ผีตาโขนคือขบวนแห่ใส่หน้ากาก ซึ่งพิธ

ผีตาโขนคือขบวนแห่ใส่หน้ากาก ซึ่งพิธีฉลองจัดขึ้นในวันแรกของพิธีทำบุญ 3 วัน เรียกว่า “บุญพระเวส” ในภาษาไทย เทศกาลประจำปีนี้จะมีขึ้นในเดือน *พฤษภาคม มิถุนายน หรือ กรกฎาคม ที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชื่อด่านซ้าย ในจังหวัดเลยของภาคอีสาน
ผู้เข้าร่วมในพิธีนี้จะแต่งกายคล้ายผีและปีศาจใส่หน้ากากขนาดใหญ่ ทำจากต้นมะพร้าวแกะสลักและสวมศรีษะด้วยกระติ๊บข้าวเหนียว ในขบวนแห่จะประกอบไปด้วยการร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน
ต้นกำเนิดของพิธีผีตาโขนไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัด แต่ก็พอที่จะท้าวความไปยังตำนานทางพุทธศาสนาได้ว่า ในชาติก่อนหน้าที่จะถือกำเนิดมาเป็นพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงถือกำเนิดเป็นเจ้าชาย ผู้เป็นที่รักยิ่งของทวยราษฎร์ ทรงพระนามว่า พระเวสสันดร กล่าวกันว่าพระองค์ทรงเสด็จออกนอกพระนครไปเป็นเวลานานเสียจนเหล่าพสกนิกรของพระองค์ลืมพระองค์ไปแล้ว และยังคิดว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ไปเสียแล้วด้วยซ้ำไป แต่จู่ ๆ พระองค์ก็เสด็จกลับมา พสกนิกรของพระองค์ต่างปลื้ม ปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงพร้อมใจกันเฉลิมฉลองการเสด็จกลับมาอย่างเอิกเกริกส่งเสียงดังกึกก้อง จนกระทั่งปลุกผู้ที่ตายไปแล้วให้มาเข้าร่วมสนุกสนานรื่นเริงไปด้วย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาต่างพากันมาร่วมระลึกนึกถึงเหตุการณ์นี้ด้วยการจัดพิธีต่าง ๆ การเฉลิมฉลองและการแต่งกายใส่หน้ากากคล้ายภูตผีปีศาจ แต่เหตุผลที่แท้จริง เบื้องหลังพิธีนี้ก็อาจจะเนื่องมาจากความจริงที่ว่าชาวนาต้องการกระตุ้นฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล และเพื่อเป็นการให้ศีลให้พรแก่พืชผลอีกด้วย
ในวันที่ 2 ของงานบุญนี้ ชาวบ้านจะร้องรำทำเพลงไปตามทางสู่วัด แล้วจึงจุดบั้งไฟเพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่า ขบวนแห่ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว นอกจากนี้ผู้ที่จัดงาน ก็ยังจัดให้มีการประกวดหน้ากากที่สวยงามที่สุด การแต่งกายและผู้ที่รำสวย แล้วยังมีการแจกโล่ห์ทองเหลืองแก่ผู้ชนะในแต่ละวัยอีกด้วย แต่สิ่งที่ชื่นชอบกันมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นการแข่งขันเต้นรำ และเมื่อวันสุดท้ายของงานบุญมาถึง ชาวบ้านก็จะไปรวมกันที่วัดโพนชัย เพื่อฟังพระธรรมเทศนา 13 กัณฑ์ แสดงโดยพระภิกษุวัดนั้น
และแล้ววันเวลาแห่งการถอดหน้ากากปีศาจและเครื่องแต่งกาย เพื่อสวมใส่ในปีต่อไปก็มาถึง นับจากนี้ไปพวกเขาต้องกลับไปสู่ท้องนาอีกครั้ง โดยการทำนาเพื่อหาเลี้ยงชีพ ตามอย่างบรรพบุรุษของตนที่สืบทอดกันมา

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

ผีตาโขนคือขบวนแห่ใส่หน้ากาก ซึ่งพิธีฉลองจัดขึ้นในวันแรกของพิธีทำบุญ 3 วัน เรียกว่า “บุญพระเวส” ในภาษาไทย เทศกาลประจำปีนี้จะมีขึ้นในเดือน *พฤษภาคม มิถุนายน หรือ กรกฎาคม ที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชื่อด่านซ้าย ในจังหวัดเลยของภาคอีสาน ผู้เข้าร่วมในพิธีนี้จะแต่งกายคล้ายผีและปีศาจใส่หน้ากากขนาดใหญ่ ทำจากต้นมะพร้าวแกะสลักและสวมศรีษะด้วยกระติ๊บข้าวเหนียว ในขบวนแห่จะประกอบไปด้วยการร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน The origin of the ghost mask eye ceremony does not appear to be apparent, but it was enough to be a classic Buddhist legends that just prior to national origin as the Buddha. Therefore, he considered as a Prince. Who is the greatest love of his name and his hordes, cullaphon said he came out of his city to a long period of time so they are his subjects forgot him and still think he died all of a sudden has to go, but nor can he come back. His subjects are very different, so joy overjoyed together celebrating the second coming, oekkroek sent a loud alarm emphatically until someone dead, come join the fun to the Carnival. ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาต่างพากันมาร่วมระลึกนึกถึงเหตุการณ์นี้ด้วยการจัดพิธีต่าง ๆ การเฉลิมฉลองและการแต่งกายใส่หน้ากากคล้ายภูตผีปีศาจ แต่เหตุผลที่แท้จริง เบื้องหลังพิธีนี้ก็อาจจะเนื่องมาจากความจริงที่ว่าชาวนาต้องการกระตุ้นฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล และเพื่อเป็นการให้ศีลให้พรแก่พืชผลอีกด้วย ในวันที่ 2 ของงานบุญนี้ ชาวบ้านจะร้องรำทำเพลงไปตามทางสู่วัด แล้วจึงจุดบั้งไฟเพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่า ขบวนแห่ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว นอกจากนี้ผู้ที่จัดงาน ก็ยังจัดให้มีการประกวดหน้ากากที่สวยงามที่สุด การแต่งกายและผู้ที่รำสวย แล้วยังมีการแจกโล่ห์ทองเหลืองแก่ผู้ชนะในแต่ละวัยอีกด้วย แต่สิ่งที่ชื่นชอบกันมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นการแข่งขันเต้นรำ และเมื่อวันสุดท้ายของงานบุญมาถึง ชาวบ้านก็จะไปรวมกันที่วัดโพนชัย เพื่อฟังพระธรรมเทศนา 13 กัณฑ์ แสดงโดยพระภิกษุวัดนั้น และแล้ววันเวลาแห่งการถอดหน้ากากปีศาจและเครื่องแต่งกาย เพื่อสวมใส่ในปีต่อไปก็มาถึง นับจากนี้ไปพวกเขาต้องกลับไปสู่ท้องนาอีกครั้ง โดยการทำนาเพื่อหาเลี้ยงชีพ ตามอย่างบรรพบุรุษของตนที่สืบทอดกันมา

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Phi Ta Khon is a procession masks. The ceremony was held on the first day of the three-day ceremony called the West ?? I ?? In Thailand this annual festival will be held in the month of May, June or July, the small town of Dan Sai in Loei in the Northeast
, the participants in this ceremony to dress like a ghost and phantom large. Made of coconut trees and a carved head with a wicker rice. The procession is accompanied by a dance merrily
origins of the Phi Ta Khon is not is unclear. However, it can be traced back to a Buddhist legend that. Prior to the advent of the Buddha. Buddha was born a prince Darling even thought the name was Vessantara said he went outside to go on for a long time so that his subjects to forget him. And that He died and was gone with it, but suddenly he came back. His subjects were overjoyed Ecstasy is extremely It was to celebrate the return as Pomp blaring loudly. Until then wake the dead to join the festive fun
ever since. The faithful came to commemorate the event with ceremonies, celebration and dress, mask-like ghosts. But the real reason Behind this event, it may be due to the fact that farmers need to stimulate rain fall season. And to bless the crops as well
on Day 2 of the ceremony, people will sing and dance their way to the temple. Then the rocket to send a signal to me. The parade was completed. Also, the organizers The contest was also organized with the best masks. The costumes and dancers. Then there are the brass plaques to the winners in each age group as well. But what is most pleasing. It will be seen dancing competition On the last day of the ceremony arrived. People will gather at Wat Phon Chai. To listen to sermons by monks in the temple, 13 monks
and then the days of ghostly masks and costumes. To wear the following year arrived. Henceforth, they must return to the field again. By farming for a living. According to its predecessor, the legendary.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Ghost dance is the procession of the mask. The ceremony is held on the first day of the year 3 days, called "merit the western" in this annual festival will be held in * may, June Or July at a small town of one named Dan left.The participants in this ceremony dress up like ghosts and Demons masks larger. Made of coconut carving and wear head with straightforwardly glutinous rice. In the procession and contains the sing joyfully
.The origin of the ghost dance does not appear as yet. But enough to some context to the legend in Buddhism. In the former the duty is born as a Buddha. The Buddha was born a prince.His name was encysted said he went out of the city for a long time that the people of he forgot him. And also thought he died away anymore, but all of a suddenThe people of his various love delight. To celebrate the return as joyous loud crying. Until the wake the dead to attend make merry with
.Since then. Those who are of faith and recall this incident with ceremonies, to celebrate and dress wearing a mask similar to the ghosts. But the real reason.And to bless to crops as well
.On the day of this festival, the 2 The villagers will sing along the way to the temple. Then the rocket to signal to know. The parade was finished. The event. It also provides the most beautiful mask.It is also distributed to the winners in each age brass shield. But the most favorite thing ก็เห็นจะเป็น dance competition. When the last day of the festival and come. People go together at phon Chai to listen to a sermon 13.Shown by the monks that temple
.And the days of take off the demon mask and outfit. To wear the following year arrived. From now on, they must return to the field again. The farmers to make a living. According to their ancestral heritage.