จอร์จ วอชิงตัน  เป็นผู้นำทางทหารและการเมืองที่โดดเด่นของสหรัฐอเมริกาที การแปล - จอร์จ วอชิงตัน  เป็นผู้นำทางทหารและการเมืองที่โดดเด่นของสหรัฐอเมริกาที อังกฤษ วิธีการพูด

จอร์จ วอชิงตัน เป็นผู้นำทางทหารและ

จอร์จ วอชิงตัน
เป็นผู้นำทางทหารและการเมืองที่โดดเด่นของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น ระหว่าง ค.ศ. 1775 ถึง 1799 เขานำสหรัฐจนได้รับชัยชนะเหนือบริเตนใหญ่ในสงครามปฏิวัติอเมริกัน ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพภาคพื้นทวีปใน ค.ศ.1775-1783 และรับผิดชอบการร่างรัฐธรรมนูญใน ค.ศ. 1787 เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 1789-1797 วอชิงตันเป็นผู้นำการสร้างรัฐบาลแห่งชาติที่เข้มแข็งและมีการคลังที่ดี ซึ่งวางตนเป็นกลางในสงครามที่ปะทุขึ้นในยุโรป ปราบปรามกบฏและได้รับการยอมรับจากชนอเมริกันทุกประเภท รูปแบบความเป็นผู้นำของเขาได้กลายมาเป็นระเบียบพิธีของรัฐบาลซึ่งปฏิบัติสืบต่อกันมานับแต่นั้น อาทิ การใช้ระบบคณะรัฐมนตรีและการปราศรัยในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ วอชิงตันได้รับการยกย่องทั่วไปว่าเป็น "บิดาแห่งประเทศของเขา" ด้วย
ใน ค.ศ. 1775 รัฐสภาอาณานิคมได้แต่งตั้งวอชิงตันเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพปฏิวัติอเมริกัน ปีถัดมา เขานำทัพขับไล่กองทัพอังกฤษออกจากบอสตัน เสียนครนิวยอร์ก ข้ามแม่น้ำเดลาแวร์ในนิวเจอร์ซีย์ และสามารถรบชนะข้าศึกซึ่งยังไม่ทันตั้งตัวในปลายปีเดียวกัน ผลของยุทธศาสตร์ที่เขาใช้ ทำให้กองกำลังปฏิวัติอเมริกันสามารถยึดกำลังรบสำคัญของอังกฤษ 2 แห่งที่ซาราโตกาและยอร์กทาวน์ ด้วยการเจรจากับสภาอาณานิคมทั้งสิบสาม รัฐอาณานิคม และพันธมิตรฝรั่งเศส วอชิงตันได้รวบรวมกองทัพอันไร้ผู้นำและชาติอันอ่อนแอให้เป็นปึกแผ่น ท่ามกลางภยันตรายจากความแตกแยกและความล้มเหลว หลังสงครามยุติในปี ค.ศ. 1783 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 ตรัสถามวอชิงตันว่าจะทำอะไรต่อไป และทรงได้รับข่าวลือมาว่าวอชิงตันจะกลับไปยังบ้านไร่ของตนเอง ทำให้มีพระราชกระแสในทันทีว่า "ถ้าเขาทำเช่นนั้น เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" ซึ่งวอชิงตันก็ได้กลับไปใช้ชีวิตสมถะอย่างชาวไร่จริง ๆ ที่เมานต์เวอร์นอน
อันเนื่องมาจาก "บทบัญญัติว่าด้วยสมาพันธรัฐ" (Articles of Confederation) ที่ร่างขึ้นนั้นไม่เป็นที่พอใจโดยทั่วกัน ใน ค.ศ. 1787 วอชิงตันจึงเป็นประธานการประชุมฟิลาเดเฟียเพื่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา และใน ค.ศ. 1789 ก็ได้รับเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โดยเขาได้สถาปนาจารีตและวิถีทางการบริหารหลายประการเกี่ยวแก่องค์กรของรัฐบาลใหม่ ในการนี้ เขาแสวงหาลู่ทางสร้างชาติที่จะสามารถธำรงอยู่ในโลกอันถูกฉีกเป็นชิ้นเพราะสงครามระหว่างอังกฤษฝรั่งเศส วอชิงตันได้มี "ประกาศความเป็นกลาง" (Proclamation of Neutrality of 1793) ใน ค.ศ. 1793 ซึ่งวางรากฐานการงดเว้นไม่เข้าไปมีส่วนในความขัดแย้งกับต่างชาติ เขายังได้สนับสนุนแผนจัดตั้งรัฐบาลกลางที่เข้มแข็งโดยวางกองทุนเพื่อหนี้สินของชาติ ส่งผลให้เกิดระบบภาษีที่มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ธนาคารแห่งชาติในที่สุด เนื่องจากวอชิงตันเลี่ยงที่จะไม่ก่อสงครามกับอังกฤษ ทศวรรษแห่งสันติสุขจึงมีขึ้นด้วยสนธิสัญญาเจย์ ค.ศ. 1795 (Jay Treaty of 1795) อันได้รับสัตยาบันไปด้วยดีเพราะเกียรติภูมิส่วนตัวของวอชิงตัน แม้ว่าสนธิสัญญานี้จะถูกต่อต้านอย่างหนักจากโธมัส เจฟเฟอร์สัน ก็ตาม ในทางการเมืองนั้น ถึงแม้ว่าวอชิงตันมิได้เข้าร่วมพรรคสหพันธรัฐนิยม (Federalist Party) อย่างเป็นทางการ แต่เขาก็สนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของพรรค ทั้งยังเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณสำหรับพรรคด้วย เมื่อเขาพ้นจากตำแหน่ง ได้มีสุนทรพจน์แสดงคุณค่าของระบอบสาธารณรัฐ และเตือนให้ระวังความแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ความนิยมถิ่น และมิให้ร่วมสงครามกับต่างชาติ
ด้วยผลงานอันอุทิศให้แก่ชาติบ้านเมือง วอชิงตันจึงได้รับ "เครื่องรัฐอิสริยาภรณ์เหรียญทองแห่งรัฐสภาคองเกรส" (Congressional Gold Medal) เป็นบุคคลแรก เขาถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 1799 โดย เฮนรี ลี สดุดีวอชิงตันในพิธีศพว่า "ในยามรบ ยามสงบ และในหัวใจของเพื่อนร่วมชาติ เขาคือที่หนึ่งสำหรับอเมริกันชนทั้งปวง"
ประวัติและการศึกษา
จอร์จ วอชิงตัน เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1732 เป็นลูกคนแรกของ ออกัสติน วอชิงตัน และภรรยาคนที่สองของเขา แมรี่ บอล วอชิงตัน ที่โคโลเนียล บีช ในเวสต์มอแลนด์ เคาท์ตี้ เวอร์จิเนีย ครอบครัววอชิงตันย้ายไปอยู่ที่เฟอร์รี่ฟาร์มเมื่อจอร์จอายุได้ 6 ขวบ จอร์จเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านโดยพ่อและพีชายคนโตเป็นผู้สอนหนังสือให้ เชื้อสายของเขามาจากเมืองซัลเกรฟ ประเทศอังกฤษ ปู่ทวดของเขา จอห์น วอชิงตัน ย้ายมาอาศัยที่เวอร์จิเนียในปี ค.ศ. 1657[13]การปลูกยาสูบเป็นสินค้าในเวอร์จิเนียสามารถวัดได้โดยจำนวนทาสที่เอามาใช้แรงงานปลูกยาสูบ เมื่อวอชิงตันเกิด จำนวนประชากรองรัฐอาณานิคมเป็นคนผิวดำ 50% ชาวแอฟริกันและอเมริกันแอฟริกันเกือบทั้งหมดถูกบังคับให้เป็นทาส.
ในช่วงวัยหนุ่ม วอชิงตันทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำรวจที่ดิน เขาได้ความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศถื่นฐานบ้านเกิดของเขาอย่างประเมินค่ามิได้พี่ชายคนโตของเขาแต่งงานกับครอบครัวแฟร์แฟ็กซ์ และได้รับวอชิงตันไปอุมถัมป์เลี้ยงดูโดย โธมัส แฟร์แฟ็กซ์, ลอ์ด แฟร์แฟ็กซ์ที่ 6 แห่งคาเมรอน ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1749 หลังจากที่มีการก่อตั้งเมือง อเล็กซานเดรีย, เวอร์จิเนียตลอดตามลำน้ำแม่น้ำโปตาแม็กอย่างกะทันหันนั้น ขณะนั้นวอชิงตันอายุได้ 17 ปีเขาได้รับแต่งตั้งให้ทำงานสาธารณะเป็นครั้งแรกโดยเป็นผู้สำรวจรังวัดที่ดิน ในเขตคัลเปเปอร์เคาท์ตี้ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ ในชายแดนของรัฐอาณานิคม การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกรับรองโดยคำสั่งจากลอร์ด แฟร์แฟ็กซ์และลูกพี่ลูกน้องของเขา วิลเลียม แฟร์แฟ็กซ์ ผู้ซึ่งนั่งตำแหน่งในสภาผู้ว่าการรัฐ
อาชีพ
วอชิงตันเริ่มทำอาชีพเกษตรกร ซึ่งนักประวัติศาสตร์ชี้ว่าเขามีทาสในครอบครอง 20 คนหรืออาจจะมากกว่านั้น ค.ศ. 1748 เขาถูกเชิญให้ไปช่วยรังวัดที่ดินของลอ์ด แฟร์แฟ็กซ์ อยู่ทางตะวันตกของเทือกเขาบลูริดจ์ ค.ศ. 1749 เขาถูกแต่งตั้งให้อยู่ในสำนักงานของเขาเองแห่งแรก สำรวจ คัลเปเปอร์ เคาท์ตี้ (รัฐเวอร์จิเนียร์) ซึ่งเป็นที่ดินแดนแห่งใหม่ และด้วยการสนับสนุนของพี่ชายต่างมารดาชื่อ ลอว์เรนซ์ วอชิงตัน เขามีความสนใจในสมาคม (Ohio Company) ซึ่งสำรวจแผ่นดินทางตะวันตก ค.ศ. 1751 จอร์จและพี่ชายของเขาเดินทางไปประเทศบาร์เบโดส และได้พักอยู่ที่บ้านบุชฮิลล์ (Bush Hill House) โดยหวังเพื่อรักษาอากา
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
George Washington เป็นผู้นำทางทหารและการเมืองที่โดดเด่นของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น ระหว่าง ค.ศ. 1775 ถึง 1799 เขานำสหรัฐจนได้รับชัยชนะเหนือบริเตนใหญ่ในสงครามปฏิวัติอเมริกัน ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพภาคพื้นทวีปใน ค.ศ.1775-1783 และรับผิดชอบการร่างรัฐธรรมนูญใน ค.ศ. 1787 เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 1789-1797 วอชิงตันเป็นผู้นำการสร้างรัฐบาลแห่งชาติที่เข้มแข็งและมีการคลังที่ดี ซึ่งวางตนเป็นกลางในสงครามที่ปะทุขึ้นในยุโรป ปราบปรามกบฏและได้รับการยอมรับจากชนอเมริกันทุกประเภท รูปแบบความเป็นผู้นำของเขาได้กลายมาเป็นระเบียบพิธีของรัฐบาลซึ่งปฏิบัติสืบต่อกันมานับแต่นั้น อาทิ การใช้ระบบคณะรัฐมนตรีและการปราศรัยในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ วอชิงตันได้รับการยกย่องทั่วไปว่าเป็น "บิดาแห่งประเทศของเขา" ด้วยใน ค.ศ. 1775 รัฐสภาอาณานิคมได้แต่งตั้งวอชิงตันเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพปฏิวัติอเมริกัน ปีถัดมา เขานำทัพขับไล่กองทัพอังกฤษออกจากบอสตัน เสียนครนิวยอร์ก ข้ามแม่น้ำเดลาแวร์ในนิวเจอร์ซีย์ และสามารถรบชนะข้าศึกซึ่งยังไม่ทันตั้งตัวในปลายปีเดียวกัน ผลของยุทธศาสตร์ที่เขาใช้ ทำให้กองกำลังปฏิวัติอเมริกันสามารถยึดกำลังรบสำคัญของอังกฤษ 2 แห่งที่ซาราโตกาและยอร์กทาวน์ ด้วยการเจรจากับสภาอาณานิคมทั้งสิบสาม รัฐอาณานิคม และพันธมิตรฝรั่งเศส วอชิงตันได้รวบรวมกองทัพอันไร้ผู้นำและชาติอันอ่อนแอให้เป็นปึกแผ่น ท่ามกลางภยันตรายจากความแตกแยกและความล้มเหลว หลังสงครามยุติในปี ค.ศ. 1783 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 ตรัสถามวอชิงตันว่าจะทำอะไรต่อไป และทรงได้รับข่าวลือมาว่าวอชิงตันจะกลับไปยังบ้านไร่ของตนเอง ทำให้มีพระราชกระแสในทันทีว่า "ถ้าเขาทำเช่นนั้น เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" ซึ่งวอชิงตันก็ได้กลับไปใช้ชีวิตสมถะอย่างชาวไร่จริง ๆ ที่เมานต์เวอร์นอนอันเนื่องมาจาก "บทบัญญัติว่าด้วยสมาพันธรัฐ" (Articles of Confederation) ที่ร่างขึ้นนั้นไม่เป็นที่พอใจโดยทั่วกัน ใน ค.ศ. 1787 วอชิงตันจึงเป็นประธานการประชุมฟิลาเดเฟียเพื่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา และใน ค.ศ. 1789 ก็ได้รับเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โดยเขาได้สถาปนาจารีตและวิถีทางการบริหารหลายประการเกี่ยวแก่องค์กรของรัฐบาลใหม่ ในการนี้ เขาแสวงหาลู่ทางสร้างชาติที่จะสามารถธำรงอยู่ในโลกอันถูกฉีกเป็นชิ้นเพราะสงครามระหว่างอังกฤษฝรั่งเศส วอชิงตันได้มี "ประกาศความเป็นกลาง" (Proclamation of Neutrality of 1793) ใน ค.ศ. 1793 ซึ่งวางรากฐานการงดเว้นไม่เข้าไปมีส่วนในความขัดแย้งกับต่างชาติ เขายังได้สนับสนุนแผนจัดตั้งรัฐบาลกลางที่เข้มแข็งโดยวางกองทุนเพื่อหนี้สินของชาติ ส่งผลให้เกิดระบบภาษีที่มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ธนาคารแห่งชาติในที่สุด เนื่องจากวอชิงตันเลี่ยงที่จะไม่ก่อสงครามกับอังกฤษ ทศวรรษแห่งสันติสุขจึงมีขึ้นด้วยสนธิสัญญาเจย์ ค.ศ. 1795 (Jay Treaty of 1795) อันได้รับสัตยาบันไปด้วยดีเพราะเกียรติภูมิส่วนตัวของวอชิงตัน แม้ว่าสนธิสัญญานี้จะถูกต่อต้านอย่างหนักจากโธมัส เจฟเฟอร์สัน ก็ตาม ในทางการเมืองนั้น ถึงแม้ว่าวอชิงตันมิได้เข้าร่วมพรรคสหพันธรัฐนิยม (Federalist Party) อย่างเป็นทางการ แต่เขาก็สนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของพรรค ทั้งยังเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณสำหรับพรรคด้วย เมื่อเขาพ้นจากตำแหน่ง ได้มีสุนทรพจน์แสดงคุณค่าของระบอบสาธารณรัฐ และเตือนให้ระวังความแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ความนิยมถิ่น และมิให้ร่วมสงครามกับต่างชาติด้วยผลงานอันอุทิศให้แก่ชาติบ้านเมือง วอชิงตันจึงได้รับ "เครื่องรัฐอิสริยาภรณ์เหรียญทองแห่งรัฐสภาคองเกรส" (Congressional Gold Medal) เป็นบุคคลแรก เขาถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 1799 โดย เฮนรี ลี สดุดีวอชิงตันในพิธีศพว่า "ในยามรบ ยามสงบ และในหัวใจของเพื่อนร่วมชาติ เขาคือที่หนึ่งสำหรับอเมริกันชนทั้งปวง" ประวัติและการศึกษาจอร์จ วอชิงตัน เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1732 เป็นลูกคนแรกของ ออกัสติน วอชิงตัน และภรรยาคนที่สองของเขา แมรี่ บอล วอชิงตัน ที่โคโลเนียล บีช ในเวสต์มอแลนด์ เคาท์ตี้ เวอร์จิเนีย ครอบครัววอชิงตันย้ายไปอยู่ที่เฟอร์รี่ฟาร์มเมื่อจอร์จอายุได้ 6 ขวบ จอร์จเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านโดยพ่อและพีชายคนโตเป็นผู้สอนหนังสือให้ เชื้อสายของเขามาจากเมืองซัลเกรฟ ประเทศอังกฤษ ปู่ทวดของเขา จอห์น วอชิงตัน ย้ายมาอาศัยที่เวอร์จิเนียในปี ค.ศ. 1657[13]การปลูกยาสูบเป็นสินค้าในเวอร์จิเนียสามารถวัดได้โดยจำนวนทาสที่เอามาใช้แรงงานปลูกยาสูบ เมื่อวอชิงตันเกิด จำนวนประชากรองรัฐอาณานิคมเป็นคนผิวดำ 50% ชาวแอฟริกันและอเมริกันแอฟริกันเกือบทั้งหมดถูกบังคับให้เป็นทาส.ในช่วงวัยหนุ่ม วอชิงตันทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำรวจที่ดิน เขาได้ความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศถื่นฐานบ้านเกิดของเขาอย่างประเมินค่ามิได้พี่ชายคนโตของเขาแต่งงานกับครอบครัวแฟร์แฟ็กซ์ และได้รับวอชิงตันไปอุมถัมป์เลี้ยงดูโดย โธมัส แฟร์แฟ็กซ์, ลอ์ด แฟร์แฟ็กซ์ที่ 6 แห่งคาเมรอน ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1749 หลังจากที่มีการก่อตั้งเมือง อเล็กซานเดรีย, เวอร์จิเนียตลอดตามลำน้ำแม่น้ำโปตาแม็กอย่างกะทันหันนั้น ขณะนั้นวอชิงตันอายุได้ 17 ปีเขาได้รับแต่งตั้งให้ทำงานสาธารณะเป็นครั้งแรกโดยเป็นผู้สำรวจรังวัดที่ดิน ในเขตคัลเปเปอร์เคาท์ตี้ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ ในชายแดนของรัฐอาณานิคม การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกรับรองโดยคำสั่งจากลอร์ด แฟร์แฟ็กซ์และลูกพี่ลูกน้องของเขา วิลเลียม แฟร์แฟ็กซ์ ผู้ซึ่งนั่งตำแหน่งในสภาผู้ว่าการรัฐ
อาชีพ
วอชิงตันเริ่มทำอาชีพเกษตรกร ซึ่งนักประวัติศาสตร์ชี้ว่าเขามีทาสในครอบครอง 20 คนหรืออาจจะมากกว่านั้น ค.ศ. 1748 เขาถูกเชิญให้ไปช่วยรังวัดที่ดินของลอ์ด แฟร์แฟ็กซ์ อยู่ทางตะวันตกของเทือกเขาบลูริดจ์ ค.ศ. 1749 เขาถูกแต่งตั้งให้อยู่ในสำนักงานของเขาเองแห่งแรก สำรวจ คัลเปเปอร์ เคาท์ตี้ (รัฐเวอร์จิเนียร์) ซึ่งเป็นที่ดินแดนแห่งใหม่ และด้วยการสนับสนุนของพี่ชายต่างมารดาชื่อ ลอว์เรนซ์ วอชิงตัน เขามีความสนใจในสมาคม (Ohio Company) ซึ่งสำรวจแผ่นดินทางตะวันตก ค.ศ. 1751 จอร์จและพี่ชายของเขาเดินทางไปประเทศบาร์เบโดส และได้พักอยู่ที่บ้านบุชฮิลล์ (Bush Hill House) โดยหวังเพื่อรักษาอากา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
George Washington
leading military and political dominant of the United States that just established between 1975.1775 to 1799 he brought us finally get victory over Great Britain in the American Revolutionary War. As commander-in-chief of the Continental Army in 1975. 1775-1783 and responsible for drafting the Constitution in 1975.He will be the first president of the United States 1787 position.1789-1797 Washington led the creation of the national government strong and finance. Which place neutral in the war erupted in Europe. Suppression of rebels, and has been recognized by Americans of all types.The cabinet system and the presidential speech official Washington has been regarded as "the father of the general to his country"
.In 1975.1775 colonial parliament appointed Washington as commander in chief of the American Revolution. The next year, he led the army repel the British army out of Boston. Lost in New York City across the Delaware River in New Jersey.The effect of the strategy they use. The American revolutionary forces can seize the important British that Sara is fighting 2 grow and Yorktown. With negotiations with the Council of the thirteen colonies, the state colony and allies, France.In danger of breakage and failure after the end of the war in Europe.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: