ระบบเศรษฐกิจของโปรตุเกสเป็นระบบเศรษ

ระบบเศรษฐกิจของโปรตุเกสเป็นระบบเศรษฐกิจการตลาดเสรี ในฐานะเป็นประเทศสมาชิกประชาคมยุโรป โปรตุเกสจึงใช้กฎระเบียบต่างๆ ของสหภาพยุโรป เมื่อปี 2535 (ค.ศ. 1992) โปรตุเกสได้เข้าร่วมในกลไกการแลกเปลี่ยนเงินตรา (Exchange Rate Mechanism-ERM) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับระบบเงินและเศรษฐกิจเพื่อเข้าสู่การเป็นสหภาพการเงินยุโรป โปรตุเกสสามารถรักษาค่าเงินเอสคูโดให้มีเสถียรภาพมาโดยตลอด รวมทั้งสามารถควบคุมการขาดดุลงบประมาณและ หนี้สาธารณะให้เข้าเกณฑ์ในอัตราที่สหภาพยุโรปกำหนด ยังผลให้โปรตุเกสสามารถใช้เงินสกุลยูโรตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2544 (ค.ศ. 2001) ร่วมกับอีก 11 ชาติ โดยกำหนดอัตราการแลกเปลี่ยน ของหน่วยเงินเอสคูโดของโปรตุเกสให้อยู่ในระดับคงที่ ที่ 200.482 เอสคูโด ต่อ 1 ยูโร และกำหนดให้ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) ควบคุมนโยบายอัตราการแลกเปลี่ยนเงินของประเทศที่ใช้เงินยูโร
หลังจากเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในปี 2529 (ค.ศ. 1986) โปรตุเกสได้เร่งรัดการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศสมาชิกอื่น ที่สำคัญคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในหลายโครงการ อาทิ เพิ่มทางด่วน ปรับปรุงระบบทางรถไฟ รถใต้ดิน สร้างเขื่อน ระบบบำบัดน้ำเสีย และพัฒนาแหล่งชุมชนยากจน เป็นต้น การพัฒนาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปในกรอบต่างๆ อาทิ Cohesion Fund ซึ่งโปรตุเกสได้รับมาแล้วกว่า 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในกรอบ European Regional Development Fund ซึ่งในปี 2542 (ค.ศ. 1999) โปรตุเกสได้รับ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบันโปรตุเกสได้พัฒนาตนเองจากประเทศยากจนที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) มาเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับที่ 4 ของสหภาพยุโรป ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจของโปรตุเกสขยายตัวอย่าง รวดเร็วและเทียบเท่ากับนานาประเทศในภูมิภาคยุโรปได้สำเร็จนั้น เป็นผลจากการที่รัฐบาลดำเนินนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจเร่งรัดและส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยว รวมถึงอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดต่ำลง จนเทียบเท่ากับประเทศสมาชิกอื่นๆของสหภาพเศรษฐกิจและการเงิน (EMU) คือ ลดจากระดับเฉลี่ยร้อยละ 10-12 มาเป็นเฉลี่ยร้อยละ 4-5 ในปี 2541 (ค.ศ. 1998) ปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงกระตุ้นที่ส่งผลดีต่อการลงทุนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2541 (ค.ศ. 1998) ซึ่งมีการจัดงาน Expo’98 ที่กรุงลิสบอน ส่งผลให้กิจกรรมการก่อสร้างตลอดทั้งปี 2541 (ค.ศ. 1998) ขยายตัวถึงร้อยละ 12 อาทิ การเปิดใช้สะพาน Vasco da Gama ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำทากุสแห่งที่สอง
เนื่องจากโปรตุเกสไม่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ โดยเฉพาะสินแร่หรือพลังงาน เศรษฐกิจของโปรตุเกสจึงขึ้นกับภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการท่องเที่ยวซึ่งทำรายได้ประมาณ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จากนักท่องเที่ยวซึ่งเข้าไปเที่ยวโปรตุเกสประมาณปีละ 12 ล้านคน แหล่งรายได้สำคัญอื่นๆ ของโปรตุเกสคือ อุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม ภาคเกษตร ภาษีเงินได้ ภาษีอากร (โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีน้ำมันซึ่งจัดเก็บสูงถึงร้อยละ 34) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ซึ่งจัดเก็บร้อยละ 5-17) ค่าเช่าฐานทัพของสหรัฐฯ ที่เกาะ Azores และจากรายได้จากชาวโปรตุเกสที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศปีละประมาณ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2542 (ค.ศ. 1999) โปรตุเกสมีรายรับจากการนี้ถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งร้อยละ 41 มาจากฝรั่งเศส
สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ในระยะหลัง อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโปรตุเกสเริ่มชะลอตัว และอยู่ที่ร้อยละ -1.2 ในปี 2546 (ค.ศ.2003) ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของสหภาพยุโรป ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 0.7 เหตุผลสำคัญคือ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทั่วโลก ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจของโปรตุเกสชะลอตัวลง การส่งออกมีมูลค่าลดลง คือลดลงจาก 23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2542 (ค.ศ.1999) เหลือ 21.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2543 (ค.ศ.2000) ส่วนการนำเข้ามีมูลค่าเท่าเดิม คือ 36.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากอำนาจการซื้อของประชาชนลดลง จึงทำให้การบริโภคลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2543 (ค.ศ.2000)
GDP ของโปรตุเกสในปี 2543 (ค.ศ.2000) ลดลงจากปีก่อนมาอยู่ที่ 99.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการอ่อนค่าลงของเงินยูโร รายได้เฉลี่ยต่อหัว (per capita GDP) ลดลงเหลือ 9,964 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุผลเดียวกัน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 3.3 การว่างงานร้อยละ 3.8 การค้าขาดดุลเฉลี่ยประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำหรับปี 2543 (ค.ศ.2000) การขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 14.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการส่งออกลดลง ทองคำและเงินสำรองการแลกเปลี่ยนลดลงเหลือ 13.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หนี้สาธารณะจากต่างประเทศมี 13.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการขาดดุลทางการเงินร้อยละ 1.5 ของ GDP ในปี 2543 (ค.ศ. 2000) ต่างชาติเข้าไปลงทุนในโปรตุเกสรวมประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่โปรตุเกสไปลงทุนในต่างประเทศ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของโปรตุเกสอย่างเร่งรัดและการเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจของโปรตุเกสเข้าสู่สภาวะ overheat และมีการใช้จ่ายสูง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ หนี้สินในครัวเรือนได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากร้อยละ 20 ของรายได้ในปี 2533 (ค.ศ.1990) เป็นร้อยละ 92 ในปี 2543 (ค.ศ.2000) เงินเฟ้อของโปรตุเกสมีอัตราสูงถึงร้อยละ 2.8 สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของสหภาพยุโรปซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.3 การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอสังหาริมทรัพย์มีราคาการเพิ่มขึ้น แม้ว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถใช้มาตรการทางการเงินมาแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากติดขัดที่ระเบียบของสหภาพการเงินยุโรป นอกจากนี้ โปรตุเกสไม่สามารถควบคุมรายจ่ายของรัฐได้ ดังจะเห็นได้ว่า งบประมาณ 2544 (ค.ศ.2001) ยังคงมีโครงการที่เพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐอย่างต่อเนื่องต่อไป
อุตสาหกรรม
โปรตุเกสเป็นประเทศขนาดย่อมและไม่มีทรัพยากรมากนัก เดิมเป็นประเทศเกษตรกรรมและต้องนำเข้าพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันจากต่างประเทศทั้งหมด การพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดคือ การเปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจที่มีรากฐานด้านการเกษตรและการประมง มาเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาคการบริการ ส่งผลให้เศรษฐกิจของโปรตุเกสเติบโตอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอในอัตราร้อยละ 3.5 ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยของสหภาพยุโรป
โปรตุเกสไม่มีอุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมหลักของโปรตุเกส ได้แก่ อาหารและเครื

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Portugal's economy is a free market economic system. European Community member countries as Portugal take the European Union's regulations. When the year 2535 (1992), Portugal has participated in the exchange mechanism (Exchange Rate Mechanism-ERM), which is the starting point of the economic system, and to the European Monetary Union, as. Portugal can maintain the value of money s CU domain stable throughout, as well as to control the budget deficit and public debt, qualified in the European Union set the rate to Portugal can take money from January 1 euro 2544 (2001), together with the other 11 Nations by denomination exchange rate s CU in Portugal, the domain of the domain for 1 euro 200.482 s Koo, and given the European Central Bank (European Central Bank) exchange rate of mandates of the euro countries.After a year's membership to the European Union (r. 1986) Portugal 2529 has accelerated the development of the country, especially in the economic and social development so that other Member countries with equal importance is the development of infrastructure in many projects such as adding a rail system improvements Highway. Underground building waste water treatment systems and poor community development, etc. Such a development has been supported by the European Union Cohesion Fund framework such that in Portugal received over 20 billion us dollars, and the European Regional Development Fund, which is in the frame for the year 2542 (1999), Portugal received 3.1 billion u.s.ปัจจุบันโปรตุเกสได้พัฒนาตนเองจากประเทศยากจนที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) มาเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับที่ 4 ของสหภาพยุโรป ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจของโปรตุเกสขยายตัวอย่าง รวดเร็วและเทียบเท่ากับนานาประเทศในภูมิภาคยุโรปได้สำเร็จนั้น เป็นผลจากการที่รัฐบาลดำเนินนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจเร่งรัดและส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยว รวมถึงอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดต่ำลง จนเทียบเท่ากับประเทศสมาชิกอื่นๆของสหภาพเศรษฐกิจและการเงิน (EMU) คือ ลดจากระดับเฉลี่ยร้อยละ 10-12 มาเป็นเฉลี่ยร้อยละ 4-5 ในปี 2541 (ค.ศ. 1998) ปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงกระตุ้นที่ส่งผลดีต่อการลงทุนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2541 (ค.ศ. 1998) ซึ่งมีการจัดงาน Expo’98 ที่กรุงลิสบอน ส่งผลให้กิจกรรมการก่อสร้างตลอดทั้งปี 2541 (ค.ศ. 1998) ขยายตัวถึงร้อยละ 12 อาทิ การเปิดใช้สะพาน Vasco da Gama ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำทากุสแห่งที่สอง เนื่องจากโปรตุเกสไม่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ โดยเฉพาะสินแร่หรือพลังงาน เศรษฐกิจของโปรตุเกสจึงขึ้นกับภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการท่องเที่ยวซึ่งทำรายได้ประมาณ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จากนักท่องเที่ยวซึ่งเข้าไปเที่ยวโปรตุเกสประมาณปีละ 12 ล้านคน แหล่งรายได้สำคัญอื่นๆ ของโปรตุเกสคือ อุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม ภาคเกษตร ภาษีเงินได้ ภาษีอากร (โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีน้ำมันซึ่งจัดเก็บสูงถึงร้อยละ 34) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ซึ่งจัดเก็บร้อยละ 5-17) ค่าเช่าฐานทัพของสหรัฐฯ ที่เกาะ Azores และจากรายได้จากชาวโปรตุเกสที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศปีละประมาณ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2542 (ค.ศ. 1999) โปรตุเกสมีรายรับจากการนี้ถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งร้อยละ 41 มาจากฝรั่งเศสIn the current economic conditions.In the rate of economic growth is slowing, and Portugal's starting at 1.2 per cent-in the year 2546 (2003) is lower than the average rate for the European Union, which is the reason it is important that the 0.7 percent higher oil prices around the world make a living. While Portugal's economy is slowing down. The export value was reduced from 23.6 billion us dollars in the year 2542 (1999), the rest of the United States in the year of 21.9 billion dollars to 2543 (2000) Best imports worth only us $ 36.2 billion in the original is because people's purchasing power decreases, intake decreases continuously throughout the year 2543 (2000)GDP ของโปรตุเกสในปี 2543 (ค.ศ.2000) ลดลงจากปีก่อนมาอยู่ที่ 99.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการอ่อนค่าลงของเงินยูโร รายได้เฉลี่ยต่อหัว (per capita GDP) ลดลงเหลือ 9,964 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุผลเดียวกัน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 3.3 การว่างงานร้อยละ 3.8 การค้าขาดดุลเฉลี่ยประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำหรับปี 2543 (ค.ศ.2000) การขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 14.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการส่งออกลดลง ทองคำและเงินสำรองการแลกเปลี่ยนลดลงเหลือ 13.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หนี้สาธารณะจากต่างประเทศมี 13.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการขาดดุลทางการเงินร้อยละ 1.5 ของ GDP ในปี 2543 (ค.ศ. 2000) ต่างชาติเข้าไปลงทุนในโปรตุเกสรวมประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่โปรตุเกสไปลงทุนในต่างประเทศ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของโปรตุเกสอย่างเร่งรัดและการเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจของโปรตุเกสเข้าสู่สภาวะ overheat และมีการใช้จ่ายสูง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ หนี้สินในครัวเรือนได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากร้อยละ 20 ของรายได้ในปี 2533 (ค.ศ.1990) เป็นร้อยละ 92 ในปี 2543 (ค.ศ.2000) เงินเฟ้อของโปรตุเกสมีอัตราสูงถึงร้อยละ 2.8 สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของสหภาพยุโรปซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.3 การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอสังหาริมทรัพย์มีราคาการเพิ่มขึ้น แม้ว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถใช้มาตรการทางการเงินมาแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากติดขัดที่ระเบียบของสหภาพการเงินยุโรป นอกจากนี้ โปรตุเกสไม่สามารถควบคุมรายจ่ายของรัฐได้ ดังจะเห็นได้ว่า งบประมาณ 2544 (ค.ศ.2001) ยังคงมีโครงการที่เพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐอย่างต่อเนื่องต่อไปThe industry. Portugal is a small country and does not have much resources. The former agricultural and energy must be imported. Especially oil from foreign countries, all The most important economic development is changing from an economy that is the Foundation of agriculture and fisheries as are the industrial economy, production and service sectors. As a result, Portugal's economy grew rapidly and evenly in a 3.5 per cent rate, which is higher than the average level of the European Union. Portugal does not have a heavy industry. Portugal's main industries include a restaurant and a traditional.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Portugal's economy is a free market economy. As a member country of the European Community. Portugal has a regulation EU since 2535 (1992), Portugal had joined the mechanism Exchange (Exchange Rate Mechanism-ERM), which is the start of the financial system and economy to enter the European Monetary Union. Portuguese Escudo the money to maintain a stable throughout. Including the ability to control budget deficits and. Public debt at a rate that meets EU requirements. As a result, Portugal is adopting the euro on January 1, 2544 (2001), together with 11 other nations by the exchange rate. Of the Escudo of Portugal to the level fixed at 200.482 Escudo per 1 euro and the ECB (European Central Bank) policy control currency exchange rates of countries that use the euro
after the. EU members in 2529 (1986), Portugal has accelerated the development of the country. Especially in the economy and society. To keep pace with the other Member States is to develop infrastructure in several projects, such as increased highway improvements, rail system, subway dam sewage system. And development of poor communities on the development has been supported by the European Union in the framework such as the Cohesion Fund, which Portugal has been more than 20 billion US dollars and the European Regional Development Fund, which in the year 2542 (c. AD. . 1999), Portugal was 3.1 billion US dollars
currently Portugal's development of the poorest countries in the European Union (EU) as a country where the rate of economic growth is high as No. 4 of the European Union regard the economy. Portugal grow And comparable with other countries in the region have achieved it. As a result of the government policy to expedite privatization and investment promotion and tourism. The interest rates are likely lower. The comparable to other member countries of the Economic and Monetary Union (EMU) is reduced from 10-12 percent to 4-5 percent in the year 2541 (1998), these factors are impulse. impact on investment and economic growth. Especially in the year 2541 (1998), which organized the Expo'98 in Lisbon. As a result, construction activities throughout the year 2541 (1998), an increase of 12 per cent, including the launch of Vasco da Gama Bridge, a bridge over the baton of Gustavo II
because Portugal is not important natural resource. Especially mineral or energy Portugal's economy will depend on the service sector. Especially from tourism, which had revenues of about 4.8 billion US dollars per year. From which tourists visiting Portugal for about 12 million people per year, the other major source of income. Portugal is Small and medium-agricultural income taxation (particularly fuel, which store up to 34 per cent) VAT. (Which store 5-17 per cent) rent of US military bases on the islands of the Azores and the income of Portuguese working abroad each year about 3.1 billion US dollars by the year 2542 (1999). Portugal had revenues of 3.3 billion US dollars, up 41 percent from France,
the current economic conditions
in the latter. Portugal's economic growth rate began to slow. And -1.2 per cent in the year 2546 (2003) lower than the EU average. This is the major reason is 0.7 percent. Higher oil prices worldwide. Making higher cost of living While Portugal's economic slowdown. The export value decline is a decline of 23.6 billion US dollars in the year 2542 (1999) to 21.9 billion US dollars in 2543 (AD 2000), while imports were worth the same. 36.2 billion US dollars Because of the reduced purchasing power. As a result, consumption fell steadily throughout the year 2543 (the year the 2000th)
GDP. Of Portugal in 2543 (AD 2000), down from a year earlier to 99.8 billion US dollars. Due to economic conditions and the weakening of the euro. Average income per capita (per capita GDP) fell to US $ 9964 for the same reason. The economic growth was 3.8 percent, 3.3 percent unemployment, the trade deficit of about 12 billion US dollars per year for the year 2543 (AD 2000), the deficit rose to 14.3 billion US dollars. Since exports decline Gold and exchange reserves fell to 13.9 billion US dollars. Foreign public debt is 13.6 billion US dollars. The financial deficit of 1.5 percent of GDP in 2543 (AD 2000), foreign investment in Portugal, totaling about 30 billion US dollars. While foreign investment in Portugal to 12 billion US dollars
, economists said. Portugal's accelerated economic development and the rapid growth continues. Portugal's economy into a state overheat and higher spending. What is noticeable Household debt has risen steadily from 20 percent of revenue in 2533 (1990) was 92 percent in 2543 (2000), Portugal's inflation rate reached 2.8 percent higher. rates than the EU average, which stood at 2.3 percent current account deficit increased significantly. And real estate price increases. The Portuguese government is aware of such problems. But you can not use monetary measures to resolve the issue. Due to jam the rules of the EMU addition, Portugal can not control the expenditure of state. It can be seen that the budget 2544 (2001), there are still projects that increase the cost of government continues to
industry
Portugal is a small country and does not have many resources. Originally an agricultural country and has to import energy. In particular, all foreign oil. Economic development is the most important. The transition from an economy based on agriculture and fishing. A country with an economy the manufacturing sector and the service sector. As a result, Portugal's economy is growing rapidly and consistently at a rate of 3.5 percent, which is higher than the EU average,
Portugal has no heavy industry. Portugal's main industries include food and tools.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The economic system of Portugal's economic system marketing free As a member of the European community. Portugal, the various rules of the European Union. When 2535 years (AD1992) Portugal can participate in the mechanism of currency exchange (Exchange Rate Mechanism-ERM). The beginnings of the finance and economics to adjust the system into a European Monetary UnionIt can control the budget deficit. Public debt to qualified rate in the European Union The Portuguese also can use the euro currency since the day 1 January 2544 (C.ศ. 2001) ร่วมกับ อีก 11 ชาติ property กำหนด อัตรา การ แลกเปลี่ยน EOS ของ หน่วยเงิน เอส คู factor ของ โปรตุเกส ให้ อยู่ ใน ระดับ คงที่ EOS ที่ 200 in can482 Escudo per 1 euro and the European Central Bank (European Central Bank) control the exchange rate policy of countries that use the euro money
after entering a member of the European Union in 2529 (AD1986) Portugal accelerated development. Especially in the economic and society. In order to expand to other member states. The important thing is the development of infrastructure in many projects, such as highway, railway system more A subway carWastewater treatment system and developing community is poor, etc. such development has been the support of the European Union in the frame such as Cohesion. Fund which Portugal has been more than 20 billion US dollars, and in the framework European Regional Development Fund.2542 (C.Professor 1999) Portugal has been 3.1 billion
.At present, the Portuguese have developed their own from poor countries, the European Union (EU) is a country with high economic growth ranked 4 of the European Union. However, the economy of the Portuguese expansion.