ประเพณีแซนโฎนตา จังหวัดสุรินทร์พิธีกรรมแซนโฎนตา 1. ประวัติและความหมาย  การแปล - ประเพณีแซนโฎนตา จังหวัดสุรินทร์พิธีกรรมแซนโฎนตา 1. ประวัติและความหมาย  อังกฤษ วิธีการพูด

ประเพณีแซนโฎนตา จังหวัดสุรินทร์พิธี

ประเพณีแซนโฎนตา จังหวัดสุรินทร์พิธีกรรมแซนโฎนตา 1. ประวัติและความหมาย ประเพณี ทำบุญกลางเดือน 10 หรือประเพณีสารท
ของกลุ่มวัฒนธรรมเขมรในเขตจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ
และบุรีรัมย์นั้นมีประเพณีทำบุญวันสารทเช่นเดียวกัน
กับกลุ่มวัฒนธรรมใน ภูมิภาคอื่นๆ แต่มีจุดประสงค์ที่
จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วโดย
เรียกว่า “แซนโดนตา” ( แซน-เซ่นสรวง, โดน-โคตรเง่า, ตา-ตา ) ส่วนประเพณีแซนโดนตาจะเรียกสารทเล็กว่า “
เบ็นตูจ” เรียกสารทใหญ่ว่า “เบ็นทม” คำว่า “เบ็น” มา
จากภาษาบาลีว่า “บิณฑะ” แปลว่า ก้อนข้าว ตูจ แปลว่า
เล็ก ทม แปลว่า ใหญ่ 2. จุดมุ่งหมายการแซนโฎนตา ความ เชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษนั้น ดูจะมีเค้ามาจาก
ศาสนาพุทธที่เชื่อว่า เมื่อผู้ตายตายไปแล้วจะแบ่งออกเป็น
2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ทำดีจะได้ไปสวรรค์ กับกลุ่มที่ทำชั่ว
ทำบาปก็จะตกนรกเป็นสัตนรก ผี หรือเปรตพวกเหล่านี้จะ
ได้รับทัณฑ์ทรมานมากน้อยต่างกัน เมื่อถึงแรม 1 ค่ำ
เดือน 10 พระยายมจะอนุญาตให้ผีเหล่านี้เด ินทางมาเยี่ยมลูกหลานได้ ผีจะพักอยู่ที่วัด
และคอยดูทางว่าลูกหลานของตนจะมาทำบุญอุทิศส่วนก
ุศลให้ตนบ้างหรือไม่ ถ้าลูกหลานมาทำบุญอุทิศส่วนกุศล
ผลบุญนี้พวกตนก็ได้รับ และเมื่อได้อิ่มหนำสำราญก็
จะพากันอวยพรให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุข แต่ถ้ารอแล้ว
ไม่เห็นลูกหลานมาทำบุญ ก็จะสาปแช่งไม่ให้มีความสุข ความเจริญ จาก ตำนานความเชื่อของชาวบ้านดังกล่าว จึงพอสรุป
ได้ว่า จุดมุ่งหมายของการแซนโดนตา ก็คือการทำบุญอุ
ทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว 3. ระยะเวลาในการทำบุญ
พิธี แซนโดนตา หรือการเซ่นผีปู่ย่าตายาย
หรือผีบรรพบุรุษของชาวเขมรที่ทำเพื่ออุทิศส่วนกุศล
ให้แก่วงศาคณาญาติที่ล่วง ลับไปแล้วได้แบ่งออก
เป็นวันเบ็นตูจ และวันเบ็นทม คือ สารทเล็ก และสารทใหญ่
โดย เบ็นตูจ จัดกันในวันขึ้น 14-15 ค่ำ เดือน 10 และ เบ็นทม จัดกันในวันแรม 14-15 ค่ำ เดือน 10 แต่กระ
นั้นก็ตาม ช่วงระยะเวลาระหว่างวันเบ็นตูจถึงวันเบ็นทม
นั้น ชาวเขมรก็ยังจัดอาหารมาทำบุญที่วัดต่อเนื่องกันมิ
ได้ขาด 4. สถานที่ทำพิธีแซนโฎนตา
จะ จัดทำบุญที่วัด (ทำบุญถวายจังหันพระสงฆ์)
และนำอาหารเครื่องเซ่นมาเซ่นวิญญาณบรรพบุรุษที่
ในเรือนบ้านของเจ้าพิธีที่ จัดไว้ หรือที่ศาลโดนตา
คือศาลผีปู่ตา ซึ่งเป็นศาลที่อยู่ของวิญญาณบรร
พบุรุษประจำหมู่บ้าน หากหมู่บ้านใดไม่มีศาลโฏนตา ก็ จะจัดทำพิธีแซนโฎนตาที่ในวัด 5. เครื่องแซนโฎนตา (เครื่องเซ่นผีปู่ตา-เขมร)
ในเบ็นตูจ และเบ็นทมนั้นสิ่งของที่ใช้ในพิธีจะเหมือนกันคื
อ ทุกบ้านจะทำขนม ข้าวต้ม กระยาสารท ข้าวปลาอาหาร
พร้อมกับเหล้าใส่ถาดนำมารวมกันเพื่อประกอบพิธี “
แซนโฏนตา” ซึ่งพอจะ
สรุปอุปกรณ์และเครื่องเซ่นที่ใช้ในพิธีกรรมได้ ดังนี้ 1. ข้าวต้ม ข้าวสุก กล้วย อ้อย เหล้า อาหารคาว
และพวกแกงต่างๆ
2. ขนมหวานต่างๆ เช่น ขนมชั้น ขนมกง ทองหยิบ
ฝอยทอง เป็นต้น
3. หมากพลู ยาสูบ หรือบุหรี่
4. กระเชอ 1 สำรับ หรือภาชนะอย่างอื่น 5. ธูป 1 ดอก เทียน 1 เล่ม
6. บายเบ็น (บายข้าว บายเบ็นทำจากข้าวเหนียวที่สุกแล
้วผสมกับงาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
แล้วปั้นเป็นก้อนๆ วางบนถาด หรือจาน)
7. เงิน
8. ใบตอง 9. จาน หรือถาด
10. เรือ หรือกระทง (ที่ทำจากกาบกล้วยหรือกาบหมากก็
ได้)
11. อาจมีกระดูกของผู้ล่วงลับไปแล้วใส่โกศมาวางร่วม
12. อื่นๆ (แล้วแต่บางหมู่บ้านอาจมีสิ่งของใช้ต่างๆ กันไป
) 6. พิธีกรรม
ใน เย็นวันขึ้น 14 ค่ำ ชาวบ้านจะนำเครื
่องแซนโฏนตาไปวางบนกลางผ้าขาว ซึ่งปูลาดไว้กลา
งห้องเรือนที่กลางหมู่บ้าน หรือที่ศาลโดนตา
ประจำหมู่บ้าน บางแห่งนำไปรวมกันที่ศาลาวัดที่
ทำพิธีแซนโฏนตา แล้วพวกลูกหลานมานั่งล้อมวงอยู่ รอบๆ ข้างผ้าขาวพร้อมกันแล้วจุดธูปเทียนบูชา
เอ่ยชื่อปู่ย่าตายายที่ล่วงลับไป เชิญให้มากินเครื่องเซ่น
ทั้งที่ตายไปนานแล้ว และไม่รู้จักชื่อก็นึกเชิญในใจด้วย
ทางเจ้าพิธีนำเอาสุรามารินใส่แก้ว หรือจอกพรมไปตาม
สำรับอาหาร ปากก็กล่าวอันเชิญผีปู่ย่าตายาย
มารับประทานอาหาร เมื่อได้เวลาก็จุดยาสูบวางไว้ สักครู่ ใหญ่ สมมติว่า กินเสร็จแล้วจะแบ่งข้าวปลาอาหาร
หมากพลู บุหรี่อย่างละเล็กละน้อยใส่ห่อกระดาษ
หรือใบตองแล้วเหวี่ยงไปไกลๆ เรียกว่า “ปะจีร” (
ออกไปเสีย) เชื่อว่าลูกหลานได้พาห่อข้าวปลา
อาหารนี้ฝากไปให้กินระหว่างทาง หรือไปฝากผู้ที่ไม่
ได้มารับเครื่องสังเวยในครั้งนี้ จากนั้นจึงยกเคร ื่องเซ่นออกจากที่ตั้งได้ แล้วเลี้ยงกันในระหว่างหมู่ญาติสู่
กันกิน คนเฒ่าคนแก่ก็อวยชัยให้พรลูกหลานมีการคุย
กันเรื่องต่างๆ นาๆ เช่น เรื่องการทำมาหากิน
การเล่าสารทุกข์สุกดิบสู่กันฟัง พอสมควรแก่เวลาก
็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยไม่นำข้าวของ
ส่วนกลางกลับบ้าน เรียกว่า “เบ็นตูจ” รุ่งเช้ามืดวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ก็นำภัตตาหารไปท
ำบุญที่วัด พระภิกษุให้พร แล้วเลี้ยงพระ หลังจาก
นั้นอาจจะมีเทศน์เรื่อง อานิสงส์แซนโฏนตา หรือประวัติ
ความเป็นมาของพิธีสารท ตามแนวพุทธ
ชาวบ้านกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแก่วงศาคณาญาติที่ล
่วงลับไปแล้ว ทำเช่นนี้อยู่ทุกวันจนถึงวันแรม 14 ค่ำ ตอนเย็นวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 เป็นพิธีใหญ่ เรียก “
เบ็นทม” ชาวบ้านจะเตรียมการคล้ายเบ็ญตูจ สิ่งของที่ใช้
ในงานก็เหมือนกับเบ็นตูจทุกอย่าง แต่ทำยิ่งใหญ่กว่า
เมื่อเตรียมเรียบร้อยชาวบ้านจะพากันหาบคอน จุดใต้
จุดคบ หรือจุดเทียน มารวมกัน เดินไปก็ร้องตะโกนไปว่า
“โมเวยโดนตาๆ ” ( มาเด้อ ผีปู่ย่าตายาย ) “ โกนเจายัวบาย ซ้อมสลอโมจูนโอยโฮบ” (
ลูกหลานนำข้าวปลาอาหารมาส่งให้รับประทาน) ส่วน
ผู้ร่วมพิธีต่างก็จะตะโกนร้องเรียกให้ผีปู่
ย่าตายายมารับประทานอาหารกัน ดังเซ็งแซ่อยู่
การตะโกนจะดังกันเซ็งแซ่ อาจมีถ้อยคำอื่น
แต่มีนัยเช่นเดียวกัน และมีวงดนตรีปี่พาทย์บรรเลงอยู่ แล้วนิมนต์พระภิกษุสวดสูตรต่างๆ เกี่ยวกับเปรต มี “
ปราถวสูตร” และ “อาฏานาฏิยสูตร” เป็นต้น
เมื่อท่านสวดจบในช่วงหนึ่งๆ ก็จะร้องตะโกน “
โมเวยโดนตาๆ ” เสียงนี้จะดังกระหึ่มขานรับกันทั่วบริเวณ
ช่วงนี้ก็จะจุดธูปเทียน ทำพิธี โดยรินเหล้าเทไปตามพื้น
และพูดเรียก “โดนตา” ซึ่งชาวบ้านจะพากันขานรับ “ โมโวยโดนตา” จากนั้นกรรมพิธีต่างๆ ก็จะเหมือนกับเบ
็นตูจ พิธีในช่วงเย็นก็มีเท่านี้ เช้ามืดแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ชาวบ้านจัดเตรียมสำรับ
กับข้าว และข้าวของที่กองรวมกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
นำไปถวายพระภิกษุพร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศลไปให้แก
่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว นิมนต์พระมาสว
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Tradition San Ta nadon Surin rituals and Zac nadon eye: 1. history of the meaning of the tradition of merit-mid 10th or 10th month tradition.Khmer culture groups in the province, Surin, SI SA KET.And the tradition of merit-day buri RAM 10th month as well.With a group of other cultures in the region, but it is intended that.Will I devote a portion unto their charity by?Called "the eye" nadon sandwich (San-heavenly spirits, Don-Ta-ta ngao, descent) in the best tradition of the eye is called the 10th month nadon small transaction. "Ben du Village "big" Ben thom 10th month "," Ben "From the Pali language that "natha" means rice rolls. Du e meanLittle thom mean large aims. the San Ta believe ghosts nadon ancestors there came from.The Buddhist believe that when they die, are divided into.2. the group is a group that will be able to do better with groups that do evil.Sin, hell, hell is a living being. These guys are the ghosts or the pret.Has been much different than torture. When the LunarTop 10 Prince will allow these ghosts come to visit the children. The ghosts will stay measured.And see the way that their progeny will come to make merit UMA direction section.Sonhai ourselves? If the offspring came dedicated charities section.The result of this, their juicy and satisfying it.จะพากันอวยพรให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุข แต่ถ้ารอแล้วไม่เห็นลูกหลานมาทำบุญ ก็จะสาปแช่งไม่ให้มีความสุข ความเจริญ จาก ตำนานความเชื่อของชาวบ้านดังกล่าว จึงพอสรุปได้ว่า จุดมุ่งหมายของการแซนโดนตา ก็คือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว 3. ระยะเวลาในการทำบุญพิธี แซนโดนตา หรือการเซ่นผีปู่ย่าตายายหรือผีบรรพบุรุษของชาวเขมรที่ทำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่วงศาคณาญาติที่ล่วง ลับไปแล้วได้แบ่งออกเป็นวันเบ็นตูจ และวันเบ็นทม คือ สารทเล็ก และสารทใหญ่โดย เบ็นตูจ จัดกันในวันขึ้น 14-15 ค่ำ เดือน 10 และ เบ็นทม จัดกันในวันแรม 14-15 ค่ำ เดือน 10 แต่กระนั้นก็ตาม ช่วงระยะเวลาระหว่างวันเบ็นตูจถึงวันเบ็นทมนั้น ชาวเขมรก็ยังจัดอาหารมาทำบุญที่วัดต่อเนื่องกันมิได้ขาด 4. สถานที่ทำพิธีแซนโฎนตาจะ จัดทำบุญที่วัด (ทำบุญถวายจังหันพระสงฆ์)และนำอาหารเครื่องเซ่นมาเซ่นวิญญาณบรรพบุรุษที่ในเรือนบ้านของเจ้าพิธีที่ จัดไว้ หรือที่ศาลโดนตาคือศาลผีปู่ตา ซึ่งเป็นศาลที่อยู่ของวิญญาณบรรพบุรุษประจำหมู่บ้าน หากหมู่บ้านใดไม่มีศาลโฏนตา ก็ จะจัดทำพิธีแซนโฎนตาที่ในวัด 5. เครื่องแซนโฎนตา (เครื่องเซ่นผีปู่ตา-เขมร)ในเบ็นตูจ และเบ็นทมนั้นสิ่งของที่ใช้ในพิธีจะเหมือนกันคือ ทุกบ้านจะทำขนม ข้าวต้ม กระยาสารท ข้าวปลาอาหารพร้อมกับเหล้าใส่ถาดนำมารวมกันเพื่อประกอบพิธี “แซนโฏนตา” ซึ่งพอจะสรุปอุปกรณ์และเครื่องเซ่นที่ใช้ในพิธีกรรมได้ ดังนี้ 1. ข้าวต้ม ข้าวสุก กล้วย อ้อย เหล้า อาหารคาวและพวกแกงต่างๆ2. ขนมหวานต่างๆ เช่น ขนมชั้น ขนมกง ทองหยิบฝอยทอง เป็นต้น3. หมากพลู ยาสูบ หรือบุหรี่4. กระเชอ 1 สำรับ หรือภาชนะอย่างอื่น 5. ธูป 1 ดอก เทียน 1 เล่ม6. บายเบ็น (บายข้าว บายเบ็นทำจากข้าวเหนียวที่สุกแล้วผสมกับงาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปั้นเป็นก้อนๆ วางบนถาด หรือจาน)7. เงิน8. ใบตอง 9. จาน หรือถาด10. เรือ หรือกระทง (ที่ทำจากกาบกล้วยหรือกาบหมากก็ได้)
11. อาจมีกระดูกของผู้ล่วงลับไปแล้วใส่โกศมาวางร่วม
12. อื่นๆ (แล้วแต่บางหมู่บ้านอาจมีสิ่งของใช้ต่างๆ กันไป
) 6. พิธีกรรม
ใน เย็นวันขึ้น 14 ค่ำ ชาวบ้านจะนำเครื
่องแซนโฏนตาไปวางบนกลางผ้าขาว ซึ่งปูลาดไว้กลา
งห้องเรือนที่กลางหมู่บ้าน หรือที่ศาลโดนตา
ประจำหมู่บ้าน บางแห่งนำไปรวมกันที่ศาลาวัดที่
ทำพิธีแซนโฏนตา แล้วพวกลูกหลานมานั่งล้อมวงอยู่ รอบๆ ข้างผ้าขาวพร้อมกันแล้วจุดธูปเทียนบูชา
เอ่ยชื่อปู่ย่าตายายที่ล่วงลับไป เชิญให้มากินเครื่องเซ่น
ทั้งที่ตายไปนานแล้ว และไม่รู้จักชื่อก็นึกเชิญในใจด้วย
ทางเจ้าพิธีนำเอาสุรามารินใส่แก้ว หรือจอกพรมไปตาม
สำรับอาหาร ปากก็กล่าวอันเชิญผีปู่ย่าตายาย
มารับประทานอาหาร เมื่อได้เวลาก็จุดยาสูบวางไว้ สักครู่ ใหญ่ สมมติว่า กินเสร็จแล้วจะแบ่งข้าวปลาอาหาร
หมากพลู บุหรี่อย่างละเล็กละน้อยใส่ห่อกระดาษ
หรือใบตองแล้วเหวี่ยงไปไกลๆ เรียกว่า “ปะจีร” (
ออกไปเสีย) เชื่อว่าลูกหลานได้พาห่อข้าวปลา
อาหารนี้ฝากไปให้กินระหว่างทาง หรือไปฝากผู้ที่ไม่
ได้มารับเครื่องสังเวยในครั้งนี้ จากนั้นจึงยกเคร ื่องเซ่นออกจากที่ตั้งได้ แล้วเลี้ยงกันในระหว่างหมู่ญาติสู่
กันกิน คนเฒ่าคนแก่ก็อวยชัยให้พรลูกหลานมีการคุย
กันเรื่องต่างๆ นาๆ เช่น เรื่องการทำมาหากิน
การเล่าสารทุกข์สุกดิบสู่กันฟัง พอสมควรแก่เวลาก
็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยไม่นำข้าวของ
ส่วนกลางกลับบ้าน เรียกว่า “เบ็นตูจ” รุ่งเช้ามืดวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ก็นำภัตตาหารไปท
ำบุญที่วัด พระภิกษุให้พร แล้วเลี้ยงพระ หลังจาก
นั้นอาจจะมีเทศน์เรื่อง อานิสงส์แซนโฏนตา หรือประวัติ
ความเป็นมาของพิธีสารท ตามแนวพุทธ
ชาวบ้านกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแก่วงศาคณาญาติที่ล
่วงลับไปแล้ว ทำเช่นนี้อยู่ทุกวันจนถึงวันแรม 14 ค่ำ ตอนเย็นวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 เป็นพิธีใหญ่ เรียก “
เบ็นทม” ชาวบ้านจะเตรียมการคล้ายเบ็ญตูจ สิ่งของที่ใช้
ในงานก็เหมือนกับเบ็นตูจทุกอย่าง แต่ทำยิ่งใหญ่กว่า
เมื่อเตรียมเรียบร้อยชาวบ้านจะพากันหาบคอน จุดใต้
จุดคบ หรือจุดเทียน มารวมกัน เดินไปก็ร้องตะโกนไปว่า
“โมเวยโดนตาๆ ” ( มาเด้อ ผีปู่ย่าตายาย ) “ โกนเจายัวบาย ซ้อมสลอโมจูนโอยโฮบ” (
ลูกหลานนำข้าวปลาอาหารมาส่งให้รับประทาน) ส่วน
ผู้ร่วมพิธีต่างก็จะตะโกนร้องเรียกให้ผีปู่
ย่าตายายมารับประทานอาหารกัน ดังเซ็งแซ่อยู่
การตะโกนจะดังกันเซ็งแซ่ อาจมีถ้อยคำอื่น
แต่มีนัยเช่นเดียวกัน และมีวงดนตรีปี่พาทย์บรรเลงอยู่ แล้วนิมนต์พระภิกษุสวดสูตรต่างๆ เกี่ยวกับเปรต มี “
ปราถวสูตร” และ “อาฏานาฏิยสูตร” เป็นต้น
เมื่อท่านสวดจบในช่วงหนึ่งๆ ก็จะร้องตะโกน “
โมเวยโดนตาๆ ” เสียงนี้จะดังกระหึ่มขานรับกันทั่วบริเวณ
ช่วงนี้ก็จะจุดธูปเทียน ทำพิธี โดยรินเหล้าเทไปตามพื้น
และพูดเรียก “โดนตา” ซึ่งชาวบ้านจะพากันขานรับ “ โมโวยโดนตา” จากนั้นกรรมพิธีต่างๆ ก็จะเหมือนกับเบ
็นตูจ พิธีในช่วงเย็นก็มีเท่านี้ เช้ามืดแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ชาวบ้านจัดเตรียมสำรับ
กับข้าว และข้าวของที่กองรวมกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
นำไปถวายพระภิกษุพร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศลไปให้แก
่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว นิมนต์พระมาสว
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The tradition saendhountaa province ritual saendhountaa 1. History and meaning tradition philanthropy in the middle of the month 10 or tradition of the Khmer culture
area in the province. Sisaket
.And the ram is the festival tradition of philanthropy as well
cultural groups in other regions, but is the purpose that
to philanthropy charity dedicated to the ancestors who passed away by
called. "Santa's eyes" (San - propitiate spirits, get - descent, steelheadEyes - eyes) and Chitosan Eye called compound tradition was small. "
Ben Tu e." the call of the big "Ben again." "" Ben "to
from Pali." บิณฑ '. The rice ball, Tu e means
small Thom means big 2.Aim to saendhountaa. Believe in ghosts of their ancestors. He seems to have come from
Buddhism believe. When the victim is dead is divided into
2 groups, the good will go to heaven and the group do evil
.Sin will go to hell as a holy hell ghost or pret these guys
get corrections suffer much less when you 1 Hotel Dinner
months 10 Phraya premium will allow these ghosts. In the visit to the offspring. Ghosts to stay at the temple!And see the way that his sons will come from the very devoted to their transportation
e? If the children to make merit merit
merit this they received. And when full it
going to bless children cool and happy. But if waiting
.See the children come merits will curse not happy, prosperity, from the legend of folk beliefs such house. Therefore concluded
that the aim of chitosan by eyes. It is merit an
the merit to the ancestors who have passed away 3.The philanthropy
ceremony, San by eyes or a sacrifice to the ancestors and ghosts
or ancestor of Cambodian do to dedicate the merit
to kinsman who have fallen. The secret already divided
is Ben Tu authority and the Ben Thom is small and large fluid n
.By Ben Tu, held in the days and months 14-15 dinner, 10 Ben Thom held in the waning days 14-15 night the moon 10 แต่กระ
there. The period of time between the Ben Tu e to the Ben Thom
. The Khmer people's food to the temple continuous Mi
broken 4.Place the saendhountaa
will create merit at the temple. (charity offering Changhan monks)
and bring food offerings to the sacrificial spirit ancestors
in the house house of God ceremony at the set or court was the eye
is the court ผีปู่ตา. The court is spirit of supporting
.And if any man village village, no court โฏ glasses, to prove the San โฎ in eyes in the temple 5. Air saendhountaa. (offerings ผีปู่ตา - Khmer)
in Ben Tu. And Ben Thom that objects used in the same night
.. all houses do boiled sweets, along with the nut food tray
alcohol brought together to assemble the ceremony. "
San โฏ glasses" which can
summary equipment and offering used in rituals. The following 1.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: