"The law.The layout composition endlessly tales storiesThere are people who liked listening to old tales of millionaire life breath, exhale hoe, hoe stripping Grand tales have a beautiful daughter. Teenage girls 18-19 Lotus name pretty much learning has many men were regularly come to whirl, but was told he would be asked to listen to fairy tales to coax is interrupted. Both men hope to overcome that the father-in-law, told tales out of many stories out of the gut halts the belly to look forward to is the law, but enough to listen to the end, it doesn't have a story, and then you would hear from the millionaire, another story here. It also did not raise his daughter, who.Several young men were khayat to suppliers. I don't know how do they recruit. After several days, come here, there are no any man tell tales, listen to edgy, emotional experience, no Grand as they normally do the trick so he thought menopause than anyone can tell "endless story" to raise a daughter. Many young men have hope again. Seek to find a fable from a foreign land far more subject to talks, but that access to it and how many long story. It must end one day is not a day for any one day. So nobody was once married to the daughter of. Millionaire when many hear tales about a split mind, attentive but not pushy, rather than the original.Day one There are young to wander far from the border. The name over the past have heard stories about endless tales, so volunteers will try with sed, it tells the story of an "endless story", he would be listening to the body with the following:“ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีตากับยายสองคนมีอาชีพทำนาปลูกข้าวไว้หลายสิบไร่ ครั้งถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็นำข้าวเปลือกใส่ไว้ในยุ้งฉาง แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ แถวนั้นมีนกสองผัวเมียอาศัยอยู่ เห้นยุ้งฉางมีรอยโหว่จึงบินไปขโมยข้าวเปลือกของตากับยายกินทุกวัน โดยตัวหนึ่งจะเป็นยามอยู่คอยอยู่ข้างนอกรอ ผลัดกับตัวที่บินไปคาบข้าวเปลือก เป็นอยู่เช่นนี้หลายวัน จากวันเป็นเดือน อันว่าข้าวเปลือกนั้นไซร้ ก็หาหมดไม่ ดังนั้น “เมื่อตัวผู้คาบข้าวบินออก ตัวเมียก็บินเข้า พอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า ครั้นพอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก ตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า” ชายหนุ่มเล่าอย่างนี้วนไปวนมาใช้เวลาไป 1 วันเต็มๆ เศรษฐีเริ่มหงุดหงิด จึงเอ่ยปากถามว่า “มันเข้าบินออกอย่างนี้นิทานมันจะเดินหน้ายังไงว่ะ” เจ้าทับตอบว่า “แหม ก็ใจเย็นๆซีครับ....ก็มีข้าวเต็มยุ้งกว่ามันจะคาบไปหมด มันก็บินจนนับครั้งไม่ถ้วนนู่นแหละจ้ะ”ท่านเศรษฐีจึงรู้ว่ามันเป็นเล่ห์ลูกเล่นของเขาที่ทำให้ตนไม่สามารถทนฟังได้ จึงแกล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อเอ็งเล่าได้ ข้าก็ฟังได้ เอ็งมีปัญญาเล่าก็เล่าไป ฝ่ายนางบัวเรียน เมื่อเห็นชายหนุ่มมีความพยามและเห้นในความเฉลียวฉลาดจึง ตักน้ำเย็นใส่ขันมาให้ดื่มแก้คอแห้ง เจ้าทับจึงเล่าต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
“เมื่อตัวผู้คาบข้าวบินออก ตัวเมียก็บินเข้า พอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออกเมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก”
ชายหนุ่มเล่าอย่างนี้จนเวลาล่วงเข้าสู่วันที่ 3 ท่านเศรษฐีไม่อยากจะฟังแล้ว แต่ก็ไม่กล้ายอมแพ้ จนเวลาผ่านไป 7 วัน 7 คืนจนเศรษฐีแทบจะบ้าเป็นประสาทตาย เจ้าทับก็เล่าไปจนคอแหบคอแห้ง จนครบ 15 วัน เจ้าทับหมดเสียงที่จะเล่าจึงได้คลานไปกระซิบข้างหูของเศรษฐี “เมื่อตัวผู้คาบข้าวบินออก ตัวเมียก็บินเข้า พอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออกเมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก”
เศรษฐีสุดจะทน “พอแล้ว พอแล้วโว้ย ตูจะบ้าตายอยู่แล้ว
“แต่นิทานยังไม่จบนะครับ มาๆๆผมจะเล่าต่อ พอตัวผู้..........” เจ้าทับพูด
“กูบออกว่าไม่ต้อง เรื่องนี้ก็ไม่อยากฟังแล้ว” เศรษฐีตะโกน
“อย่างนั้นผมก็ชนะน่ะสิ ผมยังเล่าไม่ถึงครึ่งท่านก็เบื่อซะก่อน...เอ่อ อันที่จริงผมยังมีนิทานขนาดพอดีๆที่สนุกอีกนับไม่ถ้วน ไว้แต่งงานเสร็จแล้ว ผมจะเล่าให้ท่านฟังทุกวัน รับรองไม่ซ้ำแม้แต่เรื่องเดียว
“เออ แล้วเอ็งก็ไม่บอกตั้งแต่แรก” ท่านเศรษฐีได้ฟังดังนั้นค่อยหายโกรธ และพอใจที่ได้เขยดีๆแบบนี้ แสดงว่าเขารักลูกสาวเราจริง........
ข้อคิด ความพยามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่นั้นนะจ๊ะ แต่ถ้าพยายามขนาดนี้............เอ่อ..........เอ่อ...
ภาส ศิษย์พี่ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมความเป็นอีสานด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นอีสาน
การแปล กรุณารอสักครู่..
