Walter e lick (Walter Elias Disney) Disney Krohn (December 5, 1901 – December 15 2444 2509-1966) is an author, cartoonist and the most successful one of the world's people. He is a co-founder of the company, Walt Disney's animated film, color, and created the first. He started doing cartoons, Mickey Mouse (Mickey Mouse) and Donald Duck (Donald Duck), and long leather, such as snow white and the seven dwarfs (Snow White and the Seven Dwarfs), Fantasia (Fantasia), Pinocchio (Pinocchio) and Bambi (Bambi) after World War II cartoon cost.In creating the Disney film so much about the adventure that is the truth, such as "the living desert (The Living Desert), he has also built an amusement park, two hotels, and was nominated for the Oscar Awards and received 59 Academy Award and 26 Awards, regarded as a person who has been nominated for an Oscar and won most of the world. พระราชบัญญัติที่ไม่ธรรมดาที่สุดฉบับหนึ่งของอเมริกา คือ กฎหมายมหาชน 99-191(08/23/86) มีมติร่วมกันให้กำหนดเอาวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1968 เป็นวัน 'ที่ระลึกวอลท์ดิสนีย์โดยเลือกเอาวันที่ตรงกับวอล์ท ดิสนีย์เกิดเมื่อ 85 ปีก่อน และเป็นเดือนที่ตรงกับวาระครบรอบ 20 ปีที่เขาถึงแก่กรรมมาแล้วด้วย สิ่งที่เป็นจุดเด่นในชีวิตและงานของชายที่ทำให้วุฒิสภากับสภาผู้แทนฯราษฎรสหรัฐอเมริ?ธาต้องใช้เวลาประชุมร่วมกันเพื่อลงมติออกกฏหมายให้กับเขานั้น เนื่องมาแต่ความสำคัญอย่างใดหรือชีวิตและงานของดิสนีย์นั่นเองคือคำตอบ ชีวิตของดิสนีย์นั้นถ้าจะว่ากันจริงๆแล้วตั้งแต่เกิดมาก็เป็นชีวิตที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ดิสนีย์เกิดในครอบครัวชาวนาจนๆ ที่ไม่มีอันจะกินจนถึงขนาดที่ช่วงหนึ่งดิสนีย์ไม่เคยได้รับของเล่นเป็นของขวัญจากพ่อเลย เพราะถือเป็นของฟุ่มเฟือยและครอบครัวไม่มีฐานะพอที่จะเสียเงินในส่วนนี้ ดิสนีย์เคยทำงานหลายสิ่งหลายอย่างมาตลอดชีวิตของเขา เคยเป็นเด็กล้างรถขนโลงศพ เคยทำงานเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ เคยทำงานคุมเครื่องล้างขวด ปิดฝาขวดและบดแอปเปิลเพื่อทำน้ำวุ้น เคยสมัครเข้าทำงานเป็นอาสากาชาดในช่วงสงคราม และเริ่มงานเขียนภาพที่เป็นชิ้นเป็นอันจากการทำงานเป็นคนร่างภาพในบริษัทโฆษณา หลายคนอาจมองว่าชีวิตของดิสนีย์นั้นเป็นชีวิตที่สวยหรูแต่จริงๆแล้วเขาประสบกับความล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง บ่อยครั้งที่เขาเป็นหนี้ แม้เมื่อเขาประสบความสำเร็จแล้วเขาก็ยังมีหนี้ที่ เพิ่มขึ้น ช่วงหนึ่งในชีวิตของเขานั้นดิสนีย์เคยตกต่ำจนถึงขนาดที่ไม่มีเงินแม้แต่จะเอาไปจ่ายค่าซ่อมรองเท้าจึงไม่ได้ไปเอารองเท้าคืน และติดหนี้ร้านขายอาหารจนเจ้าของไม่สามารถให้เชื่อได้อีกจึงต้องประทังชีวิตด้วยถั่วกระป๋องเก่าๆเย็นชืดและขนมปังเก่าแห้งแข็งที่ค้นเจอในสตูดิโอ แต่ดิสนีย์ยังคงไม่ท้อถอยและพยายามทำให้ชีวิตดีขึ้นโดยใช้งานที่เขารักคืองานเขียนรู?ธทำให้เขาประสบความสำเร็จเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้จนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในเคล็ดลับแห่งความสำเร็จของดิสนีย์คือ ดิสนีย์เชื่อถือความชำนาญมากกว่าความรู้ เพราะสิ่งที่เขาได้จากการเรียนรู้ในโรงเรียนนั้นจบลงที่ปีที่1 ของไฮสคูล ส่วนสิ่งที่หล่อหลอมให้เขาเป็นดิสนีย์ที่เรารู้จักนั้นมาจากการที่เขาเป็นเพียงเด็กบ้าน นอกที่ขัดเกลาชีวิตขึ้นจากปรัชญาชีวิตของเขานั่นเอง คติประจำใจข้อหนึ่งของดิสนีย์มีอยู่ว่า "จะเป็นคนทำอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่พยายามลงมือทำขึ้น" ซึ่งนี่เองเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอและกล้าที่จะตัดสินใจทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่ลังเล ซึ่งหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาทำก็ได้กลายเป็นแม่แบบของการทำหนังการ์ตูนในปัจจุบัน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดิสนีย์กล้าที่จะตัดสินใจทำอะไรอย่างรวดเร็วไม่ลังเลคือ ความที่เขาเป็นคนที่คิดอยู่ตลอดเวลา และมีความคิดใหม่ๆอยู่เสมอ ทำให้หลายๆครั้งเขาต้องรีบตัดสินใจทำสิ่งนั้นลงไปก่อนที่จะเปลี่ยนใจ เมื่อตอนที่เขาตัดสินใจสร้างรางรถไฟและขุดอุโมงค์ให้รถไฟวิ่งรอบบ้านตัวเองนั้น ตอนแรกเขายืนกรานที่จะทำแต่เมื่อมีความคิดใหม่เข้ามา เขาก็ลืมเสีย แต่เมื่อเวลาผ่านไปความคิดนั้นก็กลับเข้ามาอีก ดิสนีย์จึงรีบโทรบอกวิศวกรที่รับทำงานนั้นในตอนแรกให้รีบทำทันทีก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ ความคิดที่กล้าได้กล้าเสียแบบนี้เองที่ทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ก่อนใคร การทำงานด้วยใจรักและความตั้งใจ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของวอล์ทดิสนีย์ บ่อยครั้งที่เขาทำหนังหรือการ์ตูนแล้ว่ได้เงินค่าจ้างน้อยกว่าหรือไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้ แต่เขาจะลงมือทำก่อนเสมอโดยไม่คิดว่าจะได้เงินเท่าไหร่ ขอเพียงแค่ได้มีงานให้ทำ มีงานให้สร้างสรรค์ ทำให้ในบางครั้งเขาต้องลงทุนชักเนื้อเพื่อให้งานสำเร็จแต่ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย งานที่ทำด้วยหัวใจและความตั้งใจเช่นนี้แหละที่ทำให้เขาเป็นผู้ที่ทุกคนรู้จัก การบริหารงานของดิสนีย์เองก็มีสิ่งที่แปลกประหลาดไปจากที่คนทั่วๆไปทำกัน ทีมงานของดิสนีย์ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรเลยแต่ล้วนแล้วแต่เป็นคนใหม่ที่มีความสนใจในงานเขียนการ์ตูนแล้วได้รับการฝึกฝนจากดิสนีย์จนมีฝีมือ ดนตรีที่ไพเราะในภาพยนตร์การ์ตูนของดิสนีย์ในช่วงแรกๆก็ไม่ได้เป็นวงที่ดีเลิศ แต่กลับเป็นเพียงวงดนตรีที่เกิดจากนักดนตรีที่มารวมกันเล่นในยามว่าง เพลงที่แต่งขึ้นก็ด้วยใจนึกสนุก แต่งตามอารมณ์ไม่ได้คิดอะไรมากแต่ก็ออกมาเป็นเพลงที่ยอดนิยมและติดหูพวกเรามาจนถึงทุกวันนี้ มีคำถามหนึ่งที่ดิสนีย์ชอบถามตัวเองอยู่เสมอก่อนลงมือทำอะไรลงไปก็คือ "ทำอย่างไรจึงจะหมดกังวลในเรื่องงานของตัวเองนี้ได้" นั่นคือเหตุผลที่ทำไมผู้ที่จะมาติดต่องานกับดิสนีย์ได้นั้นจะต้องมาก่อนบ่าย นั่นเป็นวิธีที่เขาจะเก็บปัญหาหนักๆ ไว้ขบคิดก่อนเที่ยง เพราะเขามีความคิดว่าการทำอารมณ์ให้สงบในตอนบ่ายนั้นจะช่วยให้นอนหลับสบายในตอนกลางคืน ดังนั้นเขาจะไม่ยอมอ่านบทหรือเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจเลยในตอนกลางคืน กฎ 'ห้ามกังวลใจในตอนบ่าย' ตอนแรกนั้นไม่ค่อยจะมีคนเชื่อว่าดิสนีย์จะถือเป็นจริงเป็นจังเพราะฉะนั้นมักจะมีคนมาหาเวลาสักบ่ายสี่หรือห้าโมง
การแปล กรุณารอสักครู่..