ระบบคอมมอนลอร์เป็นระบบกฎหมายที่พัฒน

ระบบคอมมอนลอร์เป็นระบบกฎหมายที่พัฒนาขึ้นในประเทศอังกฤษตั้งแต่อดีตกาล ซึ่งในสมัยนั้นการใช้กฎหมายในประเทศอังกฤษได้รับอิทธิพลจากกฎหมายโรมันเพียงเล็กน้อย โดยกฎหมายที่ใช้บังคับก็คือ กฎหมายจารีตประเพณีของท้องถิ่นต่าง ๆ ของกลุ่มชนเป็นจำนวนมากที่มีภูมิลิเนาอยู่เขตพื้นที่ประเทศอังกฤษกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปและมีจารีตประเพณี กฎเกณฑ์กำหนดวิถีชีวิตของสมาชิกในกลุ่มของตน ทำให้จารีตประเพณีมีลักษณะที่หลากหลายและขาดเอกภาพ จนกระทั่งมีการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทราชย์ภายใต้การปกครองของ “กษัตริย์” ที่มีอำนาจสูงสุดเด็ดขาด มีการจัดระบบการปกครองเสียใหม่ ในรูปการครองที่ดิน อันเป็นการเสริมให้พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจเหนือศักดินาอื่นๆ เเละได้ตั้งตัวแทนของกษัตริย์ในลักษณะของศาลที่เดินทางไปตัดสินคดีในท้องถิ่นต่าง ๆ เรียกว่า “ศาลหลวง” ( Royal Corut ) วิธีการพิจารณาวินิจฉัยของศาลหลวงนั้นมี 2 วิธีคือ
1) เป็นการนำเอาจารีตประเพณีของท้องถิ่นมาปรับใช้กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้เมื่อมีคำตัดสินจากศาลหลวงดังกล่าวท้องถิ่นนั้น ๆ ต้องยอมรับและปฏิบัติตาม สำหรับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างท้องถิ่นและมีปัญหาว่าจะใช้จารีตประเพณีของท้องถิ่นใดตัดสิน ได้รับการคลี่คลายโดยระบบศาลหลวงเป็นผู้ตัดสินคดีข้อพิพาทนั้น ๆ เช่นกัน
2) ในกรณีที่ไม่มีจารีตประเพณีของท้องถิ่นศาลหลวงจำต้องสร้างหลักกฎหมายขึ้นมาใหม่โดยเป็นการใช้เหตุผลไปพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่เกิดเป็นข้อพิพาทแล้วศาลหลวงวางหลักเกณฑ์ในการตัดสินชี้ขาดจากการพิจารณาเหตุผลที่แฝงอยู่ในความสัมพันธ์ทางข้องเท็จจริงนั้นหลักเกณฑ์เช่นนี้เป็นหลักเกณฑ์ที่ต่างจากการใช้กฎหมายท้องถิ่นแบบเดิมมิใช่เป็นกฎหมายจารีตประเพณีแต่เป็นการวินิจฉัยคดีตามหลักกฎหมายทั่วไปนั้นเอง
ต่อมาเมื่อระยะเวลานานขึ้นจึงได้พัฒนาเป็นระบบเดียวกันภายใต้กฎเกณฑ์ที่ศาลหลวงเป็นผู้กำหนดโดยมิได้แบ่งแยกเช่นเดิมอีกต่อไป ซึ่งการพัฒนาเป็นระบบเดียวกันภายใต้กฎเกณฑ์ที่ศาลหลวงเป็นผู้กำหนดโดยมิได้แบ่งแยกเช่นเดิมอีกต่อไป ซึ่งการจัดระบบจารีตประเพณีเป็นหนึ่งเดียวนี้จึงทำให้เป็นระบบส่วนกลาง หรือระบบคอมมอนลอว์ (Common Law) โดยที่หลักคอมมอนลอว์นั้นถือว่าเป็นหลักกฎหมายที่ศาลสร้างขึ้นมาจากจารีตประเพณีหรือจากหลักเหตุผลที่ได้จากการพิจารณาข้อเท็จจริงในข้อพิพาท ไม่ใช่เป็นการตัดสินตามอำเภอใจดังนี้ทำให้มีการยึดหลักเกณฑ์ในคำพิพากษาที่มีมาก่อนมาใช้ในการตัดสินที่มีข้อเท็จจริงเกิดขึ้นแบบเดียวกันในภายหลังตามหลักการที่กล่าวว่าข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนกัน และพัฒนาต่อมาจนเกิดเป็นทฤษฎีการตัดสินโดยยึดหลักกฎหมายตามคำพิพากษา (The doctrine of precedent) ในราวปลายศตวรรษที่ 18
และต่อมาเมื่อระบบคอมมอนลอว์ได้พัฒนาถึงขีดสุดในช่วงศตวรรษที่ 15 จนไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ ไม่ว่าจะด้วยการมีกระบวนพิจารณาที่เคร่งครัดจำกัดมากเกินไปและต้องผูกพันอยู่กับคำพิพากษาบรรทัดฐานของศาลคอมมอนลอว์ กฎหมายคอมมอนลอว์ของศาลหลวงเริ่มไม่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม จนไม่สามารถตอบสนองกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม หรือแนวคิดของผู้พิพากษาที่เป็นอนุรักษ์นิยมจนมากเกินไปทำให้มีผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาลคอมมอนลอว์ ต้องหันไปพึ่งพิงและร้องของความเป็นธรรมจาก Load Chancellor ราชเลขานุการของพระมหากษัตริย์เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนดังกล่าว Load Chancellor มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ Court of Chancery ได้เยียวยาความเดือดร้อนแก่ผู้ร้องทุกข์ โดยยึดหลักความเป็นธรรมในแต่ละกรณี (The Equity of the case) กล่าวคือ วินิจฉัยคดีโดยยึดหลักประโยชน์สุขและความยุติธรรมในสังคมเป็นใหญ่ มิได้ยึดถือตามหลักกฎหมายตามแนว คำพิพากษาแบบศาลคอมมอนลอว์ จนพัฒนาเป็นหลักเอคคิวตี้ขึ้นในที่สุด หลักเอคคิวตี้นี้จึงเป็นกฎหมายของประเทศอังกฤษอีกหลักหนึ่งที่เกิดขึ้นเพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ควบคู่ไปกับระบบคอมมอนลอว์ ในกรณีระบบคอมมอนลอว์มิได้ให้ความเป็นธรรมให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ครั้นถึงศตวรรษที่ 18 เมื่อชนชั้นอังกฤษเติบใหญ่ขึ้นจนเข้ายึดกุมรัฐสภาได้ และมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้มีการออกกฎหมายมาแก้ไขหลักฎหมายคอมมอนลอว์ที่ไม่สอดคล้องกับการขยายของทุนนิยมในสมัยนั้น ในช่วงแรกศาลคอมมอนลอว์ปฏิเสธที่จะใช้กฎหมายลายลักษณ์อักษรที่สภาบัติญัติขึ้น เพราะผู้พิพากษามีความเชื่อว่า คอมมอนลอว์เป็นระบบเหตุผลที่ได้รับการปรุงแต่งโดยนักปราชญ์มานานจนเป็นระบบที่สมบูรณ์แล้ว แต่นานเข้าความต้องการของมหาชนได้บีบบังคับให้ศาลต้องยอมรับกฎหมายลายลักษณ์อักษร กระนั้นศาลก็ยังคงอิดเอื้อนและพยายามที่จะสงวนสิทธิที่จะไม่ใช้กฎหมายของรัฐสภา เมื่อกฎหมายขัดต่อเหตุผลหรือความรู้สึกของมหาชน โดยศาลอ้างเสรีภาพที่จะไม่ใช้กฎหมายนั้นบังคับ ในที่สุดรัฐสภาอังกฤษจึงได้บังคับให้ศาลนำกฎหมายที่รัฐสภาออกไปใช้บังคับ โดยศาลไม่มีดุลยพินิจงดใช้กฎหมาย ผลจากกฎหมายนี้ทำให้ศาลคอมมอนลอว์เลี่ยงไปสร้างหลักการตีความกฎหมายลายลักษณ์อักษร โดยให้กฎหมายลายลักษณ์อักษรมีผลน้อยที่สุด โดยถือว่าบทกฎหมายลายลักษณ์อักษรเป็นข้อยกเว้นของหลักคอมมอนลอว์ จึงพยายามตีกฎหมายให้แคบและเคร่งครัดเข้าไว้ยึดตัวอักษรเป็นหลักโดยไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือหลักตีความตามตัวอักษร (Literal Rule) ทำให้กฏหมายลายลักษณ์อักษรกินความไม่กว้าง เมื่อกฎหมายกินความแคบศาลก็มีโอกาสนำหลักคอมมอนลอว์อันเป็นหลักทั่วไปมาใช้บังคับแก่กรณีนั้น
การวิวัฒนาการของฝ่ายนิติบัญญัติที่ดำเนินควบคู่ไปกับการขยายอิทธิพลของรัฐประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม และแนวความคิดของ Jeremy Bentham ทำให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายวิธีพิจารณาความในตอนกลางศตวรรษที่ 19 เป็นการทำลายเครื่องรั้งพัฒนาการของกฎหมายอังกฤษครั้งสำคัญ จากนั้นมานักกฎหมายและศาลอังกฤษจึงค่อยๆ หันมายอมรับกฎหมายสารบัญญัติมากขึ้น และเป็นผลให้ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ได้รับการจัดระบบให้ดีขึ้นมีการปรับปรุงองค์กรตุลาการ โดยผลของ Judicature Acts 1873-1875 ศาลอังกฤษทั้งหมดสามารถใช้กฎหมาย Equity ควบคู่ไปกับหลักคอมมอนลอว์ได้ แต่กฎหมายอังกฤษก็ยังคงรักษาแบบฉบับเดิมไว้ โดยถือว่าคำพิพากษาของศาลเป็นบ่อเกิดของกฎหมายซึ่งต่างจากระบบชีวิลลิว์ในประเทศภาคพื้นยุโรปในนัยนี้ รัฐสภาอังกฤษมีฐานะเพียงเป

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The system is a system of law common Yelahanka developed in England since the use of the past tense, which is the law in England has been influenced by Roman law, only slightly by the applicable law is the law of customary local people is a lot of.Hotel and restaurant is a zone chart, uk general and scattered with customary. The rules define the life of a member of their group. Make a variety of customary behavior and lack of solidarity. Until there is a sombunnaya regime, under the rule of Simeon tharat "King" ultimate authority counsel. There is a new system of Government waste. In the land of the King, has the prerogative over the other and the sakdina. the representative of the King in the style of a court to decide the case in a different locality. Called the "Royal Court" (Royal Corut) how to determine the diagnosis of the Royal Court are 2 ways:1) เป็นการนำเอาจารีตประเพณีของท้องถิ่นมาปรับใช้กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้เมื่อมีคำตัดสินจากศาลหลวงดังกล่าวท้องถิ่นนั้น ๆ ต้องยอมรับและปฏิบัติตาม สำหรับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างท้องถิ่นและมีปัญหาว่าจะใช้จารีตประเพณีของท้องถิ่นใดตัดสิน ได้รับการคลี่คลายโดยระบบศาลหลวงเป็นผู้ตัดสินคดีข้อพิพาทนั้น ๆ เช่นกัน2) ในกรณีที่ไม่มีจารีตประเพณีของท้องถิ่นศาลหลวงจำต้องสร้างหลักกฎหมายขึ้นมาใหม่โดยเป็นการใช้เหตุผลไปพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่เกิดเป็นข้อพิพาทแล้วศาลหลวงวางหลักเกณฑ์ในการตัดสินชี้ขาดจากการพิจารณาเหตุผลที่แฝงอยู่ในความสัมพันธ์ทางข้องเท็จจริงนั้นหลักเกณฑ์เช่นนี้เป็นหลักเกณฑ์ที่ต่างจากการใช้กฎหมายท้องถิ่นแบบเดิมมิใช่เป็นกฎหมายจารีตประเพณีแต่เป็นการวินิจฉัยคดีตามหลักกฎหมายทั่วไปนั้นเองต่อมาเมื่อระยะเวลานานขึ้นจึงได้พัฒนาเป็นระบบเดียวกันภายใต้กฎเกณฑ์ที่ศาลหลวงเป็นผู้กำหนดโดยมิได้แบ่งแยกเช่นเดิมอีกต่อไป ซึ่งการพัฒนาเป็นระบบเดียวกันภายใต้กฎเกณฑ์ที่ศาลหลวงเป็นผู้กำหนดโดยมิได้แบ่งแยกเช่นเดิมอีกต่อไป ซึ่งการจัดระบบจารีตประเพณีเป็นหนึ่งเดียวนี้จึงทำให้เป็นระบบส่วนกลาง หรือระบบคอมมอนลอว์ (Common Law) โดยที่หลักคอมมอนลอว์นั้นถือว่าเป็นหลักกฎหมายที่ศาลสร้างขึ้นมาจากจารีตประเพณีหรือจากหลักเหตุผลที่ได้จากการพิจารณาข้อเท็จจริงในข้อพิพาท ไม่ใช่เป็นการตัดสินตามอำเภอใจดังนี้ทำให้มีการยึดหลักเกณฑ์ในคำพิพากษาที่มีมาก่อนมาใช้ในการตัดสินที่มีข้อเท็จจริงเกิดขึ้นแบบเดียวกันในภายหลังตามหลักการที่กล่าวว่าข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนกัน และพัฒนาต่อมาจนเกิดเป็นทฤษฎีการตัดสินโดยยึดหลักกฎหมายตามคำพิพากษา (The doctrine of precedent) ในราวปลายศตวรรษที่ 18และต่อมาเมื่อระบบคอมมอนลอว์ได้พัฒนาถึงขีดสุดในช่วงศตวรรษที่ 15 จนไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ ไม่ว่าจะด้วยการมีกระบวนพิจารณาที่เคร่งครัดจำกัดมากเกินไปและต้องผูกพันอยู่กับคำพิพากษาบรรทัดฐานของศาลคอมมอนลอว์ กฎหมายคอมมอนลอว์ของศาลหลวงเริ่มไม่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม จนไม่สามารถตอบสนองกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม หรือแนวคิดของผู้พิพากษาที่เป็นอนุรักษ์นิยมจนมากเกินไปทำให้มีผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาลคอมมอนลอว์ ต้องหันไปพึ่งพิงและร้องของความเป็นธรรมจาก Load Chancellor ราชเลขานุการของพระมหากษัตริย์เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนดังกล่าว Load Chancellor มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ Court of Chancery ได้เยียวยาความเดือดร้อนแก่ผู้ร้องทุกข์ โดยยึดหลักความเป็นธรรมในแต่ละกรณี (The Equity of the case) กล่าวคือ วินิจฉัยคดีโดยยึดหลักประโยชน์สุขและความยุติธรรมในสังคมเป็นใหญ่ มิได้ยึดถือตามหลักกฎหมายตามแนว คำพิพากษาแบบศาลคอมมอนลอว์ จนพัฒนาเป็นหลักเอคคิวตี้ขึ้นในที่สุด หลักเอคคิวตี้นี้จึงเป็นกฎหมายของประเทศอังกฤษอีกหลักหนึ่งที่เกิดขึ้นเพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ควบคู่ไปกับระบบคอมมอนลอว์ ในกรณีระบบคอมมอนลอว์มิได้ให้ความเป็นธรรมให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ครั้นถึงศตวรรษที่ 18 เมื่อชนชั้นอังกฤษเติบใหญ่ขึ้นจนเข้ายึดกุมรัฐสภาได้ และมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้มีการออกกฎหมายมาแก้ไขหลักฎหมายคอมมอนลอว์ที่ไม่สอดคล้องกับการขยายของทุนนิยมในสมัยนั้น ในช่วงแรกศาลคอมมอนลอว์ปฏิเสธที่จะใช้กฎหมายลายลักษณ์อักษรที่สภาบัติญัติขึ้น เพราะผู้พิพากษามีความเชื่อว่า คอมมอนลอว์เป็นระบบเหตุผลที่ได้รับการปรุงแต่งโดยนักปราชญ์มานานจนเป็นระบบที่สมบูรณ์แล้ว แต่นานเข้าความต้องการของมหาชนได้บีบบังคับให้ศาลต้องยอมรับกฎหมายลายลักษณ์อักษร กระนั้นศาลก็ยังคงอิดเอื้อนและพยายามที่จะสงวนสิทธิที่จะไม่ใช้กฎหมายของรัฐสภา เมื่อกฎหมายขัดต่อเหตุผลหรือความรู้สึกของมหาชน โดยศาลอ้างเสรีภาพที่จะไม่ใช้กฎหมายนั้นบังคับ ในที่สุดรัฐสภาอังกฤษจึงได้บังคับให้ศาลนำกฎหมายที่รัฐสภาออกไปใช้บังคับ โดยศาลไม่มีดุลยพินิจงดใช้กฎหมาย ผลจากกฎหมายนี้ทำให้ศาลคอมมอนลอว์เลี่ยงไปสร้างหลักการตีความกฎหมายลายลักษณ์อักษร โดยให้กฎหมายลายลักษณ์อักษรมีผลน้อยที่สุด โดยถือว่าบทกฎหมายลายลักษณ์อักษรเป็นข้อยกเว้นของหลักคอมมอนลอว์ จึงพยายามตีกฎหมายให้แคบและเคร่งครัดเข้าไว้ยึดตัวอักษรเป็นหลักโดยไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือหลักตีความตามตัวอักษร (Literal Rule) ทำให้กฏหมายลายลักษณ์อักษรกินความไม่กว้าง เมื่อกฎหมายกินความแคบศาลก็มีโอกาสนำหลักคอมมอนลอว์อันเป็นหลักทั่วไปมาใช้บังคับแก่กรณีนั้น
การวิวัฒนาการของฝ่ายนิติบัญญัติที่ดำเนินควบคู่ไปกับการขยายอิทธิพลของรัฐประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม และแนวความคิดของ Jeremy Bentham ทำให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายวิธีพิจารณาความในตอนกลางศตวรรษที่ 19 เป็นการทำลายเครื่องรั้งพัฒนาการของกฎหมายอังกฤษครั้งสำคัญ จากนั้นมานักกฎหมายและศาลอังกฤษจึงค่อยๆ หันมายอมรับกฎหมายสารบัญญัติมากขึ้น และเป็นผลให้ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ได้รับการจัดระบบให้ดีขึ้นมีการปรับปรุงองค์กรตุลาการ โดยผลของ Judicature Acts 1873-1875 ศาลอังกฤษทั้งหมดสามารถใช้กฎหมาย Equity ควบคู่ไปกับหลักคอมมอนลอว์ได้ แต่กฎหมายอังกฤษก็ยังคงรักษาแบบฉบับเดิมไว้ โดยถือว่าคำพิพากษาของศาลเป็นบ่อเกิดของกฎหมายซึ่งต่างจากระบบชีวิลลิว์ในประเทศภาคพื้นยุโรปในนัยนี้ รัฐสภาอังกฤษมีฐานะเพียงเป

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Common system's legal system was developed in England since ancient times. In those days, the law in England was influenced by Roman law a little. The applicable law is. Customary laws of various local ethnic groups, many of which are autoimmune conditions residence areas scattered around England and tradition. Regulations define the lives of members of their group. It's customary to look at the variety and lack of unity. Until the absolutist regime ultimate reign under the rule of the "king" who has absolute supremacy. The new regime is broken. In the land As a supplement to the Crown prerogative over other landholders. Were not representative of the king in the court to decide a case in a local variety called "Salhlwg" (Royal Corut) to consider the diagnosis of Salhlwg are two ways:
1) is bringing the tradition of local adaptation. Use the facts that occurred following the decision of the local Salhlwg it must accept and follow. For disputes that arise between a local and a decision whether to use any of the local tradition. Has been solved by Salhlwg a judge disputes such as
two) in the absence of a tradition of local Salhlwg must establish the rule of law was renewed by the use of reason to consider the fact that a dispute already Salhlwg place. Criteria for the award of the reason lies in the fact that the relationship of the rules, such as rules that differ from the original local law is not a law but a judge ruling in accordance with the law. Generally it
later when longer periods of time, we have developed a system under the same rules as those set Salhlwg without discrimination as before anymore. The system was developed under the same rules as those set Salhlwg without discrimination as before anymore. The organization of this tradition is the only one making it a centralized system. Or common law (Common Law) by which the common law that is essentially made ​​up of a customary law court or the main reason of the facts in dispute. Not an arbitrary decision made ​​following the principle of judgment that have come before the judge with the same facts occur in accordance with the principle that the facts must be treated alike. And later developed a theory until a judgment based on law, the Judgment (The doctrine of precedent) at the end of the century. 18
and later, when the common law had developed to the maximum in the 15th century can not be developed further. Whether the proceedings are strictly limited and must be binding on the Supreme Court, the norms of common law. Law common law of Salhlwg start inconsistent with the needs of society. I can not respond to issues that arise from the transformation of society. Or the concept of judges who are conservative and too many people do not get justice from the court common law. To turn to and rely upon the fairness of liaising Load Chancellor of the Crown to ameliorate the suffering of the Load Chancellor has offices in the Court of Chancery has healed hardship to the complainant. The principle of fairness in each case (The Equity of the case), that is discrimination cases based on social justice and the benefits are huge. Nor abided by the law along. A common law court judgment. The main development was beaten up in the queue. The main accumulators This utility is the law of England as the one that occurred to deliver justice to the people. Coupled with common law. In the common law system is to be fair to have a more complete
pass to the 18th century when the British upper classes grow up and took hold of Parliament. And with more and more power. There has been legislation to amend the law, the common law is inconsistent with the expansion of capitalism in those days. In the early common law court refused to apply the law written on the practice commandments up. The judge believes. Common law system is the reason that has been prepared by scholars, so long as the system is complete. But the longer he needs the public has forced the court to accept written law. Nonetheless, the court was still reluctant to say or do anything, and try to reserve the right not to apply the law of Parliament. When the law is contrary to reason or sense of the public. The court cited the freedom not to use the law to force. The British parliament has adopted a law that forced the Congress to use force. The court has no discretion to suspend the law. The result of this law, the court avoided to create a common law principle of statutory interpretation. The statute has a minimal effect. The law is written exceptions to the common law. So try to hit a narrow and strict laws to seize the main character, regardless of the intent of the law. Main is interpreted literally (Literal Rule) makes the law written not eat a wide. The law implies a narrow court, it is likely to bring the common law as a general principle applicable to the case that
the evolution of legislative action, coupled with the growing influence of the liberal democratic state. And the concept of Jeremy Bentham cause procedure law reform in the mid-19th century to destroy the law, Brace development of English major. Then comes the law and the English courts gradually. Turn to accept a more substantive law. As a result, common law legal system has been improved to better organize the judiciary by the English Court of Judicature Acts 1873-1875 Total Equity legislation can be used in conjunction with a major common law. But the law also retains the original style. The Court considered a source of legislation, which differ from species Willis establishments in the country in this continent. Just as the British Parliament

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Common lore is the legal system that developed in England since ancient times. , which in those days to apply the law in England was influenced by Roman law, just a little. The applicable law is.Any of the class a lot with the landscape application area scattered copies in England and is customary. The rules define the lifestyle of their group members The customs have a wide variety of styles and a lack of unity."The king" has the highest authority. There is the new rule in the form to dominate the land. As a supplement to the king there was a royal authority over other feudal, called "ศาลหลวง" (Royal Corut) how to consider the diagnosis of ศาลหลวง is 2 way is
.1) is to take the local customary to serve with the facts occurred as follows: when the verdict from the ศาลหลวง local. , to accept and follow.Is solved by the system ศาลหลวง is judge the dispute, as well
.2).In the absence of local customs ศาลหลวง must build up a new law to consider the fact that the เป็นการใช้ reason is the dispute ศาลหลวง put rules in making casting by considering why passive.In the possibilities that this relationship is different from the criteria criteria using local law traditional customary law but it is not diagnosed cases by the law ทั่วไปนั้น own
.And it came to pass, when long period and developed into the same system under the rules ศาลหลวง is defined not divided as before anymore.The customary system is one of the central system or common law system (Common Law).Not decide arbitrarily as follows to adhere to criterion in the prior used in decision with facts happened the same principle that later said the same facts must be profitable.Practice too., and later developed until a decision theory based on the principles of law according to judgment (The doctrine of precedent) around the century 18
.And it came to pass, when common law has developed to the limit in the last century 15 that cannot be further developed. No matter the procedure strictly limited too, and be joined to คำพิพากษาบรรทัดฐาน court of common law.And can not meet with the problems caused by the change of the society. Or the concept of justice is too conservative to people who do not receive a fair from the court of common law.Load Chancellor tank of the king to heal suffered such Load Chancellor office located at the Court. Of Chancery healing disturbance to complainant. Based on the principles of fairness, in each case (The Equity of the case).Diagnosis cases based on the benefit and social justice is big. Not based on legal principles along. A court judgment, common law To develop is primarily an cutie up eventually.Alongside the common In the case of common law is not fair to have more complete
.