บทคัดย่อการศึกษาเปรียบเทียบความเข้ม

บทคัดย่อ

การศึกษาเปรียบเทียบความเข้มข้นระหว่างสีผสมอาหารจากใบบัวบกกับสีผสมอาหารสังเคราะห์มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกและสีผสมอาหารสังเคราะห์สีที่ได้จากใบบัวบกมีความเข้มน้อยกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์แต่สีที่ได้จากใบบัวบกจะมีสีที่น่ารับประทานมากว่าและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องจากในปัจจุบันมนุษย์ได้หันมาใช้สีผสมอาหารสังเคราะห์กันมากขึ้น ซึ่งสีผสมอาหารสังเคราะห์อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ได้ จึงได้มีการคิดค้นสีผสมอาหารจากใบบัวบกขึ้นมาเพื่อใช้ผสมอาหารแทนการใช้สีผสมอาหารสังเคราะห์ เพราะการใช้สีผสมอาหารจากใบบัวบกนั้นจะไม่ทำอันตรายต่อร่างกายมนุษย์เหมือนกับสีผสมอาหารสังเคราะห์

ผู้พัฒนาจึงได้คิดค้นสีผสมอาหารจากใบบัวบกขึ้นมา เพราะใบบัวบกเมื่อนำมาสกัดจะมีสีเข้มจึงทำให้สีติดกับอาหารได้ง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์และใบบัวบกยังมีประโยชน์มากอีกด้วย เพราะเหตุนี้พวกเราจึงคิดค้นสีผสมอาหารจากใบบัวบกขึ้นมา

วัตถุประสงค์

1. เพื่อเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกและสีผสมอาหารสังเคราะห์

สมติฐาน

1.สีผสมอาหารสังเคราะห์สามารถติดอาหารได้เข้มกว่าสีผสมอาหารจากใบบัวบก

2.สีผสมอาหารจากใบบัวบกสามารถติดอาหารได้เข้มกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์

ตัวแปร

1.เพื่อเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกและสีผสมอาหารสังเคราะห์

ตัวแปรต้น –สีผสมอาหารสังเคราะห์,สีผสมอาหารจากใบบัวบก

ตัวแปรตาม –ความเข้มของสีผสมอาหารสังเคราะห์และสีผสมอาหารจากใบบัวบก

ตัวแปรควบคุม – น้ำ,แป้ง



นิยามเชิงปฏิบัติการ

การเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกกับสีผสมอาหารสังเคราะห์

ประโยชน์ที่ได้รับ

1.ได้รู้เกี่ยวกับความเข้มข้นของสีผสมอาหารจากใบบัวบกกับสีผสมอาหารสังเคราะห์

2.ได้รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม

3.ได้ฝึกการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

อุปกรณ์และสารเคมีที่ใช้ในการศึกษา

1.ใบบัวบก(หั่นละเอียด)

2.สีผสมอาหารสังเคราะห์(สีเขียว)

3.น้ำสะอาด

4.แป้ง(สำหรับทำขนม)

5.เขียงมีด

6.ถ้วย 2 ใบ

7.ช้อนโต๊ะ และ ช้อนชา

8.เครื่องปั่น



วิธีการศึกษา

1.นำสีผสมอาหารสังเคราะห์(สีเขียว)มาละลายในน้ำทีอยู่ในแก้วที่ใส่น้ำเตรียมอยู่แล้ว

2.นำใบบัวบกหั่นละเอียดใส่ลงไปในเครื่องปั่นแล้วปั่นให้เป็นน้ำ

3.กรองน้ำใบบัวบก

4.นวดแป้งพอแป้งได้ที่แล้วให้แบ่งแป้งเป็น2ส่วนเพื่อเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารทั้งสองชนิดได้ชัดเจน

5.นำสีผสมอาหารสังเคราะห์ที่ละลายน้ำแล้วหยอดลงไปในแป้ง1ส่วน ส่วนอีก1ส่วนให้หยอดสีผสมอาหารจากใบบัวบก

ลงไป

6.เปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกและสีผสมอาหารสังเคราะห์

ผลการทดลอง



ชนิดของสีผสมอาหาร ความเข้มของสีผสมอาหาร
จากใบบัวบก มีความเข้มน้อยกว่า
สังเคราะห์ มีความเข้มมากกว่า
สรุปผลการทดลอง

สีที่ได้จากใบบัวบกมีความเข้มน้อยกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์แต่สีที่ได้จากใบบัวบกจะมีสีที่น่ารับประทานมากว่าและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค

อภิปรายการศึกษา

ผลที่ได้จากการทดลองเรื่องการเปรียบเทียบความเข้มข้นระหว่างสีผสมอาหารจากใบบัวบกกับสีผสมอาหารสังเคราะห์สรุปได้ว่าสีที่ได้จากใบบัวบกมีความเข้มน้อยกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์แต่สีที่ได้จากใบบัวบกจะมีสีที่น่ารับประทานมากว่าและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค

ข้อเสนอแนะ

1.ควรใช้สีผสมอาหารจากใบบัวบกมากกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์

2.สีที่ได้จากใบบัวบกจะมีสีที่น่ารับประทานมากกว่าและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค

3.สีผสมอาหารจากใบบัวบกต้องใช้แป้งในปริมาณที่มากกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

AbstractA comparative study of the concentration between the food colors from a synthetic food colors with urband aims as follows: 1. to compare the intensity of the colors from the color mixer and synthetic food colors from a lesser intensity urband with food colors, synthetic, but the colors from a color blend is urband eat that much and do not harm the consumer body.Origin and importance.เนื่องจากในปัจจุบันมนุษย์ได้หันมาใช้สีผสมอาหารสังเคราะห์กันมากขึ้น ซึ่งสีผสมอาหารสังเคราะห์อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ได้ จึงได้มีการคิดค้นสีผสมอาหารจากใบบัวบกขึ้นมาเพื่อใช้ผสมอาหารแทนการใช้สีผสมอาหารสังเคราะห์ เพราะการใช้สีผสมอาหารจากใบบัวบกนั้นจะไม่ทำอันตรายต่อร่างกายมนุษย์เหมือนกับสีผสมอาหารสังเคราะห์ผู้พัฒนาจึงได้คิดค้นสีผสมอาหารจากใบบัวบกขึ้นมา เพราะใบบัวบกเมื่อนำมาสกัดจะมีสีเข้มจึงทำให้สีติดกับอาหารได้ง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์และใบบัวบกยังมีประโยชน์มากอีกด้วย เพราะเหตุนี้พวกเราจึงคิดค้นสีผสมอาหารจากใบบัวบกขึ้นมาวัตถุประสงค์1. เพื่อเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกและสีผสมอาหารสังเคราะห์สมติฐาน1.สีผสมอาหารสังเคราะห์สามารถติดอาหารได้เข้มกว่าสีผสมอาหารจากใบบัวบก2.สีผสมอาหารจากใบบัวบกสามารถติดอาหารได้เข้มกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์ตัวแปร1.เพื่อเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกและสีผสมอาหารสังเคราะห์ตัวแปรต้น –สีผสมอาหารสังเคราะห์,สีผสมอาหารจากใบบัวบกตัวแปรตาม –ความเข้มของสีผสมอาหารสังเคราะห์และสีผสมอาหารจากใบบัวบกตัวแปรควบคุม – น้ำ,แป้ง นิยามเชิงปฏิบัติการการเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกกับสีผสมอาหารสังเคราะห์ประโยชน์ที่ได้รับ1.ได้รู้เกี่ยวกับความเข้มข้นของสีผสมอาหารจากใบบัวบกกับสีผสมอาหารสังเคราะห์2.ได้รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม3.ได้ฝึกการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อุปกรณ์และสารเคมีที่ใช้ในการศึกษา1.ใบบัวบก(หั่นละเอียด)2.สีผสมอาหารสังเคราะห์(สีเขียว)3.น้ำสะอาด4.แป้ง(สำหรับทำขนม)5.เขียงมีด6.ถ้วย 2 ใบ7.ช้อนโต๊ะ และ ช้อนชา8.เครื่องปั่น วิธีการศึกษา1.นำสีผสมอาหารสังเคราะห์(สีเขียว)มาละลายในน้ำทีอยู่ในแก้วที่ใส่น้ำเตรียมอยู่แล้ว2.นำใบบัวบกหั่นละเอียดใส่ลงไปในเครื่องปั่นแล้วปั่นให้เป็นน้ำ3.กรองน้ำใบบัวบก4.นวดแป้งพอแป้งได้ที่แล้วให้แบ่งแป้งเป็น2ส่วนเพื่อเปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารทั้งสองชนิดได้ชัดเจน5.นำสีผสมอาหารสังเคราะห์ที่ละลายน้ำแล้วหยอดลงไปในแป้ง1ส่วน ส่วนอีก1ส่วนให้หยอดสีผสมอาหารจากใบบัวบก
ลงไป

6.เปรียบเทียบความเข้มของสีผสมอาหารจากใบบัวบกและสีผสมอาหารสังเคราะห์

ผลการทดลอง



ชนิดของสีผสมอาหาร ความเข้มของสีผสมอาหาร
จากใบบัวบก มีความเข้มน้อยกว่า
สังเคราะห์ มีความเข้มมากกว่า
สรุปผลการทดลอง

สีที่ได้จากใบบัวบกมีความเข้มน้อยกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์แต่สีที่ได้จากใบบัวบกจะมีสีที่น่ารับประทานมากว่าและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค

อภิปรายการศึกษา

ผลที่ได้จากการทดลองเรื่องการเปรียบเทียบความเข้มข้นระหว่างสีผสมอาหารจากใบบัวบกกับสีผสมอาหารสังเคราะห์สรุปได้ว่าสีที่ได้จากใบบัวบกมีความเข้มน้อยกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์แต่สีที่ได้จากใบบัวบกจะมีสีที่น่ารับประทานมากว่าและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค

ข้อเสนอแนะ

1.ควรใช้สีผสมอาหารจากใบบัวบกมากกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์

2.สีที่ได้จากใบบัวบกจะมีสีที่น่ารับประทานมากกว่าและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค

3.สีผสมอาหารจากใบบัวบกต้องใช้แป้งในปริมาณที่มากกว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Abstract

comparative study between color from the Asiatic with food coloring synthesis had the following objectives 1.