กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง ซึ่งชอบปลอมตัวออกไปสำรวจความเป็นอยู่ของประชาชนกับมหาดเล็กคนสนิทอยู่เสมอ วันหนึ่งขณะที่เดินไปในหมู่บ้าน พระราชาได้กลิ่นหอมประหลาดซึ่งไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อน จึงให้มหาดเล็กไปสืบดู จึงรู้ว่ากลิ่นหอมดังกล่าวมาจากกระท่อมของหญิงชราที่กำลังตำข้าวเปลือกอยู่
มหาดเล็กกลับมาทูลว่า กลิ่นหอมประหลาดนี้คือ กลิ่นของแกลบ ได้ยินดังนั้นพระราชาทรงอยากจะเสวย มหาดเล็กทูลว่า แกลบเป็นอาหารของวัว ไม่เหมาะสมที่จะมาเป็นอาหารของพระราชา แต่พระราชาก็ไม่ฟัง มีรับสั่งให้มหาดเล็กนำแกลบมาปรุงเป็นอาหาร และกำชับห้ามไม่ให้มหาดเล็กบอกแก่ผู้ใด
เมื่อเป็นเช่นนั้นมหาดเล็คนสนิทรู้สึกอึดอัด อยากจะระบายความในใจ จึงเข้าไปในป่าลึก เห็นต้นไม้ใหญ่ที่มีโพรงในลำต้นจึงเอาศรีษะซุกเข้าไปในโพรงแล้วกระซิบว่า “พระราชาเสวยแกลบเจ้าข้า” แล้วมหาดเล็กก็ออกมาด้วยความโล่งใจ
หลายวันต่อมา ในพระราชวังมีกำลังจะมีงานพิธีใหญ่ คนกลองอยากจะเปลี่ยนกลอง จึงให้คนไปหาต้นไม้ใหญ่มาทำกลอง คนตัดไม้ก็ไปเลือกต้นไม้ใหญ่มีโพรงที่มหาดเล็กกระซิบความลับ เมื่อโคนต้นไม้ใหญ่นั้นมาทำเป็นกลองใบใหม่สวยงาม พระราชาพอพระทัยมาก พอเสร็จพิธี คนกลองก็ตีกลองใบใหม่ แทนที่กลองจะดัง “ตูม ตูม” แต่กลับมีเสียงว่า “พระราชาเสวยแกลบเจ้าข้า” พระราชากริ้วมากสั่งให้นำกลองไปทิ้งในแม่น้ำ จากนั้นก็ทรงทรงสอบถามมหาดเล็กคนสนิท มหาดเล็กรับสารภาพ พระราชาก็ให้อภัยแต่ไม่โปรดให้ตามเสด็จอีกเลย