สมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชญ (16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2175 - 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231; ครองราชย์ พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231) เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชญ (16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2175 - 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231; ครองราชย์ พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231) เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาพระราชสมภพKing Narai became Royal to be born on Monday in a month 2175 Monkey King Prasat thong's son with his Mrs. Sirithida. Later raised a younger sibling and Devi joined the mother is her Royal Highness Sri suphan. Department of civil, whose tip or Royal kalayaneeพระราชบิดาและพระราชมารดาเป็นเครือญาติกัน หม่อมหลวงมานิจ ชุมสายระบุว่า พระมารดาของพระนารายณ์เป็น "...พระขนิษฐาต่างมารดาของพระเจ้าปราสาททอง"แต่งานเขียนของนิโคลาส์ เดอ แซร์แวส ระบุว่า มารดาเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ส่วนพระราชบิดาคือสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ฟาน ฟลีต ระบุว่า เป็นลูกของน้องชายพระราชมารดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมHe has the welfare of phranom amrung, but the young Lord was the Mother Goddess Temple in Chiang Mai, which is a loose relatives of King Prasat thong as well [1] with the other one is the phranom the event Prem d. Francis ong rapae (Henry François Turpin) identified as a relative of King Narai.Narai is the younger one mother in her Royal Highness Chai and a younger one's mother again: Prince's pardon (Prince crippled), Prince Noi, Phra ทิตย, Golden Hill briefing his gold and farming dynasty of the tharacha.In the Royal Chronicles of Ayutthaya tells that when she became the first Royal to be born. His relatives saw his son in four locations His Royal Majesty's behalf as "Phra Narai Ratcha dentists," he said. In this section, the term was and to please find a Wat to tell that when fire his monkey Coronation class seat. His son came to help firefighters People see it as a parallel organization of four rulers that escorting Phra Narai. His history of King Narai the great miracles on the subject. To demonstrate the influence of the Brahmin Compared with the previous King. For this reason, his own history of everything discussed miracles magic, respectively:• When Vishnu has 5 years while in the water. He was otnibat. Their trainer Her milk out entirely, but he doesn't matter even less.• When Vishnu has 9 years he has been at the bang PA-in Palace, otnibat, but he was safe as well.Somdet Phra Narai, he received education from his thipdi hora, a senior civil servant in the Palace and Phra prom Phra achan phimon teachings, including the Buddha and the monks learned person courses kho with high-level somnasak in Phra Nakhon.Lord ratbutNarai There is only one of his daughters was born to King akromhesi is. Yothathep has been established "itriyayot as" Department of civil capital was a "foreign Prince is regarded as the first pair of Department along with her Royal Highness Sri suphan. He said his daughters, his younger sibling has the prerogative is very high. By the evidence of Lalu bear said his Highness. His wife holds the most exemplary itriyayot ... and sometimes a Westerner would call rather than as a "Queen", and if anyone has marital sek with this Prince himself would have been more than fair to the throne rights. นอกจากนี้ยังมีปรากฏในพงศาวดารว่าทรงมีพระโอรสลับคือ หลวงสรศักดิ์ (ต่อมาคือ พระเจ้าเสือ) ที่แพร่หลายมากที่สุดในราชสำนัก ใน คำให้การขุนหลวงหาวัด ระบุว่า เกิดจากพระราชชายาเทวี มีนามเดิมว่าเจ้าจอมสมบุญ ภายหลังได้มอบราชบุตรดังกล่าวกับเจ้าพระยาสุรศรี (พระเพทราชา) ส่วน คำให้การชาวกรุงเก่า ระบุว่า เกิดกับนางนักสนมที่ชื่อกุสาวดี เมื่อนางตั้งครรภ์ก็ได้ส่งนางไปอยู่กับเจ้าพระยาสุรสีห์ (คือพระเพทราชา) ส่วน พระราชพงศาวดารฯ ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ (แก้ว) กลับให้ข้อมูลที่ต่างออกไปว่า มีพระนามเดิมว่า มะเดื่อ เกิดจากพระราชธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่ ภายหลังทรงให้พระเพทราชาไปดูแล ด้วยทรงละอายพระทัยที่เสพสังวาสกับนางลาวในพงศาวดารของไทยปรากฏว่าพระองค์ไม่ทรงยกย่องพระโอรสลับพระองค์ใดที่เกิดกับพระสนมมีสิทธิในการสืบราชบัลลังก์ แต่ทรงหมายพระทัยให้มีพระราชโอรสที่ประสูติแต่พระอัครมเหสีสืบราชสมบัติเสียมากกว่า ดังปรากฏใน คำให้การชาวกรุงเก่า ว่าครั้นต่อมาพระนารายน์ทรงพระปริวิตกด้วยหาพระราชโอรสสืบราชตระกูลมิได้ จึงรับสั่งให้พระอรรคมเหษีตั้งสัตยาธิษฐานขอพระโอรส แต่นางนักสนมทั้งปวงนั้นมิได้รับสั่งขอ ด้วยไม่วางพระไทยกลัวจะเปนขบถอย่างพระสีสิงห์ [พระศรีศิลป์] ที่สุดนางนักสนมคนใดมีครรภ์ขึ้นก็ให้รีดเสีย มิได้เกิดโอรสธิดาได้ส่วนใน คำให้การขุนหลวงหาวัด ซึ่งถ่ายมาจากคำให้การชาวกรุงเก่าก็อธิบายไว้ดุจกัน แต่ได้ขยายความดังกล่าวว่าอันพระนารายณ์นั้นได้ขัดเคืองพระศรีศิลปกุมารแต่ครั้งนั้นมาว่าเปนขบถ เพราะเหตุว่ามิใช่ลูกของพระองค์ที่เกิดกับพระมเหษี จึงจะไม่เปนขบถ...อันพระมเหษีนั้นก็มีแต่พระราชธิดา มิได้มีเปนกุมาร พระองค์จึงรักษาศีลาจารวัตรปฏิบัติโดยธรรมสุจริต จะขอให้ได้พระโอรสอันเกิดในครรภ์พระมเหษี ก็มิได้ดั่งพระทัยปราร์ถนา จึงทรงพระโกรธ ครั้นเมื่อทรงพระโกรธขึ้นมา จึงตรัสกับพระสนมกำนัลทั้งปวงว่า ถ้าใครมีครรภ์ขึ้นมาแล้วจะให้ทำลายเสีย กูมิให้ได้สืบสุริยวงศต่อไป ต่อเมื่อเกิดในครรภ์พระมเหษี กูจึงจะมอบโภคัยศวรรยทั้งปวงให้ตามใจกูปรารภ ครั้นพระสนมกำนัลรู้ตัวว่ามีครรภ์ก็ต้องทูลพระองค์ ครั้นทราบก็ให้ทำลายเสียอย่างนั้นเปนหนักหนานอกจากนี้บาทหลวงเดอ แบส และพระราชพงศาวดารฯ ฉบับพระพนรัตน์ (แก้ว) ได้กล่าวถึงเรื่องที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงรับเลี้ยงดูเด็กเล็กเลี้ยงดูในพระราชวังหลายคนโดยเลี้ยงดุจลูกหลวง แต่หากเด็กคนใดร้องไห้อยากกลับไปหาพ่อแม่เดิมก็ทรงอนุญาตส่งตัวคืนแต่ลาลูแบร์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า "...พระองค์ทรงพอพระทัยที่จะเลี้ยงไว้จนกระทั่งเด็กนั้นมีอายุได้ 7 ถึง 8 ขวบ พ้นนั้นไปเมื่อเด็กสิ้นความเป็นทารกแล้วก็จะไม่โปรดอีกต่อไป..." แต่มีเพียงคนเดียวที่โปรดปรานคือ พระปีย์ ทั้งยังโจษจันกันว่าน
การแปล กรุณารอสักครู่..