ไดสรุปว่า พระองค์ไม่ได้ตั้งใจที่จะพ

ไดสรุปว่า
พระองค์ไม่ได้ตั้งใจที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยแก่ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะโดยส่วนพระองค์แล้ว พระองค์ก็ยังทรงเห็นว่า ในรัชสมัยของพระองค์ สยามยังไม่พร้อมกับการปกครองในระบบรัฐสภาและมีผู้แทนอยู่นั่นเอง ด้วยทรงเกรงว่ารัฐสภาสยามอาจถูกครอบงำโดยพรรคของคนจีน แต่ก็ทรงเห็นถึงความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง “เล่นเกมรัฐสภา” ในสยาม ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง เพราะในขณะนั้นพระองค์ต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านการเมืองที่อำนาจการปกครองตกอยู่ในหมู่เชื้อพระวงศ์ ทำให้กลุ่มข้าราชการรุ่นใหม่ๆ ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศไม่พอใจและเกิดปัญหาชนชั้นทางสังคมขึ้น อีกทั้งร่างรัฐธรรมนูญที่พระองค์จัดให้มีขึ้นนั้น ก็มิได้มีลักษณะที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เห็นได้จากการที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์ (มาตรา 1) พระมหากษัตริย์เป็นผู้ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบต่อการบริหารราชการแผ่นดินทั้งปวงและให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งตามพระราชอัธยาศัย(มาตรา 2) นายกรัฐมนตรีต้องปฏิบัติตามพระบรมราชโองการ (มาตรา 6) ทรงเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งศาลฎีกาและศาลอื่นๆ ให้เป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการ (มาตรา 10) และอำนาจสูงสุดทางนิติบัญญัติเป็นของพระมหากษัตริย์ เป็นต้น ดังนั้น ความพยายามของพระองค์ที่แสดงให้เห็นว่า พระองค์ก็เป็นนักประชาธิปไตยและพยายามนำระบอบประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทยจึงเป็นเพียงการเล่นเกมรัฐสภา เพื่อลดแรงกดดันจากกระแสเรียกร้องจากกลุ่มหัวก้าวหน้าและกลุ่มหัวรุนแรงให้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบประชาธิปไตยในขณะนั้นเท่านั้น อีกทั้งภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว พระองค์และฝ่ายกษัตริย์นิยมได้พยายามต่อสู้และเรียกร้องอำนาจกษัตริย์คืนจากคณะราษฎร แต่ภายหลังการก่อการรัฐประหารที่ล้มเหลว (กบฏบวรเดช) ของฝ่ายกษัตริย์นิยมที่ต้องการล้มล้างคณะราษฎรและฟื้นฟูอำนาจกษัตริย์ในปี ค.ศ.1933 พระองค์ก็สละราชสมบัติและเสด็จไปประทับที่ประเทศอังกฤษ อันแสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ทางการเมืองของพระองค์และฝ่ายกษัตริย์นิยมต่อรัฐบาลคณะราษฎรในขณะนั้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Dai concluded that พระองค์ไม่ได้ตั้งใจที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยแก่ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะโดยส่วนพระองค์แล้ว พระองค์ก็ยังทรงเห็นว่า ในรัชสมัยของพระองค์ สยามยังไม่พร้อมกับการปกครองในระบบรัฐสภาและมีผู้แทนอยู่นั่นเอง ด้วยทรงเกรงว่ารัฐสภาสยามอาจถูกครอบงำโดยพรรคของคนจีน แต่ก็ทรงเห็นถึงความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง “เล่นเกมรัฐสภา” ในสยาม ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง เพราะในขณะนั้นพระองค์ต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านการเมืองที่อำนาจการปกครองตกอยู่ในหมู่เชื้อพระวงศ์ ทำให้กลุ่มข้าราชการรุ่นใหม่ๆ ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศไม่พอใจและเกิดปัญหาชนชั้นทางสังคมขึ้น อีกทั้งร่างรัฐธรรมนูญที่พระองค์จัดให้มีขึ้นนั้น ก็มิได้มีลักษณะที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เห็นได้จากการที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์ (มาตรา 1) พระมหากษัตริย์เป็นผู้ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบต่อการบริหารราชการแผ่นดินทั้งปวงและให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งตามพระราชอัธยาศัย(มาตรา 2) นายกรัฐมนตรีต้องปฏิบัติตามพระบรมราชโองการ (มาตรา 6) ทรงเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งศาลฎีกาและศาลอื่นๆ ให้เป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการ (มาตรา 10) และอำนาจสูงสุดทางนิติบัญญัติเป็นของพระมหากษัตริย์ เป็นต้น ดังนั้น ความพยายามของพระองค์ที่แสดงให้เห็นว่า พระองค์ก็เป็นนักประชาธิปไตยและพยายามนำระบอบประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทยจึงเป็นเพียงการเล่นเกมรัฐสภา เพื่อลดแรงกดดันจากกระแสเรียกร้องจากกลุ่มหัวก้าวหน้าและกลุ่มหัวรุนแรงให้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบประชาธิปไตยในขณะนั้นเท่านั้น อีกทั้งภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว พระองค์และฝ่ายกษัตริย์นิยมได้พยายามต่อสู้และเรียกร้องอำนาจกษัตริย์คืนจากคณะราษฎร แต่ภายหลังการก่อการรัฐประหารที่ล้มเหลว (กบฏบวรเดช) ของฝ่ายกษัตริย์นิยมที่ต้องการล้มล้างคณะราษฎรและฟื้นฟูอำนาจกษัตริย์ในปี ค.ศ.1933 พระองค์ก็สละราชสมบัติและเสด็จไปประทับที่ประเทศอังกฤษ อันแสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ทางการเมืองของพระองค์และฝ่ายกษัตริย์นิยมต่อรัฐบาลคณะราษฎรในขณะนั้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Has concluded that
he did not intend to be a constitution that is truly democratic public. Because of him, He also saw that In his reign Siam was not ready to rule in Parliament and a representative there. With the fear that parliament may be dominated by Siam Party of China. But he stressed the need inevitably have to be. "Play the Game" in Siam at any one time. Because at that time he was faced with the problem of political power falls among the royals. The new version makes it official Who graduated from foreign resentment and problems in social classes. The draft constitution that he held it. It was a truly democratic manner. Seen from the draft constitution has clearly stated that. Sovereignty belongs to the monarch (Article 1) King, who appoints the prime minister is responsible for the administration of all and the Prime Minister in office by royal command (Section 2), the prime minister must follow the edict (section 6. ) He is an authority appointed by the Supreme Court and other courts. To the use of judicial power (Article 10) and the legislative supremacy of the king etc. His efforts so that shows that. He was a Democrat and trying to bring democracy to Thailand is a social gaming Parliament. To reduce the pressure of the demands from a group of progressive and radical groups to a rule change from absolute monarchy to a democracy at that time only. The subsequent change of government then. His popularity and the king has tried to fight back and claim sovereignty of the people. But after the coup failed (boworadet rebellion) of Royalist who want to overthrow the monarchy and restoration of Representatives in 1933, he abdicated and went and sat in England. It represents a political defeat for the king and his government toward the people at that time.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The conclusion that
.He didn't mean to a democratic constitution to the people truly, because by her, he had that. In his reign.He was afraid the Siam may be dominated by the obstacles of Chinese people. But he saw the necessity inevitability to "play the game in Parliament." guard at any one time.Make the official version. Graduated from the foreign offensive and problem of social class. The constitution which he held. It is not a true democracy.Sovereignty belongs to the king (Section 1) king is the appointment of the prime minister is responsible for the administration of all and the prime minister position according to the saturation characteristics (section. 2).(Section 6) was appointed Supreme Court and other courts authority As the user judicial power (Section 10) and the highest authority legislative belongs to the king, etc. Therefore, the efforts of his shows.To reduce the pressure of current claims from the progressive group and radical changes to the rule of absolute monarchy to democracy at that time. The subsequent rule changes.But after the coup failed (the boworadet rebellion) of the Cavalier to ล้มล้างคณะราษฎร and restoration of power, the king in C.Professor 1933 he abdicated and went and stood in England. Which shows that the defeat of his political and คณะราษฎรใน Cavalier to government at that time.