The rules of nature.The word wisdom in Buddhism it refers to knowledge in the subject matter to which the level of distress level distress is 4 by 4 noble truth at the heart of rueangoriyasat (or wisdom), summarized the basic understanding of the characteristics of all of the amenities and 3 nature of the most important basic feature is that as anatta (non-self), of all things, by the most important thing we should know is the anatta, The body and the mind that is "fictional" or "we", and therefore conclude that intelligence is the understanding that "there is no us" Before we understand correctly the number of things that we as anatta need to understand in "maximum", that controls everything is everything. When we understand this, then what is the maximum we can to understand what all of you have been creating maximum, especially for our body and mind up? "and understand why many things, it is not the true self?What is the thing that has the maximum power that controls everything is everything, especially of human life, we are in control, so what is the Max what all men want respect and obedience? If anyone follow what Max is defined. What's the maximum, it will award: The meaning of normal happiness There is no suffering, but if someone demands to violate or do not obey and perform as opposed to the maximum defined. What the maximum penalty would be a problem, trouble, suffering some of the highest religion is called God, or gods, but Buddhism is called a rule that refers to a rule of this nature by Max rules are called rule of nature, or the rules of this universe, there are rules that are summarized. "Everything that happens there and would have to come prepared."A word that means a thing called nature, all of which are 2 ongoing nature was an object and the object name by what are they objects or things of all, including the body of the people. Animals & plants section, what is their name, such as the perception of the mind. The feeling Ideas, etc.The term refers to a birth before then are later.The term level means it is already disappearing at a later time.The term therefore refers to something that causes the effect.The term factor mean smaller or whatever reason, support incident.The result means that what happens to come from the incident.The term additive meant to do (naturally). Rules of this nature that controls everything (everything is created. Keeping everything and break things). There is nothing beyond this maximum rules. Where the rules of any other nature are dependent on this rule, the maximum. กฎสูงสุดของธรรมชาตินี้ก็คือกฎง่ายๆ หรือธรรมดาๆที่ใครๆก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว คือรู้ว่า การที่สิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ จะต้องมีเหตุและปัจจัยมาร่วมกันปรุงแต่งให้เกิดขึ้น อย่างเช่น ร่างกายก็มีพ่อและแม่มาเป็นเหตุ และมีอาหาร น้ำ อุณหภูมิที่พอเหมาะ และอากาศที่บริสุทธิ์เป็นปัจจัยร่วมกันปรุงแต่งให้เกิดขึ้นมา เป็นต้น ซึ่งนี่แสดงว่า ไม่มีอะไรที่จะเกิดขึ้นมาได้เองลอยๆโดยไม่มีเหตุและปัจจัย ถ้าสิ่งใดเกิดขึ้นมาได้เองลอยๆโดยไม่มีเหตุและปัจจัย ก็เรียกว่าเหนือธรรมชาติ ซึ่งสิ่งที่เหนือธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะทุกสิ่งคือธรรมชาติ จะมีก็เพียงความเชื่อว่ามันมีเท่านั้น เช่นเรื่องเวทมนต์คาถา, อำนาจวิเศษ, ผู้วิเศษ, หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์, หรือจิตหรือวิญญาณที่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ที่เรียกว่า ผี, รวมทั้งเรื่อง นรก, สวรรค์, เทวดา, นางฟ้า เป็นต้นRules of this nature even as a simple rule, but there are a lot of marvelous powers, or until nothing comes resistance. This rule, which is the highest State in everything or control everything and inspired, everything is a go. If we understand this rule, maximum correctly, we will understand the basic truth of all things that exist in nature. Well, to understand the truth that we know of life and of all life. Therefore, understanding the roles of nature, this is the key that will be used to solve the mystery of life and nature, to make us understand the phenomena of the natural world as we know it.The cities of additiveก่อนอื่นเราจะต้องมาทำความเข้าใจกับคำว่า “ปรุงแต่ง” เสียก่อน จึงจะเข้าใจถึงกฎสูงสุดนี้ได้ถูกต้อง คือคำว่า ปรุงแต่ง หมายถึง การที่ธรรมชาติได้นำเอาสิ่งต่างๆหลายๆสิ่งมารวมตัวกัน แล้วเกิดเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ก็เรียกว่าเป็น “สิ่งปรุงแต่ง” อย่างเช่น ต้นแอปเปิลได้นำเอาดิน (ปุ๋ย), น้ำ, แสงแดด (ความร้อน), และก๊าซมารวมตัวกันจนเกิดเป็นลูกแอปเปิลขึ้นมา หรือการที่เชื้อของพ่อมาผสมกับไข่ของแม่ จึงเริ่มเกิดเป็นร่างกายของเราขึ้นมา หรือเมื่อเอาไม้มาเคาะระฆัง จึงเกิดเสียงระฆังขึ้นมา หรือเมื่อเราจุดเทียนจึงเกิดแสงสว่างขึ้นมา เป็นต้น ซึ่งทั้งลูกแอปเปิล, ร่างกาย, เสียงระฆัง, และแสงสว่าง ล้วนเป็น “สิ่งปรุงแต่ง” ทั้งสิ้น ซึ่งการปรุงแต่งของธรรมชาตินี้ นับว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างที่สุดของธรรมชาติ ที่เหมือนการใช้อำนาจวิเศษดลบันดาลสิ่งธรรมดาๆ ให้กลายมาเป็นสิ่งแปลกใหม่ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์การปรุงแต่งนี้ก็คล้ายกับการประกอบ หรือสร้าง หรือทำ ของคนหรือสัตว์ เพียงแต่ต่างกันตรงที่ การปรุงแต่งนี้เมื่อปรุงแต่งเสร็จแล้ว จะเกิดเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนแทบไม่หลงเหลือลักษณะเดิมของเหตุและปัจจัยที่นำมาปรุงแต่งเลย อย่างเช่น ลูกแอปเปิลนั้นแทบไม่หลงเหลือลักษณะของดิน, น้ำ, แสงแดด, และก๊าซให้พบเห็นได้เลย แต่การประกอบ หรือสร้าง หรือทำโดยคนหรือสัตว์นั้น จะยังคงมีลักษณะเดิมของสิ่งที่นำมาสร้างหรือประกอบให้พบเห็นได้ อย่างเช่น รถยนต์ ที่เราก็ยังเห็นลักษณะของส่วนประกอบทั้งหมด ที่นำมาประกอบเป็นรถยนต์ได้ หรือ รังต่อที่เรายังเห็นลักษณะของดินที่เอามาทำเป็นรังของมันได้ เป็นต้น แต่คำว่าปรุงแต่งนี้ก็นำมาใช้ในความหมายว่า ประกอบ หรือสร้าง หรือทำ โดยคนหรือสัตว์ก็ได้ แ
การแปล กรุณารอสักครู่..