เมื่อแสงเดินทางมากระทบวัตถุแสงจะสะท

เมื่อแสงเดินทางมากระทบวัตถุแสงจะสะท้อนกลับไปยังตัวกลางเรียกว่าการสะท้อน หรือหักเหเมื่อเดินทางผ่านตัวกลางเรียกว่าการหักเห ในบทนี้เรามาเรียนรู้ธรรมชาติของแสงเมื่อมันเดินทางมากระทบวัตถุกัน


การสะท้อน (Reflection)


การสะท้อนของแสงเมื่อตกกระทบผิวสะท้อนราบ


การสะท้อนของแสงทำให้เกิดมุมตกกระทบคือมุมที่แสงตกกระทบทำกับเส้นตั้งฉากกับกระจก และมุมสะท้อนคือมุมที่แสงสะท้อนทำกับเส้นตั้งฉากกับกระจก
กฎของการสะท้อนกล่าวว่า “เมื่อเกิดการสะท้อนแสงทุกครั้งมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อนเสมอ”

กระจกราบ (Plane Mirrors)
เมื่อวัตถุอยู่หน้ากระจก วัตถุจะสะท้อนลำแสงออกมานับล้านเส้นมายังกระจก แต่ขอเขียนลำแสงตัวแทนมาสัก 4 เส้น เมื่อเกิดการสะท้อนแสงที่กระจกมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน ทำให้เกิดลำแสงเสมือนตัดกันจนเกิดภาพเสมือนที่หลังกระจก ภาพเสมือนที่หลังกระจกจะมีขนาดเท่ากับวัตถุ และกลับซ้ายเป็นขวา



a.


b.
a. การเกิดภาพในกระจกเงาราบ
b. การเกิดภาพสะท้อนจำนวนมากเมื่อตั้งกระจกสองอันหันเข้าหากัน


การสะท้อนบนพื้นผิวขรุขระ (Diffuse Reflection)
เมื่อแสงสะท้อนที่ผิวขรุขระ แสงจะสะท้อนออกไปหลายทิศทาง

a.

b.
a. การสะท้อนคลื่นวิทยุบนจารรับสัญญาณดาวเทียมเป็นการสะท้อนบนผิวขรุขระ
b. แผนภาพการสะท้อนบนผิวขรุขระ


พื้นผิวถนนที่แห้งอยู่มีการสะท้อนแสงบนพื้นผิวขรุขระจึงมีแสงสะท้อนมายังตาเรา แต่เมื่อถนนนองไปด้วยน้ำ ผิวน้ำทำให้เกิดการสะท้อนบนผิวเรียบทำให้แสงจากรถสะท้อนไปด้านหน้ารถอย่างเดียวมีเพียงแสงส่วนน้อยที่สะท้อนเข้าตาเราทำให้เรามองพื้นถนนหลังฝนตกไม่ชัดเจน



เมื่อแสงเดินทางจากตัวกลางหนึ่งตกกระทบกับผิวของอีกตัวกลางหนึ่ง แสงจะเกิดการสะท้อนขึ้นกลับมาในตัวกลางเดิม โดยแสงที่สะท้อนออกมาจะเปลี่ยนแปลงตามพื้นผิว โดยถ้าพื้นผิวเรียบแสงสะท้อนจะเป็นระเบียบ แต่ถ้าผิวขรุขระ แสงสะท้อนจะกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ

เปรียบเทียบการสะท้อนบนผิวเรียบและผิวขรุขระ


กฎการสะท้อนของแสง (Law of Reflection)
มุมตกกระทบคือมุมที่รังสีตกกระทบ (Incident ray) ทำกับเส้นปกติ (Normal) ของผิวสะท้อน และ มุมสะท้อน (Reflected ray) คือมุมที่รังสีสะท้อนทำกับเส้นปกติ


การสะท้อนของแสงที่มีระเบียบจะได้

1. มุมตกกระทบมีค่าเท่ากับมุมสะท้อน
2. รังสีตกกระทบ รังสีสะท้อนและเส้นปกติ จะอยู่ในระนาบเดียวกัน
http://www.youtube.com/watch?v=ay_M1jZ41xE&feature=youtu.be



ภาพที่เกิดจากกระจกเว้าและกระจกนูนจากวัตถุที่ห่างจากกระจกในระยะต่างๆ


การหักเห (Refraction)

อัตราเร็วของแสงในน้ำและในแก็วต่ำกว่าอัตราเร็วของแสงในอากาศ แสงเดินทางในสุญญากาศเดินทางด้วยอัตราเร็ว
c = 300,000 km/s
แสงเดินทางในน้ำอัตราเร็วเป็นสามส่วนสี่ของอัตราเร็วแสงในสุญญากาศ แสงเดินทางในเพชรอัตราเร็วเป็น 40 %ของอัตราเร็วแสงในสุญญากาศ
การที่แสงหักเหออกไปจากแนวเดิมเมื่อเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางต่างชนิดกัน เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า การหักเหของแสง การเดินทางของแสงเมื่อมีการหักเหแสงทำให้แสงเดินทางระยะทางมากขึ้นแต่ใช้เวลาในการเดินทางน้อยลงเสมอ ตัวอย่างเช่น เมื่อแสงเดินทางจากในน้ำมายังอากาศตามรูปข้างล่างจากจุด B มายังจุด A แสงใช้เวลาในการเดินทางตามเส้นประเนื่องจากใช้เวลาเดินทางตามเส้นประใช้เวลาสั้นกว่าเดินทางตามเส้นทึบเพราะการเดินทางตามเส้นประในน้ำมีระยะสั้นขึ้น ถึงแม้ว่าต้องเดินทางในอากาศยาวขึ้นก็ไม่ทำให้เสียเวลาในการเดินทางของแสง เนื่องจากแสงเดินทางในอากาศได้เร็วกว่าเดินทางในน้ำ


การหักเหของแสงเกิดขึ้นเพื่อลดพลังงานของการเดินทางของแสง



การหักเหของแสงผ่านชั้นบรรยากาศโลกทำให้ภาพดวงอาทิตย์ตกที่เห็นสูงกว่าตำแหน่งจริงเสมอ
http://www.youtube.com/watch?v=PLpj3dI9y1c&feature=youtu.be




ทุกครั้งที่เราดูพระอาทิตย์ตก เราเห็นพระอาทิตย์เป็นเวลาหลายนาทีทั้งๆที่มันตกอยู่ไปใต้ของฟ้าแล้ว บรรยากาศโลกเบาบางที่ระดับสูงแต่หนาแน่นที่ระดับพื้นดิน แสงเดินทางในอากาศที่เบาบางได้เร็วกว่าอากาศที่หนาแน่น แสงจากดวงอาทิตย์จึงค่อยๆหักเหไปตามความหนาแน่นของอากาศที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น ดวงอาทิตย์เมื่อเวลาจะลับขอบฟ้าแสงจากขอบบนของดวงอาทิตย์จะหักเหมากกว่าแสงจากของล่างของดวงอาทิตย์ เราจึงเห็นพระอาทิตย์ตกเป็นรูปวงรี


มิลาจ (Mirage)
เราคุ้นเคยกับมิลาจกันดี ตอนที่เราขับรถไปตามถนนร้อนๆเราจะเห็นเหมือนว่ามีบ่อน้ำเกิดขึ้นกลางถนนแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆบ่อน้ำนั้นจะหายไป สิ่งที่เราเห็นนี้เรียกว่ามิลาจเกิดขึ้นจากการที่อากาศบนพื้นถนนร้อนกว่าอากาศด้านบนทำให้แสงที่มาจากท้องฟ้าหักเหโค้งเหนือพื้นถนนแล้วเข้าตาเรา



a.


b.
a. การเกิดมิลาจ b. ภาพมิลาจ


ต้นเหตุของการหักเห (Cause of Diffraction)
จากหัวข้อเรื่องการหักเหและมิลาจข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าแสงเดินทางตามเส้นทางที่ใช้เวลาในการเดินทางน้อยที่สุดเสมอ เหมือนดั่งว่าแสงมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ความจริงแล้วมีสาเหตุที่แท้จริงของการหักเหแสง
เมื่อแสงเดินทางจากอากาศมายังน้ำจะหักเหเข้าหาเส้นตั้งฉาก เนื่องจากหน้าคลื่นด้านซ้ายตกถึงน้ำก่อนจึงเคลื่อนที่ช้ากว่าด้านขวาซึ่งยังอยู่ในอากาศอยู่แสงจึงหักเหเข้าหาเส้นปกติ เปรียบเทียบเหมือนกับว่าหน้าคลื่นเป็นล้อรถที่วิ่งจากพื้นแก้วมายังพื้นหญ้า เมื่อวิ่งมาถึงพื้นหญ้าล้อซ้ายจะเคลื่อนที่มาถึงพื้นหญ้าก่อนทำให้ล้อซ้ายเคลื่อนที่ช้ากว่าล้อขวาซึ่งยังอยู่ในพื้นแก้ว ทำให้ล้อรถเบนเข้าหาเส้นตั้งฉากนั่นเอง


สาเหตุของการหักเห เนื่องจากหน้าคลื่นแสงด้านขวาเคลื่อนที่ในอากาศจึงเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าหน้าคลื่นข้างซ้ายที่มาถึงน้ำก่อน จึงเกิดการหักเหของแสงเบนเข้าหาเส้นตั้งฉาก เปรียบเหมือนการผลักรถเด็กเล่นจากพื้นแก้วเอียงเข้าหาพื้นหญ้าจะเห็นว่ารถจะหักเหเข้าหาเส้นตั้งฉาก

รุ้งกินน้ำ (Rainbows)
ฟ้าหลังฝนช่างสวยงามมองแล้วมีความสุขทุกที ถ้าเราหันหลังให้ดวงอาทิตย์จะเห็นสายรุ้งสายฝนสร้างละอองน้ำนับล้านๆหยด ค่อยๆถักทอสีสัน 7 กลุ่มสี ละอองน้ำทุกหยดทำหน้าที่เหมือนปริซึมกระจายแสงขาวออกเป็น 7 กลุ่มสี




http://www.youtube.com/watch?v=a2AKY2ld

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

When a compound object is very light RA, light is reflected back to the middle of the so-called reflection or refraction when travelling through an intermediary called refraction. In this article, we came to learn the nature of light when it travels a lot of compound objects, specify.Reflection. (Reflection) Reflection of light when crushing impact phiosathonReflection of light, causing the angle of incidence is the angle that the light falls fall impact perpendicular to the mirror and the reflection is the angle with the light reflected to the perpendicular to the mirror. Rules of reflection, said, "when it happens to every corner of the light reflection fall impact equals the angle of reflection always." Plain mirror. (Plane Mirrors)When an object is in front of the mirror. It will reflect the beam out millions of lines into a mirror, but write a beam while the four agency lines, when the angle of light reflection mirror reflection angle of incidence is equal to the fall. Cause a virtual beam cut the virtual image occurs after each glass. Virtual image behind the mirror is equal to the object and back to the left is right. a. b. A. the occurrence of image in plain mirrorB. the mirror reflection occurred when many area two facing each other.Reflection on rough surfaces (Diffuse Reflection).When the rough surface glare, light is reflected off into several directions.a.b. A. to reflect radio waves on the satellite as a secret agent to reflect on the surface rough.B. rough surface reflection on the diagramThe dry road surface is reflective on the rough surface of the eye, so we have a glare, but when the streets become flooded with water. The surface cause reflection on the smooth surface makes reflection of light from the car to the front of the car, there is only one minority that reflect light into the eye, we make we look after a rainy road is not clear. When light travels from one medium to another with the skin of a fall, the middle one. The light will be reflected back in the original medium. By the light reflected by the surface changes as if the surface glare will be organized, but if the surface is rough, light reflection of the scattered clutter. Comparison of reflection on the smooth surface, and rough skin.Reflection of light rules (Law of Reflection).The angle of incidence is the angle of the rays fall fall impact (Incident ray) to normal (Normal) of phiosathon and a mirror (Reflected ray) is rangsisathon to normal view. Reflection of light with the organization.1. angle of incidence is equal to the angle on residual reflection.2. radiation impact fall Rangsisathon and usually located in the same plane http://www.youtube.com/watch?v=ay_M1jZ41xE&feature=youtu.beConcave mirror image from the mirror and convex mirror from the object distance in phases.Refraction (Refraction).Speed of light in water, and in the lower speed of light แก็ว in the air. Light traveling in a vacuum travels with speedc = 300,000 km/sLight travels at the speed of water in three or four sections of the speed light in a vacuum. Light travels at speed is 40% of the diamonds speed light in a vacuum.การที่แสงหักเหออกไปจากแนวเดิมเมื่อเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางต่างชนิดกัน เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า การหักเหของแสง การเดินทางของแสงเมื่อมีการหักเหแสงทำให้แสงเดินทางระยะทางมากขึ้นแต่ใช้เวลาในการเดินทางน้อยลงเสมอ ตัวอย่างเช่น เมื่อแสงเดินทางจากในน้ำมายังอากาศตามรูปข้างล่างจากจุด B มายังจุด A แสงใช้เวลาในการเดินทางตามเส้นประเนื่องจากใช้เวลาเดินทางตามเส้นประใช้เวลาสั้นกว่าเดินทางตามเส้นทึบเพราะการเดินทางตามเส้นประในน้ำมีระยะสั้นขึ้น ถึงแม้ว่าต้องเดินทางในอากาศยาวขึ้นก็ไม่ทำให้เสียเวลาในการเดินทางของแสง เนื่องจากแสงเดินทางในอากาศได้เร็วกว่าเดินทางในน้ำ Refraction of light occurs to reduce the power of the journey of the light. Refraction of light through the atmosphere of the world makes the phapduang sunset at the higher position is always true. http://www.youtube.com/watch?v=PLpj3dI9y1c&feature=youtu.beEvery time we see a sunset. We saw the Sun for several minutes even though it falls to below the horizon. The atmosphere at a high level, but the world light heavy at ground level. The light travels in the air decreases faster than the air density. The light from the Sun, thus gradually refraction based on the density of the air gradually increased. The Sun, the time when the light from the edge of the horizon on the secrets of the Sun is lower than the rent of the Sun, we see the Sun is an ellipse.Mika ass (Mirage)We are familiar with Mitsubishi's good la chakan. When we drove along the road, we see that there is hot water in the middle of the road, but it happened enough to see the nearby pond, it will be lost. What we see is called La chakoet, where Mitsubishi air from the hot air on the road over the top to make the light coming from the sky, North Bend road, refractive eye; a. b. A. the occurrence of Mitsubishi, Mitsui, La La chorus b. photo village.Of refraction (Cause of Diffraction).From the subject and MIMOZA la chakhang refraction template We can see that the light travels along the path that it takes the least amount of always. Whether that light is your own opinion, but in fact, the real cause of the refraction of light. When light travels from air into water refraction perpendicular to the wave since the left falling to the water before you move slower than the right side, which is still in the air is so light refraction to normal. Compare as if in front of a car wheel, waves from the surface of glass to the ground grass. When rush comes to the floor on the left wheel moves the grass comes to the surface of grass, slower-moving wheel the wheel left to right, which is still in the ground glass. Make the wheel turn back toward perpendicular walls. The cause of the refraction of light waves, the right page because of the movement in the air, it's moving faster than the wave front left side that came to the water first. Thus was born the refraction of light, Ben approached perpendicular. Consequence to vehicle glass toy from tilting toward the ground, you will see that the grass be refractive to perpendicular.Eat a Rainbow (Rainbows).The sky after the rain, beautiful view of the artist, is happy all the time. If we turn back to the Sun to see a rainbow rain drops splashing millions of counter created. Gradually woven colorful drops splashing color Group 7 all acts like a Prism distributes light, white is the color Group 7. http://www.youtube.com/watch?v=a2AKY2ld

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

When light strikes an object traveling light is reflected back to the intermediary called reflection. Or refracted when traveling through a medium called refraction. In this chapter, we learn about the nature of light when it travels to the object of reflection. (Reflection) reflection of light incident on flat reflective surface to reflect the light causes the angle of incidence is the angle at which light incident on a line perpendicular to the glass. Glare and reflection angle is the angle perpendicular to the glass with a rule of reflection said. "When the angle of incidence equals the angle of reflection at all times, always" mirror plane (Plane Mirrors) on an object in front of the mirror. The object beam is reflected off the glass by millions. But let's write beam over a four-line agent when the angle of incidence equals the angle of reflection mirror. The virtual beam intersection until the image on the glass. The mirror image to the size of the object. Left and right are a. B. a. The image in the mirror flat b. The many reflections on the two mirrors face each other to reflect on rough surfaces (Diffuse Reflection) on reflective surface roughness. The light is reflected off the many directions a. B. a. Reflection on the spy satellite radio waves reflected on the rough b. Figure reflection on rough road surfaces dry with light reflections on the surface is reflective to the eye. But on the streets to fill with water. Unionist cause reflections on smooth surfaces, making light reflect to the front alone with only light at least partially reflected into our eyes, we see the road after rain unclear when light travels from a medium one incident on the surface of the other. One intermediary The light will be reflected back in the media. By light reflecting off the surface will change. If the light reflected by a flat surface will be organized. If the rough Reflected light is scattered, disorganized comparative reflections on smooth and rough rule, the reflection of light (Law of Reflection) angle of incidence is the angle of incident radiation (Incident ray) made ​​with the normal (Normal) of surface reflection and reflection angle (. Reflected ray) is made ​​with the normal radiation reflected from the reflection of the light in order to have one. The angle of incidence equals the angle 2. The incident ray reflected ray and the normal. Will be in the same plane http://www.youtube.com/watch?v=ay_M1jZ41xE&feature=youtu.be image formed by concave and convex mirrors in the distance of the object from different refraction. (Refraction) the speed of light in water and gas were lower than the speed of light in air. Light in a vacuum travels at the speed of c = 300,000 km / s speed of light traveling in the third quarter of the speed of light in vacuum. Light travels in Diamond Fields is 40% of the speed of light in vacuum, the light refracting off the original line when moving through different media. We call this phenomenon Refraction The journey of light when light refraction causes light to travel a greater distance, but take in fewer trips are, for example, when light travels from water to air as shown below from point B to point A light take on. Travel along the dotted line because it takes on the dotted line, take shorter trips along the solid lines that travel along the dotted line in the water up short. Although air travel in long, it does not upset the travel time of light. Since light travels faster in air travel in water refraction occurs to reduce the power of travel of the light refraction of light through the Earth's atmosphere, making sunsets seen over the truth http: // www. .youtube.com / watch? v = PLpj3dI9y1c & feature = youtu.be every time we see the sunset. We see the sun for several minutes even though it falls to the south of heaven. But the atmosphere is light at high intensity at ground level. Light travels faster than light, the air, the dense air. Light from the sun is slowly turning to the density of the air is gradually increased. When the sun goes down on the edge of the light from the sun is refracted more than light from the bottom of the sun. We see the sunset oval Lyudmila package. (Mirage) , we may well acquainted with Lyudmila. When we drove down the road we will see a hottie like that has happened in the street, but well enough to see the nearby pond disappears. What we see now called Mila may arise out of the air on the ground is hotter than the air above, the light coming from the sky, turning a curve above the ground and our eyes a. B. a. The Milano e b. Photo Lyudmila The cause of refraction (Cause of Diffraction) of subjective refraction and Mila the above. We can see that the light travels along the path that takes the least amount of travel time. Like a light that has a mind of its own. But the fact is the real cause of the refraction of light when light travels from air to water is refracted toward the perpendicular. The wave front left side before falling to the water moves more slowly than the right, which is still in the air, so light is refracted toward the normal line. Compare like a wave front wheels that run from floor to floor glass grass. When it comes to running wheels left the ground to move the wheels left the ground before moving slower than the right wheel, which is still in the glass. Make the wheels turn toward the perpendicular itself the cause of refraction. Due to the light wave moving in the air is moving faster than the waves left before the water arrived. Thus was born the refraction of light converge perpendicular. It is like driving a toy car from the glass tilted toward the ground to see that the car is refracted toward the perpendicular rainbow. (Rainbows) After the Storm, looking beautiful and happy time. If we turn back to the sun, the rain created a rainbow spray millions of droplets. 7 colors gradually permeates every drop of spray paint acts like a prism, spreading light into seven color groups http://www.youtube.com/watch?v=a2AKY2ld.