transfers) to the English language Department, global communications, rajamangala University of technology Srivijaya (Sai Yai)All 31 students, plain people randomly from the sample student test scores by using pretest score from the test criteria to a random sample of students. Like this 100% score 20 points, representing a sample divided into 3 groups, each group is among the first students who score 80% or more. The second group of points between 60% to 80%, and a third group has less than 60% of the total number of students, all 9 samples. เครื่องมือที่ใช้การศึกษา(1) แบบทดสอบการออกเสียง ed ท้ายคำ ก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน (Post-test) โดยดัดแปลงจากแบบทดสอบงานวิจัยของ นาวสาวเมธวดี ริจนา (2557) (2) แบบฝึกการออกเสียง ed ท้ายคำ จำนวน 4 ชุด ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ ขันตอนที่ 1 ศึกษางานวิจัยและเอกสารบทความที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างเครื่องมือในการศึกษาและพัฒนา ข้นตอนที่ 2 นำเครื่องมือที่สร้างเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบคุณภาพ ทั้งด้าน เนื้อหา การใช้ภาษาตลอดจนพิจารณา ปรับแก้ข้อบกพร่องให้มีความเหมาะสม ขันตอนที่ 3 นำเสนอแบบทดสอบที่ผ่านการตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว ไปทำการทดสอบกับนักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 เทียบโอน) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) ขั้นตอนที่ 4 จัดพิมพ์ แบบ ทดสอบแล้วนำไปใช้เก็บข้อมูล จากกลุ่มตัวอย่าง การเก็บรวบรวมข้อมูล(1) นำแบบทดสอบการออกเสียง ed ท้ายคำ จำนวน 20 ข้อ ไปทดสอบกับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 ปีเทียบโอน) (2) นำผลจากการทำแบบทดสอบการออกเสียง ed ท้ายคำ ของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 2 ปีเทียบโอน) โดยใช้เกณฑ์จากคะแนนแบบทดสอบ (Pre-test) เพื่อเป็นเกณฑ์แบ่งกลุ่มนักศึกษากลุ่มตัวอย่าง ออกเป็น 3 กลุ่ม จากนั้นสุ่มกลุ่มตัวอย่างจากกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน รวมจำนวนนักศึกษากลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 9 คน (3) หลังจากนั้นเริ่มพัฒนากลุ่มตัวอย่าง จำนวน 9 คนนี้ โดยใช้แบบฝึกการออกเสียง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 5 สัปดาห์ (4) เมื่อสิ้นสุดการพัฒนาโดยใช้แบบฝึกแล้ว ให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบหลังเรียน (post-test) เพื่อต้องการทราบผลการพัฒนาของนักศึกษากลุ่มตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลทั้งหมดของกลุ่มตัวอย่างจะนำมาวิเคราะห์ โดย ค่าเฉลี่ย แล้วคิดค่าเป็นร้อยละ เพื่อต้องการทราบการพัฒนาของกลุ่มตัวอย่างว่าดีขึ้นหรือแย่ลง โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ ดังนี้ 1.ค่าร้อยละ คำนวณจากสูตรต่อไปนี้ X% = (x/k)×100 ( Bachman, 2004:301 ) โดย x แทน จำนวนตัวอย่างในข้อคำถาม k แทน จำนวนตัวอย่างทั้งหมด 2.ค่าเฉลี่ย (Mean) คำนวณจากสูตรต่อไปนี้ X ̅ = (∑▒X)/n ( Bachman, 2004:56 ) โดย X ̅ แทน ค่าคะแนนเฉลี่ย ∑▒X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด n แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 3.ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) คำนวณจากสูตรต่อไปนี้ SD = √((∑▒〖x² ­ □(((∑▒〖x)²〗)/N)〗)/N) ( Bachman, 2004:68 )
โดย SD แทน ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
∑▒x² แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกกำลังสอง
(∑▒〖x)²〗 แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกกำลังสอง
N แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

How to conduct a research
study to develop ed the word pronunciation using the pronunciation. 3rd year students (two-year transfer program), Department of English for International Communication. Rajamangala University of Technology Srivijaya (colon) using a test to find ways to improve voting ed at the end of which the researcher has conducted research on the following:
1. The scope of the
two. The study used
three. The process of constructing
four. Data collection
5. Collecting data
on the extent of
the population that used to study the problems and mistakes in pronunciation ed by the end of the exercise. Ed the word pronunciation to make it even better is the third year students (two-year transfer program), Department of English for International Communication. Rajamangala University of Technology Srivijaya (colon) Total number of students to 31 students by random sampling. From the test pretest using scores from the test as a criterion for random student samples are scored 20 points, representing 100% samples were divided into three groups of three among the first students who scored 80% or more groups. two points are between 60% to 80%, and the third group. The score was less than 60% of the total number of students in the sample, all nine of
the instruments used to study the
(first) test pronunciation ed at the end of the previous school (Pre-test) and after
(Post-test) the adaptation of the test. Research of Ms. Rose's Village Methodist Manor (2557),
(2) the exercise of voting ed at the end of the fourth series of steps to create a phase 1 study of research papers and articles. To serve as a guide to create a tool for education and development concentrated at two tools that make recommendations to the supervisor. and experts To determine the quality of the content as well as the use of language. Fixed a bug with the appropriate step 3 presents a test validated and debugged. To test the students of English for International Communication, 3rd year (two courses transfer) Faculty of Science and Technology. Rajamangala University of Technology Srivijaya Campus Nakhon Si Thammarat (Colon) Step 4: Print a test used to store data. The sample data collection (1) to test voting ed at the end of 20 questions to test students in Year 3 (Intermediate 2nd year transfer) (2) The results of the test vote ed up. a student's grade 3 (Intermediate 2nd year transfer) using the criteria of the test (Pre-test) to the group of students were divided into three groups and then randomly assigned groups of three people. students sample 9 (3) after the start of nine samples of people using this pronunciation. The process will take approximately 5 weeks (4) at the end of development using trained. A sample quiz after learning (post-test) to determine the development of the student sample analyzes all of the samples will be analyzed by the average fee per cent. Need to know the development of the sample that better or worse. Use Analysis As follows: 1. The percentage Calculated by the following formula: X% = (x / K) × 100 (Bachman, the 2004th: 301) by x is the number of samples in question , of all the k 2. Average (Mean) is calculated by the following formula: X. ̅ = (Σ▒X) / n (Bachman, 2004th: 56) represented by X ̅ average score Σ▒X the sum of all the n represents the number of samples 3. SD (standard deviation) calculated from. the following formula SD = √ ((Σ▒ 〖x² □ (((Σ▒ 〖x) ²〗) / N)〗) / N) (Bachman, 2 004: 68) represented by the SD standard deviation Σ▒. x² represents the sum of the individual squares (Σ▒ 〖x) ²〗 represent the sum of the individual squared N, the total number of samples.